Forgot your password? Create an account
  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
News

Stockwave Online กระแสหุ้นออนไลน์ หุ้น หลักทรัพย์ การเงิน ข่าวเศรษฐกิจ

Home Forum
Stockwave Board
Welcome, Guest
Please Login or Register.    Lost Password?
Go to bottom Post Reply Favoured: 0
TOPIC: Re:CPF
#84
Parday (User)
Expert Boarder
Posts: 96
graphgraph
User Offline Click here to see the profile of this user
Re:CPF 13 Years, 4 Months ago Karma: 0  
ซีพีลุยธุรกิจอสังหาฯจีน ทุ่มนับแสนล.หวังขึ้นแท่นผู้นำ

ซีพีลุยตลาดต่างประเทศวางแผนทุ่มทุน 1.5 แสนล้านบาท ลุยธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในจีนภายใน 5 ปี หวังหนุนธุรกิจอสังหาฯและค้าปลีกติด 1 ใน3 ของจีน โดยใช้เมืองใหม่ 'เจียไต๋ อินเตอร์เนชั่นแนล ซิตี้ พลาซ่า' เป็นโมเดลนำร่อง

นายธนากร เสรีบุรี ประธานกรรมการและประธานผู้บริหาร กลุ่มธุรกิจยานยนต์และ อุตสาหกรรมประเทศจีน เครือเจริญโภคภัณท์หรือซีพีเปิดเผยในงานพูดคุยกับซี.พี ครั้งที่ 3 ประจำปี 2553ว่า เครือซีพีเตรียมปรับโครงสร้างการลงทุนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศจีนในปี 2554 ผ่านบริษัทเจี๋ยไต๋ แลนด์ ที่อยู่ในเครือเจียไต๋ กรุ๊ป โดยวางรูปแบบการสร้างมหานครหรือเมืองใหม่ภายใต้แนวคิด 'เจียไต๋ อินเตอร์เนชั่นแนล ซิตี้ พลาซ่า' นำร่องโครงการแรกบริเวณใจกลางเมืองลั่วหยาง พื้นที่ 115 ไร่ ประกอบด้วยอาคารสูง 60 ชั้นจำนวน 2 อาคาร และอาคารสูง 40 ชั้นอีก 2 อาคาร ซึ่งจะมีทั้งคอนโดมิเนียมพักอาศัย,อาคารสำนักงาน โรงแรม และ ศูนย์ราชการ


ขณะเดียวกันยังมีพื้นที่ค้าปลีกซุปเปอร์แบรนด์มอลล์ โดยจะให้ เซี่ยงไฮ้ คิงฮิลล์ จำกัด เป็นผู้บริหาร เริ่มดำเนินการสร้างต้นปี 2554 ผ่านงบลงทุนโดยรวม 15,000 ล้านบาท คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในระยะเวลา 6 ปี และจะคืนทุนได้ภายในระยะเวลา 3 ปีหรือคิดเป็นกำไรราว 1 หมื่นล้านบาท


นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนลงทุนระยะยาวด้วยการเตรียมงบประมาณ 1.5 แสนล้านบาทเพื่อพัฒนาโมเดลดังกล่าวให้ได้เฉลี่ยปีละ 2 โครงการพื้นที่ 9 หมื่น - 1 แสนตร.ม งบลงทุนโครงการละ 15,000 ล้านบาท ครอบคลุมเมืองตามมณทลต่างๆในจีน อาทิ ซานตง , ปักกิ่ง , หางโจว คาดจะครบ 10 แห่งภายในระยะเวลา 5 ปี(2554-2558) เพื่อสร้างความพร้อมที่จะผลักดันธุรกิจ อสังหาริมทรัพย์ และค้าปลีก ให้สามารถสร้างรายได้ติดอันดับ 3 ของรายได้หลักในประเทศจีน ภายหลังจากทางเครือประสบความสำเร็จจากธุรกิจ เกษตร และอาหารในช่วงที่ผ่านมา


สำหรับในปี 2553 เครือซีพีคาดจะมีรายได้โดยรวมราว 5-6 แสนล้านบาท แบ่งเป็นธุรกิจที่มาจากการลงทุนในประเทศจีนประมาณ 40-50%

ด้านนายสุขสันต์ เจียมใจสว่างฤกษ์ รองกรรมการผู้จัดการบริหาร กลุ่มธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหาร เขตประเทศเวียดนาม เครือซีพีกล่าวว่า เครือซีพีเข้าไปลงทุนในเวียดนามมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2535 โดยลงทุนหลักในธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหาร ครอบคลุมทั้งธุรกิจสัตว์บก สัตว์น้ำอย่างครบวงจร ตั้งแต่ธุรกิจผลิตอาหารสัตว์ ปศุสัตว์ และแปรรูปอาหาร รวมถึงมีช่องทางการจำหน่าย ทั้งนี้คาดผลการดำเนินงานในปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้คือเติบโตราว 20%


นายจรูญพันธ์ เจนศาสตรา รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านสนับสนุนธุรกิจอาหารสัตว์น้ำต่างประเทศ(อินเดีย) บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร(CPF)กล่าวว่าเครือซีพีเป็นนักธุรกิจไทย
กลุ่มแรก ๆ ที่เข้าไปบุกตลาดอินเดีย โดยในปี 2535 ได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลอินเดียให้ก่อสร้างโรงงานผลิตอาหารกุ้งที่เมือง เชนไน ต่อมาในปี 2541 ก็เข้าสู่ธุรกิจผลิตอาหารสัตว์บกด้วยการสร้างโรงงานผลิตอาหารสัตว์บกที่ เมือง เชนไน และในปี 2544-2545 ได้เช่าที่ดินสร้างโรงงานผลิตและขายอาหารสัตว์บกที่เมืองบังกาลอร์ ในปี 2547-2548 สร้างโรงงาน ผลิตและขายอาหารสัตว์บกที่เมืองวีเจยาวาด้าและในช่วงกลางปี 2548 ได้ขยายสายการผลิตของโรงงานที่เมืองวายแซกเพื่อผลิตและจำหน่ายอาหาร กุ้งด้วย

ส่วนในปีนี้ได้มีการสร้างโรงงานผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์บกที่เมือง เวลลอร์ และเมืองปูเน่ และในปี 2554 มีแผนสร้างโรงงานผลิตอาหารปลาอีก 3 แห่งด้วยเงินลงทุน 1,500 ล้านบาทที่เมืองวีเจยาวาด้า เพราะอินเดียเป็นตลาดปลาที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก จนถึงปัจจุบันมีการขยายการลงทุนครอบคลุมทั้งธุรกิจสัตว์บกและธุรกิจสัตว์น้ำ โดยมียอดขายต่อปีประมาณ 15,200 ล้านบาท และคาดว่าในปี 2554 ธุรกิจของเครือซีพีในอินเดียจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 20%

นายสารสิน วีระผล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์(เครือซีพี) กล่าวว่า เครือซีพียังเน้นการลงทุนในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจีน เวียดนาม และอินเดียเนื่องจากทั้ง 3 ประเทศนี้มีประชากรรวมกันกว่า 2,000 ล้านคนและมีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่ดี แม้ว่าเศรษฐกิจโลกในปี 2554 จะชะลอตัวแต่เชื่อมั่นว่าธุรกิจของเครือซีพีจะยังเติบโตได้ดี เพราะมีธุรกิจหลักด้านเกษตรอุตสาหกรรมและอาหาร ที่มุ่งเน้นไปสู่การผลิตอาหารสำเร็จรูปที่มีคุณภาพและมีแบรนด์เป็นของตัวเอง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิต จึงมีโอกาสอีกมากในการขยายธุรกิจในปีหน้า



ที่มา แนวหน้า วันที่ 09/12/10
 
Report to moderator   Logged Logged  
  The administrator has disabled public write access.
#85
Parday (User)
Expert Boarder
Posts: 96
graphgraph
User Offline Click here to see the profile of this user
Re:CPF 13 Years, 3 Months ago Karma: 0  
ซีพีเฟรมมาร์ทปลื้มยอดขายพุ่ง

นายจักรชัย นุชประยูร รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท ซีพีเอฟเทรดดิ้ง จำกัด ผู้บริหารร้านซีพี เฟรชมาร์ท เปิดเผยว่า ภาพรวมยอดขายสินค้าของร้านซีพีเฟรชมาร์ทในช่วงเดือน ธ.ค.นี้ เติบโตสูงกว่าปกติถึง 15% เพราะเป็นช่วงเทศกาลจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคในเทศกาลปีใหม่ และผู้บริโภคบางส่วนเริ่มเตรียมตัวเพิ่มเดินทางท่องเที่ยวไปยังต่างจังหวัด ทำให้แม่บ้านไม่นิยมซื้ออาหารไปทำเองที่บ้าน เพราะต้องการเก็บครัวก่อนเดินทางไปท่องเที่ยวต่างจังหวัด จึงหันมาซื้ออาหารพร้อมปรุงไปรับประทานทานมากขึ้น และบริษัทยืนยันว่าได้สต๊อกสินค้าอาหารไว้เพียงพอกับความต้องการของกลุ่มแม่ บ้านในทุกสาขาแล้ว

ขณะเดียวกัน สินค้ากระเช้าของขวัญที่ร้าน ซีพีเฟรชมาร์ท ได้จัดทำต้อนรับเทศกาลปีใหม่นั้น ทั้ง กระเป๋าไอเย็น หรือกระเป๋าส่งความสุข ที่สามารถเก็บสินค้าในกระเป๋าได้ พบว่า มียอดขายเพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และในบางสาขาเกิดปัญหาสินค้าขาดตลาดชั่วคราว จึงต้องสั่งผลิตสินค้าเพิ่มแล้ว เนื่องจากผู้บริโภครับรู้ในแบรนด์สินค้าและการบริการมากขึ้น แม้ว่าบริษัทจะทำการประชาสัมพันธ์กระเป๋าส่งความสุขแค่เพียงโปสเตอร์ติดหน้า ร้าน ซึ่งกระเป๋าส่งความสุขมีให้เลือกตั้งแต่ราคา 500-3,000 บาท

ส่วนแผนงานของบริษัทในปี 54 เตรียมเปิดสาขาร้านซีพีเฟรชมาร์ทอีก 250 สาขา ทำให้มีสาขาครบ 1,000 สาขา จากปัจจุบันมีจำนวนสาขาเปิดให้บริการอยู่ที่ประมาณ 750 สาขา แบ่งเป็น สาขากรุงเทพฯ 300 สาขา และต่างจังหวัด 350 สาขา นอกจากนี้เตรียมขยายช่องทางจำหน่ายผ่านปั๊มน้ำมัน.

