Error
รอบด้านตลาดหุ้น - บล.บัวหลวง
Print
Thursday, 14 May 2015 09:51

รอบด้านตลาดหุ้น

 

มุมมองตลาด

ดัชนีตลาดหุ้นไทยรีบาวด์ขึ้นภายหลังจากการลงไปทำจุดต่ำสุดใหม่ในรอบสัปดาห์ที่ 1478 จุด โดยปิดที่ 1495 จุด เพิ่มขึ้น 10.23 จุด หรือ 0.69% ปริมาณการซื้อขายทั้งสิ้น 3.5 หมื่นล้านบาท หุ้นกลุ่มที่ปรับตัวขึ้นได้แก่ กลุ่มพาณิชย์ ปิโตรเคมี พลังงานวัสดุก่อสร้าง อาหารและกลุ่มบ้านที่ดิน โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มพาณิชย์ฝ่ายวิเคราะหืเราคาดว่าผลประกอบการไตรมาส 1/58 จะรายงานการเติบโตกำไรที่แข็งแกร่ง หุ้นเด่นได้แก่ CPALL มีปริมาณการซื้อขายสูงสุด เนื่องจากกำไร 1Q15 ดีมากจากการลดลงของดอกเบี้ยจ่ายและค่าใช้จ่ายที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ และคาดว่าจะดีต่อเนื่องใน 2Q14 คาดเติบโตดีสุดในกลุ่มพาณิชย์ ในส่วนของทิศทางค่าเงินบาท/ดอลลาร์สหรัฐ เราเชื่อว่าธปท.จะให้ความสำคัญมากขึ้นกับอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลล่าร์ เพื่อเป็นกระตุ้นการส่งออกและการท่องเที่ยว หากผู้ประกอบการส่งออกสินค้าในรูปมูลค่าดอลลาร์สหรัฐ เมื่อค่าเงินไทย อ่อนตัวลงจะส่งผลให้มีบริษัทได้รับเงินบาทเพิ่มขึ้น การอ่อนค่าของบาท/ดอลลาร์สหรัฐ ทุก 1 บาทส่งผลให้กลุ่มผู้ส่งออกมีรายได้เพิ่มราว 3-10% ขึ้นอยู่กับประเภทธุรกิจ ขึ้นอยู่กับส่วนต่างระหว่างรายได้ และหนี้สินที่เป็นรูปเงินดอลลาร์สหรัฐ กลุ่มที่ได้ประโยชน์   คือ อิเลคทรอนิคส์ อาหารส่งออก โรงแรม และกลุ่มน้ำมัน ปิโตรเคมี

 

สัญญาณทางเทคนิคชี้ว่า ดัชนีหลักลดลงอย่างมาก ซึ่งถือว่าเป็นจุดการปรับตัวไปสู่ระดับ Oversold เราคาดว่าตลาดหุ้นไทยจะปรับลงไปถึงแนวรับหลักระยะยาว จุดที่น่าสนใจคือหากปรับตัวลงแรงแถวบริเวณ 1480 จุดหรือแนวรับถัดไป 1460 จุด จะส่งผลให้เครื่องมือทางเทคนิคอยู่ในระดับค่อนข้างต่ำ และแนวรับตามตัวเลข Fibonacci 38.2% ตามลำดับ ซึ่งน่าจะทำให้เครื่องมือทางเทคนิคอยู่ในระดับ Oversold

 

สรุป: เราคาดว่า จังหวะการเข้าซื้อขายหุ้นด้วยเครื่องมือเทคนิคจะมีบทบาทสำคัญในช่วงที่ตลาดผันผวน มองทิศทางตลาดหากลงมาที่แนวรับ 1460-1480 จุด มองเป็นจุดน่าสนใจในการเข้าซื้อ โดยแนวโน้มระยะสั้น มีโอกาสดีดตัวขึ้นไปที่แนวต้าน 1520 จุด

 

BLS report 14/05/15)

PTT (BUY, TP 420): กำไร 1Q15 ที่ 22,584 ล้านบาท ธุรกิจน้ำมัน ถ่านหิน โรงกล่นปรับตัวดีขึ้น อย่างไรก็ตามธุรกิจแก๊สปรับตัวลง เนื่องจาก Volume จากโรงแยกก๊าซลดลงไป 7% และการขายแก๊ซที่ลดลง เนื่องจากมีต้นทุนที่สูง Outlook 2Q15 คาดงบดีขึ้น เนื่องจาก 1. ยอดขายแก๊ซจะเพิ่มขึ้นในช่วงฤดูร้อน 2. ยอดขาย LPG จะมีกำไรเป็นไตรมาสแรก ภายหลังจากรัฐบาลปรับราคา L{G ขึ้น ขณะที่ NGV ขาดทุนลดลง 3.ยอดขายแก๊ซที่ส่งไปยังอุตสาหกรรมฟื้นตัว เนื่องจากต้นทุนที่ถูกลง 4.รายได้จากการขายหุ้น BCP ประมาณ 3.4 พันล้านบาท สรุป: PTT ยังคงเป็นหุ้นที่เราชอบมากที่สุดในกลุ่ม

