Forgot your password? Create an account
  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
News

Stockwave Online กระแสหุ้นออนไลน์ หุ้น หลักทรัพย์ การเงิน ข่าวเศรษฐกิจ

Home Economic View สรุปประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจและการเงินรายวัน - ธ.ซีไอเอ็มบี ไทย
สรุปประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจและการเงินรายวัน - ธ.ซีไอเอ็มบี ไทย PDF Print E-mail
Thursday, 23 March 2017 12:49

Snapshot

 

สหรัฐอเมริกา

- สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) รายงานว่า ยอดขายบ้านมือสองในเดือนกุมภาพันธ์ลดลง 3.7% เมื่อเทียบรายเดือนสู่ระดับ 5.48 ล้านยูนิต มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่ายอดขายบ้านมือสองจะลดลง 2.0% สู่ระดับ 5.57 ล้านยูนิต อันเป็นผลจากการได้รับผลกระทบจากราคาบ้านที่เพิ่มขึ้นสูง และสต็อกบ้านที่ลดต่ำลงเป็นเดือนที่ 21 ติดต่อกัน อย่างไรก็ดี เมื่อเทียบรายปี ยอดขายบ้านมือสองเพิ่มขึ้น 5.4% ด้านราคาบ้านเฉลี่ยพุ่งขึ้น 7.7% สู่ระดับ 228,400 ดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และนับเป็นเดือนที่ 60 ติดต่อกันที่ราคาบ้านปรับตัวขึ้น

- นายโรเบิร์ต แคปแลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาดัลลัสกล่าวในการให้สัมภาษณ์ต่อรอยเตอร์ว่า เนื่องจากสหรัฐใกล้เข้าสู่ภาวะการจ้างงานเต็มที่ และเนื่องจากอัตราเงินเฟ้อสหรัฐเข้าใกล้ระดับ 2 % เฟดจึงควรที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้ และควรวางแผนสำหรับการปรับลดขนาดงบดุลลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป อย่างไรก็ดี นายแคปแลนกล่าวย้ำว่า เฟดไม่มีความรีบร้อนในการดำเนินการทั้งสองเรื่องนี้ โดยนายแคปแลนเป็นผู้มีสิทธิออกเสียงในคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟด (FOMC) ในปีนี้

- นายเอริค โรเซนเกรน ประธานเฟดสาขาบอสตันกล่าวว่า การพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งของราคาอพาร์ทเมนท์อาจจะเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงภาวะไร้เสถียรภาพทางการเงิน และอัตราดอกเบี้ยอาจจะไม่สามารถควบคุมภาวะไร้เสถียรภาพนี้ได้ ในขณะที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปเท่านั้น นายโรเซนเกรนกล่าวว่าเนื่องจากมีการถือครองอสังหาริมทรัพย์ในวงกว้าง และเนื่องจากนโยบายการเงินและมาตรการกำกับดูแลสถาบันการเงินทั้งระบบมีเครื่องมือเพียงไม่กี่อย่างที่สามารถนำมาใช้ในการแก้ไขปัญหามูลค่าอสังหาริมทรัพย์ เขาจึงเชื่อว่าภาคอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์มีศักยภาพในการทำให้ปัญหาใดๆก็ตามทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น เมื่อใดก็ตามที่เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำในอนาคต นายโรเซนเกรนตั้งข้อสังเกตว่า ภาคอสังหาริมทรัพย์เคยมีบทบาทสำคัญมาแล้วในการทำให้เกิดภาวะไร้เสถียรภาพทางการเงินในอดีต และปัจจุบันนี้ราคาอสังหาริมทรัพย์เติบโตในอัตราที่รวดเร็วกว่ารายได้จากการดำเนินงานของเจ้าของอาคาร

- ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐจะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำประเทศสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ในวันที่ 25 พ.ค.นี้ที่กรุงบรัสเซลส์  การเยือนของปธน.ทรัมป์จะทำให้เขามีโอกาสผลักดันข้อเสนอของเขาว่าเหตุใดประเทศพันธมิตรนาโตหลายประเทศจึงจำเป็นต้องเพิ่มงบรายจ่ายด้านกลาโหมเพื่อช่วยกระจายค่าใช้จ่ายของกองกำลังรักษาความมั่นคง ปธน.ทรัมป์ทำให้ชาติพันธมิตรที่สำคัญในยุโรปวิตกกับข้อเรียกร้องของเขาที่ให้พวกเขาเพิ่มงบประมาณด้านกลาโหม และการเจรจาเพื่อสร้างการเป็นพันธมิตรกับรัสเซียอีกครั้ง

