Snapshot

สหรัฐอเมริกา

- ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ทั่วไปในเดือนกันยายนเพิ่มขึ้นเกินคาดที่ 0.3% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนมกราคม มากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการสำรวจโดยรอยเตอร์คาดไว้ว่า ดัชนี PPI ทั่วไปอาจเพิ่มขึ้น 0.1% ขณะที่ดัชนี PPI พื้นฐานที่ไม่รวมราคาอาหารและพลังงานก็เพิ่มขึ้น 0.3% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนมกราคม มากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการสำรวจโดยรอยเตอร์คาดไว้ว่าดัชนี PPI พื้นฐานซึ่งไม่รวมราคาอาหารและพลังงานอาจเพิ่มขึ้น 0.2% ทั้งนี้ เมื่อเทียบเป็นรายปี ดัชนี PPI ทั่วไปเพิ่มขึ้น 2.2% (yoy) และดัชนี PPI พื้นฐานเพิ่มขึ้น 1.5% (yoy)

- ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ออกแถลงการณ์ระบุว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟด จะยังคงจัดการประชุมกำหนดนโยบายอัตราดอกเบี้ยในวันที่ 14-15 มี.ค.ตามกำหนด แม้กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ซึ่งเป็นที่ตั้งอาคารสำนักงานของเฟดกำลังเผชิญกับพายุหิมะ เช่นเดียวกับฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐ จนส่งผลกระทบต่อการเดินทางก็ตาม

ประเด็นที่น่าสนใจ

- นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ในสัปดาห์นี้ ซึ่งมีการคาดว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% หลังรายงานการจ้างงานสหรัฐออกมาแข็งแกร่ง ทั้งนี้ คณะกรรมการกำหนดนโยบายของFed (FOMC) จะจัดการประชุมนโยบายการเงิน 2 วันในวันอังคารและพุธนี้

ยุโรป: ยูโรโซน

- สำนักงานสถิติสหภาพยุโรป (Eurostat) รายงานว่าการผลิตภาคอุตสาหกรรมในยูโรโซน ซึ่งมีสมาชิก 19 ประเทศในเดือนมกราคมเพิ่มขึ้น 0.9% เมื่อเทียบรายเดือน และเพิ่มขึ้น 0.6% เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าผลสำรวจของนักวิเคราะห์จากรอยเตอร์คาดว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมจะเพิ่มขึ้น 1.3% เมื่อเทียบรายเดือน และ 0.9% เมื่อเทียบรายปี อย่างไรก็ดี ข้อมูลที่ต่ำกว่าคาดในเดือนมกราคมนี้ถูกชดเชยด้วยข้อมูลเดือนธันวาคมที่มีการทบทวนปรับขึ้น โดยผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในเดือนธันวาคมลดลง 1.2% เมื่อเทียบรายเดือน เทียบกับที่ลดลง 1.6% ในการรายงานเบื้องต้น ขณะที่เมื่อเทียบรายปี การผลิตภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 2.5% (yoy) มากกว่าที่คาดไว้ว่าเพิ่มขึ้น 2.0% ทั้งนี้ การผลิตที่เพิ่มขึ้นในเดือนมกราคมมีสาเหตุหลักมาจากการผลิตสินค้าทุนที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก อาทิ เครื่องจักร ซึ่งเพิ่มขึ้น 2.8% หลังจากที่ลดลงในอัตราเดียวกันในเดือนธันวาคม ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า แนวโน้มยอดขายในอนาคตของบริษัทต่างๆปรับตัวดีขึ้น ซึ่งการผลิตพลังงานเพิ่มขึ้น 1.9% เมื่อเทียบรายเดือน ด้านการผลิตสินค้าคงทน อาทิ รถยนต์ หรือตู้เย็นในเดือนมกราคมลดลง 0.4% หลังจากที่เพิ่มขึ้น 3% ในเดือนธันวาคม ส่วนการผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคลดลง 0.7% หลังจากที่ลดลง 0.2% ในเดือนก่อน ขณะเดียวกัน เมื่อพิจารณารายประเทศพบว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนีเพิ่มขึ้น 3.3% แต่ลดลง 0.3% ในฝรั่งเศส และลดลง 2.3% ในอิตาลี