 

BCP (BUY, TP 39): กำไร 1Q15 ที่ 1,037 ล้านบาท (-34% YoY แต่พลิกกลับมาเป็นกำไรจากไตรมาสที่ 4) ถึงแม้ว่าค่าการกลั่นตลาดจะเข้าสู่ช่วงโลว์ซีซั่นในไตรมาส 2/58  อย่างไรก็ตาม BCP มีแนวโน้มแข็งแกร่งที่สุดในบรรดาโรงกลั่นของไทยจากที่ค่าการตลาดค้าปลีกมีความผันผวนน้อยกว่าค่าการกลั่นตลาด ราคาปัจจุบันคิดเป็น PER ณ สิ้นปี 2558 ที่ 11 เท่า เทียบกับ 13.4 เท่าของค่าเฉลี่ยกลุ่ม

 

BA (BUY, TP 27): กำไร 1Q15 ที่ 1087 ล้านบาท (+107% YoY , +378%QoQ) กำไรดีกว่าคาด เนื่องจาก 1.ต้นทุนนำมันที่ลดลง 2. ค่าเช่าเครื่องบินลดลง 3.ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลดลง กำไรไตรมาสแรกคิดเป็น 48% ของประมาณการทั้งปี 2558 คาด Concensus อาจปรับประมาณการขึ้น ปั จจุบันหุ้นซื้อขายที่ PER (สำหรับธุรกิจสายการบินและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง) ณ สิ้นปี 2558 ที่ 9.5 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในภูมิภาคที่ 12.9 เท่า

 

ธนรัตน์ อิศรกุล Tel. (662) 618-1334

นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์

 

ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อตลาด

 

ข่าวเด่นเศรษฐกิจ

 

เศรษฐกิจกรีซถล้ำสู่ภาวะถดถอยอีกครั้ง

ตัวเลขจีดีพีไตรมาสแรกของกรีซหดตัว 0.2% เทียบไตรมาสสี่ที่หดตัว 0.4% ขณะที่ประเด็นการเจรจาหนี้ระหว่างรัฐบาลกรีซกับเจ้าหนี้ยืดเยื้อ ตัวเลขเศรษฐกิจของกรีซที่ประกาศออกมาอาจไม่สร้างความประหลาดใจกับนักลงทุน เหตุตัวเลขเศรษฐกิจที่ประกาศออกมาในหลายเดือนที่ผ่านมาหดตัวอย่างรวดเร็ว โดย deadline ของการเจรจาหนี้มีการขยายเวลาออกไป (Bloomberg)

 

ยอดค้าปลีกสหรัฐเดือนเม.ยทรงตัว

ยอดค้าปลีกสหรัฐทรงตัวในเดือนเม.ยขณะที่นักวิเคราะห์คาดขยายตัวเล็กน้อย 0.2% จากเดือนมี.ค ยอดค้าปลีกไม่รวมยอดขายรถยนต์เพิ่มขึ้น 0.1% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ประเมินว่าโต 0.5% ยอดค้าปลีกไม่รวมน้ำมันและรถยนต์ขยายตัว 0.2% ต่ำกว่านักวิเคราะห์คาดที่โต 0.7% โดยค้าปลีกที่ลดลงมาจากยอดค้าดีพาร์ทเม้นท์สโตร์หดตัวลงกว่า 2.2% และยอดขายเครื่องใช้ไฟฟ้าอิเลคทรอนิคส์ลดลง 0.4% ซึ่งเป็นการลดลงติดต่อกัน 7 เดือน (Bloomberg)

 

กนง.ห่วงกำลังซื้อหด มิ.ย.เล็งลดเป้าเศรษฐกิจอีกรอบ

คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยรายงานการประชุมเมื่อวันที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยระบุว่าเศรษฐกิจไทยมีความเสี่ยงที่จะขยายตัวต่ำเป็นผลมาจากการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐยังต่ำ เงินบาทแข็งค่าทำให้การส่งออก ไม่ได้รับอานิสงส์เต็มที่จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ขณะที่เศรษฐกิจคู่ค้ายังชะลอตัว กำลังซื้อในประเทศอ่อนแรง ทำเศรษฐกิจโตต่ำ เสี่ยงเข้าสู่ภาวะเงินฝืด (หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์)

