ภาวะตลาดหุ้นรายวัน - บล.เคทีบี |
Tuesday, 06 December 2016 09:51 | |||
Company Update & News Comment (-) KTBST comment – PTTEP รัฐบาลอินโดเตรียมระงับทรัพย์สินของบริษัทในอินโดจากเหตุน้ำมันรั่วในแหล่งมอนทาร่าปี 09 (0) TRC คาดกำไรปีนี้อ่อนตัวลง แต่ลุ้นงานเหมืองโปแตชดัน backlog สู่ระดับหมื่นล้าน
ปัจจัยและทิศทางตลาดหุ้นไทย ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรมเดือน พ.ย.ของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 1.78 แสนตำแหน่ง ต่ำกว่าที่คาด 1.8 แสนตำแหน่ง แต่อัตราการว่างานลดลงมาอยู่ที่ 4.6% จาก 4.9% เป็นสัญญาณ confirm ว่าภาคการจ้างงาน (เศรษฐกิจ) ขยายตัวดี โอกาสที่ Fed จะปรับขึ้นดอกเบี้ยในวันที่ 13-14 ธ.ค. แทบจะยังเต็ม 100% ถ้าผลจากการเหวต “No” ของการลงประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญของประเทศอิตาลีไม่ได้สร้างความปั่นป่วนให้กับตลาดในช่วงเวลาก่อนการประชุม ที่สำคัญ คือ ดัชนี Dow Jones เดินหน้าทำ new high ต่อ
ทั้งนี้ ผลการลงประชามติเพื่อรับหรือไม่รับ สำหรับการแก้ไขรัฐธรรมนูญของประเทศอิตาลี ที่ออกมา คือไม่รับการแก้ไขรัฐธรรมนูญในเรื่องดังกล่าว ด้วยคะแนนเสียง ไม่เห็นด้วย : เห็นด้วย เท่ากับ 59.1 : 40.9 ส่งผลให้นายกรัฐมนตรี Matteo Renzi ของประเทศอิตาลี ประกาศลาออกในทันที (แต่ระงับการลาออกไว้ชั่วคราว) ผลที่ออกมา เป็นไปตามที่ตลาดคาด และเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา นักลงทุนทยอยเลี่ยงการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงลง ก่อนทราบผลการลงประชามติครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม หากการเปลี่ยนขั้วการเมืองครั้งนี้ ไม่ทำให้คนคิดว่าอิตาลีจะออกจากการเป็นสมาชิกของกลุ่มอียู เราเชื่อว่าตลาดจะคลายความกังวลจากเรื่องนี้ และจะกลับเข้ามื้อหุ้น หลังชะลอการลงทุนไปในสัปดาห์ที่ผ่านมา หรือ “Buy on Fact” ราคาทองคำที่อ่อนค่าลงในคืนที่ผ่านมา สะท้อนว่านักลงทุนไม่ได้กังวลในเรื่องนี้มากนัก
การลดกำลังการผลิตน้ำมันของ OPEC คาดจะยังมีผลต่อตลาด แต่จะไม่มากนักแล้ว เพราะตอบรับกันมา ตั้งแต่ทราบผลในวันที่ 30 พ.ย. ในวันที่ 10 ธ.ค. ตัวแทนของกลุ่ม OPEC และ Non-OPEC จะประชุมกันอีกครั้ง เพื่อสรุปกำลังการผลิตที่จะมีการปรับลด การตัดสินใจร่วมกันของผู้ผลิตน้ำมันครั้งนี้ ผลที่ได้นอกจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นแล้ว ยังแสดงให้เห็นถึงความร่วมมือกันที่มากขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี และจะทำให้ราคาน้ำมันมีเสถียรภาพมากขึ้น
การซื้อขายของนักลงทุนต่างประเทศ จากการคาดการณ์ในเรื่องการปรับขึ้นดอกเบี้ยขงสหรัฐฯ และความเสี่ยงในโซนยุโรป เราจึงยังมองว่า นักลงทุนต่างประเทศยังมีการขาย (หรือยังไม่ซื้อหุ้นไทย) และจะเป็นตัวกดดันตลาด ทำให้นักลงทุนกลุ่มอื่นๆ ไม่กล้าเข้ามาซื้อหุ้นในช่วงเวลาแบบนี้ (ยกเว้นเก็งกำไรช่วงสั้นๆ)
ทิศทางตลาดหุ้นไทยวันนี้ เราประเมินว่า ตลาดจะมีความผันผวน แต่คาดจะมีแรงซื้อหุ้นกลับ หลังขายไปก่อนเข้าสู่ช่วงวันหยุด และตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ + ผลประชามติอิตาลี ไม่ได้เป็นลบต่อตลาดมากนัก ดัชนีฯ จึงมีโอกาสที่จะดีดตัวขึ้นในลักษณะของ technical rebound ขณะที่ปัจจัยบวกของตลาด จะเป็นราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล
กลยุทธ์การลงทุน แม้ตลาดหุ้นไทยจะไม่ได้รับผลโดยตรงจากประชามติของประเทศอิตาลี แต่คงประมาทไม่ได้ เพราะเรามองเป็น Market Risk ตัวหนึ่ง อีกทั้งปัจจัยหลายๆตัว ยังไม่นิ่งนัก ภาพรวม เราจึงแนะนำให้ชะลอการลงทุน หรือเข้าเก็งกำไรช่วงสั้นๆ ......... สำหรับการเข้าเก็งกำไรช่วงสั้น หุ้นที่เราคาดว่าอาจได้รับความสนใจจากนักลงทุน อาทิ BH , TOP , PLANB , CBG , SMT , SPCG
มงคล พ่วงเภตรา นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ License No: 001937 Tel: 02-648-1123 และทีมวิเคราะห์
โดย บล.เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด ประจำวันที่ 6 ธ.ค. 2559
|
Today | 17000 | |
Yesterday | 39562 | |
All days | 167273546 |
Comments