Error
Investment Society by Sukit Udomsirikul
Print
Tuesday, 02 February 2010 17:20

Investment Society by Sukit Udomsirikul

STANLY : Efficient cost control boost gross margin 

ยอดขายของ STANLY มีแนวโน้มฟื้นตัวตามภาวะอุตสาหกรรมยานยนต์โดยรวม ทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ รวมทั้ง STANLY สามารถควบคุมต้นทุนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพทำให้อัตรากำไรขั้นต้นปรับสูงขึ้นอย่างชัดเจนในงวด Q3/52 (เดือนต.ค. – ธ.ค. 2552) และมีแนวโน้มอยู่ในระดับที่สูงต่อเนื่อง SCRI แนะนำ “ซื้อ” มูลค่าเหมาะสม 135 บาท คาดจ่ายปันผลสำหรับผลการดำเนินงานงวดปี 2552/53 (เดือนเม.ย. 2552–มี.ค. 2553) หุ้นละ 4.00 บาท (อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล 3.6%)

  • ผลการดำเนินงานฟื้นตัวชัดเจนใน Q3/52 (ต.ค. – ธ.ค. 2552)

ยอดขายงวด Q3/52 (ต.ค.-ธ.ค. 2552) เติบโตราว 15% qoq เป็น 1,932 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกันอุตสาหกรรมยานยนต์ที่มียอดผลิตรถยนต์และรถมอเตอร์ไซต์ในช่วงไตรมาสดังกล่าวรวมเท่ากับ 3.48 แสนคัน และ 4.71 แสนคัน ตามลำดับ (เพิ่มขึ้นราว 33% qoq และ 13% qoq ตามลำดับ ซึ่งยอดขายที่เพิ่มขึ้นนั้นส่งผลให้อัตราการใช้กำลังการผลิตเพิ่มสูงขึ้นเป็นประมาณ 75-80% จากเดิมที่ STANLY มีอัตราการใช้กำลังการผลิตเพียงประมาณ 50% ในช่วง Q1/52 (เม.ย.-มิ.ย. 2552) และ 60-70% ใน Q2/52 (ก.ค.-ก.ย. 2552) ในส่วนของอัตรากำไรขั้นต้นในงวด Q3/52 (ต.ค.-ธ.ค. 2552) เพิ่มขึ้นจากระดับ 19% ในงวด Q2/52 (ก.ค.-ก.ย. 2552) เป็น 23% เป็นผลมาจากอัตราการใช้กำลังการผลิตที่สูงขึ้น และประสิทธิภาพในการควบคุมต้นทุนการผลิต ทั้งการบริหารระบบการจัดซื้อ และการลดสัดส่วนของเสียลงเหลือเพียงประมาณ 2% (ปกติ STANLY จะมีอัตราของเสียจากการผลิตราว 5 – 6%)  

  • คาดผลการดำเนินงานจะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องตามภาวะอุตสาหกรรมที่ฟื้นตัว

SCRI ประเมินแนวโน้มยอดขายรถยนต์และรถจักรยานยนต์ในประเทศพ้นจุดต่ำสุดของวิกฤตเศรษฐกิจรอบนี้ และ จะฟื้นตัวตามความเชื่อมั่นผู้บริโภค นอกจากนี้ในส่วนของยอดผลิตรถยนต์และรถจักรยานยนต์นั้น SCRI ประเมินว่าในปี 2553 จะมียอดผลิตเติบโตราว 20% yoy และ 5% yoy เป็น 1.2 และ 1.7 ล้านคัน ตามลำดับ จากราคาสินค้าเกษตรส่วนใหญ่ที่มีแนวโน้มปรับสูงขึ้น และอานิสงค์จากโครงการไทยเข้มแข็งที่จะช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้บริโภคโดยเฉพาะในพื้นที่ต่างจังหวัด ทั้งนี้ SCRI ประเมินยอดขายของ STANLY ใน Q4/52 (ม.ค.-มี.ค. 2553) จะเติบโตราว 15% qoq เป็น 2,200 ล้านบาท และคาดว่าจะยังคงสามารถรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นไว้ได้ในระดับที่สูงราว 22 - 23% จากอัตราการใช้กำลังการผลิตที่สูงขึ้นและประสิทธิภาพในการควบคุมต้นทุนการผลิตที่ดีขึ้น และ SCRI ประเมินกำไรสุทธิปี 2553/54 จะเติบโตราว 18% yoy เป็น 1,043 ล้านบาท ตามการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมโดยรวม และการปรับตัวลดต้นทุนการผลิตภายในของ STANLY

  • ปัจจัยเสี่ยง : การเมืองและ Double-Dip Recession ในต่างประเทศ

แม้แนวโน้มอุตสาหกรรมยานยนต์จะฟื้นตัวภายหลังวิกฤตเศรษฐกิจก็ตาม แต่ SCRI ประเมินว่าปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ที่อาจส่งผลให้ยอดผลิตรถยนต์ในปี 2553 ชะลอตัวลงนั้น มีอยู่ 2 ประการคือ 1) ปัจจัยความเสี่ยงทางการเมือง ที่หากมีความรุนแรงเกิดขึ้นอาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นผู้บริโภค 2) ยอดขายรถยนต์ในต่างประเทศอาจชะลอตัวลงได้หากรัฐบาลประเทศต่างๆยุติการให้ความช่วยเหลืออุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศของตน และหากเกิดการชะลอตัวลงอีกครั้งของเศรษฐกิจ (Double-Dip Recession) 

  • แนะนำ “ซื้อ” มูลค่าเหมาะสม 135 บาท

SCRI แนะนำ “ซื้อ” STANLY โดยประเมินมูลค่าเหมาะสมเท่ากับ 135 บาท (Residual Income Model, Cost of Equity 10%, Terminal Growth 3%) เนื่องจากประเมินว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานของ STANLY พ้นจุดต่ำสุด และกำลังอยู่ในช่วงของการฟื้นตัว นอกจากนี้ STANLY มีกระแสเงินสดที่แข็งแกร่ง ไม่มีการกู้ยืมเงิน และ คาดจะจ่ายปันผลสำหรับผลการดำเนินงานปี 2552/53 หุ้นละ 4.00 บาท (Dividend Yield 3.6%)

 

สุดท้ายขอให้ทุกท่านโชคดีและพบกันใหม่สัปดาห์หน้า

Written by :
พิราบขาว
 

Comments

B
i
u
Quote
Code
List
List item
URL
Name *
Code   
ChronoComments by Joomla Professional Solutions
Submit Comment