สรุปประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจและการเงินรายวัน - ธ.ซีไอเอ็มบี ไทย
Print
Friday, 25 May 2018 09:41

สถานการณ์เศรษฐกิจต่างประเทศ

สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) รายงานว่า ยอดขายบ้านมือสองในเดือนเมษายนลดลง 2.5%  เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 5.46 ล้านยูนิต โดยถูกกระทบจากภาวะขาดแคลนบ้านในตลาด ด้านนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่ายอดขายบ้านลดลงเพียง 0.2% ขณะที่เมื่อเทียบรายปี ยอดขายบ้านมือสองลดลง 1.4% สำหรับสต็อกบ้านในตลาดเพิ่มขึ้น 9.8% สู่ระดับ 1.8 ล้านยูนิต เมื่อเทียบรายเดือน อย่างไรก็ดี เมื่อเทียบรายปี สต็อกบ้านลดลง 6.3% โดยลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 35 นอกจากนี้ ราคาเฉลี่ยของบ้านเพิ่มขึ้น 5.3% เมื่อเทียบรายปี สู่ระดับ 257,900 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 74 ติดต่อกัน

สำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมนีรายงานว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 1/2561 ขยายตัวเพียง 0.3% ซึ่งชะลอตัวลงจากไตรมาส 4 ปีที่แล้วซึ่งมีการขยายตัว 0.6% ทั้งนี้ GDP ไตรมาส 1 ของเยอรมนีขยายตัวในอัตราต่ำสุดในรอบกว่า 1 ปี ซึ่งมีสาเหตุมาจากการค้าที่ซบเซา โดยยอดการส่งออกสินค้าและบริการหดตัวลง 1.0% ส่วนยอดการนำเข้าลดลง 1.1%

นายฮิโรชิเกะ เซโกะ รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น เผยหากมีการใช้มาตรการที่เกี่ยวข้องกับนโยบายสหรัฐอเมริกาต้องมาก่อน รวมทั้งนโยบายการตรวจสอบรถยนต์ล่าสุดที่หากมีผลบังคับใช้เมื่อใด มาตรการเหล่านี้ จะทำให้ตลาดทั่วโลกตกอยู่ในภาวะที่ปั่นป่วน สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า รมว.กระทรวงเศรษฐกิจ ยังได้แสดงความกังวลเป็นอย่างยิ่งว่า การปรับขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์ จะส่งผลกระทบต่อกฎเกณฑ์การค้าภายใต้องค์การการค้าโลก (WTO)

จีนเผยแผนการปฏิรูปและเปิดกว้างโครงการการค้าเสรีนำร่อง (FTZs) มากยิ่งขึ้นในบริเวณพื้นที่ชายฝั่ง 3 แห่ง เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมทางธุรกิจให้ดีกว่าเดิม ตลอดจนผลักดันเรื่องการเปิดกว้างสู่ระดับสากล สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การปฏิรูปโครงการ FTZs ในกวางตุ้ง, เทียนจิน และฟูเจียนนั้น จะมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาเรื่องคุณภาพในระดับสูง การปฏิรูปเชิงโครงสร้างในฝั่งอุปทาน นวัตกรรมสถาบัน และการป้องกันความเสี่ยง ทั้งนี้การปฏิรูปโครงสร้างใน FTZs นั้น จะประกอบด้วยสภาพแวดล้อมการทำธุรกิจที่ดีขึ้น โดยตั้งอยู่บนพื้นฐานของกฎหมาย มีความเป็นสากลและยังอยู่ในสภาพที่เอื้ออำนวย นอกจากนี้ โครงการ FTZs ยังจะมีอำนาจในการตัดสินใจเรื่องการปฏิรูปต่างๆ เพื่อปรับเปลี่ยนโฉมหน้าการเปิดกว้างในทุกรูปแบบ รวมทั้งการปรับปรุงเรื่องการบริหารจัดการของรัฐบาล และส่งเสริมปัจจัยผลักดันการขยายตัวและความสามารถในการแข่งขัน จีนได้เปิดตัวโครงการ FTZs ในเซี่ยงไฮ้เมื่อปี 2556 และในช่วงปลายปี 2557 ก็ได้มีการจัดตั้งโครงการ FTZs ตามมาที่กวางตุ้ง เทียนจิน และฟูเจียน และได้มีการเปิดตัวโครงการ FTZ เพิ่มเติมทั่วประเทศในช่วงเดือนส.ค. 2559