 

ผวา 'เอลนินโญ' ทำพิษราคาปาล์มจ่อพุ่ง

เอลนินโญเสี่ยงทำราคาน้ำมันปาล์มพุ่งตันละ 2 หมื่น ผลผลิตลดฮวบ-จีนจ่อซื้อล่วงหน้า          ราคาน้ำมันปาล์มอาจปรับสูงขึ้นหลังจากปรากฏการณ์เอลนินโญที่กำลังจะเกิดขึ้นจะทำให้เกิดความแห้งแล้งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ซึ่งเป็นแหล่งปลูกปาล์มน้ำมันที่สำคัญของโลกทำให้ผลผลิตลดลง ขณะที่ผู้ซื้อหลักอย่างจีน ยังคงนำเข้าต่อเนื่องเพื่อประกันปริมาณน้ำมันปาล์มสำรอง (หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์)

 

ตลาดชี้ 'หุ้นไทย' แตะจุดต่ำสุด กสิกรยันไม่หั่นค่าต๋งหลังประเมินไตรมาส 2 วอลุ่มลดลง

แนะนักลงทุน เกาะติดผลประกอบการไตรมาส 1 ใกล้ชิด เพื่อเป็นข้อมูล ก่อนตัดสินใจ ตลาดหลักทรัพย์เผยดัชนีหุ้นไทยใกล้แตะระดับต่ำสุด ยอมรับหุ้นร่วงก่อนหน้า เหตุผลประกอบการแบงก์ไตรมาสแรกทรุด-ตั้งสำรองสูง ด้าน บล.กสิกรไทย ชี้ไม่มีนโยบายหั่นค่าคอมมิชชั่นแข่ง หลังประเมินแนวโน้มไตรมาส 2 มูลค่าการซื้อขาย ยังร่วงหนัก (หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ)

 

ธปท.ถก 'นาโนไฟแนนซ์' ดึงเข้าเครดิตบูโร

ธปท.หารือผู้ประกอบธุรกิจนาโนไฟแนนซ์ หวังทำความเข้าใจหลักเกณฑ์แนวทางกำกับดูแล กำชับให้เปิดดำเนินธุรกิจใน 1 ปีหลังได้ไลเซ่นส์ ขณะที่เกณฑ์ให้สินเชื่อยืดหยุ่นได้ตามลักษณะลูกค้า พร้อมย้ำห้ามรับเงินฝาก เล็งดึงเข้าเป็นสมาชิกเครดิตบูโรในอนาคต ด้าน ผู้ประกอบการ ระบุ เข้าร่วมสมาชิกไม่ได้ เพราะลูกค้าไม่มีประวัติทางการเงินมาก่อน (หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ)

 

7 เดือนปีงบ'58 ภาษีหลุดเป้า 3 หมื่นล้านบาท

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การเก็บภาษีในเดือน เม.ย.2558 ของ 3 กรมภาษี ทั้งกรมสรรพากร กรมสรรพสามิต และกรมศุลกากร ยังต่ำกว่าเป้า 5,300 ล้านบาท เนื่องจากการเก็บภาษีของกรมสรรพากรเก็บได้ต่ำกว่าเป้า 7,000 ล้านบาท เพราะการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มยังต่ำกว่าเป้ามากถึง 5,800 ล้านบาท จากผลกระทบการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากการนำเข้าน้ำมันที่ราคาลดลงมาก โดยราคาน้ำมันดิบในเดือน เม.ย. ที่ผ่านมาอยู่ที่ 50 เหรียญต่อบาร์เรล จากที่ประมาณการไว้กว่า 100 เหรียญต่อบาร์เรล (หนังสือพิมพ์แนวหน้า)

 

ชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ Tel. (662) 618-1330-1

นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน

 

รายงานวันนี้

 

หุ้น: BCP          คำแนะนำ: ซื้อ           ราคาเป้าหมาย (บาท): 39.00

 

รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 1/58 ลดลง 34% YoY จากการขาดทุนของสินค้าคงคลังและธุรกรรมป้องกันความเสี่ยงด้านราคาน้ำมัน แต่กำไรหลักเพิ่ม 137% YoY และ 24% QoQ มากกว่าที่เราและตลาดคาด21%

