สรุปประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจและการเงินรายวัน - ธ.ซีไอเอ็มบี ไทย
Print
Tuesday, 11 April 2017 11:22

Snapshot

 

สหรัฐอเมริกา

นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้กล่าวสุนทรพจน์ที่มหาวิทยาลัยมิชิแกนว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไปตามที่เฟดวางแผนเอาไว้นั้น มีเป้าหมายที่จะผลักดันการจ้างงานให้ขยายตัวอย่างเต็มศักยภาพและหนุนอัตราเงินเฟ้อให้เคลื่อนไหวใกล้ระดับ 2% โดยไม่ทำให้เศรษฐกิจตกอยู่ในภาวะร้อนแรงเกินไป โดยนางเยลเลนกล่าวว่า เศรษฐกิจของสหรัฐในขณะนี้อยู่ในภาวะที่แข็งแกร่ง โดยอัตราว่างงานซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 4.5% นั้น อยู่ต่ำกว่าระดับที่กรรมการเฟดส่วนใหญ่มองว่าเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ถึงการจ้างงานเต็มศักยภาพ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อกำลังเคลื่อนตัวเข้าใกล้เป้าหมายที่ระดับ 2% ของเฟด และคาดว่าเศรษฐกิจจะยังคงขยายตัวในระดับปานกลาง การกล่าวสุนทรพจน์ของนางเยลเลนมีขึ้นที่มหาวิทยาลัยมิชิแกนเมื่อวานนี้ เวลา 16.00 น. ตามเวลาสหรัฐ หรือในวันนี้เวลา 03.00 น. ตามเวลาไทย ซึ่งเป็นการแสดงความเห็นต่อสาธารณชนครั้งแรกนับตั้งแต่ที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนมี.ค.ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียง 98,000 ตำแหน่ง ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 180,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 4.5% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2550 อย่างไรก็ดี ในการกล่าวสุนทรพจน์ครั้งนี้ นางเยลเลนไม่ได้ส่งสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับช่วงเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไป และไม่ได้กล่าวถึงการปรับลดงบดุลของเฟด แม้ว่าในรายงานการประชุมของเฟดประจำวันที่ 14-15 มี.ค.ระบุว่า กรรมการเฟดส่วนใหญ่ต้องการให้เฟดเริ่มปรับลดงบดุลลงจากระดับ 4.5 ล้านล้านดอลลาร์ในปีนี้ก็ตาม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะพบปะกับผู้บริหารของบริษัทชั้นนำจำนวน 20 แห่งในวันพรุ่งนี้ ซึ่งรวมถึงบริษัทเจเนอรัล มอเตอร์, ไอบีเอ็ม คอร์ป, วอล-มาร์ท อิงค์ และเทสลา อิงค์ นอกจากนี้ ผู้บริหารเหล่านี้จะจัดการประชุมกลุ่มย่อยกับบรรดารัฐมนตรีที่รับผิดชอบเกี่ยวกับงบประมาณของรัฐบาล, การขนส่ง, สิ่งแวดล้อม, การศึกษา และการค้า ทั้งนี้ การประชุมดังกล่าว นับว่าเป็นการประชุมครั้งล่าสุดของปธน.ทรัมป์กับผู้นำในภาคธุรกิจ เพื่อช่วยในการจัดทำแผนปฏิรูปภาษี, กระตุ้นการลงทุนด้านสาธารณูปโภค และการปรับลดกฎระเบียบทางราชการ

 

ยุโรป: ฝรั่งเศส

ธนาคารกลางฝรั่งเศสปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาสแรกปีนี้ ลงสู่ระดับ 0.3% จากตัวเลขคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ 0.4% โดยพิจารณาจากข้อมูลบ่งชี้กิจกรรมทางธุรกิจในเดือนมี.ค.

 

อื่นๆ: อียิปต์

ประธานาธิบดีอับเดล ฟัตตาห์ อัล-ซิซี ของอียิปต์ ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินภายในประเทศเป็นเวลา 3 เดือน หลังจากเกิดเหตุระเบิดที่โบสถ์คริสต์นิกายคอปติก 2 แห่งทางตอนเหนือของอียิปต์ ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 45 ราย และมีผู้บาดเจ็บกว่า 110 คน ทั้งนี้ ปธน.ซิซีกล่าวภายหลังการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ โดยระบุว่า ทางรัฐบาลเตรียมใช้มาตรการหลายด้าน ซึ่งมาตรการที่สำคัญที่สุดคือการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นเวลา 3 เดือน นอกจากนี้ รัฐบาลได้มีการจัดตั้งสภาสูงสุด เพื่อต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้ายและกลุ่มหัวรุนแรงในอียิปต์ ด้านกลุ่มรัฐอิสลาม (IS) ได้ออกมาอ้างว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุระเบิดโบสถ์คริสต์นิกายคอปติก 2 แห่งในเมืองตันตะ และเมืองอเล็กซานเดรีย ดังกล่าว

