Error
ดัชนีเช้าลุ้นรีบาวน์
Print
Wednesday, 26 May 2010 10:37

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีรธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยในช่วงเช้าวันนี้จะอยู่ในลักษณะผันผวน โดยมีโอกาสรีบาวน์ตามทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดหุ้นสหรัฐฯ หลังจากเมื่อคืนนี้แม้ว่าดัชนีดาวโจนส์จะปรับตัวลดลงแรงในช่วงระหว่างการซื้อขายกว่า 200 จุด โดยได้หลุด 10000 จุด แต่ช่วงที่ปิดการซื้อขายดัชนีฯ ได้รีบาวน์ปิดลบที่ 22 จุด สะท้อนได้ว่านักลงทุนคลายความกังวลกับปัญหาหนี้สาธารณะของประเทศกรีซ ซึ่งส่วนตัวมองว่าปัญหาดังกล่าวยังคงเป็นปัญหาเรื้อรัง ดังนั้นนักลงทุนควรต้องติดตามอย่างใกล้ชิดเพื่อประกอบพิจารณาการลงทุน

ทั้งนี้ เบื้องต้นประเมินว่าสัญญาณทางเทคนิคของดัชนีหุ้นไทย มองว่าไม่น่าจะหลุดแนวรับที่ 720 จุด แต่จะรีบาวน์ในกรอบที่จำกัด เพราะยังมีปัจจัยเสี่ยงที่เข้ามารุมเร้าอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะปัญหาการเมืองและปัญหาวิกฤตการเงินประเทศกรีซ ที่อาจจะลุกลามไปยังประเทศอื่นๆ ในแถบยูโรโซน

'หุ้นไทยเช้านี้จะมีโอกาสรีบาวน์ตามตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่แม้ปรับลดลงแรงในช่วงการซื้อขายแต่ดีดตัวขึ้นได้ในช่วงปิดตลาดฯ ประกอบกับปัญหาการเมืองในประเทศเริ่มเบาบางลง หลังจากที่รัฐบาลได้เริ่มออกแพ็กเก็จมาตราการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากเหตุจลาจลของกลุ่มนปช. ในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งเชื่อว่าแนวรับที่ 720 จุด ยังเหนียวแน่นอยู่'นายเทิดศักดิ์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม แนะนำทยอยซื้อหากดัชนีฯ ปรับลดลง ประเมินแนวรับ 720 จุด และแนวต้าน 730-735 จุด

ด้านนายรณกฤต สารินวงศ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.คันทรี่ กรุ๊ป กล่าวว่า แนวโน้มดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยเช้าวันนี้จะรีบาวน์ตามสัญญาณเทคนิค เช่นเดียวกับทั้งตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชีย ภายหลังจากที่ปรับตัวลดลงแรงต่อเนื่องมาหลายวันจากความไม่มั่นใจต่อปัญหาทางการเงินและสถาบันการเงินในแถบยุโรป

โดยดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นนิวยอร์ค ปิดที่ระดับ 10043.75 จุด  ลดลง 22.82 จุดหรือ -0.23%,  ดัชนีนิกเกอิ  ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ปิดตลาดเช้าที่ระดับ  9,485.46 จุด เพิ่มขึ้น 25.57 จุด หรือ 0.27 %, ดัชนีฮั่งเส็ง ตลาดหุ้นฮ่องกง เวลา 09:00 น. (ตามเวลาประเทศไทย) อยู่ที่ระดับ 19,177.34 จุด เพิ่มขึ้น 191.84 จุด ส่วนราคาน้ำมันดิบไลท์ล่วงหน้าสัญญาส่งมอบเดือนกรกฎาคม ที่ตลาดนิวยอร์ค ปิดตลาดที่ราคา 68.75  ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 1.46 ดอลลาร์ หรือ 2.08%

อย่างไรก็ตาม ปัจจัยต่างๆ ทั้งจากการเมืองไทยซึ่งมีความไม่ชัดเจนในระยะต่อไปมากนัก ภายหลังจากสลายการชุมนุมและอยู่ในช่วงการฟื้นฟูเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงปัจจัยต่างประเทศที่ได้กล่าวข้างต้นยังไม่ได้หายไป เพียงแต่นักลงทุนรับรู้ปัจจัยต่างๆ แล้วเท่านั้น ดังนั้นน้ำหนักการรีบาวน์ทางเทคนิคจึงมีมากกว่า

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำว่าหากตลาดฯ มีการคลายตัวสามารถเก็งกำไร โดยลงทุนให้จบภายในวัน สำหรับหุ้นในกลุ่มพลังงานที่มีความโดดเด่น ได้แก่ PTTEP เนื่องจากทิศทางราคาน้ำมันในตลาดโลกเริ่มมีแนวโน้มที่จะรีบาวน์ขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถลงทุนในหุ้นที่มีความโดดเด่น อาทิ กลุ่มยานยนต์ อาหาร อิเล็กทรอนิกส์ และกลุ่มเกษตรเพิ่มเติมด้วย ทั้งนี้ประเมินแนวรับอยู่ที่ 714 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 734 จุด

ด้านนายชัย จิระเสวีนุประพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.พัฒนสิน กล่าวว่า แนวโน้มดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยในวันนี้เปิดการซื้อขายมีโอกาสปรับลดลงทดสอบแนวรับที่ 714 จุด และ 710 จุด เนื่องจากถูกปัจจัยลบกดดันจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปิดตลาดปรับลดลง 1.46 ดอลลาร์  มาปิดตลาดที่ 68.75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แต่ทั้งนี้ประเมินว่าอัตราการปรับลดลงจะไม่แรงเท่ากับในช่วง 2 วันซื้อขายก่อนหน้า เนื่องจากได้รับอิทธิพลเชิงบวกจากตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่ที่เปิดการซื้อขายในแดนบวก สวนตลาดหุ้นในภูมิภาคยุโรปที่เคลื่อนไหวอยู่ในแดนลบ

อย่างไรก็ดี บรรยากาศการลงทุนในวันนี้ยังขาดปัจจัยสนับสนุนใหม่ๆ ที่เข้ากระตุ้นการลงทุนอย่างชัดเจน ขณะที่ปัจจัยในประเทศยังไม่มีการเคลื่อนไหวที่เป็นเชิงบวกอย่างมีนัยสำคัญ ด้านปัจจัยที่จะต้องติดตามคือการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจประจำเดือนของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่จะมีการแถลงในพรุ่งนี้ (27 พ.ค.53) ว่าจะมีแนวโน้มตัวเลขออกมาอย่างไร

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำพิจารณารอซื้อที่บริเวณแนวรับในหุ้นกลุ่มพลังงาน และหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ที่จะได้รับอานิสงส์จากการอ่อนค่าของเงินบาท ประเมินแนวรับอยู่ที่ 714 จุด และ 710 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 730-735 จุด     





Written by :
พิราบขาว
 

Comments

B
i
u
Quote
Code
List
List item
URL
Name *
Code   
ChronoComments by Joomla Professional Solutions
Submit Comment