องค์การการท่องเที่ยวเกาหลีใต้เปิดเผยว่า จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมายังเกาหลีใต้ในเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 23.8% แตะระดับ 1,331,709 คน เนื่องจากนักท่องเที่ยวจีนเริ่มกลับเข้ามาท่องเที่ยวในเกาหลีใต้มากขึ้น รายงานระบุว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นนั้น มาจากการที่นักท่องเที่ยวจีนหันมาท่องเที่ยวในเกาหลีใต้มากขึ้น โดยจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งถึง 60.9% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วส่วนจำนวนนักท่องเที่ยวชาวเอเชียและตะวันออกกลางที่เดินทางมายังเกาหลีใต้ ซึ่งไม่นับรวมนักท่องเที่ยวชาวจีนและญี่ปุ่นนั้น เพิ่มขึ้น 13.9% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบเป็นรายปี ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวจากยุโรป อเมริกาเหนือ และละตินอเมริกา เพิ่มขึ้น 3.5% ในเดือนเม.ย. สำหรับจำนวนนักท่องเที่ยวเกาหลีใต้ที่เดินทางไปยังต่างประเทศในเดือนเม.ย.นั้น เพิ่มขึ้น 11.3% จากปีก่อน สู่ระดับ 2,230,200 คน

คณะกรรมาธิการการค้าเกาหลีใต้เปิดเผยว่า รัฐบาลเกาหลีใต้กำลังพิจารณาเรียกเก็บภาษีเพื่อตอบโต้การทุ่มตลาด (AD) ต่อผลิตภัณฑ์เหล็กเส้นจากจีน เนื่องจากการนำเข้าสินค้าที่มีราคาถูกจนเกินไปนั้น กำลังสร้างความเสียหายต่ออุตสาหกรรมในประเทศ ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการการค้าเกาหลีใต้จะยื่นคำร้องต่อกระทรวงการคลังให้มีการเรียกเก็บภาษีดังกล่าวในอัตรา 8.6% ในสินค้ากลุ่มเหล็กกัลวาไนซ์คาร์บอนต่ำที่นำเข้ามาจากจีน เป็นเวลา 5 ปี

กระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมสิงคโปร์ (MTI) คาดการณ์ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสิงคโปร์ในปี 2561 จะขยายตัวราว 2.5-3.5% ซึ่งเพิ่มขึ้นจากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ระดับ 1.5-3.5% MTI ระบุว่า เศรษฐกิจโลกยังคงขยายตัวต่อเนื่องนับตั้งแต่ช่วงต้นปีนี้ และตลอดปี 2561 เศรษฐกิจโลกจะขยายตัวได้ดีกว่าในปี 2560

 

สถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศ

ผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิในช่วง 7 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2561 (ต.ค.60-เม.ย.61) สูงกว่าประมาณการ 4.9% น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เผยผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิในช่วง 7 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2561 (ต.ค.60-เม.ย.61) รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิจำนวน 1,293,908 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 60,598 ล้านบาท หรือ 4.9% เนื่องจากการนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจ และการจัดเก็บรายได้ของหน่วยงานอื่น สูงกว่าประมาณการ 30,444 และ 23,133 ล้านบาท หรือ 36.8% และ 21.5% ตามลำดับ โดยภาษีที่จัดเก็บได้สูงกว่าเป้าหมายที่สำคัญ ได้แก่ ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม ภาษียาสูบ และภาษีเงินได้นิติบุคคล

 

ปัจจัยต่างประเทศ (25 พฤษภาคม 2561): ตามเวลาประเทศไทย

ประเทศ             ปัจจัย

เยอรมนี    - ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือนพ.ค.จาก Ifo

อังกฤษ     - ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/2561

USA       - ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนเม.ย.

- ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นสุดท้ายเดือนพ.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

ปัจจัยในประเทศ

วันที่             ปัจจัย

สัปดาห์ที่ 5  - สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง

- สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) แถลงดัชนีอุตสาหกรรม

31 พ.ค. 61 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย

Source: http://www.ryt9.com/s/iq03/2819751om/s/iq03/2814042

 

Money Market

ดอลลาร์/บาท วันพฤหัส (24 พค) เงินบาทแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯในเช้าวันนี้ ขณะที่รายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯเมื่อวันที่ 1-2 พฤษภาคม เมื่อคืนนี้ชี้มุมมองแนวโน้มการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯไม่ต่างไปจากที่นักวิเคราะห์คาดก่อนหน้านี้ ขณะเดียวกันรายงานชี้ว่ากรรมการธนาคารกลางสหรัฐฯจะยอมให้อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯสูงเกินเป้า 2% ได้เป็นระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งทำให้นักลงทุนมองว่าธนาคารกลางสหรัฐฯจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยไม่เร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากแม้ว่าอัตราเงินเฟ้ออาจจะสูงเกิน 2% ไปก็ตาม ซึ่งปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรของรัฐบาลสหรัฐฯลดลงเมื่อคืนนี้และส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐฯปรับตัวอ่อนค่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเงินบาทในเช้าวันนี้ นอกจากนี้ดอลลาร์สหรัฐฯวันนี้ยังถูกกดันให้อ่อนค่าเนื่องจากข่าวที่ว่าประธานาธิบดีทรัมป์อาจจะทำสงครามการค้าต่อเนื่องด้วยการขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์ ขณะเดียวกันการที่ประธานาธิบดีทรัมป์ยืนยันก่อนหน้านี้ว่า รัฐบาลสหรัฐยังไม่ได้บรรลุข้อตกลงใดๆกับรัฐบาลจีนในการผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรบริษัท ZTE ของจีน และกล่าวว่า เขาไม่พอใจต่อผลการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่มีขึ้นที่กรุงวอชิงตันในสัปดาห์ที่แล้วก็ส่งผลกดดันดอลลาร์สหรัฐฯเช่นกัน

