Daily View - บล.กสิกรไทย |
Monday, 06 November 2017 09:59 | |||
ภาพรวมผลประกอบการงวด 3Q60 ของตลาดไม่เป็นไปอย่างที่คาดหวัง กดดัน SET Index l สัปดาห์นี้ซึมลงในกรอบ 1,680 - 1,710 จุด วันนี้เลือก IVL KCE MINT เป็น Top Pick (KS Research ไม่ได้ออกบทวิเคราะห์ MINT) ระยะกลางยังคงคาดดัชนีไป 1,760 จุดในต้นปีหน้า กฎหมายปฏิรูปภาษีของ Donald Trump จะส่งผลให้บาทอ่อนค่าต่อเนื่องนับจากนี้เป็นต้นไป : การผลักดันกฎหมายปฏิรูปภาษีของ Donald Trump มีความคืบหน้ามากขึ้นตามลำดับ 3 พ.ย.60 ที่ผ่านมาพรรค Republican ได้เปิดเผยร่างกฎหมายปฏิรูปภาษี โดยมีสาระสำคัญดังนี้ - ภาษีเงินได้นิติบุคคล ปรับลดจาก 35% เป็น 20% จัดเก็บภาษี 10% สำหรับกิจการที่มีกำไรในสาขาต่างประเทศ (ป้องกันการโอนกำไรไปต่างประเทศ) ปรับลดอัตราภาษีสำหรับการโอนกำไรจากต่างประเทศเข้าสหรัฐ - ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ลดจำนวนขั้นจาก 7 เหลือเพียง 4 ขั้นคือ 12%, 25%, 35% และ 39.6% เพิ่มการหักลดหย่อนต่างๆ รวมไปถึงการยกเลิกการเก็บภาษีขั้นต่ำ - อื่นๆ ค่าใช้จ่ายจากการลงทุนใหม่สามารถนำมาเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อหักรายได้ก่อนภาษีได้ 100% ในระยะเวลา 5 ปี และการยกเลิกภาษีมรดก
หากกฎหมายดังกล่าวมีผลบังคับใช้ (Donald Trump คาดว่าสภาคองเกรสจะลงมติผ่านร่างกฎหมายภ่อนถึงช่วงวันหยุดขอบคุณพระเจ้า 23 พ.ย.60 นี้) คาดว่าจะทำให้เกิดกระแสเงินจำนวนมากไหลเข้าเข้าสหรัฐ ซึ่งจะส่งผลให้ US Dollar แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง (กดดันเงินบาทให้อ่อนค่ายาวนับจากนี้เป็นไปต้นไป) ซึ่งจะเป็นประโยชน์โดยตรงต่อกลุ่มส่งออก KS Research ยังคงมอง KCE เป็นหุ้นเด่นในกลุ่ม IVL จะเป็นหุ้นที่ได้ประโยชน์จากกฎหมายปฏิรูปภาษีมากที่สุด KS Research ปรับราคาเป้าหมายเป็น 55.75 บาท : สำหรับบริษัทจดทะเบียนในไทยที่จะได้ประโยชน์จากเรื่องกฎหมายปฏิรูปภาษีดังกล่าวเด่นชัดที่สุดคือ IVL ซึ่งมีบริษัทลูกดำเนินงานในสหรัฐคิดเป็น 75% ของ EBITDA ในอเมริกาเหนือ (และ 35% ของ EBITDA โดยรวม) ซึ่งส่งผลให้การลดอัตราภาษีในสหรัฐทุกๆ 5 พันล้านบาท กำไรสุทธิจะเพิ่มขึ้น 2% หรือ 196-346 ล้านบาท ประเมินในเบื้องต้นภาพรวมจะทำให้ IVL จะมี Upside ทางกำไรในปี 2561 เพิ่มขึ้นจากประมาณการ 1.47 หมื่นล้านบาทกว่า 7% ด้วยกัน ปัจจุบัน KS Research ได้ทำการปรับมูลค่าพื้นฐานของ IVL ขึ้นเป็น 55.75 บาท (ยังไม่รวมเรื่องภาษีของ Donald Trump) ตอบรับกำลังการผลิต PET PTA และ MEG แบบเต็มกำลังในปี 2561 อย่างไรก็ตามการเข้าเก็งกำไรอาจต้องระวังเรื่องผลประกอบการในงวด 3Q60 ของ IVL ที่จะมีการตั้งสำรองหนี้สูญ 1.30 พันล้านบาทของลูกหนี้ M&G polymer โดย KS Research คาดการณ์สุทธิ 3Q60 ของ IVL จะเติบโต 3% YoY และ 11% QoQ เป็น 3.3 พันล้านบาท (ต่ำกว่า Consensus คาดไว้ที่ 4.2 พันล้านบาท ซึ่งเป็นไปได้ว่า Consensus ยังไม่รวมเรื่องตั้งสำรอง M&G 1.3 พันล้านบาท) สัปดาห์แห่งการเก็งประกาศผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน 3Q60 : การประกาศผลประกอบการในสัปดาห์นี้จะมีการรายงานงบดกว่า 294 บริษัทคิดเป็น 33.53% ของ Market cap ทั้งตลาดหลักๆจะอยู่ในวันที่ 9-10 พ.ย.60 ทั้งนี้ KS Research ทำการเลือกบริษัทที่คาดว่าจะมีผลประกอบการดีขึ้น QoQ และ YoY และสามารถเข้าซื้อเพื่อเก็งกำไรได้ (จำแนกตามวันที่ประกาศ) 8 พ.ย. GFPT SAWAD CPN BCPG 9 พ.ย. MTLS ILINK ERW BCP AP QH IVL 10 พ.ย. SINGER TTW BEM BANPU TMT SAT TKN STEC VNT SPRC ROBINS CHG RJH 14 พ.