Snapshot

สหรัฐอเมริกา

สำนักงานสำรวจสำมะโนประชากรสหรัฐรายงานว่า สัดส่วนของครัวเรือนซึ่งถือครองบ้านเป็นกรรมสิทธินั้น ได้แตะระดับต่ำสุดในรอบ 51 ปี โดยมีสาเหตุจากราคาอสังหาริมทรัพย์ที่พุ่งขึ้น และค่าเช่าในระดับสูง ซึ่งทำให้ประชาชนจำนวนมากไม่สามารถซื้อบ้านได้ ทั้งนี้ ผลการสำรวจพบว่า มีครัวเรือนจำนวนเพียง 62.9% ที่ครอบครองบ้านในช่วงเดือนเม.ย.-มิ.ย. โดยต่ำกว่าระดับ 63.4% ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว นอกจากนี้ ครัวเรือนที่ครอบครองบ้านในช่วงเดือนเม.ย.-มิ.ย. มีจำนวนต่ำเท่ากับระดับในปี 1965 ซึ่งเป็นปีที่ทางสำนักงานเริ่มการสำรวจ ครัวเรือนที่มีสมาชิกอายุ 18-34 ปี เป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด จากค่าเช่าที่สูงขึ้น และการเป็นหนี้เพื่อการศึกษา ส่งผลให้อัตราการถือครองกรรมสิทธิบ้านลดลง 0.7% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว สู่ระดับ 34.1% โดยที่ผ่านมา ราคาบ้านได้พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องจนสูงกว่ารายได้เฉลี่ยของชาวสหรัฐ ทำให้เป็นปัญหาสำหรับการจ่ายเงินดาวน์สำหรับผู้ที่ต้องการซื้อบ้าน ทั้งนี้ ราคาขายบ้านเฉลี่ยของสหรัฐอยู่ที่ระดับ 247,700 ดอลลาร์ในเดือนมิถุนายนเพิ่มขึ้น 4.8% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งอัตราดังกล่าวสูงเป็น 2 เท่าเมื่อเทียบกับการเพิ่มขึ้นของค่าแรงเฉลี่ยรายชั่วโมง

ยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายใหม่เพิ่มขึ้น 14,000 ราย สู่ระดับ 266,000 รายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 23 กรกฎาคม โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่ายอดผู้ขอสวัสดิการว่างงานรายใหม่จะเพิ่มขึ้น สู่ระดับ 260,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว อย่างไรก็ดี ยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกได้อยู่ต่ำกว่า 300,000 ราย เป็นสัปดาห์ที่ 73 ติดต่อกัน ซึ่งยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 1973 ส่วนตัวเลขค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ของยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน ซึ่งถือเป็นมาตรวัดตลาดแรงงานที่ดีกว่า เนื่องจากขจัดความผันผวนรายสัปดาห์ ลดลง 1,000 ราย สู่ระดับ 256,500 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน สำหรับจำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องมีจำนวนเพิ่มขึ้น 7,000 ราย สู่ระดับ 2.14 ล้านราย ในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 16 กรกฎาคม

ยุโรป: เยอรมนี

สำนักงานแรงงานเยอรมนี รายงานว่า อัตราว่างงานของเยอรมนีในเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้น 0.1% สู่ระดับ 6%ขณะที่จำนวนผู้ที่ไม่มีงานทำอยู่ที่ 2.661 ล้านราย เพิ่มขึ้น 47,000 รายจากเดือนก่อนหน้า อย่างไรก็ดี หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จำนวนผู้ไม่มีงานทำลดลง 112,000 ราย ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจประเทศ

อังกฤษ

ผลสำรวจของ Citi/YouGov ระบุว่า การคาดการณ์เงินเฟ้อในระยะยาวของชาวอังกฤษได้ลดลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนนี้ แม้มีการคาดว่าเงินเฟ้อจะปรับตัวสูงขึ้นในปีหน้า ทั้งนี้ ผลสำรวจเปิดเผยว่า ตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อในช่วง 5-10 ปีข้างหน้าได้ลดลงสู่ระดับ 2.4% ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุด นับตั้งแต่ที่ Citi/YouGov เริ่มจัดทำการสำรวจในเดือนพฤศจิกายน 2005 สำหรับในช่วง 12 เดือนข้างหน้านั้น ตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อดีดตัวขึ้นแตะระดับ 1.8% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2014 เทียบกับ 1.5% ในเดือนมิถุนายน