 

เอเชีย : ญี่ปุ่น

ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ได้คงการประเมินภาวะเศรษฐกิจสำหรับ 8 ภูมิภาคใน 9 ภูมิภาคของญี่ปุ่นในรายงานประจำไตรมาส โดยระบุว่า เศรษฐกิจในภูมิภาคดังกล่าวยังคงฟื้นตัว หรือขยายตัวปานกลาง ส่วนอีก 1 ภูมิภาคได้ทบทวนปรับเพิ่มการประเมินจากเมื่อ 3 เดือนก่อน รายงานประจำไตรมาสฉบับนี้จะเป็นหนึ่งในปัจจัยที่คณะกรรมการของบีโอเจจะใช้พิจารณาในการประชุมทบทวนอัตราดอกเบี้ยในวันที่ 26-27 เม.ย.นี้

นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ยังคงการประเมินภาวะเศรษฐกิจญี่ปุ่นว่ากำลังฟื้นตัว ขณะที่อัตราเงินเฟ้อจะยังคงอยู่ที่ 0% ในขณะนี้ แต่ก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอนาคต เขากล่าวว่าบีโอเจจะดำเนินมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณและคุณภาพ (QQE) ต่อไป โดยมีการควบคุมอัตราผลตอบแทนพันธบัตรตราบใดที่จำเป็น นโยบายการเงินจะได้รับการปรับเปลี่ยนตามความจำเป็น จนกว่าจะบรรลุเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อ ขณะที่ฐานการเงินจะยังคงเพิ่มขึ้นต่อไปเช่นกัน

กระทรวงการคลังญี่ปุ่นรายงานว่า ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดของญี่ปุ่นอยู่ที่ 2.81 ล้านล้านเยน (2.526 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ในเดือนก.พ. ซึ่งถือเป็นยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2016 และถือเป็นการมียอดเกินดุลเป็นเดือนที่ 32 ติดต่อกัน ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดที่ 2.81 ล้านล้านเยนนี้ถือว่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเทียบกับเดือนก.พ.ในปีก่อนๆ และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ที่ 2.62 ล้านล้านเยน ส่วนยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนม.ค.อยู่ที่ 6.55 หมื่นล้านเยน ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดได้รับแรงหนุนจากยอดเกินดุลการค้าที่ปรับตัวดีขึ้น ในขณะที่ยอดส่งออกปรับขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังจากที่เคยชะลอตัวลงในช่วงเทศกาลตรุษจีน โดยยอดเกินดุลการค้าของญี่ปุ่นอยู่ที่ 1.08 ล้านล้านเยนในเดือนก.พ. หลังจากญี่ปุ่นมียอดขาดดุลการค้า 8.534 แสนล้านเยนในเดือนม.ค.นักลงทุนจับตามองยอดเกินดุลการค้าและอัตราแลกเปลี่ยนเยน หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐกล่าวหาประเทศผู้ส่งออกรายใหญ่ ซึ่งรวมถึงจีน, เยอรมนี และญี่ปุ่น ว่าจงใจทำให้สกุลเงินของประเทศตนเองอ่อนค่าลง เพื่อที่จะได้มีความได้เปรียบทางการแข่งขัน นายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐ และนายทาโระ อาโสะ รองนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น จะหารือประเด็นทางเศรษฐกิจรอบแรกที่กรุงโตเกียวในสัปดาห์หน้า โดยจะหารือกันในหลายประเด็น ซึ่งรวมถึงเรื่องนโยบายเศรษฐกิจมหภาค, การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน และการค้า

 