ที่มา : เดลินิวส์ออนไลน์
 
Report to moderator   Logged Logged  
  The administrator has disabled public write access.
#86
Parday (User)
Expert Boarder
Posts: 96
graphgraph
User Offline Click here to see the profile of this user
Re:CPF 13 Years, 3 Months ago Karma: 0  
เซเว่นจีบซีพีเอฟ-ยุ่นลงขัน'ชิลด์ฟู้ด รุกเพิ่ม500สาขา-ลั่นโต13%

นาย ปิยะวัฒน์ ฐิตะสัทธาวรกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น เปิดเผยว่า แผนธุรกิจปีนี้จะเป็นอีกปีที่บริษัทจะขยายธุรกิจอาหารกล่องแช่เย็นพร้อมรับประทาน (ชิลด์ฟู้ด) หลังเริ่มทดลองตลาดในสาขากรุงเทพฯ ตั้งแต่ 2-3 ปีที่ผ่านมาแล้ว โดยประสบความสำเร็จค่อนข้างดีและเป็นตัวขับเคลื่อนยอดขายให้บริษัทเติบโต เกิน 5% ทุกปี โดยอาหารที่ผลิตมาจาก 2 ส่วนคือ จากบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหา ชน) หรือซีพีเอฟ และอีกทางหนึ่งมาจาก บริษัท ซีพี ค้าปลีกและการผลิต จำกัด ซึ่งผลิตอาหารชิลด์ฟู้ด เพื่อจำหน่ายในร้านเซเว่น อีเลฟเว่น 500 สาขา ในกรุงเทพฯ และ ปริมณฑล และล่าสุดอยู่ระหว่างการก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ที่ถนนลาดกระบัง คาดว่าจะแล้วเสร็จในปลายปีนี้ โดยโรงงานแห่งใหม่จะสามารถกระจายสินค้าได้ 500 สาขา ในเขตปริมณฑลและจังหวัดใกล้เคียง เช่น อ.ศรีราชา และพัทยา จ.ชลบุรี

"บริษัทกำลังเจรจาร่วมทุนระหว่างซีพีออลล์ ซีพีเอฟ และบริษัทผู้ผลิตอาหารจากประเทศญี่ปุ่น หากตกลงกันได้คาดว่าใช้เงินลงทุนหลายพันล้านบาท สำหรับสร้างโรงงานผลิต อาหารชิลด์ฟู้ด ในหลายพื้นที่ โดยโรงงานแต่ละแห่งจะสามารถผลิตเพื่อส่งขายให้กับเซเว่นฯ ได้ประมาณ 500 สาขา ซึ่งการร่วมทุนจะทำให้สร้างโรงงานผลิตได้ครอบคลุมพื้นที่ขายในเซเว่นฯ ได้ทั่วถึงในต่างจังหวัดมากขึ้น" นายปิยะวัฒน์ กล่าว

ขณะที่แผนลงทุนขยายสาขาใหม่ในปีนี้ 500 สาขา เป็น 6,200-6,300 สาขาทั่วประเทศ รวมการปรับปรุงสาขาเดิมอีก 500 สาขาที่จะมีการปรับปรุงทุก 5-6 ปี ซึ่งรวมลงทุนปีนี้ทั้งสิ้น 3.6 พันล้านบาท และตั้งเป้ายอดขายเติบโตประมาณ 13-14% ซึ่งปัจจุบันเซเว่นฯ ประเทศไทย มีอัตราผู้บริโภคเข้ามาใช้บริการต่อสาขาต่อวันเฉลี่ย 1,200 คน สูงที่สุดในโลกซึ่งเฉลี่ยที่ 1,000 คน และมีอัตราความสำเร็จในการเปิดสาขาใหม่เกือบ 100% สูงที่สุดในโลกเช่นกัน

แหล่งที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวสด
 
Report to moderator   Logged Logged  
  The administrator has disabled public write access.
#87
Parday (User)
Expert Boarder
Posts: 96
graphgraph
User Offline Click here to see the profile of this user
Re:CPF 13 Years, 2 Months ago Karma: 0  
ไข้หวัดนกระบาดญี่ปุ่น CPF รอดีดหลังร่วง 8%

บล.กสิกรไทยระบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ CPF: ไข้หวัดนกระบาดในญี่ปุ่น ญี่ปุ่นจะมีการกำจัดไก่ทางภาคตะวันตกของเมือง Miyazaki ลง 410,000 ตัว เนื่องจากมีการแพร่ระบาดของไข้หวัดนก ขณะที่เยอรมนีมีการปิดฟาร์มปศุสัตว์ที่มีการปนเปื้อน เรามองว่าข่าวนี้จะส่งผลดีต่อ CPF โดย CPFส่งออกไก่ไปยังประเทศในภูมิภาคเอเซียประมาณ 18% ของยอดขายทั้งหมด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการส่งออกไปที่ประเทศญี่ปุ่น ขณะที่มีการส่งออกไปยังภูมิภาคยุโรปอยู่ที่ 35% จากข่าวดังกล่าวคาดว่า CPF จะสามารถส่งออกไก่ได้เพิ่มขึ้น โดยเมื่อวานนี้ราคาหุ้นของ CPF ลดลงมา 7.8% ซึ่งราคาที่ลงมามากขนาดนี้เรามองว่าเป็นโอกาสที่ดีสำหรับการลงทุน เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานของ CPF ไม่มีการเปลี่ยนแปลงและยังคงดีอยู่ เราจึงคงคำแนะนำOutperform ราคาพื้นฐาน 26 บาท
 
Report to moderator   Logged Logged  
  The administrator has disabled public write access.
#88
Parday (User)
Expert Boarder
Posts: 96
graphgraph
User Offline Click here to see the profile of this user
Re:CPF 13 Years, 2 Months ago Karma: 0  
9 โรงงานซีพีเอฟคว้ามาตรฐาน CSR-DIW จากกระทรวงอุตสาหกรรม

9 โรงงานของซีพีเอฟคว้าโล่และเกียรติบัตร การปฏิบัติตามมาตรฐานความรับผิดชอบของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมต่อสังคม หรือ CSR-DIW (Corporate Social Responsibility, Department of Industrial Works : CSR-DIW) ประจำปี 2553 จัดโดยกระทรวงอุตสาหกรรม ตอกย้ำภาพลักษณ์องค์กรชั้นนำที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม

นายสุชาติ วิริยะอาภา รองกรรมการผู้จัดการ ด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อม บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า โรงงานของซีพีเอฟ 9 แห่ง ได้รับเลือกจากกระทรวงอุตสาหกรรม ให้ได้รับโลห์และเกียรติบัตร CSR-DIW ประกอบด้วย โรงงานผลิตอาหารสัตว์กม.21 โรงงานผลิตอาหารสัตว์ราชบุรี โรงงานผลิตอาหารสัตว์น้ำมหาชัย โรงงานอาหารแปรรูปเนื้อไก่นครราชสีมา โรงงานแปรรูปสุกร โรงงานหนองจอก โรงงานอาหารแปรรูปสัตว์น้ำมหาชัย โรงงานอาหารแปรรูปสัตว์น้ำระโนด และโรงงานอาหารแปรรูปสัตว์น้ำแกลง

“โรงงานอาหารแปรรูปสัตว์น้ำแกลง ถือเป็นโรงงานแรกของซีพีเอฟ ที่ได้รับการรับรองการปฏิบัติตามเกณฑ์มาตรฐาน CSR-DIW ในปี 2552 และก็ยังคงมุ่งมั่นดำเนินการพัฒนาระบบมาตรฐานการทำงานในทุกด้าน เพื่อให้ตรงตามเกณฑ์มาตรฐาน ที่มีการเพิ่มเติมและยกระดับหลักเกณฑ์ต่างๆ ให้มีรายละเอียดมากขึ้น ซึ่งซีพีเอฟแกลงก็สามารถปฏิบัติจนกระทั่งผ่านเกณฑ์และได้รับรางวัล CSR-DIW Continuous Awards ในปี 2553 และเป็นที่น่ายินดีที่ยังมีโรงงานของซีพีเอฟอีก 8 โรงงาน ได้ดำเนินงานในทุกๆ ส่วนให้ตรงกับเกณฑ์มาตรฐาน ที่กระทรวงอุตสาหกรรมกำหนด จนสามารถคว้าโล่และเกียรติบัตร CSR-DIW มาได้ จากความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม” นายสุชาติ กล่าวและว่า

มาตรฐาน CSR-DIW ประกอบด้วยการดำเนินงานด้านความรับผิดชอบขององค์กรใน 7 ประเด็นหลัก ได้แก่ การกำกับดูแลแลองค์กร การปฏิบัติด้านแรงงาน การปฏิบัติอย่างเป็นธรรม การมีส่วนร่วมและพัฒนาชุมชน สิทธิมนุษยชน สิ่งแวดล้อม และประเด็นด้านผู้บริโภค

ทั้งนี้ ซีพีเอฟ ยังวางเป้าหมายการทำงานด้านความยั่งยืนไปยังทุกๆ หน่วยงานขององค์กร รวมถึงวางค่านิยมองค์กร หรือ CPF Way ข้อที่ 6 ว่าด้วยการตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน ตลอดจนการดำเนินนโยบายด้านความปลอดภัย อาชีว อนามัย และสิ่งแวดล้อม (CPF SHE) เพื่อปลูกฝังจิตสำนึกของพนักงานซีพีเอฟให้ตระหนักถึงสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม ตลอดจนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด ตามปรัชญาการดำเนินธุรกิจของ นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ ที่ให้คำนึงถึงหลัก 3 ประโยชน์ คือ ธุรกิจของบริษัทต้องเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ ต่อประชาชน และต่อบริษัท ซึ่งสอดคล้องกับมาตรฐาน CSR-DIW

ซีพีเอฟ ดำเนินธุรกิจควบคู่กับการแสดงความรับผิดชอบทั้งภายในองค์กร คือ บุคคลากรทุกระดับได้รับการจ้างงานที่เป็นธรรม ได้รับการดูแลด้านสุขภาพอนามัยและปฏิบัติงานอย่างปลอดภัย ด้านสิ่งแวดล้อมต้องปฏิบัติตามกฏหมายอย่างเคร่งครัด มีส่วนร่วมและช่วยเหลือกันกับชุมชนในการพัฒนาท้องถิ่นให้เจริญควบคู่กันไป กับบริษัท ส่วนความรับผิดชอบต่อผู้บริโภค ซีพีเอฟก็มุ่งมั่นในเรื่องการผลิตอาหารที่มีคุณภาพและปลอดภัยตามมาตรฐาน Food Safety, GMP, HACCP และมาตรฐานอื่นๆ ด้านอาหารที่เกี่ยวข้อง ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของความรับผิดชอบต่อสังคมทั้งสิ้น อันจะส่งผลให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน
 
Report to moderator   Logged Logged  
  The administrator has disabled public write access.
#89
Parday (User)
Expert Boarder
Posts: 96
graphgraph
User Offline Click here to see the profile of this user
Re:CPF 13 Years, 2 Months ago Karma: 0  
CPF ซื้อหุ้นเพิ่มทุนบริษัทลูกในกัมพูชา 16.3 ล้านเหรียญสหรัฐ

บริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF แจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติให้บริษัทเข้าลงทุนในหุ้นสามัญเพิ่มทุนขอ C.P.Cambodia Company Limited (CPC) จำนวน 1,475 หุ้น หรือ คิดเป็น 25% ของหุ้นที่ออกและชำระแล้ว โดยราคาเสนอขายเท่ากับหุ้นละ 11,030 เหรียญสหรัฐ มูลค่า 16,269,250 เหรียญสหรัฐ หรือ ประมาณ 500 ล้านบาท

ทั้งนี้ C.P.Cambodia Company Limited ดำเนินธุรกิจผลิตอาหารสัตว์ เลี้ยงสัตว์ และผลิตภัณฑ์อาหารที่ทำจากเนื้อสัตว์เพื่อจำหน่ายในประเทศกัมพูชา

โดยคณะกรรมการบริษัทมีความเห็นว่า การเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าวส่งผลดีต่อบริษัท เนื่องจากธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมในประเทศกัมพูชามีศักยภาพในการขยายตัวอีกมาก และ CPC ได้วางรากฐานของธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมในกัมพูชาระยะหนึ่งแล้วและมีความพร้อมที่จะรองรับ ารเจริญเติบโตของธุรกิจต่อไปในอนาคต

ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ผลประกอบการของ CPC มีการเติบโตและสร้างผลกำไรมาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น การที่ CPF เข้าลงทุนใน CPC จึงเท่ากับเป็นการขยายการลงทุนในธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมไปยังอีกประเทศหนึ่ง โดยสามารถรับรู้ผลการดำเนินงานจากการลงทุนใน CPC ได้ทันทีนับตั้งแต่วันที่มีการลงทุนเป็นต้นไป

ทั้งนี้ในปี 52 CPC มียอดขาย 78 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีกำไรสุทธิ 6 ล้านเหรียญสหรัฐ เทียบกับปี 51 ที่มียอดขาย 83 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีกำไรสุทธิ 5 ล้านเหรียญสหรัฐ

นอกจากนี้ ยังมีการเพิ่มทุนของบริษัทย่อย 3 แห่งที่บริษัทถือหุ้นทางตรงและทางอ้อม 100% ได้แก่ Charoen Pokphand Foods (Overseas) LLC. ทำธุรกิจผลิตอาหารสัตว์และเนื้อสัจว์ ได้เพิ่มทุนจดทะเบียน 429 ล้านรูเบิล หรือประมาณ 440 ล้านบาท เป็น 1,680 ล้านรูเบิล หรืประมาณ 1,721 ล้านบาท CPF Agro LLC. ทำธุรกิจเลี้ยงสัตว์ ได้เพิ่มทุนจาก 60 ล้านรูเบิล หรือประมาณ 61 ล้านบาท เป็น 64 ล้านรูเบิล หรืประมาณ 66 ล้าบาท และ Asia Aquaculture (M) Sdn. Bhd. ซึ่งทำธุรกิจเพาะเลี้ยงกู้งและแปรรูปกุ้ง ได้เพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 25 ล้านริงกิต หรือประมาณ 253 ล้านบาท เป็น 50 ล้านริงกิต หรือประมาณ 506 ล้านบาท เพื่อปรับโครงน้าเงินทุนให้เหมาะสม
 