เยอรมนี

- สถาบัน ZEW รายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของเยอรมนีในเดือนมีนาคมเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 12.8 จุด จากระดับ 10.4 กุมภาพันธ์ ขณะที่นักวิเคราะห์ในผลสำรวจของรอยเตอร์คาดไว้ว่าอาจเพิ่มขึ้นสู่ 13.1 จุด ด้านดัชนีภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันของเยอรมนีเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 77.3 จุด จาก 76.4 ในเดือนก่อน ขณะที่นักวิเคราะห์ในผลสำรวจของรอยเตอร์คาดไว้ว่าอาจเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 78.0 ทั้งนี้ นายอาคิม วอมแบช ประธานสถาบัน ZEW กล่าวว่า การที่ความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยนั้น สะท้อนถึงความไม่แน่นอนในขณะนี้ที่กำลังเกิดขึ้นกับการพัฒนาเศรษฐกิจในอนาคต

อังกฤษ

- นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ กล่าวว่า ในเวลาอีกเพียงไม่กี่วัน สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 จะทรงลงพระปรมาภิไธยต่อร่างกฎหมายว่าด้วยการนำอังกฤษแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) อย่างเป็นทางการ ซึ่งทันทีที่ร่างกฎหมาย Brexit ได้รับพระบรมราชานุญาตจากสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 อย่างเป็นทางการ นายกรัฐมนตรีก็จะสามารถบังคับใช้เป็นกฎหมาย พร้อมกับเปิดทางให้มีการประกาศใช้มาตรา 50 ของสนธิสัญญาลิสบอนของสหภาพยุโรป (EU) เพื่อเริ่มต้นกระบวนการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป ทั้งนี้ ถึงแม้นางเมย์สามารถประกาศใช้มาตรา 50 ในเวลาใดก็ได้ หลังจากที่สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทรงลงพระปรมาภิไธยต่อร่างกฎหมาย Brexit แต่โฆษกรัฐบาลก็ได้ส่งสัญญาณว่า การตัดสินใจดังกล่าวอาจเกิดขึ้นในช่วงก่อนสิ้นเดือนนี้ มากกว่าที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วัน

ประเด็นที่น่าสนใจ

- ยังคงต้องจับตาผลการเลือกตั้งในวันที่ 15 มีนาคม ของประเทศเนเธอร์แลนด์ หลัง โพลล์ล่าสุดยังบ่งชี้ว่า นายกีรต์ ไวลเดอร์ส หัวหน้าพรรค Party for Freedom (PVV) ซึ่งเป็นพรรคการเมืองฝ่ายขวาจัด ได้รับคะแนนนิยมสูงสุด นำหน้านักการเมืองคนอื่นๆ หรือคะแนนนำพรรคของ มาร์ก รุตเทอ (Mark Rutte) ประธานาธิบดีของเนเธอร์แลนด์

เอเซีย: จีน

- การผลิตเหล็กกล้าของจีนในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้เพิ่มขึ้น 5.8% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่โรงงานเหล็กได้เพิ่มการผลิตท่ามกลางราคาที่สูงขึ้น และอุปสงค์ที่แข็งแกร่ง เนื่องจากจีนได้ดำเนินการลดกำลังการผลิตส่วนเกินในอุตสาหกรรมเหล็กกล้า ทั้งนี้สำนักงานสถิติแห่งชาติ (NBS) ของจีนเปิดเผยว่า การผลิตเหล็กกล้าของจีนในช่วงเดือนม.ค.-ก.พ.รวมกันเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 128.77 ล้านตัน โดย NBS ได้เปิดเผยข้อมูลสำหรับเดือนม.ค.และก.พ.รวมกันเพื่อลดผลกระทบจากวันหยุดเทศกาลตรุษจีน และไม่ได้ให้ข้อมูลแบบแยกรายเดือน การผลิตเหล็กกล้าเพิ่มขึ้นในปีนี้ ขณะที่นโยบายของจีนเพื่อลดกำลังการผลิตส่วนเกินนั้นทำให้ราคาเหล็กเส้นคุณภาพต่ำพุ่งขึ้น โดยสัญญาล่วงหน้าเหล็กเส้นในตลาดสัญญาล่วงหน้าเซี่ยงไฮ้พุ่งขึ้น 23% แล้วนับตั้งแต่ต้นปีนี้ นักวิเคราะห์กล่าวว่า โรงงานเหล็กกล้าทำกำไรได้ถึง 800 หยวน (115.74 ดอลลาร์สหรัฐฯ) ต่อตันจากการผลิตเหล็กเส้น ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2011