เกาหลีเหนือ

สหรัฐตัดสินใจสั่งเคลื่อนกองเรือบรรทุกเครื่องบินโจมตีของสหรัฐไปใกล้คาบสมุทรเกาหลี หลังจากเกาหลีเหนือยิงทดสอบขีปนาวุธ โดยนายเอช.อาร์. แมคมาสเตอร์ ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาวกล่าวว่า ความเคลื่อนไหวนี้ถือเป็นการตอบโต้อย่างรอบคอบต่อรูปแบบพฤติกรรมยั่วยุของเกาหลีเหนือ นายแมคมาสเตอร์กล่าวต่อฟ็อกซ์ นิวส์ ซันเดย์ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐจะทบทวนทางเลือกต่างๆในการขจัดภัยคุกคามจากคลังอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ และเขากล่าวเสริมว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนมีความเห็นตรงกับปธน.ทรัมป์ในสัปดาห์ที่แล้วว่า สถานการณ์นี้เป็นสิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้ กองเรือบรรทุกเครื่องบินโจมตีคาร์ล วินสันของสหรัฐจะแล่นออกจากสิงคโปร์ไปใกล้คาบสมุทรเกาหลี โดยถือเป็นการแสดงแสนยานุภาพ ทั้งนี้ เมื่อนายแมคมาสเตอร์ได้รับคำถามเกี่ยวกับเหตุผลของเรื่องนี้ นายแมคมาสเตอร์ก็ได้ตอบว่า "เป็นการรอบคอบที่จะทำแบบนี้" เจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือเคยระบุย้ำหลายครั้งว่า เกาหลีเหนืออาจจะทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีปหรือสิ่งที่ใกล้เคียงกันในเร็วๆนี้ โดยอาจจะทดสอบในวันเสาร์ที่ 15 เม.ย. ซึ่งเป็นวันครบรอบวันเกิดครั้งที่ 105 ของนายคิม อิล-ซ็อง ประธานาธิบดีผู้ก่อตั้งประเทศเกาหลีเหนือ โดยเกาหลีเหนือจัดงานฉลองวันที่ 15 เม.ย.นี้ในทุกๆปี

 

อินโดนีเซีย

ธนาคารกลางอินโดนีเซีย (BI) เปิดเผยผลสำรวจพบว่า ยอดค้าปลีกในเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 3.7% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งชะลอลงจากเดือนม.ค.ที่เพิ่มขึ้น 6.3% BI ระบุว่า การซื้ออาหาร และสินค้าที่ไม่ใช่อาหารที่ลดลงทำให้อัตราการเพิ่มขึ้นของยอดค้าปลีกในเดือนก.พ.ชะลอตัวลง ผลสำรวจความเห็นผู้ค้าปลีก 70 รายในเมืองใหญ่ 10 เมืองคาดว่า ยอดค้าปลีกในเดือนมี.ค.จะเพิ่มขึ้น 2.6% เนื่องจากยอดขายอาหารและสินค้าที่ไม่ใช่อาหารลดลงอีก ผู้ตอบแบบสำรวจคาดว่าแรงกดดันด้านราคาจะเพิ่มขึ้นในอีก 3 เดือนข้างหน้า และคาดว่ายอดค้าปลีกจะเพิ่มขึ้นในเดือนพ.ค.ตามอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นก่อนเทศกาลถือศีลอดของชาวมุสลิมที่จะเริ่มต้นในปลายเดือนพ.ค.

 

Money Market

- ดอลลาร์/บาท วันจันทร์ (10 เมย.) เงินบาทอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯในช่วงเช้าวันนี้ขณะที่วันนี้ค่าเงินของประเทศภูมิภาคอาเซียนส่วนใหญ่แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ทั้งนี้แม้ว่าตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐฯเดือนมีนาคมจะออกมาต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดและต่ำกว่าในช่วงสองเดือนแรกของปีนี้มาก แต่ว่าแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯจะไม่เปลี่ยนแปลงไปจากที่เป็นอยู่ก่อนหน้านี้ เนื่องจากโดยภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐฯยังมีแนวโน้มขยายตัวปานกลางต่อเนื่องและอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มเข้าสู่เป้า 2% ของธนาคารกลางสหรัฐฯ โดยขณะนี้มีการคาดการณ์มากขึ้นว่าธนาคารกลางสหรัฐฯจะเริ่มลดขนาดงบดุลในปีนี้ซึ่งจะส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวของสหรัฐฯมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเนื่องจากก่อนหน้านี้ธนาคารกลางสหรัฐฯได้เข้าซื้อสินทรัพย์จำนวนมากทั้งพันธบัตรรัฐบาลและ MBS เพื่อกดให้อัตราดอกเบี้ยระยะยาวในประเทศลดลงในช่วงวิกฤติ

- ดอลลาร์/เยน วันจันทร์ (10 เมย.)   เงินเยนอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯในช่วงเช้าวันนี้ต่อเนื่องจากเมื่อวันศุกร์โดยแนวโน้มในการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯจะลดขนาดงบดุลส่งผลหนุนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯในขณะนี้ อย่างไรก็ดีนักลงทุนจับตาเหตุการณ์ในซีเรียในช่วงนี้ หลังจากสหรัฐยิงขีปนาวุธใส่ฐานทัพอากาศแห่งหนึ่งของรัฐบาลซีเรียในสัปดาห์ที่แล้ว และเหตุการณ์ดังกล่าวกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อเยนในฐานะสกุลเงินปลอดภัย ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาความขัดแย้งทางการเมืองในเอเชียด้วย หลังจากสหรัฐตัดสินใจสั่งเคลื่อนกองเรือบรรทุกเครื่องบินโจมตีของสหรัฐไปใกล้คาบสมุทรเกาหลี หลังจากเกาหลีเหนือยิงทดสอบขีปนาวุธ