Report to moderator   Logged Logged  
  The administrator has disabled public write access.
#90
Parday (User)
Expert Boarder
Posts: 96
graphgraph
User Offline Click here to see the profile of this user
Re:CPF 13 Years, 2 Months ago Karma: 0  
ซีพีเอฟชูส่งออกกุ้งโกยรายได้1ใน3 เป้า10ปีบุกลงทุนทั่วโลกผุดรง.ผลิตอาหารสัตว์ไฮเทค

"ซี พีเอฟ" ชูปีทองส่งออก "กุ้ง" ยอดขายพุ่งโกยรายได้ทะลุ 1 ใน 3 ของเป้ารวม ขานรับแผนปรับโครงสร้างสัดส่วนรายได้ต่างประเทศ 40% ผนวกเตรียมงบฯเผื่อ 10 ปีหน้า รวมกว่า 5 แสนล้านบาท หลังพบหลายประเทศแห่เชิญลงทุน เตรียมขยายทั่วเอเชียเปิดโรงงานผลิตอาหารสัตว์ด้วยการทุ่มใช้ไฮเทคโนโลยี เพิ่มผลผลิตโตตามเทรนด์บริโภคทั่วโลก ไม่หวั่นเงินเฟ้อหรือปัจจัยเสี่ยง ยันวางฐานแข็งแกร่งทุกด้าน


นายอดิเรก ศรีประทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ "CPF" เปิดเผยว่า การวางกลยุทธ์ปี 2554 ตั้งเป้ารายได้ 1.85 แสนล้านบาท เติบโตเพิ่มเฉลี่ย 10% เป็นปีทองที่จะสามารถทำสถิติใหม่เพิ่มกำไรอีก 15% จากฐานเดิมของปีที่ผ่านมาทำไว้สูงสุด 30% โดยการขับเคลื่อนธุรกิจ 2 ส่วน ได้แก่

ส่วนแรกส่งออกสินค้าดาวรุ่งคือกุ้ง ทำยอดขายมากถึง 1 ใน 3 ของรายได้รวม หรือคิดเป็นประมาณกว่า 6 หมื่นล้านบาท เพราะจังหวะการค้าตั้งแต่ ปี 2553 เป็นต้นมาการเติบโตต่อเนื่อง แถมราคาขายขยับสูงขึ้น 40-50% คนเลี้ยงกุ้งร่ำรวยกันเป็นแถว ปัจจัยหลักมาจากผลผลิตหลายประเทศคู่แข่งเสียหายทั้งใน อินโดนีเซีย เวียดนาม จีน กุ้งเมืองไทยจึงมีคู่แข่งน้อย ซีพีเอฟในฐานะผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดจะเร่งขยายตลาดเติบโตขึ้นอีกหลายเท่า เพราะ ขณะนี้ตลาดอเมริกาและหลายประเทศไม่ได้กีดกันเรื่องกุ้งมากนัก

ส่วน ที่ 2 ขยายการลงทุนในต่างประเทศ อนาคต 10 ปีข้างหน้าอาจจะต้องใช้ถึง 500,000 ล้านบาท สอดคล้องกับเป้าหมายการเพิ่มสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศ ประการสำคัญ ซีพีเอฟเป็นผู้นำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้เพิ่มผลผลิตและศึกษาอย่างจริงจังจน กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญ ทำให้ทุกประเทศต่างมาเชิญไปลงทุนเปิดโรงงานผลิตอาหารสัตว์บกและน้ำ ขอความร่วมมือนำความรู้เข้าไปช่วยพัฒนาการเกษตรของประเทศเหล่านั้นเติบโต อย่างแข็งแรง

สำหรับปี 2554 จัดเตรียมเงินลงทุนไว้ 8,000-10,000 ล้านบาท เพื่อขยายโรงงานอาหารสัตว์และเพิ่มกำลังการผลิตในอินเดีย มาเลเซีย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ รัสเซีย จีน ส่วนกัมพูชา คณะกรรมการบริษัทอนุมัติให้ใช้วิธีร่วมทุนวงเงินประมาณ 500 ล้านบาท จากการซื้อหุ้นในบริษัท C.P.Cambodia Limited จำกัด จำนวน 1,475 หุ้น คิดเป็น 25%

ขณะที่ปี 2554 ซีพีเอฟจะเริ่มปรับโครงสร้างรายได้จากต่างประเทศให้ได้ถึง 40% สูงกว่าปัจจุบันมีสัดส่วนเพียง 27% สถิติปี 2553 มีรายได้รวมจาก ต่างประเทศ 50,000 ล้านบาท มาจากการส่งออกสินค้า 25,000 ล้านบาท

"สถานการณ์ เงินเฟ้อภายในประเทศที่อาจจะคุมไม่อยู่ เป็นเรื่องที่น่าจับตาถึงผลกระทบกับธุรกิจและการลงทุน เพราะต้นทุนการผลิตทุกอุตสาหกรรมปรับเพิ่มทุกอย่าง จากราคาน้ำมันตลาดโลกขึ้นอยู่ตลอดเวลา วัตถุดิบอาหารสัตว์ ราคาสินค้า อัตราแลกเปลี่ยน เป็นตัวเร่งสำคัญ ปัจจัยเหล่านี้อาจจะน่ากลัวสำหรับอุตสาหกรรมทั้งประเทศ แต่ไม่น่ากลัวสำหรับซีพีเอฟแน่นอน เพราะเราวางแผนเชิงรุกและวิธีการรับไว้ครอบคลุมทุกด้าน

"อีกอย่าง เรามีพนักงานทั่วโลกเกือบ 8 หมื่นคน อยู่ในประเทศ 6 หมื่นคน ต่างประเทศ 2 หมื่นคน ทุกคนล้วนมีคุณภาพพร้อมจะขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตได้ตามเป้า ทั้งรายได้ ยอดขาย กำไร เพราะบริษัทยึดมั่นเรื่องการสร้างคนเติบโตไปด้วยกัน และเติบโตอย่างมีอนาคตทั้งตำแหน่ง เงินเดือน โบนัส เนื่องจากสุดท้ายแล้วซีพีเอฟต้องอาศัยคนเก่ง มีวัฒนธรรม และเติบโตมากับเรา อีกอย่างซีพีเอฟขึ้นไปยืนอยู่ในเวทีโลกไม่ใช่เพื่อชิงเหรียญทองโอลิมปิก แต่เราเกิดในแผ่นดินไทย ยึดมั่นตอบแทนคุณแผ่นดิน โดยนำชื่อเสียงด้านการลงทุนมาสู่ประเทศ" นายอดิเรกกล่าว

นอกจากนี้ซีพีเอฟยังเร่งเดินหน้าโครงการลงทุนในจีนพัฒนาตลาดสินค้าครอบคลุมทุกชนิด โดยเฉพาะในเมือง ลั่วหยางโครงการ Louyang Zhengda International City Plaza Civic Center ซูเปอร์มาร์เก็ต คอมเพล็กซ์ ในที่ดิน 115 ไร่ มูลค่าการลงทุน 15,000 ล้านบาท
 
Report to moderator   Logged Logged  
  The administrator has disabled public write access.
#91
Parday (User)
Expert Boarder
Posts: 96
graphgraph
User Offline Click here to see the profile of this user
Re:CPF 13 Years, 2 Months ago Karma: 0  
CPF อาหารเฟื่องฟูปีนี้โต 10 เปอร์เซนต์

CPF รับอานิสงส์ วิกฤติอาหารและราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้น ดันราคาสินค้าเกษตรพุ่งทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงการขยายการลงทุนไปใน 10 ประเทศ และการเฉลิมฉลองในเทศกาลตรุษจีนทำให้รายได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง “อดิเรก” คาดผลประกอบการปี 2554 โต 10%

นายอดิเรก ศรีประทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF เปิดเผยว่า ทั่วโลกกำลังเผชิญกับปัญหาวิกฤตการณ์อาหารแพง เนื่องจากภาวะราคาสินค้าเกษตรทั่วโลกที่สูงขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากสภาพอากาศที่แปรปรวน ขณะเดียวกัน ราคาน้ำมันในตลาดโลกก็มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นเป็นลำดับ อาจส่งผลให้การขาดแคลนอาหารของโลกทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น เมื่อผนวกกับการบริโภคที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากประชากรมีฐานะที่ดีขึ้น และการลงทุนที่น้อยเกินไปในภาคเกษตรกรรมด้วยแล้ว จะส่งผลกระทบให้ระดับราคาสินค้าเกษตรและอาหารพุ่งสูงขึ้นอย่างมาก

สำหรับประเทศไทยซึ่งเป็นผู้ผลิตสินค้าเกษตรและแปรรูปเป็นอาหาร จัดเป็น 1 ใน 7 ประเทศของโลกที่มีอาหารบริโภคอย่างพอเพียงและยังมีเหลือเพื่อการส่งออก เห็นได้จากภาพรวมผลผลิตสินค้าเกษตรในปีนี้ยังสูงกว่าการบริโภคภายในประเทศ ซึ่งประเทศไทยจะสามารถทำรายได้เข้าประเทศจากการส่งออกผลผลิตทางเกษตรและ อาหารในช่วงวิกฤติอาหารของโลกนี้ได้ดี

ทั้งนี้ CPF เป็นบริษัทผู้นำด้านเกษตรอุตสาหกรรมและแปรรูปอาหารส่งออกของประเทศไทยก็จะ ได้รับอานิสงส์จากราคาสินค้าเกษตรของโลกที่เพิ่มขึ้นด้วย รวมทั้งจากการที่บริษัทได้ขยายการลงทุนไปใน 10 ประเทศ อาทิ อินเดีย รัสเซีย มาเลเซีย กัมพูชา ซึ่งเป็นประเทศที่มีโอกาสและศักยภาพในการขยายตัวของธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรม และอาหารอีกมาก และนับวันจะมีสัดส่วนรายได้ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และจะช่วยเสริมการเติบโตของบริษัทด้วย

ขณะที่ตลาดภายในประเทศก็ได้รับผลดีจากช่วงแห่งการเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีน ที่ผ่านมาที่มีการจับจ่ายใช้สอย ตลอดจนซื้อ-ขายสินค้าผ่านร้านซีพีเฟรชมาร์ทและซุ้มไก่ย่างห้าดาวกันอย่าง คึกคัก และจะส่งผลให้การดำเนินการปี 2554 นี้ เติบโตในระดับที่ดี โดยคาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 10%

บริษัทหลักทรัพย์ ยูไนเต็ด จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ทิศทางราคาขายเนื้อสัตว์ปี 2554 ยังอยู่ในช่วงขาขึ้น จากผลพวงของความแปรปรวนของสภาพภูมิอากาศในหลายประเทศและการระบาดของโรคใน สัตว์ต่างๆ ก็ทำให้ผลผลิตการเกษตรปี 2554 ในหลายประเทศมีแนวโน้มลดลงจากปี 2553 ซึ่งส่งผลต่อเนื่องให้มองทิศทางราคาขายเนื้อสัตว์ปี 2554 ยังคงอยู่ในช่วงขาขึ้นและคาดเป็นผลบวกต่อผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจการ เกษตรแบบครบวงจรอย่าง CPF

ประกอบกับเทศกาลตรุษจีนก็ผลักดันราคาขายเนื้อไก่, หมูและไข่ไก่ปรับตัวสูงขึ้นอีกครั้งสู่ 46.5 บาทต่อกิโลกรัม (ก.ก.) เพิ่มขึ้น 8% จากเดือนก่อน, 57.5 บาทต่อก.ก. เพิ่มขึ้น 10% จากเดือนก่อน และ 2.70 บาทต่อฟอง เพิ่มขึ้น 4% จากเดือนก่อน ตามลำดับ ดังนั้น จึงประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/54 เริ่มฟื้นตัวเพิ่มขึ้นและจะทยอยสูงขึ้นจนถึงไตรมาส 3/54 เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่น (High season) ของธุรกิจส่งออก