 

อื่นๆ: นิวซีแลนด์

- ธนาคารกลางนิวซีแลนด์มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 1.75% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ โดยธนาคารกลางระบุถึงอุปสรรคต่างๆที่เศรษฐกิจทั่วโลกกำลังเผชิญ ทั้งนี้ นายแกรม วีลเลอร์ ผู้ว่าการธนาคารกลางนิวซีแลนด์ กล่าวภายหลังการประชุมว่า สัญญาณบ่งชี้ทางเศรษฐกิจระดับมหภาคในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วนั้น ยังคงเป็นบวกในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา แต่เศรษฐกิจโลกยังคงเผชิญกับอุปสรรคใหญ่ ซึ่งรวมถึงภาวะกำลังการผลิตส่วนเกินและความไม่แน่นอนทางการเมืองระหว่างประเทศ

 

เอเซีย: ญี่ปุ่น

- นายยุกิโตชิ ฟุโนะ สมาชิกคณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) กล่าวว่า บีโอเจจำเป็นต้องดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ต่อไปในช่วงนี้ โดยถ้อยแถลงนี้สวนทางกับการคาดการณ์ในตลาดที่ว่า บีโอเจอาจจะพิจารณาเรื่องการปรับขึ้นเป้าหมายอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่น (JGB) ในเร็วๆนี้ นายฟุโนะกล่าวว่า บางคนในตลาดมองว่า บีโอเจจะพิจารณาเรื่องการปรับขึ้นเป้าหมายอัตราผลตอบแทนพันธบัตรในอนาคตอันใกล้ แต่เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ, สถานการณ์ด้านเงินเฟ้อ และสถานการณ์ทางการเงินในระยะนี้ สิ่งที่สำคัญก็คือการส่งเสริมการผ่อนคลายทางการเงินอย่างแข็งแกร่งต่อไป นายฟุโนะโหวตตามเสียงส่วนใหญ่ในคณะกรรมการกำหนดนโยบายในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงในเดือนก.ย. 2016 ที่บีโอเจตัดสินใจปรับเปลี่ยนจุดสนใจของนโยบายการเงิน โดยเปลี่ยนจากการปรับเพิ่มปริมาณเงิน มาเป็นการตั้งเป้าหมายอัตราดอกเบี้ย

- กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยว่า การส่งออกของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 11.3% เมื่อเทียบรายปีในเดือนก.พ. โดยยอดส่งออกชิ้นส่วนรถยนต์ และชิ้นส่วนอิเลคทรอนิคส์ไปยังเอเชียเพิ่มขึ้นมากที่สุด ซึ่งทำให้ยอดเกินดุลการค้าเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 6.803 แสนล้านเยน (6.09 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2010 นักเศรษฐศาสตร์ในผลสำรวจของรอยเตอร์คาดไว้ว่ายอดส่งออกจะเพิ่มขึ้น 10.6% และเทียบกับที่เพิ่มขึ้น 1.3% ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2015 และสะท้อนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่นำโดยอุปสงค์ต่างประเทศ แต่ก็เป็นการฟื้นตัวจากภาวะชะลอตัวช่วงเทศกาลตรุษจีนในจีนและประเทศอื่นๆในเอเชียด้วย ยอดส่งออกของญี่ปุ่นไปยังสหรัฐซึ่งเป็นตลาดสำคัญสำหรับสินค้าญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนก.พ.จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เนื่องจากยอดส่งออกรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ ยอดเกินดุลการค้าของญี่ปุ่นกับสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.5% สู่ระดับ 6.113 แสนล้านเยน (5.48 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน หลังจากที่ร่วงลง 26.5% ในเดือนม.ค.

