| กรุงไทยออกนวัตกรรมใหม่บัตรเดบิตกองทุนรวมน้ำมัน |
|
| Thursday, 21 October 2010 18:53 | |||
|
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ธนาคารกรุงไทย เป็นประธานในงานเปิดตัว นวัตกรรมใหม่บัตร KTB Oil Fund ซึ่งเป็นบัตรเดบิตที่อำนวยความสะดวก ในการซื้อขายกองทุนรวมน้ำมัน ที่อาคารสำนักงานใหญ่ ธนาคารกรุงไทย นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ เปิดเผยว่า หลังจากที่ธนาคารได้เปิดตัวบัตรเดบิต KTB Shop Smart ซึ่งเป็นบัตรเดบิตระดับพรีเมียมที่ให้ความคุ้มครองด้านประกันอุบัติเหตุ และคุ้มครองเงินที่ถูกโจรกรรมจากธุรกรรมทางการเงินผ่าน ATM เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ปรากฏว่า ได้รับความสนใจและตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าจำนวนมาก ปัจจุบันธนาคารมีฐานลูกค้าบัตรเอทีเอ็มและเดบิตรวมทั้งสิ้นกว่า 11 ล้านใบ ล่าสุด ธนาคารได้ออกนวัตกรรมใหม่เป็นบัตรเดบิตรุ่นใหม่ในกลุ่ม KTB Invest Smart Card ที่เพิ่มคุณค่าและสิทธิประโยชน์ของบัตรให้มากยิ่งขึ้น โดยร่วมกับบมจ.หลักทรัพย์จัดการกองทุนกรุงไทย (KTAM) เปิดตัวบัตร KTB Oil Fund เป็นธนาคารแรก เพื่ออำนวยความสะดวกในการซื้อขายหน่วยลงทุนของกองทุนเปิดเคแทม ออยล์ ฟันด์ (KT-OIL) โดยลูกค้าสามารถซื้อหน่วยลงทุนเพิ่ม ด้วยการเติมเงินในบัตร KTB Oil Fund ผ่านเครื่องฝากเงินอัตโนมัติ (ADM) ของธนาคาร กว่า 700 เครื่องทั่วประเทศ นอกเหนือจากการซื้อหน่วยลงทุนโดยการโอนเงินด้วยบัตรเอทีเอ็มและบัตรกรุงไทยวีช่าเดบิตที่เครื่อง ATM ของธนาคารกว่า 6,500 เครื่องทั่วประเทศ และกรณีที่ต้องการขายหน่วยลงทุน สามารถใช้บัตรรูดเติมน้ำมัน ณ สถานีบริการน้ำมันในเครือข่าย VISA ทั่วประเทศ ซึ่งทุกครั้งที่รูดเติมน้ำมัน จะเป็นการขายหน่วยลงทุน โดยหักจากบัญชีกองทุน ซึ่งลูกค้าสามารถตรวจสอบรายการซื้อขายหน่วยลงทุนผ่านบริการ KTB Online รวมทั้งที่สาขาธนาคารกรุงไทยทั่วประเทศกว่า 930 แห่ง นอกจากนี้ ธนาคารยังคงเดินหน้าสร้างสรรค์นวัตกรรมทางการเงินใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยเตรียมออกบัตรเดบิตกองทุนรวมทองคำในเร็วๆ นี้ เพื่อสนองตอบความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม ตามวิสัยทัศน์ในการเป็น The Convenience Bank หรือธนาคารแสนสะดวก ด้าน นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บมจ.หลักทรัพย์จัดการกองทุนกรุงไทย (KTAM) เปิดเผยว่า กองทุนเปิดเคแทม ออยล์ ฟันด์ (KT-OIL) เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิในหน่วยลงทุนของกองทุน PowerShares DB Oil Fund บริหารและจัดการโดย DB Commodity services LLC โดยกองทุนมีนโยบายลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของน้ำมันดิบ (light sweet crude oil – WTI) เพื่อให้สามารถสร้างผลตอบแทนที่ใกล้เคียงกับดัชนี Deutsche Bank Liquid Commodity Index – Optimum Yield Crude Oil Excess Return จุดเด่นของกองทุน KT-OIL มีสภาพคล่องสูง สามารถซื้อ-ขาย ได้ทุกวันทำการ มูลค่าขั้นต่ำในการลงทุนเพียง 1,000 บาทขึ้นไป กองทุนนี้นับว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการกระจายความเสี่ยงจากการลงทุน เนื่องจากการปรับตัวของราคาน้ำมันมีความสัมพันธ์น้อยมากกับการปรับตัวของตราสารหนี้และหุ้น นอกจากนี้ น้ำมันเป็นเครื่องมือหนึ่งที่สามารถป้องกันการสูญเสียความสามารถในการซื้อ (Inflation Hedged) เนื่องจากน้ำมันเป็นสินทรัพย์ที่ไม่เสียมูลค่าที่แท้จริงไปตามภาวะเงินเฟ้อ นายสมชัย กล่าวต่อไปว่า กองทุน KT-OIL เปิดโอกาสให้นักลงทุนได้รับผลตอบแทนที่สะท้อนการเคลื่อนไหวของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในน้ำมันดิบ จากเดิมที่ในอดีตการลงทุนในน้ำมันดิบในรูปแบบต่างๆจะจำกัดอยู่เฉพาะบริษัทผู้ค้าน้ำมันและสถาบันการเงินรายใหญ่ๆเท่านั้น แต่พัฒนาการของกองทุนอีทีเอฟ ทำให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงการลงทุนในน้ำมันดิบได้ผ่านการลงทุนในกองทุนอีทีเอฟ ซึ่งมีต้นทุนต่ำและสะดวก และในช่วงที่ผ่านมา น้ำมันเป็นหนึ่งในหลักทรัพย์ลงทุนที่ได้รับความสนใจมาก เนื่องจากมีการปรับตัวขึ้นจากการอ่อนค่าลงของค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ ในปี 2553 ราคาน้ำมันซื้อขายอยู่ที่ระดับ 65-85 เหรียญสหรัฐฯต่อบาเรล และคาดการณ์ว่า ในปี 2554 ราคาน้ำมันมีแนวโน้มที่จะซื้อขายสูงขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 80-90 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาเรล จากแนวโน้มอุปสงค์ที่สูงขึ้น ทั้งนี้ ผู้ลงทุนที่สนใจสามารถซื้อหน่วยลงทุน และสามารถสมัครบัตร KTB Oil Fund ผ่านสาขาธนาคารกรุงไทยทั่วประเทศ
|
Comments