ทั้งนี้ เพื่อสะท้อนสัดส่วนของยอดขายกลุ่มสัตว์น้ำที่จะยังโตโดดเด่นในปี 2554 (ที่ผู้บริหารตั้งเป้ากุ้งส่งออกปี 2554 โต 50% เป็น 75,000 ตัน) ก็ทำให้ปรับสมมุติฐานรายได้และอัตรากำไรปี 2554 ใหม่ โดยคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2554 ใหม่ที่ 14,134 ล้านบาท ซึ่งยังขยายตัวได้ 2% จากปีก่อน ประกอบกับคาดว่าจะจ่ายเงินปันผลงวดครึ่งปีหลังของปี 2553 ที่ 0.55 บาทต่อหุ้น (ดิวิเดนด์ ยีลด์ 3%) จึงแนะนำ “ซื้อ” โดยมีราคาเป้าหมายที่ 26 บาท
 
Report to moderator   Logged Logged  
  The administrator has disabled public write access.
#92
Parday (User)
Expert Boarder
Posts: 96
graphgraph
User Offline Click here to see the profile of this user
Re:CPF 13 Years, 1 Month ago Karma: 0  
CPF พุ่งสวนตลาดรับปัจจัยบวกขึ้นราคาหมู-ไก่

ผู้สื่อข่าวรายงานราคาหุ้นบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF ซื้อขายรอบเช้า ณ เวลา 11.40 น. บวกเพิ่ม 0.50 บาท หรือ 2.17% มาที่ 23.50 บาท ระหว่างวันราคาปรับตัวขึ้นไปแตะระดับสูงสุดที่ 23.60 บาท ขณะที่ภาวะดัชนีตลาดหุ้นไทยโดยรวมลบ 0.74%
บล.กรุงศรีอยุธยาระบุว่าการที่หุ้น CPF ปรับตัวขึ้นเช้านี้คาดว่าเกิดจากการเก็งกำไรจากงบที่จะประกาศ ซึ่งคาดว่าจะออกมาดีกว่าที่คาดไว้ เนื่องจากบริษัทได้ปัจจัยหนุนจากธุรกิจ โดยเฉพาะกุ้ง ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกที่มีปริมาณขายเพิ่มขึ้น ช่วยเพิ่มรายได้และกำไร รวมถึงธุรกิจในต่างประเทศที่ออกมากว่าที่คาดการณ์ไว้

นอกจากนี้ยังได้รับปัจจัยบวกในช่วงสั้นจากการปรับขึ้นของราคาเนื้อหมูและเนื้อไก่ด้วย โดยจากปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้บริษัทได้มีการปรับการประเมินกำไรสุทธิในปี 54 เติบโต 10% จากเดิมทรงตัว รวมทั้งการทบทวนราคาใหม่จากเดิมที่ราคาเป้าหมาย 22 บาท
อย่างไรก็ตามยังต้องจับตาดูปัญหาต้นทุนเฉลี่ยของวัตถุดิบที่เป็นขาขึ้นในอนาคตจะเป็นปัจ ัยที่ส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจที่ยากขึ้น จากปัจจุบันที่ยังใช้ต้นทุนเดิมที่เก็บไว้ช่วย รวมทั้งพี/อี ของ CPF ที่ 12 เท่า ซึ่งสูงกว่าการเติบโตของกำไร ดังนั้นจึงแนะนำ "เก็งกำไร " CPF
 
Report to moderator   Logged Logged  
  The administrator has disabled public write access.
#93
Parday (User)
Expert Boarder
Posts: 96
graphgraph
User Offline Click here to see the profile of this user
Re:CPF 13 Years, 1 Month ago Karma: 0  
CPF ปันผลเกิน 50 สต. รับกำไร 1.4 หมื่นล้าน : ไตรมาส 4 ทำได้ 2.5 พันล้าน ราคาหุ้นต่ำกว่าพื้นฐาน

CPF มีแววปันผลครึ่งหลังไม่ต่ำกว่า 50 สตางค์ต่อหุ้น หลังคาดการณ์กำไรสุทธิปี 53 ไว้ 1.3-1.4 หมื่นล้านบาท ส่วนราคาหุ้นล่าสุดยืน 23 บาท ถือว่าต่ำเมื่อเทียบช่วงขึ้น XD ครั้งก่อนที่กว่า 25 บาท โบรกฯเชียร์ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 26.50 บาท

แหล่งข่าวจากวงการเงิน เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ว่า วันพรุ่งนี้ (25 ก.พ.) บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF จะมีการรายงานผลประกอบการประจำปี 2553 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2553 โดยน่าจะมีกำไรสุทธิประมาณ 13,000-14,000 ล้านบาท จึงน่าจะส่งผลให้ CPF มีการจ่ายเงินปันผลอีกไม่ต่ำกว่า 0.50 บาทต่อหุ้น จากครึ่งปีแรกจ่ายไปแล้ว 0.50 บาทเช่นกัน

โดยหลังจากช่วงครึ่งปีแรกปี 2553 ได้มีการจ่ายปันผลระหว่างกาลแล้ว 0.50 บาทต่อหุ้น ที่ได้ขึ้นเครื่องหมายผู้ซื้อไม่มีสิทธิรับเงินปันผล (XD) เดือนสิงหาคม 2553 ซึ่งราคาหุ้นช่วงนั้นได้ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ระดับกว่า 25 บาท ขณะที่ราคาล่าสุด (วันที่ 23 ก.พ.) อยู่ในระดับ 23.40 บาท จึงถือว่าราคา CPF ขณะนี้ยังต่ำ

บริษัทหลักทรัพย์ ซิกโก้ จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ไตรมาส 4/53 น่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้น 2.6% จากปีก่อน แต่ลดลง 6.9% จากไตรมาสก่อน เนื่องจากเป็นช่วงวันหยุดยาวทำให้คำสั่งซื้อชะลอลง และเป็นผลให้อัตราการทำกำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin : GPM) ในไตรมาส 4/53 ปรับตัวลดลงมาอยู่ในระดับ 16.3% จากไตรมาส 3/53 ที่ 18.4% จากกำลังการผลิตที่ลดลง อย่างไรก็ดีคาดจะเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 4/52 ที่ 16.2%
ส่วนค่าใช้จ่ายแม้เป็นปกติที่มีค่าสูงในไตรมาสสุดท้าย แต่ผลจากการบริหารควบคุมที่มีประสิทธิภาพ ทำให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ (SG&A/Sale) ในไตรมาส 4/53 คาดจะอยู่ที่ระดับ 11.2% เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3/53 ที่ 10.1% แต่ลดลงจากไตรมาส 4/52 ที่ 11.7% สำหรับต้นทุนทางการเงิน (ดอกเบี้ยจ่าย) คาดจะลดลง 13.9% จากปีก่อน และ 6.2% จากไตรมาสก่อน จากการจัดรีไฟแนนซ์ที่ต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ในไตรมาส 4/53 ยังมีรายได้พิเศษจากการขายเงินลงทุนในโลตัสที่จีนอีกประมาณ 380 ล้านบาท (ก่อนหักภาษี) ส่งผลให้กำไรก่อนรวมบริษัทร่วมและกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนในไตรมาส 4/53 อยู่ที่ 2,061 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.3% จากปีก่อน แต่ลดลง 41.8% จากไตรมาสก่อน ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 2,561 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.4% จากปีก่อน แต่ลดลง 40.2% จากไตรมาสก่อน ทั้งนี้ เป็นผลให้กำไรสุทธิปี 2553 อยู่ที่ 14,072 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38.1% จากปีก่อนที่ 10,190 บาท

สำหรับปี 2554 แนวโน้มปริมาณซัพพลายในอุตสาหกรรมไม่ได้ปรับเพิ่มขึ้น เนื่องจากแรงกดดันจากสภาพอากาศที่แปรปรวน อาจมีความเสี่ยงให้เกิดโรคในสัตว์มากขึ้น รวมถึงผลกระทบจากค่าเงินบาทที่ผันผวน และต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์สูงขึ้น จากแนวโน้มการคาดการณ์ผลผลิตในปี 2554 ที่ลดลง ขณะที่แผนขยายธุรกิจในประเทศของ CPF ในปี 2554 จะเน้นสินค้ากลุ่มอาหารที่เป็น Value Added และรุกตลาด Convenient Store ทั้ง CP FreshMart และธุรกิจเครือ 5 ดาว มากขึ้น เพื่อเพิ่มช่องทางจำหน่าย และลดความผันผวนในอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) และคงเน้นเพิ่มความหลากหลายในผลผลิตภัณฑ์ส่งออกเพื่อเพิ่มมาร์เก็ตแชร์
ด้านธุรกิจในต่างประเทศ CPF คงเน้นการขึ้นเป็นผู้จำหน่ายอาหารรายใหญ่ของโลก แต่อย่างไรก็ดี ข้อจำกัดที่เกิดขึ้นในตลาดและอุตสาหกรรมที่มีมากและหลากหลาย ทำให้การขยายลงทุนต้องเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป ทั้งนี้ในปีนี้ จะเห็นความชัดเจนของแผนการลงทุนในเคนยา และทันซาเนีย ส่วนการลงทุนในกัมพูชา คาดจะไม่เลื่อนแต่จะแล้วเสร็จในไตรมาส 1/54 ขณะที่สัดส่วนหุ้นที่ถือมีเพียง 25% และใช้งบลงทุน 500 ล้านบาท เท่านั้น จึงแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 26.50 บาท
 
Report to moderator   Logged Logged  
  The administrator has disabled public write access.
#94
Parday (User)
Expert Boarder
Posts: 96
graphgraph
User Offline Click here to see the profile of this user
Re:CPF 13 Years, 1 Month ago Karma: 0  
CPF แจ่มดีเกินคาด! ปันผลครึ่งหลัง 55 สต.

CPF ดีเกินคาดปันผล 0.55 บาท หลังกำไรปี 53 แตะ 1.36 หมื่นล้านบาท ปีนี้ยอดขายตั้งเป้าโต 10-15% จากการเพิ่มขึ้นกิจการต่างประเทศ ประกอบกับธุรกิจกุ้งเติบโตมากกว่า 20% ด้านกำไรสุทธิคาดว่าจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% พร้อมตั้งงบลงทุน 5 ปี รวม 4 หมื่นล้านบาท

นายอดิเรก ศรีประทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานคณะผู้บริหารบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF กล่าวว่า ผลการดำเนินงานปี 2553 สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยมีกำไรสุทธิรวม 13,563 ล้านบาท เติบโต 33% มากกว่าปี 2552 คิดเป็นกำไรสุทธิ 2.04 บาทต่อหุ้น พร้อมประกาศจ่ายปันผลครึ่งปีหลังของปี 2553 อีก 0.55 บาทต่อหุ้น เมื่อรวมกับเงินปันผลระหว่างกาลที่ 0.50 บาทต่อหุ้น ซึ่งจ่ายไปเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2553 คิดเป็นการจ่ายปันผลทั้งหมดรวม 1.05 บาทต่อหุ้นจากผลการดำเนินงานทั้งปี 2553

ด้านยอดขายปี 2553 รวม 189,049 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% จากปี 2552 ที่ส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มขึ้นของยอดขายจากกิจการในต่างประเทศ 55% และยอดขายของกิจการในประเทศที่เติบโตเพียง 5% ทำให้สัดส่วนยอดขายของกิจการต่างประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 26% ของยอดขายรวมจาก 19% ในปี 2552

สำหรับปีนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขายเติบโต 10-15% จากปี 2553 โดยส่วนใหญ่จะมาจากการเพิ่มขึ้นของกิจการต่างประเทศ ขณะที่กำไรสุทธิคาดว่าจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% จากปีก่อน ตามยอดขายที่ขยายตัว การพัฒนาบุคลากร การบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่าย รวมถึงการบริหารด้านการเงินและเงินลงทุนของบริษัท

“การขยายกิจการในต่างประเทศของบริษัทจะช่วยทำให้สัดส่วนยอดขายจากธุรกิจต่างประเทศเพิ่ม ป็น 40% ภายใน 5 ปี จากปัจจุบันที่มี 26% ขณะที่ยอดขายในประเทศมีสัดส่วน 60% และส่งออก 14%”
ด้านธุรกิจกุ้งในปีนี้มีแนวโน้มว่าภาพรวมน่าจะเติบโตมากกว่า 20% โดยเฉพาะการส่งออกกุ้งไปต่างประเทศในปีนี้ ที่คาดว่าจะเติบโตสูงถึง 40% เพิ่มเป็น 70,000 ตัน จากปีก่อนอยู่ที่ 50,000 ตัน ขณะที่มูลค่าการส่งออกจะเพิ่มขึ้นเป็น 15,000 ล้านบาท จากปีก่อนอยู่ที่ 10,500 ล้านบาท