- ยูโร/ดอลลาร์ วันจันทร์ ( 10 เมย.) เงินยูโรอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯในช่วงเช้าวันนี้ต่อเนื่องจากเมื่อวันศุกร์ ขณะที่ช่วงนี้ปัจจัยเรื่องการเลือกตั้งในฝรั่งเศสจะมีผลมากขึ้นต่อความผันผวนของค่าเงินยูโรเนื่องจากหากผลการเลือกตั้งออกมาว่าฝ่ายที่ต้องการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปได้รับชัยชนะก็จะส่งผลมาต่อเสถียรภาพของค่าเงินยูโร

 

Capital Market

- ตลาดหุ้นสหรัฐฯ วันจันทร์ ( 10 เมย.) ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปิดปรับตัวขึ้นเล็กน้อยในวันจันทร์หลังการซื้อขายที่ผันผวน ขณะที่การปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงานได้ช่วยชดเชยการร่วงลงของหุ้นกลุ่มการเงินก่อนการเปิดเผยผลประกอบการไตรมาสแรกของบริษัทจดทะเบียนในสัปดาห์นี้ ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 0.01% สู่ระดับ 20,658.02, ดัชนี S&P 500 ปิดเพิ่มขึ้น 0.07% สู่ระดับ 2,357.16 และดัชนี Nasdaq ปิดปรับตัวขึ้น 0.05% สู่ระดับ 5,880.93

- ตลาดหุ้นเอเซีย วันจันทร์ ( 10 เมย.) ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดเพิ่มขึ้น 0.71% มาอยู่ที่ 18,797.88 โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของเงินเยนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯในขณะที่มีการคาดการณ์มากขึ้นว่าธนาคารกลางสหรัฐฯจะเริ่มลดขนาดของงบดุลในปีนี้ซึ่งจะส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯมีแนวโน้มสูงขึ้น ส่วนดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดตลาดลดลง 0.50% มาอยู่ที่ 3,270.11 โดยการเพิ่มขึ้นของหุ้นของบริษัทจดทะเบียนที่จะได้ประโยชน์จากพื้นที่เศรษฐกิจใหม่ของจีนถูกหักล้างด้วยการลดลงของหุ้นกลุ่มอื่นๆ หลังจากผู้ควบคุมกฎระเบียบด้านหลักทรัพย์ประกาศว่าจะลงโทษกลุ่มผู้ฉวยโอกาส หุ้นของบริษัทจดทะเบียนใหม่ และบริษัทที่คาดว่าจะออกหุ้นโบนัสแทนการจ่ายเงินปันผลถูกเทขายอย่างหนัก โดยดิ่งแตะฟลอร์ซื้อขายประจำวัน 10% หลังจากผู้ควบคุมกฎระเบียบหลักทรัพย์ของจีนเรียกร้องให้บริษัทหลักทรัพย์จ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น ผู้ควบคุมกฎระเบียบได้ดำเนินการชะลอกระแสการเก็งกำไรเกี่ยวกับแผนการสร้างพื้นที่เศรษฐกิจขนาดใหญ่ใกล้กรุงปักกิ่ง โดยเตือนบริษัทหลักทรัพย์หลายแห่งมิให้ทำให้นักลงทุนเข้าใจผิดด้วยการกล่าวอ้างที่เกินจริง สำหรับดัชนีฮั่งเส็งปิดลดลง 0.02% สู่ระดับ 24,262.18  ขณะที่ปริมาณการซื้อขายในตลาดต่ำสุดในรอบ 2 เดือน เนื่องจากนักลงทุนไม่ต้องการลงทุนท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับความเสี่ยงจากสถานการณ์ตึงเครียดเรื่องซีเรีย และเกาหลีเหนือ

- ตลาดหุ้นไทย วันจันทร์ ( 10 เมย.) ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ลดลงในช่วงเปิดตลาดก่อนที่จะค่อยๆปรับตัวสูงขึ้นส่งผลให้ปิดตลาดวันนี้ SET INDEX ลดลง 2.34 จุดขณะที่ช่วงนี้ปัจจัยเสี่ยงทางด้านต่างประเทศมีมากขึ้นทั้งเหตุการณ์ในซีเรียและเกาหลีเหนือซึ่งส่งผลลบต่อความเชื่อมั่นในการลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาวะที่เศรษฐกิจโลกโดยรวมมีความไม่แน่นอนสูงมากอยู่แล้ว

 

โดย สำนักวิจัยธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ประจำวันที่ 11 เม.ย. 2560

Written by :
กระแสหุ้นออนไลน์
 

Comments

B
i
u
Quote
Code
List
List item
URL
Name *
Code   
ChronoComments by Joomla Professional Solutions
Submit Comment