 

เกาหลีใต้

- เกาหลีใต้ประกาศมาตรการล่าสุดในการส่งเสริมการจ้างงานคนรุ่นหนุ่มสาว ซึ่งเป็นมาตรการที่ช่วยควบคุมความล่าช้าในการจ่ายค่าแรง และควบคุมพฤติกรรมการจ้างงานที่ไม่เป็นธรรม โดยเกาหลีใต้ตั้งความหวังว่ามาตรการนี้จะช่วยเหลือคนรุ่นหนุ่มสาวให้สามารถหางานที่มั่นคงได้ กระทรวงการคลังเกาหลีใต้ระบุว่า ทางกระทรวงตั้งเป้าที่จะแก้ไขกฎหมายการจ้างงาน เพื่ออำนวยความสะดวกในการสั่งปรับธุรกิจต่างๆ ที่ไม่ลงนามในสัญญาจ้างงานอย่างเป็นทางการกับคนงาน หรือธุรกิจที่จ่ายค่าแรงต่ำเกินไป อัตราการว่างงานของชาวเกาหลีใต้ที่มีอายุ 15-29 ปีอยู่ที่ 10.4% ในเดือนก.พ.ปีนี้ หลังจากที่เคยแตะจุดสูงสุดรอบ 16 ปีครึ่งที่ 10.6% ในเดือนก.พ.ปี 2016 กระทรวงการคลังเกาหลีระบุว่า การว่างงานในคนรุ่นหนุ่มสาวมีสาเหตุมาจาก ความไม่แน่นอนทั้งภายในและภายนอกเกาหลีใต้, การบริโภคที่อ่อนแอเพราะความเชื่อมั่นต่ำ และการปรับโครงสร้างภาคเอกชน รัฐบาลเกาหลีใต้เคยระบุในช่วงต้นปีนี้ว่า ทางรัฐบาลจะประกาศนโยบายใหม่ในการช่วยเหลือคนรุ่นหนุ่มสาวในการหางานทำก่อนสิ้นเดือนมี.ค.

- นายยู อิล-โฮ รมว.คลังเกาหลีใต้กล่าวว่า ระดับปัจจุบันของอัตราแลกเปลี่ยนดอลลาร์สหรัฐฯ/วอนไม่ใช่ปัญหา ตราบใดที่ความผันผวนยังคงเป็นไปอย่างจำกัด วอนพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบหลายเดือนในช่วงต้นสัปดาห์นี้จากความหวังในตลาดที่ว่า เศรษฐกิจที่ดีขึ้นของสหรัฐจะสนับสนุนเศรษฐกิจของเกาหลีใต้ เขากล่าวนอกรอบการประชุมรัฐบาลว่า เขาไม่คิดว่า รัฐบาลจะล้มเหลวในการขยายข้อตกลงสว๊อปค่าเงินกับจีน ซึ่งจะสิ้นสุดลงในเดือนต.ค.ปีนี้

 

ประเด็นที่น่าสนใจ

- ธนาคารกลางฟิลิปปินส์จะประชุมในวันพฤหัสบดีที่ 23 มีนาคมนี้ซึ่งผลสำรวจโดยรอยเตอร์นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่าธนาคารกลางฟิลิปปินส์จะคงอัตราดอกเบี้ยกู้ยืมประเภทข้ามคืนที่ 3.0%

 

ไทย

- กระทรวงพาณิชย์รายงานตัวเลขการส่งออกของไทยในเดือน ก.พ. มีมูลค่า 1.85 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลง 2.8% จากช่วงเดียวกันปีก่อน กระทรวงพาณิชย์ระบุในเอกสารเผยแพร่ว่า การส่งออกที่ลดลงในเดือนก.พ. เป็นผลจากปีนี้ไม่มีการส่งออกทองคำ และสินค้าหมวดอากาศยาน ขณะที่เดือนก.พ.ปีก่อน มีการส่งออกทองคำและสินค้าหมวดอากาศยานสูง ซึ่งหากหักมูลค่าการส่งออกของสินค้าทั้งสองรายการนี้ออก พบว่าการส่งออกเดือนก.พ. ขยายตัวถึง 8.5% และสะท้อนถึงความสามารถในการแข่งขัน และการปรับตัวในระดับดีของไทยตามสถานการณ์เศรษฐกิจโลก ส่วนการนำเข้าในเดือน ก.พ. มีมูลค่า 1.69 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 20.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ทำให้ไทยเกินดุลการค้าประมาณ 1.61 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ การส่งออกไทยขยายตัว 2.5% ส่วนการนำเข้าเพิ่มขึ้น 12.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้มียอดเกินดุลการค้า 2.44 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ก่อนหน้านี้กระทรวงพาณิชย์ระบุว่าจะพยายามผลักดันให้การส่งออกในปี 60 ขยายตัวได้ใกล้เคียงเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 5% แต่มั่นใจว่าการส่งออกปีนี้จะเติบโตได้ไม่น้อยกว่า 3.5% ตามที่เคยตั้งเป้าไว้เดิม เนื่องจากการส่งออกมีทิศทางที่ดีขึ้น จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้แนวโน้มราคาสินค้าเกษตรและสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน มีราคาเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

- สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เผยยอดขายรถยนต์ภายในประเทศทั้งระบบ ในเดือน ก.พ. อยู่ที่ 68,435 คัน เพิ่มขึ้น 19.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เทียบกับยอดขายรถยนต์ทั้งระบบในเดือน ม.ค. ที่ 57,254 คัน เพิ่มขึ้น 10.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส.อ.ท.ระบุในเอกสารเผยแพร่ว่า ยอดขายที่เพิ่มขึ้นในเดือนก.พ. เป็นผลจากค่ายรถยนต์ต่างๆ ได้แนะนำรถยนต์นั่งรุ่นใหม่ตั้งแต่ช่วงเดือนม.ค.ที่ผ่านมา ทำให้มีส่วนช่วยในการกระตุ้นตลาด รวมทั้งยอดขายรถกระบะและรถบรรทุกที่เพิ่มขึ้น จากเศรษฐกิจภายในประเทศที่ค่อยๆ ฟื้นตัว ก่อนหน้านี้ ส.อ.ท.คาดว่า ยอดขายรถยนต์ในประเทศทั้งระบบในปี 60 จะอยู่ที่ 8 แสนคัน เทียบกับ 7.69 แสนคันในปี 59

 

Money Market

- ดอลลาร์/บาท วันพุธ (22 มีค.) เงินบาทแข็งค่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯในช่วงเช้าวันนี้ ขณะที่วันนี้ดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าเมื่อเทียบกับค่าเงินเอเชียส่วนใหญ่ ทั้งนี้การแข็งค่าของเงินบาทวันนี้สวนทางค่าเงินภูมิภาคส่วนใหญ่โดยวันนี้กระทรวงพาณิชย์รายงานตัวเลขการส่งออกของไทยในเดือน ก.พ. มีมูลค่า 1.85 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลง 2.8% จากช่วงเดียวกันปีก่อน แต่หากหักมูลค่าการส่งออกทองคำ และสินค้าหมวดอากาศยานออก พบว่าการส่งออกเดือนก.พ. ขยายตัวถึง 8.5% โดยดุลการค้าเกินดุลประมาณ 1.61 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่ในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้มียอดเกินดุลการค้าประมาณ 2.44 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งการเกินดุลการค้าและดุลบัญชีเดินสะพัดสูงอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมาเป็นปัจจัยที่ทำให้เงินบาทแข็งค่าเมื่อเทียบกับค่าเงินของประเทศในภูมิภาค และหากเงินบาทยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับค่าเงินภูมิภาคเอเซียต่อเนื่องก็อาจจะส่งผลลบต่อการส่งออกของไทยในอนาคตได้

- ดอลลาร์/เยน วันพุธ (22 มีค.) เงินเยนแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯในช่วงเช้าวันนี้ต่อเนื่องจากเมื่อวานนี้ โดยค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯถูกกดดันจากการที่นักลงทุนคาดการณ์ว่าการขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อๆไปของธนาคารกลางสหรัฐฯจะเป็นไปช้าๆ โดยล่าสุดนายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐสาขาชิคาโกกล่าวว่า เฟดมีแนวโน้มที่จะรอจนถึงการประชุมกำหนดนโยบายในวันที่ 13-14 มิ.ย.เป็นอย่างน้อย ในการตัดสินใจว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐอีกครั้ง ขณะที่นายโรเบิร์ต แคปแลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐสาขาดัลลัสกล่าวว่า เนื่องจากสหรัฐใกล้เข้าสู่ภาวะการจ้างงานเต็มที่ และเนื่องจากอัตราเงินเฟ้อสหรัฐเข้าใกล้ระดับ 2 % เฟดจึงควรที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้ และควรวางแผนสำหรับการปรับลดขนาดงบดุลลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป อย่างไรก็ดีนายแคปแลนกล่าวย้ำว่า เฟดไม่มีความรีบร้อนในการดำเนินการทั้งสองเรื่องนี้