ในวันนี้ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะเปิดเผยผลการทดสอบภาวะวิกฤต (stress test) ในภาคธนาคารซึ่งจะแสดงสถานะความแข็งแกร่งทางการเงินโดยทั่วไปของธนาคารในยูโรโซน ขณะที่คาดว่าธนาคารบางแห่งในอิตาลีจะถูกระบุว่าอยู่ในภาวะขาดแคลนเงินทุน ทางด้านนายปิแอร์ มอสโควิชี กรรมาธิการยุโรปฝ่ายกิจการเศรษฐกิจ กล่าวว่า ภาคธนาคารได้รับการปกป้องที่ดีขึ้น และเขาก็หวังว่าผลการทดสอบจะแสดงผลดังกล่าว นอกจากนี้ นายมอสโควิชียังกล่าวว่า เขาหวังว่าแผนกอบกู้ธนาคารอิตาลีจะมีความคืบหน้า โดยคาดว่าทุกฝ่ายจะสามารถหาทางออกสำหรับผลประโยชน์ร่วมกัน และสอดคล้องกับกฎเกณฑ์ปัจจุบันของสหภาพยุโรป

เอเชีย : จีน

คณะกรรมการการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติ (NDRC) ของจีนระบุในแถลงการณ์ว่า จีนกำลังเผชิญกับความยากลำบากเป็นอย่างมากในความพยายามปรับลดกำลังการผลิตที่สูงเกินไปในอุตสาหกรรมเหล็กกล้า และจีนจะจัดสรรเงินทุนมากยิ่งขึ้นเพื่อใช้รับมือกับการปลดคนงานและหนี้สิน จีนเคยให้สัญญาว่าจะปรับลดกำลังการผลิตเหล็กกล้าลงราว 45 ล้านตันในปีนี้ และจะปรับลดลง 140 ล้านตันภายในปี 2020 โดยมีจุดประสงค์เพื่อแก้ไขปัญหาเหล็กกล้าล้นตลาดราว 300 ล้านตันต่อปี อย่างไรก็ดี จีนปรับลดกำลังการผลิตเหล็กกล้าในช่วงครึ่งปีแรกลงไปได้เพียง 30% ของเป้าหมายรายปีเท่านั้น ในขณะที่รัฐบาลท้องถิ่นรีบเร่งจัดทำแผนปิดกิจการให้แล้วเสร็จ NDRC ระบุในเว็บไซต์ของตนเองว่า ขั้นตอนต่อไปในการปรับลดกำลังการผลิตจะเป็นขั้นตอนที่ยากลำบากเป็นอย่างมาก ในขณะที่จีนพยายามจะบรรลุเป้าหมาย จีนวางแผนจะปรับเพิ่มความช่วยเหลือทางการเงินสำหรับการปรับลดกำลังการผลิตเหล็กกล้าที่สูงเกินไป และจะรับประกันว่า จะมีการจัดการอย่างเหมาะสมในส่วนของหนี้สินและการว่างงาน

ญี่ปุ่น

แหล่งข่าวกล่าวต่อรอยเตอร์ว่า รัฐบาลญี่ปุ่นวางแผนจะใช้จ่ายเงินโดยตรงราว 7 ล้านล้านเยน (6.7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีขนาดสูงกว่า 28 ล้านล้านเยน งบใช้จ่ายโดยตรงนี้มีขนาดเพียงราว 25% ของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และอาจจะสร้างความผิดหวังต่อนักลงทุนบางรายที่เคยคาดการณ์ว่า งบใช้จ่ายโดยตรงจะมีขนาดสูงกว่านี้ ในขณะที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลญี่ปุ่นมีขนาดสูงกว่า 5% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) แหล่งข่าวที่ไม่ประสงค์จะออกนามกล่าวว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจนี้ครอบคลุมเงิน 6 ล้านล้านเยนสำหรับใช้ในโครงการการลงทุนและสินเชื่อทางการคลัง โดยมีจุดประสงค์เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายในภาคเอกชน อย่างเช่นการก่อสร้างทางรถไฟ "แมกเลฟ" หรือทางรถไฟพลังแม่เหล็ก ทั้งนี้คณะรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะของญี่ปุ่นจะอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวมนี้ในวันอังคารหน้า แหล่งข่าวกล่าวว่า เงินที่เหลืออีก 15 ล้านล้านเยนจะมาจากสถาบันการเงินกึ่งภาครัฐซึ่งเป็นสถาบันที่จัดสรรสินเชื่อ, การค้ำประกันสินเชื่อ และเงินช่วยเหลือสำหรับบริษัทเอกชน หลังจากพรรคร่วมรัฐบาลของนายอาเบะชนะการเลือกตั้งครั้งใหญ่ในช่วงต้นเดือนนี้ นายอาเบะก็สั่งให้รัฐบาลของเขาจัดทำมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ถึงแม้เขาดำเนินมาตรการทางเศรษฐกิจที่เรียกว่า "อาเบะโนมิคส์" มาแล้วเป็นเวลานาน 3 ปี โดยอาเบะโนมิคส์นี้ประกอบด้วยนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายอย่างมาก, งบใช้จ่ายทางการคลัง และมาตรการปฏิรูป

ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ได้รับแรงกดดันทางการเมืองมากยิ่งขึ้นให้ดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในวันศุกร์นี้ หลังจากนายโนบุเทรุ อิชิฮาระ รมว.เศรษฐกิจญี่ปุ่นเรียกร้องให้บีโอเจทำงานร่วมกับรัฐบาลญี่ปุ่นในการกระตุ้นเศรษฐกิจ และนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะของญี่ปุ่นประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่เกินคาด นายอิชิฮาระกล่าวว่า นายกรัฐมนตรีอาเบะได้ส่งสารที่แข็งแกร่ง ด้วยการประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาด 28 ล้านล้านเยน (2.67 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ในวันพุธ สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า นายอิชิฮาระได้กล่าวในช่วงเย็นวันพุธในการปรากฏตัวทางโทรทัศน์ว่าผมคิดว่าเจ้าหน้าที่บีโอเจจะนำเรื่องนี้มาพิจารณา และจะตัดสินใจอย่างเหมาะสม และเขากล่าวเสริมว่าเขาคิดว่านายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการบีโอเจเข้าใจดีว่าทั่วโลกกำลังจับตามองอยู่ ถ้อยแถลงของนายอิชิฮาระบ่งชี้ว่า การที่นายกรัฐมนตรีอาเบะประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในเวลาที่เร็วเกินคาด ถือเป็นความพยายามของรัฐบาลญี่ปุ่นในการกดดันบีโอเจให้ขยายขนาดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในการประชุมวันที่ 28-29 ก.ค.นี้

ฟิลิปปินส์

ธนาคารกลางฟิลิปปินส์ระบุว่า ธนาคารกลางฟิลิปปินส์มองไม่เห็นความจำเป็นในการปรับเปลี่ยนจุดยืนในนโยบายการเงินของตนเอง หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า ความเสี่ยงระยะใกล้ที่มีต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐปรับลดลงมาแล้ว และเฟดตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 0.25-0.50 % ตามเดิม นายอามานโด เตตังโค ผู้ว่าการธนาคารกลางฟิลิปปินส์กล่าวว่าการประเมินของเฟดน่าจะส่งผลบวกโดยรวมต่อเศรษฐกิจประเทศตลาดเกิดใหม่ ซึ่งรวมถึงฟิลิปปินส์ เพราะการประเมินของเฟดสะท้อนถึงการปรับนโยบายเข้าสู่ภาวะปกติ อย่างไรก็ดี สิ่งนี้ยังไม่ใช่เหตุผลที่มากพอที่จะทำให้เราปรับเปลี่ยนจุดยืนของนโยบายการเงิน