“จากการที่บริษัทได้เริ่มพัฒนาสินค้ากุ้งปรุงสุกจำหน่ายในประเทศไทยและส่งออก จนได้เป็นที่ยอมรับจากทุกประเทศ และจากการพัฒนาของอุตสาหกรรมโดยรวมที่ทำให้ประเทศไทยมีต้นทุนการผลิตกุ้งที่แข่งขันได้ใ ตลาดโลก รวมทั้งบริษัทได้มีการขยายการลงทุนในธุรกิจกุ้งไปยังประเทศอื่นๆ ที่มีศักยภาพในการเติบโตของธุรกิจกุ้ง เช่น อินเดีย มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ จึงคาดว่าธุรกิจกุ้งโดยภาพรวมน่าจะเติบโตได้มากกว่า 20%”

ขณะเดียวกัน งบการลงทุนในช่วง 5 ปี (ปี 2554-2558) วงเงินรวม 40,000 ล้านบาท บริษัทจะแบ่งใช้ลงทุนปีละประมาณ 8,000 ล้านบาท โดยในปี 2554 จะใช้เพื่อการลงทุนในประเทศประมาณ 3,000-4,000 ล้านบาท เป็นการลงทุนห้องเย็น 2,000 ล้านบาท และใช้ปรับปรุงฟาร์มเลี้ยงสัตว์ ส่วนที่เหลือใช้ลงทุนในต่างประเทศ ได้แก่ ฟาร์มเลี้ยงสัตว์ในอินเดีย ฟาร์มเลี้ยงหมูในรัสเซีย และใช้ในการลงทุนที่ประเทศฟิลิปปินส์

นอกจากนี้ บริษัทยังเตรียมแผนลงทุนในทวีปแอฟริกา โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษารายละเอียด และคาดว่าจะเริ่มเข้าไปลงทุนในประเทศแทนซาเนียได้ภายในปี 2554 หลังจากคณะกรรมการบริษัทอนุมัติการลงทุนในทวีปแอฟริกาอย่างเป็นทางการ ซึ่งจะเริ่มจากธุรกิจอาหารสัตว์และฟาร์มเลี้ยงสัตว์
 
Report to moderator   Logged Logged  
  The administrator has disabled public write access.
#95
Parday (User)
Expert Boarder
Posts: 96
graphgraph
User Offline Click here to see the profile of this user
Re:CPF 13 Years, 1 Month ago Karma: 0  
CPF รับผลพวงสึนามิ ส่งออกไก่ – กุ้งกระฉูด : เชื่อออเดอร์ญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น

CPF รับผลพวงสึนามิถล่มญี่ปุ่น เชื่อนำเข้าไก่-กุ้งจากไทยแนวโน้มเพิ่มขึ้น เหตุประสบปัญหาขาดแคลนอาหารมากขึ้น มีสัดส่วนกว่า 30% จากยอดส่งออกของซีพีเอฟทั้งหมด ฟาก CENTEL รับกระทบเล็กน้อยเหตุนักลงทุนญี่ปุ่นเที่ยวไทยไม่เกิน 5% โบรกเกอร์แนะซื้อ CPF ขานรับวิกฤติอาหารโลก

นายอดิเรก ศรีประทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหารบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF เปิดเผยกับ“ข่าวหุ้นธุรกิจ” ว่า จากกรณีเกิดสึนามิและแผ่นดินไหวในประเทศญี่ปุ่น ขณะนี้ต้องมีการติดตาม แต่โดยภาพรวมทางบริษัทเชื่อว่าความต้องการอาหารยังมีอย่างต่อเนื่อง หากผลผลิตในญี่ปุ่นเกิดความเสียหาย น่าจะส่งผลให้มีการนำเข้าเพิ่มมากขึ้นเพื่อไปชดเชยกับสิ่งที่เสียหายจากกรณี ดังกล่าว

ทั้งนี้ โดยภาพรวม CPF มีสัดส่วนการส่งออกไปตลาดญี่ปุ่นมากกว่า 30% จากทั้งผลิตภัณฑ์ไก่และกุ้ง นอกจากนี้ยังมีการส่งออกไปยังตลาดยุโรป ในสัดส่วน 40%, ตลาดสหรัฐ 10% ส่วนที่เหลือเป็นการส่งออกในตลาดแถบเอเชีย อย่างไรก็ตาม จากกรณีดังกล่าว น่าจะทำให้เกิดการนำเข้ามากขึ้นเพื่อให้เพียงพอกับความต้องการ หลังจากที่ผลผลิตภายในเกิดความเสียหาย

นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) ระบุว่า สำหรับ CPF ได้มีการปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 2554-2555 ขึ้นอีก 11.3% และ 16.7% จากเดิม หรือที่ 15,685 ล้านบาท และ 17,200 ล้านบาท ตามลำดับ ส่งผลให้คาดว่ากำไรต่อหุ้น (EPS) ปี 2554-2555 ของ CPF จะเติบโตถึง 15.7% จากปีก่อน และ 9.3% จากปีก่อน ตามลำดับ ด้วยการปรับเพิ่มสมมติฐานราคาผลิตภัณฑ์ วัตถุดิบอาหารสัตว์หลักๆ และรายได้จากธุรกิจในต่างประเทศ

อีกทั้งได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ปริมาณการส่งออกกุ้งขึ้นจากเดิม 13.6% เพื่อสะท้อนข้อมูลใหม่ที่ได้รับล่าสุดจากผู้บริหาร เพราะแนวโน้มความต้องการบริโภคกุ้งในต่างประเทศที่ยังสดใสต่อเนื่อง ในขณะที่ผู้ส่งออกรายใหญ่ที่เป็นคู่แข่งของไทยยังคงประสบปัญหาโรคกุ้งระบาด เรื้อรัง
ขณะเดียวกัน จากการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ราคาอาหารทั่วโลก พบว่าแนวโน้มราคาผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์บกและสัตว์น้ำปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ในปี 2554 เป็นผลจากต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ซึ่ง ได้แก่ ข้าวโพด กากถั่วเหลือง ปลาป่น และข้าวสาลี ที่ปรับตัวสูงขึ้นเพราะได้รับผลกระทบจากสภาวะอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการ เพาะปลูก และทำให้ผลผลิตในประเทศผู้ผลิตรายใหญ่ลดลงจากปีที่ผ่านมา ได้แก่ สหรัฐอเมริกา บราซิล และประเทศในกลุ่มอดีตสหภาพโซเวียต อีกทั้งราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องถึง 25.6% จาก ณ สิ้นปี 2553 ส่งผลต่อเนื่องมายังต้นทุนในการขนส่งวัตถุดิบและสินค้าอาหาร

ทั้งนี้ สอดคล้องกับประเด็นเรื่องการเร่งนำเข้าสินค้าอาหารส่งออกของไทยจากผู้นำเข้า ในทวีปยุโรป เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะขาดแคลนอาหารที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต เป็นผลให้ราคาผลิตภัณฑ์สัตว์บกและสัตว์น้ำทุกรายการปรับตัวสูงขึ้นมาก ตั้งแต่ไตรมาส 4/53 เช่น ราคาไก่เป็นปรับตัวสูงขึ้นถึง 23% จากไตรมาสก่อน ราคาสุกรหน้าฟาร์มปรับตัวสูงขึ้น 5.6% จากไตรมาสก่อน และราคากุ้งขาวแวนาไมท์ปรับตัวเพิ่มขึ้น 10.6% จากไตรมาสก่อน

อย่างไรก็ตามมีมุมมองบวกมากขึ้นต่อ CPF ที่จะได้รับผลบวกจากสถานการณ์ดังกล่าว เนื่องจากบริษัทเป็นผู้ผลิตและส่งออกอาหารรายใหญ่ที่สุดของประเทศ ประกอบด้วย กุ้งปรุงสุก ไก่ปรุงสุก และอาหารแปรรูปพร้อมรับประทาน เป็นต้น อีกทั้งยังเป็นผู้นำในธุรกิจอาหารสัตว์บกและสัตว์น้ำ โดยเฉพาะอาหารกุ้งที่ครองส่วนแบ่งตลาดอันดับ 1 ในประเทศ
นอกจากนี้ CPF ยังมีบริษัทย่อยในต่างประเทศที่ดำเนินธุรกิจอาหาร ได้แก่ ไต้หวัน (ธุรกิจไก่) รัสเซีย (ธุรกิจสุกร) ตุรกี (ธุรกิจไก่) อินเดีย มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ (ธุรกิจสัตว์น้ำ) ดังนั้นหากความต้องการบริโภคสินค้าอาหารทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้น CPF จะได้รับประโยชน์จากรายได้ที่เพิ่มสูงขึ้นจากทั้งการส่งออก การขายภายในประเทศ และธุรกิจอาหารในต่างประเทศ
 
Report to moderator   Logged Logged  
  The administrator has disabled public write access.
#96
Parday (User)
Expert Boarder
Posts: 96
graphgraph
User Offline Click here to see the profile of this user
Re:CPF 13 Years, 1 Month ago Karma: 0  
CPF ลุยเบอร์เกอร์สเต๊กไก่

นายสุพัฒน์ ศรีธนาธร รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านการตลาด บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF เปิดเผยว่า บริษัทเปิดตัวผลิตภัณฑ์ไลน์เบอร์เกอร์ในรูปแบบซองแช่เย็นครั้งแรก กับเบอร์เกอร์สเต๊กไก่ นิวออร์ลีนส์ และเบอร์เกอร์สเต๊กไก่ เทอริยากิ เพื่อรุกตลาดในผลิตภัณฑ์กลุ่มอาหารว่างไก่ซีพี

เบอร์เกอร์สเต๊กไก่ ซีพี ถือเป็นสินค้านวัตกรรมใหม่ ที่ซีพีเอฟได้พัฒนาขึ้น เป็นเบอร์เกอร์ในซองพร้อมทาน เพื่อตอบรับความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบัน ที่ต้องการความสะดวก รวดเร็ว และประหยัดเวลา สามารถอุ่นไมโครเวฟทานเองได้ง่ายๆ ที่บ้าน เพียงแค่ฉีกซอง โดยมีให้เลือกถึง 2 รสชาติ คือ เบอร์เกอร์สเต๊กไก่ นิวออร์ลีนส์ ทำจากเนื้อไก่เต็มชิ้น หมักด้วยซอสนิวออร์ลีนส์ ที่มีส่วนผสมของปาปริก้า มีรสชาติจัดจ้าน และเบอร์เกอร์สเต๊กไก่ เทอริยากิ ทำจากเนื้อไก่เต็มชิ้น หมักด้วยซอสเทอริยากิสไตล์ญี่ปุ่น โดยเริ่มวางจำหน่ายกลางเดือนนี้ ที่เซเว่นอีเลฟเว่นทุกสาขา ราคาเพียงชิ้นละ 29 บาท

นอกจากนี้ บริษัทเตรียมเปิดตัวโฆษณาชุดใหม่ชื่อ “ชุดลองของ” สำหรับผลิตภัณฑ์ดังกล่าว โดยดึงเอากมล ทองพลับ มาเป็นพรีเซนเตอร์ ถือเป็นตัวแทนของคนที่ชอบลองของใหม่ โดยจะเริ่มออกอากาศกลางเดือนมีนาคม-เมษายน 2554 พร้อมเตรียมจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายกับกลุ่มวัยรุ่นในช่วงปิดเทอม บริเวณแหล่งช้อปปิ้งยอดฮิต เช่น สยาม และสถานี BTS คาดช่วยกระตุ้นยอดขายเติบโตไม่ต่ำกว่า 30%
“ด้วยไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้ผู้บริโภคหันมาบริโภคเบอร์เกอร์กันมากขึ้น การออกเมนูใหม่ครั้งนี้ ถือเป็นการรองรับตลาดสำหรับคนรักเบอร์เกอร์ โดยคาดว่าสินค้าดังกล่าวจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภค” นายสุพัฒน์ กล่าว

ปัจจุบัน ซีพีเป็นผู้นำในกลุ่มอาหารว่างไก่ ด้วยความหลากหลาย ถึง 11 เมนู ทำให้สามารถครองแชมป์ส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 61% ในส่วนของเมนูของว่างพร้อมทานประเภทไก่ ณ สิ้นปี 2553 พร้อมตั้งเป้าครองส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 65% ภายในปีนี้ หลังการออกโฆษณาและกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่อง