- ยูโร/ดอลลาร์ วันพุธ ( 22 มีค.) เงินยูโรอ่อนค่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯในช่วงเช้าวันนี้หลังจากยูโรแข็งค่าก่อนหน้านี้จากข่าวที่ว่านายเอ็มมานูเอล มาครง ผู้สมัครสายกลางของฝรั่งเศสได้คะแนนนิยมสูงกว่าผู้สมัครคนอื่นๆ

 

Capital Market

- ตลาดสหรัฐฯ วันพุธ ( 22 มีค.) ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ ค่อนข้างผันผวน ขณะที่นักลงทุนมุ่งความใจไปที่ความพยายามของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่จะผลักดันร่างกฏหมายประกันสุขภาพในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐในวันพฤหัสบดีนี้ ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลบ 0.03% สู่ระดับ 20,661.30, ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 0.19% สู่ระดับ 2,348.45 และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 0.48% สู่ระดับ 5,821.64

- ตลาดหุ้นเอเชีย วันพุธ ( 22 มีค.)ดัชนีตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ลดลงในวันนี้ตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนนี้ โดยดัชนีนิกเกอิปิดตลาดลดลง 2.13% มาอยู่ที่ 19,041.38 โดยปัจจัยจากการแข็งค่าของเงินเยนส่งผลลบต่อหุ้นกลุ่มส่งออกของญี่ปุ่น ส่วนดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดตลาดลดลง 0.50% มาอยู่ที่ 3,245.44 โดยมีปัจจัยลบจากความวิตกเกี่ยวกับสภาพคล่องที่ตึงตัวขึ้นในระบบธนาคารของจีน สำหรับดัชนีฮั่งเส็งปิดลดลง 1.11% สู่ระดับ 24,320.41 ขณะที่ความเชื่อมั่นได้รับผลกระทบจากการลดลงของตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจากความวิตกว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะประสบความยากลำบากในการลดภาษี และออกมาตรการเศรษฐกิจตามนโยบายที่หาเสียงไว้ ส่วนดัชนีหุ้นเอช หรือหุ้นจีนที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกง ปิดลดลง 1.8% มาอยู่ที่ 10,456.96 เนื่องจากปริมาณเงินทุนไหลเข้าจากจีนผ่านโครงการเชื่อมโยงระบบซื้อขายหุ้นระหว่างตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้และฮ่องกงลดลง

- ตลาดหุ้นไทย วันพุธ ( 22 มีค.) ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ลดลงในช่วงเปิดตลาดตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนวันอังคารและตลาดหุ้นเอเซียส่วนใหญ่ในวันนี้เนื่องจากความวิตกว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะประสบความยากลำบากในการลดภาษี และออกมาตรการเศรษฐกิจตามนโยบายที่หาเสียงไว้ อย่างไรก็ดีดัชนีได้ปรับตัวสูงขึ้นหลังจากนั้น โดยมีแรงซื้อมากในหุ้นกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม และกลุ่มขนส่ง โดยปิดตลาดวันนี้ SET INDEX ลดลง 2.12 จุด

 

โดย สำนักวิจัยธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ประจำวันที่ 23 มี.ค. 2560

Comments

B
i
u
Quote
Code
List
List item
URL
Name *
Code   
ChronoComments by Joomla Professional Solutions
Submit Comment
 
 

Login

Forgot your password? Create an account
mod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_counter
mod_vvisit_counterToday44233
mod_vvisit_counterYesterday44435
mod_vvisit_counterAll days166344182

We have: 807 guests online
Your IP: 18.233.223.189
 , 
Today: Mar 28, 2024

11681000