-   สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนเปิดเผยว่า กิจกรรมในภาคเศรษฐกิจที่แท้จริงของจีนปรับตัวดีขึ้น โดยสภาวะทางธุรกิจในขณะนี้ดีกว่าในช่วงเดียวกันของปีที่แล้วมาก นายเซิง ไหลหยุน โฆษกสำนักงานสถิติแห่งชาติได้แสดงความเห็นดังกล่าวในการแถลงข่าวที่กรุงปักกิ่ง โดยสำนักงานสถิติเปิดเผยข้อมูลบ่งชี้ว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีนเพิ่มขึ้น 6.3% ในเดือนม.ค.-ก.พ.จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรเพิ่มขึ้น 8.9% ซึ่งดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ อย่างไรก็ดียอดค้าปลีกเติบโตต่ำกว่าที่คาดเป็นอย่างมาก โดยยอดค้าปลีกปรับขึ้น 9.5% ในช่วงสองเดือนแรกของปีนี้เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 10.5%

- สำนักงานสถิติแห่งชาติ (NBS) ของจีนเปิดเผยว่า การลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ของจีนเพิ่มขึ้น 8.9% ในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ซึ่งชะลอตัวลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่ยอดขายอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้น แม้รัฐบาลดำเนินมาตรการชะลอตลาดอสังหาริมทรัพย์ก็ตาม ทั้งนี้การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ซึ่งมีผลโดยตรงต่อภาคธุรกิจอื่นๆอีก 40 กลุ่มในจีน ถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจจีน จากการคำนวณของรอยเตอร์โดยอิงตามข้อมูลของทางการระบุว่า การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้น 6.9% ในปี 2016 และเพิ่มขึ้น 11.1% ในเดือนธ.ค.เดือนเดียว ยอดขายอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้น 25.1% เมื่อเทียบรายปีในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ และมากกว่าที่เพิ่มขึ้น 22.5% ในปี 2016 ซึ่งเป็นอัตราการเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 7 ปีอันเป็นผลจากการขยายตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ในเมืองชั้นนำ จากการคำนวณของรอยเตอร์พบว่ายอดขายอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้น 11.8% ในเดือนธ.ค.เดือนเดียว ผู้กำหนดนโยบายเริ่มกังวลกับตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ร้อนแรงเกินไป และความเสี่ยงที่ภาวะปรับฐานรุนแรงและฉับพลันจะทำให้เศรษฐกิจตกต่ำลง และมีการดำเนินข้อจำกัดการซื้อและการถือครองกรรมสิทธิ์ในตลาดที่ร้อนแรงมาตั้งแต่เดือนต.ค.ปีที่แล้ว

ญี่ปุ่น

- รอยเตอร์เปิดเผยผลสำรวจในวันนี้ระบุว่า นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่า ความเคลื่อนไหวถัดไปของธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) จะเป็นการเริ่มต้นปรับลดนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายมากเป็นพิเศษ ซึ่งแสดงให้เห็นว่านักเศรษฐศาสตร์ได้ปรับเปลี่ยนการคาดการณ์ของตนเองเป็นอย่างมากจากเมื่อสองเดือนก่อน นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่า บีโอเจจะส่งสัญญาณว่า บีโอเจจะลดการใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย โดยใช้วิธีปรับขึ้นเป้าหมายอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่น (JGB) ประเภทอายุ 10 ปี จากเป้าหมายปัจจุบันที่ตั้งไว้ที่ระดับราว 0 % ความเห็นของนักเศรษฐศาสตร์เปลี่ยนแปลงไป ในขณะที่มีการคาดการณ์มากยิ่งขึ้นเรื่องภาวะเงินเฟ้อในญี่ปุ่น, เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มที่ดีขึ้น และราคาน้ำมันมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น