สำหรับงบการตลาดในกลุ่มอาหารแช่แข็งทั้งกลุ่มของว่างและกลุ่มอาหารพร้อม รับประทานในปีนี้ บริษัทเตรียมงบการตลาดและกิจกรรมส่งเสริมการขายสำหรับแคมเปญ “ลองของ” ของเบอร์เกอร์ ไว้ที่ 15 ล้านบาท การออกผลิตภัณฑ์เบอร์เกอร์ถือเป็นหนึ่งในแผนการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่ในปีนี้ตั้งเป้าว่าจะออกผลิตภัณฑ์ใหม่รวม 13 รายการ โดยเน้นอาหารว่างประเภทเนื้อไก่ หมู กุ้ง และอาหารสำเร็จรูปพร้อมรับประทาน

ซีพีเอฟถือเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมเกษตรและอาหารครบวงจรของไทย มีการลงทุนและพัฒนามาตรฐานกระบวนการผลิตและแปรรูปอาหารมาอย่างต่อเนื่อง ครอบคลุมตั้งแต่ฟาร์มเลี้ยงสัตว์ ไปจนถึงแปรรูปเป็นอาหาร หรือที่เรียกว่า “FROM FARM TO TABLE” และมาตรฐานสากลต่างๆ ที่ได้รับก็มีอย่างครบถ้วนไม่ว่าจะเป็น GMP, HACCP, ISO 9002, ISO14001, TIS18001 และ ISO17025
 
Report to moderator   Logged Logged  
  The administrator has disabled public write access.
#97
Parday (User)
Expert Boarder
Posts: 96
graphgraph
User Offline Click here to see the profile of this user
Re:CPF 13 Years, 1 Month ago Karma: 0  
ซีพีเอฟเตรียมส่งไก่คาราเกะ ช่วยผู้ประสบภัยในประเทศญี่ปุ่น

นายอดิเรก ศรีประทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทกำลังประสานงานกับ Seven & I Holding Corporation บริษัทผู้ดำเนินธุรกิจร้าน 7-Eleven ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นคู่ค้ากับซีพีเอฟมาอย่างยาวนานในการเป็นศูนย์กลาง เพื่อส่งมอบความช่วยเหลือด้านอาหารไปยังประชาชนผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวและสึนามิในญี่ปุ่

โดยเบื้องต้น ซีพีเอฟได้จัดเตรียมผลิตภัณฑ์เนื้อไก่แปรรูป ประเภทไก่คาราเกะซึ่งเป็นอาหารที่ชาวญี่ปุ่นคุ้นเคย จำนวน 16 ตัน หรือคิดเป็นมูลค่า 2,500,000 บาท ซึ่งจะขนส่งทางเรือ โดยคาดว่าทำการขนส่งได้ในสัปดาห์หน้า อย่างไรก็ตาม หากพบว่ากองทัพอากาศไทยจะมีการขนส่งสิ่งของช่วยเหลือไปญี่ปุ่น ก็จะส่งมอบไก่คาราเกะไปกับเครื่องบินของกองทัพด้วยอีกราว 1-2 ตัน

ทั้งนี้ Seven & I Holding Corporation จะทำการประสานพันธมิตรทางการค้าอื่นๆ เพื่อจัดตั้งศูนย์อำนวยการช่วยเหลือด้านอาหาร โดยออกแบบเป็นเต็นท์หรือมุมประกอบอาหาร และจะมีอาสาสมัครลงมือปรุงอาหารอย่างง่ายๆ แจกจ่ายแก่ผู้ประสบภัยและเจ้าหน้าที่ ซึ่งซีพีเอฟจะประสานกับ Seven & I Holding Corporation ในรายละเอียดอย่างใกล้ชิดต่อไป

ซีพีเอฟดำเนินธุรกิจกับประเทศญี่ปุ่นมาอย่างยาวนาน และมีความสัมพันธ์ที่ดี เมื่อพบว่าคู่ค้าของบริษัทประสบภัยพิบัติรุนแรง ก็พร้อมที่จะให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านอาหาร ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิต นายอดิเรก กล่าวในตอนท้าย
 
Report to moderator   Logged Logged  
  The administrator has disabled public write access.
#98
Parday (User)
Expert Boarder
Posts: 96
graphgraph
User Offline Click here to see the profile of this user
Re:CPF 13 Years ago Karma: 0  
CPF เร่งเพิ่มกำลังผลิต-ส่งออกไก่ไปญี่ปุ่น หลังลูกค้าสั่งออร์เดอร์เพิ่ม

ซีพีเอฟคาดส่งออกไก่แปรรูปไปญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น หลังลูกค้าร้องขอ เตรียมเพิ่มกำลังการผลิตส่งสินค้าป้อน คาดอาจทำให้ยอดส่งออกทั้งปีโต 15%

นายธีรศักดิ์ อุรุนานนท์ รองกรรมการผู้จัดการบริหาร สายงานอาหารแปรรูปสัตว์บก บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) (ซีพีเอฟ) เปิดเผยว่า ได้เร่งผลิตไก่แปรรูปล่วงหน้าเพื่อส่งออกไปญี่ปุ่นให้เร็วกว่ากำหนดเวลาเดิม เนื่องจากสต็อกอาหารในญี่ปุ่นลดลงจากภัยพิบัติแผ่นดินไหวและสึนามิ ทำให้ลูกค้าเร่งรัดการส่งออกสินค้าไก่แปรรูปให้เร็วขึ้น โดยอยู่ระหว่างการประเมินตัวเลขคำสั่งซื้อทั้งหมดและความสามารถในการผลิต สินค้าเพื่อสนองความต้องการของลูกค้า ทั้งนี้ คาดว่าจะสามารถเพิ่มกำลังการผลิตรองรับคำสั่งซื้อใหม่ได้ 20-25% ของกำลังผลิตปัจจุบัน ซึ่งที่ผ่านมา มีการส่งออกไก่แปรรูปไปญี่ปุ่นเดือนละ 2-2.5 พันตัน

การผลิตสินค้าเนื้อไก่แปรรูปส่งออกไปญี่ปุ่นที่เพิ่มขึ้นเป็นแค่ช่วง ระยะสั้น จะไม่ส่งผลต่อเป้าหมายรายได้ของบริษัท แต่ถ้าการส่งออกเพิ่มขึ้นไปเป็นระยะยาว จะทำให้เป้าหมายการส่งออกไก่แปรรูปของบริษัทเพิ่มขึ้นจากเดิมที่ตั้งเป้า ขยายตัวไว้ 10% เป็นโตกว่า 15% จากปีก่อนที่ส่งออกไก่แปรรูปประมาณ 8.6-8.7 หมื่นตัน ขณะที่ราคาส่งออกไก่แปรรูปได้ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นตามค่าเงินบาทที่แข็งค่า ขึ้น รวมทั้งต้นทุนสินค้าได้ปรับขึ้นด้วย ปัจจุบันราคาส่งออกไก่แปรรูปไปญี่ปุ่นอยู่ตันละ 4,500-5,000 เหรียญสหรัฐ

ส่วนกรณีที่ท่าเทียบเรือโตเกียวแออัดและมีปัญหาเกี่ยวไฟฟ้า ทำให้ส่งผลกระทบต่อสินค้าอาหารแช่แข็งที่นำเข้าไปญี่ปุ่นนั้น การส่งออกอาหารไก่แปรรูปแช่แข็งของบริษัทจัดส่งไปกับตู้คอนเทนเนอร์ที่มีการ ควบคุมความเย็นระหว่างขนส่งทางเรือเดินทะเล แต่เมื่อถึงท่าเทียบเรือที่ญี่ปุ่นก็เป็นหน้าที่ของผู้นำเข้าจะดำเนินการต่อ ไป แต่เชื่อว่าคงไม่มีปัญหา เพราะปัจจุบันลูกค้าได้เร่งรัดให้มีการส่งออกเร็วขึ้นอยู่แล้ว
 
Report to moderator   Logged Logged  
  The administrator has disabled public write access.
#99
Parday (User)
Expert Boarder
Posts: 96
graphgraph
User Offline Click here to see the profile of this user
Re:CPF 13 Years ago Karma: 0  
CPF ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้
เบื้องต้นเข้าถึง 6 จังหวัดแล้ว


ตามที่พี่น้องชาวไทยในพื้นที่ภาคใต้กำลังประสบอุทกภัยอย่างหนักในขณะนี้ ซีพีเอฟซึ่งเป็นผู้นำในธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหาร ตระหนักดีถึงความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านอาหารและน้ำดื่มซึ่งจำเป็นต่อการดำรงชีพ จึงได้เร่งให้ความช่วยเหลือทันทีผ่านมูลนิธิเพื่อนพึ่ง(ภาฯ)ยามยาก โดยมอบผลิตภัณฑ์ไก่สด ไข่ไก่สด และน้ำดื่ม เพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในการประกอบอาหารแจกจ่ายแก่ประชาชนในพื้นที่ประสบภัย ซึ่งเป็นการช่วยเหลือที่รวดเร็วดังเช่นทุกครั้ง

ล่าสุด บริษัทได้ประสานไปยังกาชาดจังหวัดทั้ง 6 จังหวัด ได้แก่ นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี กระบี่ ตรัง ชุมพร และพัทลุง โดยซีพีเอฟทำการสนับสนุนวัตถุดิบในการปรุงอาหาร เช่น ไก่สด และไข่ไก่สด พร้อมน้ำดื่ม ในทุกจังหวัดดังกล่าว พร้อมกันนี้ยังได้ประสานการจัดตั้งเต็นท์อำนวยการให้ความช่วยเหลือผู้เดือดร้อนและเจ้าห ้าที่อาสาสมัครต่างๆ ในพื้นที่ อ.เขาพนม จ.กระบี่ ซึ่งประสบเหตุโคลนถล่มด้วย

การช่วยเหลือในเบื้องต้นในแต่ละจังหวัด ซีพีเอฟจะจัดส่งเนื้อไก่และไข่ไก่เป็นรายวันทุกวัน เพื่อให้อาหารมีความสด และลดภาระในการจัดเก็บอาหารของเจ้าหน้าที่สภากาชาด ทั้งนี้ สามารถประเมินตัวเลขความช่วยเหลือในช่วงแรกนี้ เป็นจำนวนกว่า 800,000 บาท

ขณะเดียวกัน ซีพีเอฟได้มอบผลิตภัณฑ์กุ้งแปรรูปแช่แข็ง มูลค่า 60,000 บาท ผ่านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เพื่อช่วยเหลือประชาชนในตำบลแหลมตะลุมพุก อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช อีกทางหนึ่ง.
 