ไทย

สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) คงคาดการณ์ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ(จีดีพี) ของไทยปี 59 เติบโต 3.3% หรืออยู่ในช่วง 3.0-3.6% ขณะที่ปรับลดคาดการณ์การส่งออกปีนี้ เป็นหดตัว 1.9% จากเดิมคาดลดลง 0.7% สศค.คาดด้วยว่า จีดีพีของไทยในไตรมาส 2/59 จะเติบโตราว 3.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการ สศค. กล่าวในการแถลงข่าวว่า แม้มีการปรับลดคาดการณ์การส่งออกลง แต่ สศค.ยังคงคาดการณ์จีดีพีปีนี้ไว้ในระดับเดิม เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากการใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐ ที่ขยายตัวสูง โดยโครงการลงทุนต่างๆ เบิกจ่ายได้ดีขึ้น เมื่อปลายเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา สศค.ลดคาดการณ์จีดีพีของไทยปีนี้ ลงเหลือเติบโต 3.3% จากเดิมที่คาดไว้ขยายตัว 3.7% ขณะที่คาดการส่งออกไทยในปีนี้ จะหดตัว 0.7% จากเดิมคาดโต 0.1%

นายวีรศักดิ์ ศุภประเสริฐ รองผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม(สศอ.) กล่าวในการแถลงข่าวว่า สศอ.ได้ปรับลดคาดการณ์ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม(MPI) ปี 59 เป็นเติบโต 1-2% จากเดิมที่คาดไว้เพิ่มขึ้น 2-3% เนื่องจาก MPI มีการปรับลดลงไปในช่วงไตรมาสแรก ขณะที่ในวันนี้ สศอ.เผยดัชนี MPI เดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 0.8% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งเป็นการขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน แต่ยังต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลล์รอยเตอร์คาดไว้เพิ่มขึ้น 2.0% ขณะที่ MPI ในไตรมาส 2/59 เพิ่มขึ้น 1.5% จากช่วงเดียวกันปีก่อน หลังจากลดลง 1.0% ในไตรมาสแรก ส่งผลให้ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ MPI ปรับเพิ่มขึ้น 0.2% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ก่อนหน้านี้ สศอ.คาดดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมในปี 59 จะขยายตัวได้ 2-3% จากที่เพิ่มขึ้น 0.34% ในปี 58

ธนาคารแห่งประเทศไทยจะรายงานดัชนีเศรษฐกิจไทยเดือนมิถุนายน 2559 ในวันที่ 29 กรกฎาคม 2559

Money Market

- ดอลลาร์/บาท วันพฤหัส (28 กค.) เงินบาทแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯในช่วงเช้าวันนี้ต่อเนื่องจากเมื่อวันพุธสอดคล้องกับเงินเอเซียส่วนใหญ่ที่แข็งค่าเช่นกันเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯหลังการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯเมื่อวานนี้ซึ่งธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 0.25-0.50%  แต่ระบุว่าความเสี่ยงระยะใกล้ที่มีต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐได้ลดน้อยลง พร้อมทั้งยังเปิดโอกาสสำหรับการคุมเข้มนโยบายการเงินในช่วงต่อไปในปีนี้ โดยเฟดระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวในอัตราปานกลาง และการจ้างงานพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในเดือนมิ.ย. นอกจากนี้ยังระบุอีกด้วยว่า การใช้จ่ายในภาคครัวเรือนเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่ง และอัตราการใช้กำลังแรงงานเพิ่มสูงขึ้น ขณะเดียวกันก็ระบุว่ายังคงจับตาดูตัวเลขเงินเฟ้อ และการเปลี่ยนแปลงทางการเงินและเศรษฐกิจของโลกอย่างใกล้ชิด

- ดอลลาร์/เยน วันพฤหัส ( 28 กค.)   เงินเยนแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯในช่วงเช้าวันนี้หลังจากที่เยนอ่อนค่าเมื่อวานนี้จากการเปิดเผยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลญี่ปุ่น อย่างไรก็ดีนักลงทุนก็รอดูการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่นในวันนี้และวันพรุ่งนี้ว่าจะมีการออกมาตรการทางการเงินผ่อนคลายมากขึ้นหรือไม่

- ยูโร/ดอลลาร์ วันพฤหัส ( 28 กค.) เงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลสาร์สหรัฐฯในช่วงเช้าวันนี้หลังการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯเมื่อวานนี้ได้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม ขณะที่เงินปอนด์เช้าวันนี้อ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ อย่างไรก็ดีเนื่องจากการเจรจาระหว่างสหราชอาณาจักรกับสหภาพยุโรปคาดว่าจะต้องใช้เวลานานดังนั้นจึงมีแนวโน้มที่เงินปอนด์และยูโรจะมีความผันผวนตามข่าวที่ออกมาเกี่ยวกับการเจรจาดังกล่าว