ดอลลาร์/เยน วันพฤหัส (24 พค)  เงินเยนแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯในเช้าวันนี้ต่อเนื่องจากเมื่อวานนี้เนื่องจากรายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯชี้ว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปอย่างต่อยเป็นค่อยไปเหมือนกับที่นักวิเคราะห์คาดไว้ก่อนหน้านี้แม้ว่าอัตราเงินเฟ้ออาจจะสูงขึ้นไปเกิน 2% เป็นระยะเวลาหนึ่งก็ตาม นอกจากนี้ความกังวลเรื่องสงครามการค้าก็กลับมาส่งผลกดดันดอลลาร์สหรัฐฯอีกเช่นกันในช่วงนี้ ทั้งนี้ในช่วงค่ำดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่าต่อเนื่องหลังประธานาธิบดีทรัมป์ได้ตัดสินใจยกเลิกการประชุมสุดยอดกับนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ซึ่งเดิมมีกำหนดจัดขึ้นในเดือนหน้า

ยูโร/ดอลลาร์ วันพุธ (23 พค) เงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯในเช้าวันนี้ตามภาวะที่วันนี้ดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่าเมื่อเทียบกับค่าเงินส่วนใหญ่ อย่างไรก็ดีช่วงนี้ความกังวลเกี่ยวกับนโยบายของรัฐบาลใหม่ของอิตาลีก็ยังกดดันเงินยูโรต่อเนื่อง โดยล่าสุดมีแนวโน้มที่รัฐบาลใหม่ของอิตาลีจะเลือกนักเศรษฐศาสตร์ที่ไม่เห็นด้วยกับการรวมกลุ่มยูโรโซนเข้ามาเป็นรัฐมนตรีเศรษฐกิจ

 

Capital Market

ตลาดหุ้นสหรัฐฯวันพฤหัส (24 พ.ค.) ดัชนีดาวโจนส์ปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐได้ตัดสินใจยกเลิกการประชุมสุดยอดกับนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ซึ่งเดิมมีกำหนดจัดขึ้นในเดือนหน้า นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับรายงานข่าวที่ว่า รัฐบาลสหรัฐกำลังพิจารณาปรับขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,811.76 ลดลง 0.30% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,727.76 ลดลง 0.20% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,424.43 ลดลง 0.02%

ตลาดหุ้นเอเชีย วันพฤหัส (24 พค) ดัชนีนิกเกอิปิดลดลงในวันนี้ โดยได้รับปัจจัยลบจากเงินเยนที่แข็งค่า รวมทั้งรายงานข่าวที่ว่า รัฐบาลสหรัฐกำลังพิจารณาเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ในอัตราที่สูงขึ้น โดยดัชนีนิกเกอิลดลง 1.11% ปิดที่ 22,437.01 หุ้นที่ปรับตัวลงในวันนี้นำโดยหุ้นกลุ่มอุปกรณ์ด้านการขนส่ง กลุ่มขนส่งทางทะเล และกลุ่มโลหะปลอดเหล็ก ทั้งนี้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้สั่งการให้นายวิลเบอร์ รอสส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐ พิจารณาแผนการตรวจสอบเพื่อประเมินว่า รถยนต์และรถบรรทุกที่นำเข้าจากต่างประเทศนั้นเป็นภัยคุกคามความมั่นคงของชาติหรือไม่ โดยความเคลื่อนไหวล่าสุดของทรัมป์ส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลว่า รัฐบาลสหรัฐอาจเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ในอัตราสูงถึง 25% ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดปรับตัวลงในวันนี้ เนื่องจากตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานกำไรของภาคอุตสาหกรรมประจำเดือนเม.ย.ของจีน ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันอาทิตย์นี้ ทั้งนี้ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดลดลง 0.45% มาอยู่ที่ 3,154.65

ตลาดหุ้นไทย วันพฤหัส ( 24 พ.ค.) ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลดลงนำโดยหุ้นในกลุ่มพลังงาน และปิโตรเคมี โดยปิดตลาดวันนี้ SET INDEX ลดลง 21.09 จุด

 

โดย สำนักวิจัยธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ประจำวันที่ 23 พ.ค. 2561

Written by :
กระแสหุ้นออนไลน์
 

Comments

avatar Allen
0
 
 
These are in fact wonderful ideas in about blogging.
You have touched some good factors here. Any way keep up wrinting.


Also visit my webpage ... fitness insanity bands workout
Post Reply
B
i
u
Quote
Code
List
List item
URL
Name *
Code   
ChronoComments by Joomla Professional Solutions
Submit Comment
Cancel
B
i
u
Quote
Code
List
List item
URL
Name *
Code   
ChronoComments by Joomla Professional Solutions
Submit Comment