Report to moderator   Logged Logged  
  The administrator has disabled public write access.
#100
Parday (User)
Expert Boarder
Posts: 96
graphgraph
User Offline Click here to see the profile of this user
Re:CPF 13 Years ago Karma: 0  
CPF เป้าเกิน 35 บาท รับวิกฤติอาหารโลก : งบ Q1 กำไร 3.3 พันล้าน ดันทั้งปีทุบสถิติ 1.57 หมื่อนล้าน

CPF พุ่งแรงรับความต้องการอาหารโลกสูง คาดไตรมาส 1/54 กำไร 3.2-3.3 พันล้านบาท เชื่อทั้งปีกำไร 1.57 หมื่นล้านบาท ประกอบกับแนวโน้มราคาผลิตภัณฑ์ทั้งไก่-หมู-กุ้ง ปรับตัวสูงขึ้น ลุ้นกำไรครึ่งแรก 7.3-7.5 พันล้านบาท โบรกฯเชียร์ซื้อราคาเป้าหมาย 35.35 บาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (18 เม.ย.) ราคาหุ้นบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด(มหาชน) หรือ CPF ปรับตัวเพิ่มขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยระหว่างวันได้ปรับตัวขึ้นไปสูงสุด และปิดตลาดที่ระดับ 27.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท หรือ 4.72% มูลค่าการซื้อขาย 2,435.33 ล้านบาท

โดยบริษัทหลักทรัพย์เอเซีย พลัส จำกัด(มหาชน) ระบุว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 1/54 ของ CPF จะกลับมาเติบโตอีกครั้ง โดยประเมินกำไรสุทธิเบื้องต้นไว้ประมาณ 3,200-3,300 ล้านบาท และคาดว่าแนวโน้มกำไรไตรมาส 2/54 จะปรับตัวสูงขึ้นสู่ระดับ 4,100-4,200 ล้านบาท ได้รับอานิสงส์จากทิศทางราคาผลิตภัณฑ์หลักปรับตัวสูงขึ้น ทั้ง ไก่ สุกร และกุ้ง

ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานรายไตรมาสจะทำระดับสูงสุดไตรมาส 3/54 ที่ระดับประมาณ 4,800-4,900 ล้านบาท เนื่องจากเป็นช่วงพีค (Peak Season) ของธุรกิจส่งออกอาหาร สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานทั้งปี 2554 ของ CPF คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นถึง 15.6% จากปีก่อนมาสู่ระดับ 1.57 หมื่นล้านบาท มีปัจจัยบวกผลักดันจากแนวโน้มราคาเฉลี่ยของผลิตภัณฑ์ในประเทศปี 2554 ที่ปรับตัวสูงขึ้นมากกว่าปีที่ผ่านมา
อีกทั้ง CPF ได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่ ภาวะที่ความต้องการบริโภคสินค้าอาหารทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจาก CPF มีบริษัทย่อยในต่างประเทศที่ดำเนินธุรกิจอาหาร คิดเป็นสัดส่วน 26% ของรายได้รวมปี 2553 ได้แก่ ไต้หวัน (ธุรกิจไก่) รัสเซีย (ธุรกิจสุกร) ตุรกี (ธุรกิจไก่) อินเดีย มาเลเซียและฟิลิปปินส์ (ธุรกิจสัตว์น้ำ) ที่แสดงผลการดำเนินงานเป็นกำไรแล้วในปัจจุบัน ขณะที่แนวโน้มอนาคตยังแสดงการเติบโตที่ดี เป็นโอกาสที่ดีของ CPF ช่วงที่เกิดวิกฤติอาหารโลกขณะนี้

โดยจากการสำรวจราคาผลิตภัณฑ์หลักๆของ CPF ปัจจุบัน พบว่าราคาผลิตภัณฑ์สัตว์บกปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยราคาไก่เป็นปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 50 บาท/กิโลกรัม (กก.) ขณะที่ราคาเฉลี่ยปี 2554 เท่ากับ 47.24 บาท/กก. สูงกว่าถึง 18% จากสมมติฐานราคาไก่เป็นที่ใช้ประมาณการปี 2554-55 ที่ระดับ 40 บาท/กก.

เช่นเดียวกันกับราคาสุกรหน้าฟาร์มที่ปรับตัวสูงขึ้นมาสู่ระดับ 70 บาท/กก. โดยราคาเฉลี่ยสุกรปี 2554 เท่ากับ 59.40 บาท/กก. ใกล้เคียงกับสมมติฐานที่ใช้ในประมาณการปี 2554-55 ที่ 60 บาท/กก. ทั้งนี้ราคาไก่เป็นและสุกรหน้าฟาร์มปัจจุบันเป็นระดับราคาสูงสุดเป็น ประวัติการณ์ตั้งแต่เก็บข้อมูลมา

สำหรับราคาผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำ หรือกุ้งขาวแวนาไมท์ในปัจจุบันปรับตัวสูงขึ้นมาสู่ระดับ 150 บาท/กก. ซึ่งทำระดับสูงสุดในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ราคาผลิตภัณฑ์สัตว์บกและสัตว์น้ำที่ปรับตัวสูงขึ้น จะเป็นปัจจัยบวกต่อแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกของ CPF เนื่องจากมีรายได้จากธุรกิจไก่และสุกรในประเทศคิดเป็นสัดส่วน 26% ของรายได้รวมในปัจจุบัน

ดังนั้น จึงคงคำแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 35.35 บาท อิง อัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิ (PER) 15 เท่า ซึ่งใกล้เคียง PER เฉลี่ยของกลุ่มอาหารในไทยที่เท่ากับ 16 เท่า แต่ยังต่ำกว่าค่า PER ของคู่แข่งที่ดำเนินธุรกิจคล้ายกันในบราซิลที่มี PER ราว
18-23 เท่า

นอกจากนี้ราคาหุ้นปัจจุบันยังไม่ได้ตอบสนองข่าวดีเกี่ยวกับแนวโน้มที่ หุ้น CPF ถูกนำเข้าไปรวมในดัชนีอาเซียน (Asean Stars) ซึ่งรวบรวมหุ้น 30 ตัวแรกของตลาดหลักทรัพย์ในภูมิภาคตามเกณฑ์มูลค่าตลาดและสภาพคล่องของแต่ละ ประเทศสมาชิก

บริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุว่า CPF ปีนี้จะมีกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง จากราคาเนื้อสัตว์ที่ยังยืนอยู่ในระดับสูง รวมถึงได้รับอานิสงส์จากความต้องการอาหารในประเทศญี่ปุ่นที่สูงขึ้นภายหลัง พื้นที่เกษตรและปศุสัตว์บางส่วนได้รับความเสียหายจากสึนามิ จึงปรับประมาณการกำไรปีนี้เพิ่มขึ้น 5% มาอยู่ที่ 14,797 ล้านบาท เติบโต 9% จากปีก่อน

โดยคาดว่ากำไรจะฟื้นตัวตั้งแต่ไตรมาส 1/54 และจะเห็นกำไรสูงสุดปีนี้เมื่อเข้าสู่ไฮซีซั่น (High Season) ไตรมาส 2/54-3/54 พร้อมรับราคาเป้าหมายเป็น 31 บาท จากเดิมที่ 25 บาท ซึ่งอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิ (PE) เป็น 15 เท่า ใกล้เคียงกับ PE ของธุรกิจอาหารทั่วโลก จากการเติบโตของกำไรปีนี้ที่มากขึ้น และแผนการเติบโตแบบยั่งยืนทั้งในประเทศและต่างประเทศ ที่จะเพิ่มสัดส่วนรายได้ธุรกิจต่างประเทศเป็น 40% ของยอดขายทั้งหมด จากปัจจุบัน 26% (11 ประเทศ) จึงแนะนำซื้อลงทุน

ก่อนหน้านี้ นายอดิเรก ศรีประทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานคณะผู้บริหาร CPF กล่าวว่า ปีนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขายเติบโต 10-15% จากปี 2553 ส่วนใหญ่จะมาจากการเพิ่มขึ้นของกิจการต่างประเทศ ขณะที่กำไรสุทธิจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% จากปีก่อน ตามยอดขายที่ขยายตัว การขยายกิจการในต่างประเทศจะช่วยทำให้สัดส่วนยอดขายจากธุรกิจต่างประเทศ เพิ่มเป็น 40% ภายใน 5 ปี จากปัจจุบันที่มี 26%

ด้านธุรกิจกุ้งปีนี้มีแนวโน้มว่าภาพรวมน่าจะเติบโตมากกว่า 20% โดยเฉพาะการส่งออกกุ้งไปต่างประเทศในปีนี้ ที่คาดว่าจะเติบโตสูงถึง 40% เพิ่มเป็น 70,000 ตัน จากปีก่อนอยู่ที่ 50,000 ตัน ขณะที่มูลค่าการส่งออกจะเพิ่มขึ้นเป็น 15,000 ล้านบาท จากปีก่อนอยู่ที่ 10,500 ล้านบาท
 
Report to moderator   Logged Logged  
  The administrator has disabled public write access.
#101
Parday (User)
Expert Boarder
Posts: 96
graphgraph
User Offline Click here to see the profile of this user
Re:CPF 12 Years, 12 Months ago Karma: 0  
โบรกฯ เชียร์ซื้อ CPF ปรับขึ้นกำไรสุทธิปี 54 จากราคาเนื้อสัตว์ทำนิวไฮ

โบรกเกอร์ต่างเห็นพ้อง"ซื้อ"หุ้นบมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร(CPF)จากการปรับ ประมาณการกำไรสุทธิปี 54 และมูลค่าพื้นฐานตามกำไรที่สูงขึ้น ปัจจัยหลักมาจากราคาเนื้อสัตว์ทั้งไก่ หมู และกุ้ง ปรับตัวขึ้นสูง โดยเฉพาะในเดือนเม.ย.ราคาได้ทำสถิติสูงสุด และคาดว่าราคาเฉลี่ยในปีนี้จะสูงขึ้นกว่าปีก่อน เป็นผลจากซัพพลายหายไปมาก แต่ความต้องการยังสูง

ทั้งนี้ ประมาณการกำไรสุทธิปี 54 ที่ปรับใหม่เพิ่มเป็น 1.70-1.45 หมื่นล้านบาท เทียบกับปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1.35 หมื่นล้านบาท จากเดิมบางโบรกเกอร์คาดว่าจะไม่ค่อยมีอัตราเติบโตในปีนี้
แต่ขณะนี้คาดการณ์ว่ากำไรสุทธิในไตรมาส 1/54 จะเติบโดอย่างมีนัยสำคัญ รับผลบวกจากช่วงปีใหม่และตรุษจีน นอกจากนี้ คาดว่า CPF จะได้รับประโยชน์จากการลงทุนในต่างประเทศ ประเมินว่าใน 3-4 ปีนี้จะมีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศเพิ่มเป็น 30% จากปี 53 อยู่ที่ 26%

โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย(บาท)
บล.เอเซียพลัส ซื้อ 35.35
บล.บัวหลวง ซื้อ 34.50
บล.ธนชาต ซื้อ 33.00
บล.กิมเอ็ง ซื้อ 32.00
บล.กรุงศรีอยุธยา เก็งกำไร อยู่ระหว่างปรับคาดที่ 27.50-32.00
นายสิทธิเดช ประเสริฐรุ่งเรือง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.กรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า กำลังอยู่ระหว่างปรับประมาณกำไรสุทธิในปี 54 ของ CPF จากเดิมประมาณการไว้ที่ 13,500 ล้านบาท เป็น 14,500 บาท หลังจากราคาเนื้อสัตว์ในเดือนม.ย.54 ปรับตัวสูงขึ้นทำสถิติสูงสุด รวมทั้งจะปรับเป้าหมายปี 54 คาดไว้ที่ 27.50-32.00 บาท จากเดิมให้ไว้ 25.50 บาท

ในช่วง 3 สัปดาห์แรกของเดือนเม.ย.ราคาเนื้อไก่ได้ปรับขึ้น 19% จากช่วงดียวกันของปีก่อน มาอยู่ที่ 51 บาท/กก. และราคาเนื้อหมูก็ปรับขึ้น 9% จากปีก่อนช่วงเดียวกัน มาอยู่ที 67 บาท/กก.

ทั้งนี้ คาดว่าราคาเนื้อสัตว์จะทรงตัวในระดับสูงไปจนถึงสิ้นปี โดยเนื้อไก่และหมู คิดเป็นรายได้ของ CPF สัดส่วน 30% จึงจะปรับประมาณการรายได้ในปี 54 ด้วยจากที่ผู้บริหารให้ข่าวว่ารายได้จะเติบโต 15% จากเดิม 10%

"ถ้าราคาเนื้อสัตว์เฉลี่ยสูงไปถึงสิ้นปี จะทำให้กำไรปรับขึ้นอีก 8% และทำให้มูลค่าพื้นฐานเพิ่มด้วยที่ 27.50 บาท คิดบน P/E 12 เท่า แต่ถ้าคิดบน P/E 15 เท่าซึ่งเป็นP/E อุตสาหกรรมอาหารในภูมิภาคนี้จะเท่ากับ 32.00 บาท แต่คิดว่าให้เล่นเก็งกำไร หรือเล่นสั้น ก็เทรดดิ้งระหว่าง 27.50-32.00 บาท"นายสิทธิเดช กล่าว

ด้านนักวิเคราะห์จาก บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย)กล่าวว่า มีแนวโน้มปรับขึ้นประมาณการกำไรสุทธิ ปี 54 ของ CPF จากที่ประมาณการไว้ 14,700 บาท รวมทั้งปรับเพิ่มราคาเป้าหมายจากปัจจุบันให้ไว้ 28.75 บาท เนื่องจากราคาเนื้อไก่และเนื้อหมูปรับตัวขึ้นอย่างมากในเดือนเม.ย.ตามความ ต้องการเนื้อสัตว์สูงต่อเนื่องมาตั้งแต่เทศกาลตรุษจีน ขณะที่ซัพพลายในตลาดลดลง ทำให้มาร์จิ้นของบริษัทดีขึ้น และคาดว่าในไตรมาส 2/54 ก็ยังจะดีขึ้นต่อเนื่อง

