นางสาวธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยาร ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยวันนี้เคลื่อนไหวแกว่งตัวกรอบแคบในแดนบวก ปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง เนื่องจาก ตลาดฯ ยังกังวลต่อปัญหาหนี้สินของยุโรป ที่ยังไม่มีทิศทางที่ชัดเจน

'ดัชนีฯ แกว่งตัวในกรอบแคบเชิงบวก โดยบวกมากสุดก็ประมาณ 8 จุด และวอลุ่มก็ไม่ได้มากนัก เรามองว่ารอบนี้ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ เพราะยังมีปัญหาหนี้สินยุโรปที่ไม่ได้มีทิศทางที่ชัดเจน ทุกคนมองว่า Nagative และเข้ามาเป็นความกังวลของตลาด ทำให้ดัชนีฯ จะลงก็ลงไม่มาก และช่วงจังหวะที่จะขึ้นก็ขึ้นไม่มากนัก เราคงจะต้องทนอยู่กับ Factor นี้ไปก่อนสักระยะ มองกรอบแนวต้าน 760-770 จุด ควรระวังแรงขาย ส่วนแนวรับอยู่ที่ 720-700 จุด 'นางสาวธีรดา กล่าว

อนึ่งตลาดหุ้นในต่างประเทศ อาทิ ดัชนี สเตรทไทม์  ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ปิดตลาดที่ระดับ 2,727.57 จุด เพิ่มขึ้น 12.13 จุด หรือ 0.45% ด้านดัชนี คอมโพสิต  ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย ปิดตลาดที่ระดับ 2,733.68 จุด เพิ่มขึ้น 9.06 จุด หรือ 0.33% และดัชนี BSESN ตลาดหุ้นอินเดีย เวลา 16:09 น. (ตามเวลาประเทศไทย) อยู่ที่ระดับ 16,653.86 จุด เพิ่มขึ้น 81.83 จุด

นอกจากนี้ ยังมีแรงซื้อกลับเข้ามาในหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ตอบรับข่าวการเปิดซองประมูลรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินสัญญาที่ 3 และสัญญาที่ 4 ซึ่งพบว่าบมจ.ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอน สตรัคชั่น (UNIQ) และ บมจ.ซิโนไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น(STEC) ได้รับงานประมูลตามลำดับ

ทั้งนี้ การเมืองภายในประเทศไม่ได้มีผลต่อการลงทุนในตลาดหุ้นไทยวันนี้ เพราะในช่วงเช้าที่ผ่านมาการโหวตลงมติไว้วางใจนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และอีก 5 รัฐมนตรี นอกจากนี้ การประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง.ในช่วงบ่ายนี้ที่ผ่านมา ไม่ได้ผิดความคาดหมาย โดยธปท. ประกาศคงอัตรา
ดอกเบี้ยไว้ 1.25%ตามเดิม จึงไม่มีมีผลกดดันต่อบรรยากาศการลงทุน

สำหรับแนวโน้มของดัชนีฯ ในวันพรุ่งนี้ ( 3 มิ.ย.2553) มีโอกาสที่แกว่งตัวในกรอบแคบ เพราะไม่มีปัจจัยใหม่สนับสนุน พร้อมกันนี้ ต้องติดตามการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ และตัวเลขเศรษฐกิจฝั่งยุโรป ประกอบการลงทุน เพื่อพิจารณาถึงผลกระทบที่อาจจะต่อเนื่องมายังเศรษฐกิจโลก

ส่วนปัจจัยทางการเมืองภายในประเทศไม่ได้มีความคืบหน้า จึงยังไม่มีผลต่อบรรยากาศการลงทุน แต่สิ่งที่ต้องติดตามการเมืองอีกครั้ง ภายหลังจากการปรับคณะรัฐมนตรี หรือครม. ว่าจะเป็นอย่างใดต่อ หลังมีเสียงแตกจากพรรคเพื่อแผ่นดิน ซึ่งเป็นหนึ่งในพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งคงต้องเป็นประเด็นที่ต้องติดตาม เพราะการปรับ
ครม.อาจจะมีผลต่อนโยบาย

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ ขึ้นขายลงซื้อ หรือ เก็งกำไร โดยถือหุ้น 50% และถือเงินสด 50%

ทั้งนี้ประเมินแนวรับดัชนีฯ ไว้ที่  740 จุด แนวต้าน  765 จุด                

Written by :

พิราบขาว

 

Comments

B

i

u

Quote

Code

List

List item

URL

Name *
Code   
ChronoComments by Joomla Professional Solutions

Submit Comment