ย. BH SC AMATA SPALI PLANB BCH SEAFCO 15 พ.ย. CPALL MINT กลุ่มหุ้นเหล่านี้มีโอกาสจะถูกแรงซื้อเข้าเก็งกำไรก่อนประกาศงบ และถ้าหากผลประกอบการออกมาดี QoQ และ YoY อย่างที่ตลาดคาดหวังตามสถิติมีโอกาสที่จะขึ้นต่อเนื่องหลังรายงานงบได้อีก 2 สัปดาห์ กลยุทธ์การลงทุน ภาพรวมกำไรตลาดงวด 3Q60 ที่ไม่ได้ดีอย่างที่คาดหวังจะกดดัน SET Index ในสัปดาห์นี้แกว่งตัวในกรอบ 1,680 - 1,710 จุด กลยุทธ์ระยะสั้นเน้น Selective Buy วันนี้เลือก IVL KCE MINT เป็น Top Pick ส่วนระยะกลาง-ยาว เน้นถือกลุ่มหุ้น KCE KAMART PTTEP MTLS BBL PSH SPALI CPALL TICON STEC JWD IVL และที่ KS Research ไม่ได้ออกบทวิเคราะห์ ASK WHA SYNTEC UNIQ MINT PLANB BDMS MCS ยังคงให้ถือเพื่อไปขายทำกำไรที่ 1,760 จุด
Daily Picks Daily Picks Trading Target IVL 54.00 KCE 110.00 MINT 46.00
Alternative Trading SET50 Futures: S50Z17 รอ Long ที่ 1,075 จุด เพื่อทำกำไรที่ 1,100 จุด ส่วนสถานะ Short S50Z17H18 ที่ 1.5 จุดให้ถือเพื่อเป้าทำกำไรที่ -3.5 จุด
หุ้นแนะนำ Long Long ระดับ เป้าทำกำไร IVLZ17 ATO 54.00 MTLSZ17 ATO 44.00
หุ้นแนะนำ Short Short ระดับ เป้าทำกำไร TASCOZ17 ATO 21.00 TOPZ17 ATO 95.00
KS Daily Portfolio หลังจากขาย PSH ไปที่ระดับ Trailing Stop ไปแล้งทำให้ KS Daily Portfolio มีหุ้นลงทุนทั้งหมด 4 ตัวคือ PTTEP CPALL SPALI TICON KS Daily
Portfolio Top Pick 1. หุ้นที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันขาขึ้นและเงินบาทแข็งค่า PTTEP หุ้น Laggard ในกลุ่มพลังงาน มีประเด็นบวกจากราคาน้ำมันที่กำลังเป็นขาขึ้นต่อเนื่อง รวมไปถึงเงินบาทที่แข็งค่าจะทำให้ PTTEP มีกำไรทางบัญชีเพิ่มมากขึ้นจาก Deferred Tax นอกจากนั้นยังมีประเด็นการเก็งผลประกอบการในงวด 3Q60 เบื้องต้นคาดว่าจะมีผลประกอบการทรงตัว QoQ แต่จะดีขึ้น YoY 2. หุ้นที่จะได้ประโยชน์จาก EEC TICON ความคืบหน้าการออกร่าง พ.ร.บ. พื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก จะเป็นประเด็นบวกต่อ TICON ซึ่งมีพื้นที่ในโซน EEC กว่า 3 พันไร่ นอกจากนั้น TICON ยังมีประเด็นบวกที่ซ่อนอยู่จากผลประโยชน์จากกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ของกลุ่มเฟรเซอร์ที่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใหม่ได้อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งยังไม่ถูกสะท้อนลงไปในราคาหุ้นปัจจุบัน 3. หุ้นที่กำไรน่าจะมีการฟื้นตัวในไตรมาส 3 และ 4 CPALL SSSG ที่พลิกเป็นบวกในเดือน ส.ค. สืบเนื่องจากความสำเร็จของแคมเปญแสตมป์ล่าสุดของบริษัท โดยเราเชื่อว่า SSSG และกำไรของ CPALL ได้ผ่านจุดต่ำของปีไปแล้ว คาดกำไรของ CPALL ในครึ่งหลังของปี 2560 จะได้รับปัจจัยสนับสนุนมาจากกลยุทธ์การตลาดของบริษัทและการขยายกิจการอย่างต่อเนื่อง โดยกำไรครึ่งหลังของปี 2560 จะโตขึ้น 13.4% YoY และ 1.4% HoH เป็น 9.5 พันลบ. และการเติบโตของกำไรสุทธิปี 2560 ที่ 14% SPALI การเร่งเปิดตัวโครงการในครึ่งหลังของปี คาดว่าจะทำให้ยอดขายปี 2560 ไปถึงเป้าหมาย 2.7 หมื่นล้านบาทไม่ยาก (ต้นปี-ปัจจุบัน SPALI ทำยอดขายได้ 2 หมื่นล้านบาทแล้ว)เรายังคาดว่าการณ์ว่ากำไรจะเติบโตดีขึ้นทั้ง QoQ และ YoY ในไตรมาสที่ 3 และ 4/60
Analyst (s)
ประกิต สิริวัฒนเกตุ This e-mail address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it
KS Research Team
Kasikorn Securities PCL
โดย บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด ประจำวันที่ 6 พ.ย. 2560
|
Comments