ขณะที่บทวิเคราะห์ บล.เอเซียพลัส ระบุ มีมุมมองบวกมากต่อแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 54 ของ CPF โดยคาดว่าแนวโน้มกำไรสุทธิจะเดินหน้าทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง ซึ่งได้รับปัจจัยบวกจากทั้งธุรกิจในประเทศและต่างประเทศ โดยธุรกิจในประเทศจะได้รับอานิสงส์จากราคาผลิตภัณฑ์ทั้งสัตว์บกและสัตว์น้ำ โดดเด่นต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 53 โดยราคาเฉลี่ยไก่เป็นในปี 54 อยู่ที่ระดับ 47.40 บาท/กก.ราคาเฉลี่ยกุ้งขาวแวนาไมท์เท่ากับ 140 บาท/กก.สูงกว่าสมมติฐานของฝ่ายวิจัยถึง 18.5% และ 16.7% ตามลำดับ

โดยในเบื้องต้นคาดว่าประมาณการกำไรสุทธิและ Fair value ใหม่ปี 2554 จะเพิ่มขึ้นเป็น 1.7 หมื่นล้านบาท และ 38 บาท(อิง PER 15 เท่า) ตามลำดับ

ในขณะที่ธุรกิจในต่างประเทศคาดว่าจะได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่ จากภาวะที่ความต้องการบริโภคสินค้าอาหารทั่วโลกเพิ้มสูงขึ้น เนื่องจาก CPF มี บ.ย่อยในต่างประเทศที่ดำเนินธุรกิจอาหาร คิดเป็นสัดส่วน 26% ของรายได้รวมในปี 53 ได้แก่ ไต้หวัน (ธุรกิจไก่) รัสเซีย (ธุรกิจสุกร) ตุรกี (ธุรกิจไก่) อินเดีย มาเลเซียและฟิลิปปินส์ (ธุรกิจสัตว์น้ำ) ซึ่งล้วนแสดงผลการดำเนินงานที่เป็นกำไรแล้วในปัจจุบัน โดยฝ่ายวิจัยคาดว่ารายได้จากธุรกิจในต่างประเทศในระยะ 3-4 ปีข้างหน้าจะเติบโตในระดับเฉลี่ย 30%

"ฝ่ายวิจัยยังคงคำแนะนำซื้อ จากคาดการณ์ EPS ปี 54-55 ที่เติบโตเฉลี่ย 15.7% yoy และ 9.3% yoy ตามลำดับ โดยกำหนด Fair value ปี 54 เท่ากับ 35.35 บาท อิง PER 15 เท่า ซึ่งใกล้เคียง PER เฉลี่ยของกลุ่มอาหารในไทยที่เท่ากับ 16 เท่า"บทวิเคราะห์ระบุ

ส่วนกำไรสุทธิในไตรมาส 1/54 ของ CPF คาดที่ 3.42 พันล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยฯถึง 67% qoq เนื่องจากได้รับผลบวกจากเทศกาลปีใหม่และตรุษจีนในเดือนก.พ.54 ส่งผลให้ความต้องการบริโภคเนื้อสัตว์ในประเทศปรับตัวสูงขึ้น แม้ว่าตลาดต่างประเทศยังเป็นช่วง Low season ของการส่งออกก็ตาม

--อินโฟเควสท์
 
Report to moderator   Logged Logged  
  The administrator has disabled public write access.
#102
Parday (User)
Expert Boarder
Posts: 96
graphgraph
User Offline Click here to see the profile of this user
Re:CPF 12 Years, 11 Months ago Karma: 0  
CPF ไตรมาส 2-3 กระฉูด ธุรกิจทุกตัวหนุนกำไร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น CPF ล่าสุดอยู่ที่ 29.75 บาท ลดลง 0.25 บาท โบรกแนะซื้อกำไรไตรมาส 1 เพิ่มขึ้น 70% ราคาเป้าหมาย 40 บาท
บล.ทรีนีตี้ระบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ CPF: คาดการณ์ผล ประกอบการไตรมาส 1/54 ราว 3,560 ล้านบาท เพิ่มขึ้น70% จากไตรมาสก่อนหน้า และ 9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ถือหุ้น CPALL ราว 29% ซึ่งเราคาดกำไรสุทธิไตรมาส1/54 ของ CPALL ราว 1,800-1,950 ล้านบาท กำไรปันส่วนจาก CPALL อยู่ราว560 ล้านบาท การที่กำไรสุทธิสดใสขึ้นมาจากระดับมาตรฐานของไตรมาส 1 ที่ราว2,500-3,000 ล้านบาทได้นั้น ปลายไตรมาส 1/54 นี้ ราคาหมูและราคาไก่ปรับตัวขึ้นอย่างมาก เฉพาะในไตรมาส 1/54 ราคาเนื้อหมู-ไก่ในประเทศปรับตัวขึ้นมาราว14% จากไตรมาสก่อน โดยราคา ณ ปัจจุบันยืนที่ระดับสูงกว่าไตรมาส 4/53 ถึงราว30% ราคาวัตถุดิบเช่นข้าวโพด กากถั่วเหลือง ปลาป่น ปรับขึ้นโดยรวมเพียง 10%แถม CPF ล็อคราคาเป็นราคาเดิมของปีก่อนได้ถึง ต.ค.54 คาดว่ากำไรขั้นต้นสูงโดดเด่น ราคาไก่ในประเทศอยู่ที่ 53-55 บาทต่อ กก.แต่ต้นทุนอยู่ราว 38 บาทต่อกก.เนื้อหมูราคาขาย 70 บาท ต้นทุน 60 บาท ต่อ กก.ดีสุดเป็นประวัติการณ์ของการทำธุรกิจ CPF

แต่ผลประกอบการจะโดดเด่นมากในช่วงไตรมาส 2/54 และ3/54 เนื่องจากเราเชื่อว่าราคาเนื้อสัตว์ปรับตัวขึ้นแล้วจะลดลงยาก และในไม่ช้าราคาไก่ส่งออกไปญี่ปุ่นน่าจะได้รับการปรับขึ้นตาม ส่วนทางด้านธุรกิจกุ้งนั้น การที่CPF ครบวงจรมากกว่าผู้ประกอบการรายใด ทำให้ขณะนี้ด้านธุรกิจส่งออกกำลังได้ผลบวกจากราคากุ้งแปรรูปส่งออกราคาปรับ ตัวดีขึ้นต่อเนื่อง เกี๊ยวกุ้งซึ่งได้เข้าจำหน่ายในสหรัฐฯ โดยเฉพาะวอลมาร์ทตั้งแต่ต้นปี จะเป็นที่มีการเติบโตของยอดขายในส่วนธุรกิจอาหารเพิ่มให้กับ CPF คาดกำไรปี 2554 ที่ 16,000 ล้านบาทEPS 2.42 บาท ปี 2555 คาดกำไรสุทธิ 18,000 ล้านบาท EPS 2.52 บาท (เผื่อขายหุ้น Treasury คืน) กำหนดค่า PER 16 เท่า ราคาเป้าหมายใหม่ 40 บาท
 
Report to moderator   Logged Logged  
  The administrator has disabled public write access.
#103
Parday (User)
Expert Boarder
Posts: 96
graphgraph
User Offline Click here to see the profile of this user
Re:CPF 12 Years, 11 Months ago Karma: 0  
“ซีพีเอฟ” มุ่งเป้าสู่ครัวโลก

เปิดแผนตลาดส่งออกเนื้อไก่ซีพีเอฟ เบนเข็มสู่เอเชีย ขณะที่ตลาดอียูติดกำแพงโควตา พร้อมมุ่งสร้างแบรนด์ "ซีพีเอฟ" ลดสัดส่วนรับจ้างผลิต เพื่อเป็นครัวของโลกอย่างแท้จริง ส่วนสถานการณ์โรคระบาดไม่สะเทือนเพราะเลี้ยงในระบบฟาร์มปิด

นายธีรศักดิ์ อุรุนานนท์ รองกรรมการผู้จัดการบริหารสายธุรกิจอาหารแปรรูปและครบวงจร บริษัท ซีพีเอฟ ผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ถึงแผนการส่งออกไก่แปรรูปของบริษัทปีนี้จะเติบโตประมาณ 6-7% มูลค่ารวมประมาณ 70,000-80,000 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนตลาดสหภาพยุโรปหรืออียูประมาณ 50 % ตลาดญี่ปุ่น 30% ตลาดในประเทศ 10% และได้เริ่มหันมาทำตลาดภูมิภาคเอเชีย อาทิ ฮ่องกง สิงคโปร์ และเกาหลี เนื่องจากตลาดยุโรปกำหนดโควตานำเข้าปีละ 160,033 ตัน หากเกินโควตาผู้นำเข้าจะต้องเสียภาษีสูงอีก 3 เท่าตัวโอกาสขยายตลาดอียูมีน้อยจึงหันมาขยายตลาดเอเชียทดแทน

ทั้งนี้ซีพีเอฟมีเป้าหมายจะผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ซีพีเอฟมากขึ้น โดยตั้งเป้าภายใน 3 ปีข้างหน้าแบรนด์ซีพีเอฟจะมีสัดส่วน 50% และรับจ้างผลิต 50% จากปีนี้ที่รับจ้างผลิตประมาณ 75-80% แบรนด์ของซีพีเอฟ 20-25% โดยเป็นไปตามนโยบายของบริษัทที่มุ่งมั่นผลักดันให้ซีพีเอฟเป็น "ครัวของโลก" อย่างสมบูรณ์แบบ
สำหรับปี 2554 มีแผนการลงทุนปรับปรุงเครื่องจักรโดยใช้เงินลงทุนประมาณ 500-600 ล้านบาท เพื่อที่จะลดกำลังคนและหันมาผลิตด้วยเครื่องจักรแทน เพราะค่าจ้างแรงงานสูง ปัจจุบันมีกำลังผลิตประมาณ 90,000 ตันต่อปี ปีหน้าอาจจะถึง 100,000 ตัน

นายธีรศักดิ์ กล่าวถึงรายได้ไตรมาสแรกปี 2554 หากเทียบช่วงเดียวกัน ยังไม่เติบโตมากนัก แต่คาดว่าไตรมาส 2-3 จะเพิ่มขึ้น เพราะราคาไก่สูงขึ้นเนื่องจากผลผลิตไก่ลดลงจากภาวะอากาศแปรปรวนอัตรารอดการเลี้ยงไก่ต่ำ แต่การควบคุมการเลี้ยงที่เข้มงวดทำให้ฟาร์มของซีพีเอฟไม่ได้รับความเสียหายเหมือนฟาร์มอ ่นๆ เพราะซีพีเอฟเลี้ยงด้วยระบบฟาร์มปิด 100% ใช้ระบบความปลอดภัยทางชีวภาพ (Biosecurity) เข้มงวดกับการเข้า-ออกฟาร์ม โดยต้องมีการฆ่าเชื้อทั้งบุคลากรและพาหนะก่อนเข้าฟาร์ม ซึ่งบริษัทดำเนินการในระบบนี้มา ก่อนมีวิกฤติไข้หวัดนก ถือว่าเป็นหัวใจหลักของระบบฟาร์ม

นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์เนื้อไก่ภายใต้แบรนด์ซีพีเอฟ ยังสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ในทุกขั้นตอน(Traceability) ขณะเดียวกันยังมีการเพิ่มระบบติดตามดาวเทียมหรือจีพีเอส เพื่อติดตามการเคลื่อนย้ายสัตว์ ซึ่งกระบวนการนี้สามารถควบคุมการเคลื่อนย้ายสัตว์เพื่อไปยังโรงชำแหละได้เป็นอย่างดีตั้ แต่เข้าสู่กระบวนการชำแหละจนออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ไก่สดซีพีเอฟ หรือไก่ปรุงสุกซีพีเอฟ ที่ส่งจำหน่ายในทุกภูมิภาคทั่วโลก โดยทุกขั้นตอนการผลิตล้วนแล้วแต่ปลอดภัย ปลอดสาร และปลอดโรค
 
Report to moderator   Logged Logged  
  The administrator has disabled public write access.
Go to top Post Reply
Powered by FireBoardget the latest posts directly to your desktop

Login

Forgot your password? Create an account
mod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_counter
mod_vvisit_counterToday3472
mod_vvisit_counterYesterday42687
mod_vvisit_counterAll days167220456

We have: 355 guests online
Your IP: 3.145.196.87
 , 
Today: Apr 17, 2024

4187976