Capital Market

- ตลาดสหรัฐฯ วันพฤหัส( 28 กค.)  ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปิดลดลงในวันพฤหัสบดี หลังนักลงทุนผิดหวังกับรายงานผลประกอบการของบริษัทฟอร์ด ขณะที่การซื้อขายเป็นไปในช่วงแคบๆ หลังตลาดเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงปลายเดือนมิ.ย.และต้นเดือนก.ค.นอกจากนี้ ตลาดยังถูกถ่วงลงจากรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ที่เพิ่มขึ้นเกินคาด ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลบ 0.09% สู่ 18,456.35,

- ตลาดหุ้นเอเชีย วันพฤหัส ( 28 กค.)  ดัชนีตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ลดลงในวันนี้นำโดยตลาดหุ้นญี่ปุ่นซึ่งดัชนีนิกเกอิวันนี้ปิดตลาดลดลง 1.13% หลังการคงอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯในการประชุมเมื่อคืนนี้ซึ่งส่งผลให้เงินเยนกลับมาแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ อย่างไรก็ดีเศรษฐกิจญี่ปุ่นก็มีแนวโน้มที่จะได้ปัจจัยบวกเข้ามาบ้างจากการที่รัฐบาลญี่ปุ่นได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่ โดยวันนี้มีรายงานข่าวว่ารัฐบาลญี่ปุ่นวางแผนจะใช้จ่ายเงินโดยตรงราว 7 ล้านล้านเยน (6.7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีขนาดสูงกว่า 28 ล้านล้านเยน งบใช้จ่ายโดยตรงนี้มีขนาดเพียงราว 25% ของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งอาจจะสร้างความผิดหวังต่อนักลงทุนบางรายที่เคยคาดการณ์ว่างบใช้จ่ายโดยตรงจะมีขนาดสูงกว่านี้  ส่วนเงินที่เหลืออีก 15 ล้านล้านเยนจะมาจากสถาบันการเงินกึ่งภาครัฐ ทั้งนี้คณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นจะอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวมนี้ในวันอังคารหน้า ขณะที่ธนาคารกลางญี่ปุ่นจะมีการประชุมในวันนี้และพรุ่งนี้ซึ่งก็มีการจับตาว่าจะมีการออกมาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มขึ้นหรือไม่หลังรัฐบาลญี่ปุ่นได้ดำเนินการในส่วนของตนไปแล้ว สำหรับดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตวันนี้ปิดตลาดเพิ่มขึ้น 0.10% ขณะที่การเพิ่มขึ้นของราคาหุ้นกลุ่มรถยนต์และหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมช่วยชดเชยการลดลงของหุ้นกลุ่มการเงิน

- ตลาดหุ้นไทย วันพฤหัส ( 28 กค.) ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวสูงขึ้นในช่วงเช้าต่อเนื่องมาถึงช่วงบ่ายสวนทางตลาดหุ้นเอเซียส่วนใหญ่ โดยปัจจัยจากการไหลเช้าของเงินทุนต่างประเทศยังหนุนดัชนีตลาดหุ้นไทยในวันนี้ โดยวันนี้นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิทั้งสิ้น 4,194.6 ล้านบาท ส่งผลให้ตั้งแต่วันที่ 1-28 กรกฎาคม 2559 นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ 43,741.6 ล้านบาท ขณะที่ปิดตลาดวันนี้ SET INDEX เพิ่มขึ้น 9.18 จุด

โดย สำนักวิจัยธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ประจำวันที่ 29 ก.ค. 2559

Written by :

กระแสหุ้นออนไลน์

 

Comments

Charleshax

0

 

 

wh0cd929946 visit this link buy amoxicillin

Post Reply

B

i

u

Quote

Code

List

List item

URL

Name *
Code   
ChronoComments by Joomla Professional Solutions

Submit Comment

Cancel

Brettdow

0

 

 

wh0cd858968 amoxicillin where to buy arimidex

Post Reply

B

i

u

Quote

Code

List

List item

URL

Name *
Code   
ChronoComments by Joomla Professional Solutions

Submit Comment

Cancel

B

i

u

Quote

Code

List

List item

URL

Name *
Code   
ChronoComments by Joomla Professional Solutions

Submit Comment