กำไรหลักเพิ่มจากอัตราการใช้กำลังการกลั่นที่เพิ่มขึ้น, ค่าการกลั่นตลาดเพิ่มขึ้น, ปริมาณขายผ่านช่องทางการตลาดค้าปลีกเพิ่มขึ้น, ค่าการตลาดค้าปลีกเพิ่มขึ้น และส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์เพิ่มขึ้น

คาดกำไรหลักไตามาส 2/58 จะเติบโต YoY แต่ลดลง QoQ เนื่องจากเป็นโลว์ซีซั่นของค่าการกลั่น แต่ค่าการตลาดค้าปลีกที่เพิ่มขึ้นและส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์จะช่วยลดผลกระทบดังกล่าว

เรายังคงคำแนะนำ "ซื้อ" ที่ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 39 บาท

 

นักวิเคราะห์: สุพพตา ศรีสุข, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์

 

หุ้น: RS          คำแนะนำ: ซื้อ          ราคาเป้าหมาย (บาท): 19.20

 

RS รายงานผลประกอบการไตรมาส 1/58 ขาดทุน 42 ล้านบาท ซึ่งขาดทุนเพิ่มขึ้นจาก 5 ล้านบาทในไตรมาส 1/57 และพลิกจากกำไร 41 ล้านบาทในไตรมาส 4/57

ผลประกอบการขาดทุนกว่าคาดการณ์ของเราที่ 20 ล้านบาทจากค่าใช้จ่ายธุรกิจทีวีดิจิตอลที่สูงกว่าคาด

อย่างไรก็ตาม เรายังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มธุรกิจทีวีดิจิตอลในระยะยาวจากอัตรายอดจองโฆษณาและอัตราค่าโฆษณาที่คาดจะปรับตัวขึ้นในไตรมาสที่ 2

เราปรับลดประมาณการกำไรปี 2558 ลง 14% เป็น 402 ล้านบาทเพื่อสะท้อนผลประกอบการที่อ่อนตัวในไตรมาส 1/58 ส่งผลให้ราคาเป้าหมายลดลงจาก 22 บาทเป็น 19.20 บาท แต่เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ

 

นักวิเคราะห์: ประสิทธิ์ สุจิรวรกุล, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์

 

หุ้น: BECL          คำแนะนำ: ถือ          ราคาเป้าหมาย (บาท): 48.00

 

BECL รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 1/58 ที่ 728 ล้านบาท สูงขึ้น 5%YoY แต่ลดลง 33% QoQ ในขณะที่กำไรหลักเพิ่มขึ้น 5% YoY และ 34% QoQ ผลประกอบการเป็นไปตามคาด

กำไรหลักปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจาก 1) ตัวเลขการจราจรที่เพิ่มขึ้น, 2) ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลดลง และ 3) อัตราภาษีจ่ายลดลง

เราคาดกำไรไตรมาส 2/58 จะลดลง QoQ เนื่องจากปกติแล้วไตรมาสที่สองเป็นช่วงโลว์ซีซั่นของการใช้เส้นทางด่วน

 

นักวิเคราะห์: สุพพตา ศรีสุข, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์

 

หุ้น: BA          คำแนะนำ: ซื้อ          ราคาเป้าหมาย (บาท): 27

 

BA รายงานกำไรไตรมาส 1/58 ที่ 1,087 ล้านบาท สูงกว่าคาด

ปัจจัยหลักที่หนุนการเติบโตกำไรที่แข็งแกร่ง ได้แก่ จำนวนผู้โดยสารที่สูงขึ้น, ค่าโดยสารเฉลี่ยสูงขึ้น, ต้นทุนน้ำมันลดลง, ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมสูงขึ้น, ค่าเช่าเครื่องบินลดลง และคัใช้จ่ายในการขายและบริหารลดลง

เราคาดการดำเนินงานหลักในไตรมาส 2/58 ของ BA จะพลิกกลับมาทำกำไรเมื่อเทียบกับไตรมาส 2/57

เรายังคงคำแนะนำ "ซื้อ"

 

นักวิเคราะห์: สุพพตา ศรีสุข, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์

 

หมายเหตุ: รายงานดังกล่าวเป็นเพียงเนื้อหาโดยสรุป สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในรายงานฉบับเต็ม

 

โดย บมจ.หลักทรัพย์ บัวหลวง ประจำวันที่ 14 พ.ค. 2558

Written by :
กระแสหุ้นออนไลน์
 

Comments

B
i
u
Quote
Code
List
List item
URL
Name *
Code   
ChronoComments by Joomla Professional Solutions
Submit Comment