เกาหลีเหนือ

- เกาหลีเหนือประกาศเตือนสหรัฐในวันอังคารที่ผ่านมาว่า เกาหลีเหนือจะดำเนินการโจมตี "อย่างไม่ปรานี" ถ้าหากหมู่เรือบรรทุกเครื่องบินโจมตีของสหรัฐที่นำโดยเรือยูเอสเอส คาร์ล วินสัน ละเมิดอธิปไตยหรือศักดิ์ศรีของเกาหลีเหนือ โฆษกกองทัพเรือสหรัฐกล่าวว่า เรือยูเอสเอส คาร์ล วินสันกำลังเดินทางไปยังภูมิภาคดังกล่าวตามกำหนดการปกติ เพื่อเข้าร่วมในการซ้อมรบกับกองทัพเกาหลีใต้ เกาหลีเหนือระบุว่า การเดินทางของหมู่เรือบรรทุกเครื่องบินโจมตีของสหรัฐในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการในการโจมตีเกาหลีเหนือ โดยสำนักข่าว KCNA ของทางการเกาหลีเหนือระบุว่า ถ้าหากหมู่เรือเหล่านี้ละเมิดอธิปไตยและศักดิ์ศรีของเกาหลีเหนือแม้เพียงเล็กน้อย กองทัพของเกาหลีเหนือก็จะโจมตีอย่างแม่นยำและไม่ปรานีทั้งจากทางบก, ทางอากาศ, ทางทะเล และใต้น้ำ KCNA ระบุว่า ในวันที่ 11 มี.ค. เครื่องบินหลายลำของศัตรูได้บินเข้าใกล้น่านฟ้าและน่านน้ำของเกาหลีเหนือเพื่อซ้อมทิ้งระเบิด และซ้อมการโจมตีอย่างฉับพลันต่อเป้าหมายบนบกของกองทัพ เกาหลีเหนือได้สร้างความกังวลให้แก่ประเทศเพื่อนบ้านในช่วงที่ผ่านมาด้วยการทดสอบนิวเคลียร์ 2 ครั้ง และด้วยการยิงขีปนาวุธหลายครั้งนับตั้งแต่ปี 2016 ทั้งนี้ในสัปดาห์ที่แล้ว เกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธนำวิถี 4 ลูกไปยังทะเลนอกชายฝั่งญี่ปุ่น เพื่อตอบโต้ต่อการซ้อมรบประจำปีระหว่างเกาหลีใต้กับสหรัฐ โดยเกาหลีเหนือมองว่าการซ้อมรบดังกล่าวเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับการทำสงคราม

เกาหลีใต้

- นายมูน แจ-อิน หนึ่งในตัวเก็งสำหรับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของเกาหลีใต้กล่าวว่า จีนควรจะยุติการดำเนินมาตรการตอบโต้ทางเศรษฐกิจต่อบริษัทเกาหลีใต้ โดยจีนใช้มาตรการนี้เพื่อคัดค้านการที่เกาหลีใต้จะติดตั้งระบบต่อต้านขีปนาวุธ THAAD ของสหรัฐ นายมูนกล่าวในการโต้วาทีกับผู้ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีคนอื่นๆ ว่า เกาหลีใต้จำเป็นต้องยืนหยัดในการเผชิญหน้ากับจีน และต้องคัดค้านการกระทำใดๆของจีนที่ไม่เป็นธรรม แต่เกาหลีใต้ต้องดำเนินความพยายามทางการทูตในการคลี่คลายปัญหานี้ด้วย จีนคัดค้านการที่เกาหลีใต้ทำข้อตกลงกับสหรัฐเพื่อติดตั้งระบบ THAAD เพื่อไว้ใช้รับมือกับภัยคุกคามด้านขีปนาวุธจากเกาหลีเหนือ จีนระบุว่าระบบเรดาร์ที่ทรงอานุภาพของ THAAD ถือเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของจีน

Money Market

- ดอลลาร์/บาท วันอังคาร (14 มีค.) เงินบาทอ่อนค่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯในช่วงเช้าวันนี้ก่อนการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯเป็นเวลาสองวันซึ่งเริ่มต้นในคืนนี้ซึ่งนักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในการประชุมครั้งนี้เนื่องจากการแถลงของคณะกรรมการธนาคารกลางสหรัฐฯนับจากช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นมาล้วนเป็นไปในทางที่ชี้ว่าความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจและผู้บริโภคเพิ่มขึ้นมากหลังการเลือกตั้ง โดยเห็นได้จากผลสำรวจและตลาดการเงินเงินโดยเฉพาะตลาดหุ้น ในขณะที่กรรมการธนาคารกลางสหรัฐฯมองว่าแม้มาตรการเศรษฐกิจรัฐบาลสหรัฐฯยังไม่ชัดเจนแต่แนวโน้มจะไปในทางกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้นแน่นอนทั้งในส่วนของมาตรการการลดภาษี การใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภค และการลดข้อจำกัดต่างๆของภาคธุรกิจ

- ดอลลาร์/เยน วันอังคาร (14 มีค.) เงินเยนแข็งค่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯในช่วงเช้าวันนี้ก่อนการประชุมธนาคารกลางสหรัฐในวันนี้และวันพรุ่งนี้ซึ่งนักลงทุนส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ในส่วนของธนาคารกลางญี่ปุ่นซึ่งจะมีการประชุมวันที่ 16 มีนาคมนี้ซึ่งคาดว่าจะคงมาตรการทางการเงินผ่อนคลายมากเป็นพิเศษต่อไป แต่แนวโน้มนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่าบีโอเจจะส่งสัญญาณว่า บีโอเจจะลดการใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย โดยใช้วิธีปรับขึ้นเป้าหมายอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่น (JGB) ประเภทอายุ 10 ปี จากเป้าหมายปัจจุบันที่ตั้งไว้ที่ระดับราว 0 % เนื่องจากอัตราผลตอบแทนระยะยาวในตลาดการเงินโลกที่เพิ่มขึ้น

- ยูโร/ดอลลาร์ วันอังคาร ( 14 มีค.) เงินยูโรทรงตัวเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯในช่วงเช้าวันนี้โดยนักลงทุนจับตาการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯในวันนี้และวันพรุ่งนี้และการเลือกตั้งในเนเธอร์แลนด์ในวันพรุ่งนี้ โดยยูโรอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯในช่วงตลาดสหรัฐฯจากปัจจัยการคาดการณ์การขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ขณะเดียวกันนักลงทุนก็จับตาการเลือกตั้งในเนเธอร์แลนด์

Capital Market

- ตลาดสหรัฐฯ วันอังคาร ( 14 มีค.) ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปิดลดลงในวันอังคาร ขณะที่ราคาน้ำมันลดลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. และหุ้นกลุ่มสายการบินถ่วงหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมลดลง หลังพายุหิมะพัดกระหน่ำภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐ หุ้นกลุ่มผู้ประกอบการโรงพยาบาลลดลง หลังรายงานวิจัยบ่งชี้ว่า ชาวอเมริกัน 14 ล้านคนจะสูญเสียประกันสุขภาพภายในปีหน้าภายใต้ข้อเสนอของพรรครีพับลิกัน ทั้งนี้ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลบ 0.21% , ดัชนี S&P 500 ปิดลบ 0.34% และดัชนี Nasdaq ปิดลบ 0.32%

- ตลาดหุ้นเอเชีย วันอังคาร ( 14 มีค.) ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดลดลง 0.12% มาอยู่ที่ 19,609.50 ในวันนี้ก่อนการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯในวันนี้และวันพรุ่งนี้ซึ่งนักลงทุนส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าจะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะที่ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดตลาดบวก 0.05% มาอยู่ที่ 3,238.62 ขณะที่วันนี้สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนเปิดเผยว่า กิจกรรมในภาคเศรษฐกิจที่แท้จริงของจีนปรับตัวดีขึ้น ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีนเพิ่มขึ้น 6.3% ในเดือนม.ค.-ก.พ.จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรเพิ่มขึ้น 8.9% ยอดค้าปลีกเติบโต 9.5% การลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ของจีนเพิ่มขึ้น 8.9% ในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ซึ่งชะลอตัวลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่ยอดขายอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้น แม้รัฐบาลดำเนินมาตรการชะลอตลาดอสังหาริมทรัพย์ก็ตาม โดยยอดขายอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้น 25.1% เมื่อเทียบรายปีในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ ซึ่งชี้ถึงความเสี่ยงฟองสบู่ในภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในจีน ดัชนีฮั่งเส็งปิดลดลง 0.01% สู่ระดับ 23,827.95 อย่างไรก็ดีแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐฯจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลายครั้งในปีนี้และปีต่อๆไปทำให้เศรษฐกิจและตลาดการเงินของฮ่องกงมีความเสี่ยงมากขึ้นเนื่องจากฮ่องกงผูกค่าเงินไว้กับดอลลาร์สหรัฐฯซึ่งทำให้ต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามสหรัฐฯทุกครั้งที่สหรัฐฯขึ้นอัตราดอกเบี้ยและจะส่งผลลบต่อภาคธุรกิจต่างๆโดยเฉพาะอสังหาริมทรัพย์

- ตลาดหุ้นไทย วันอังคาร ( 14 มีค.) ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้เพิ่มขึ้นตามทิศทางตลาดหุ้นเอเซียส่วนใหญ่ก่อนการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯในวันนี้และวันพรุ่งนี้ ซึ่งนักลงทุนส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยปิดตลาดวันนี้ SET INDEX สูงขึ้น 7.64 จุด

โดย สำนักวิจัยธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ประจำวันที่ 15 มี.ค. 2560

Written by :

กระแสหุ้นออนไลน์

 

Comments

B

i

u

Quote

Code

List

List item

URL

Name *
Code   
ChronoComments by Joomla Professional Solutions

Submit Comment