Error
อพท.ลุยพัฒนาคุณภาพท่องเที่ยวแบบก้าวกระโดด
Print
Thursday, 09 February 2012 19:58

พันเอก ดร. นาฬิกอติภัค แสงสนิท ผู้อำนวยการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. หรือ DASTA เผยยอดงบประมาณปี 55 ได้รับงบประมาณเพิ่มขึ้นเป็น 535.9442 ล้านบาท อัดงบพัฒนาท่องเที่ยวยั่งยืนในพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน 5+2 แห่ง เน้นงบพัฒนาทั้ง 3 มิติ เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม มากกว่างบบริหาร ย้ำต้องบริหารภายใต้ Co-Creation เพื่อให้เกิดการ “ร่วมคิด ร่วมวางแผน ร่วมปฏิบัติ ร่วมรับผิดชอบ และร่วมรับผลประโยชน์” ไปด้วยกัน

 

โดย อพท. จัดงานแถลงข่าว “DASTA High Performing ปีที่ ๘ and Jumping to ปีที่ ๙” อพท. ได้ก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปี 2546 ปี 2554 จึงเป็นปีที่ 8 ที่องค์กรมีการพัฒนาทั้งภายในองค์กรและการพัฒนาไปสู่ภายนอก เน้นนโยบายที่สอดรับกับกระแสการเปลี่ยนของโลกและเทรนด์การท่องเที่ยวใหม่ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นยุคของ High Performing หรือมีการพัฒนาขีดความสามารถสูง

 

พันเอก ดร. นาฬิกอติภัค แสงสนิท ผู้อำนวยการ อพท. กล่าวถึงการดำเนินการในปี 2554 ว่า อพท. ได้บัญญัติคำศัพท์ใหม่คือ “Co-Creation” เพื่อสร้างคุณภาพท่องเที่ยวไทย ให้มีการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนด้วยการคงไว้ซึ่งสมดุลประโยชน์ 3 มิติ คือ เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม มี 5 แนวทาง คือ 1) เลิกเสียที “เที่ยวไทยเพราะราคาถูก” 2) หยุด “รวยกระจุก จนกระจาย”3) เดินหน้าสู่ “การท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์” 4) แน่นอนต้อง “พัฒนาคน”  และ 5) ง่ายที่สุด “รับฟังกันมากขึ้น”

“นโยบายการดำเนินงานเด่นๆ ในปีที่ผ่านมา ได้แก่ ริเริ่มโครงการ Creative Tourism ที่สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติในฉบับที่ 10 และฉบับที่ 11 ซึ่งมีเรื่องของ “เศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์” หรือ Creative Economy บรรจุไว้อยู่ โดย อพท. มุ่งเน้นเรื่องกระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชน และยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวด้วยการ “เพิ่มมูลค่า” ให้กับสินค้าทางการท่องเที่ยว จากการ “สร้างคุณค่า” ให้กับสินค้าทางการท่องเที่ยวนั้น และนโยบายการท่องเที่ยวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม หรือ Low Carbon Tourism เพื่อตอบรับกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลกหรือภาวะโลกร้อน ใช้พื้นที่พิเศษหมู่เกาะช้างและพื้นที่เชื่อมโยงเป็นพื้นที่นำร่องรณรงค์ผลักดันแนวทางการพัฒนา Low Carbon Tourism จากทุกภาคส่วน  นอกจากนี้ ยังมีผลงานที่เป็นความภาคภูมิใจคือ “โครงการดาสต้าบอล เฉลิมพระเกียรติ” เนื่องในวโรกาสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 84 พรรษา ดาสต้าบอล คือบอลจุลินทรีย์บำบัดน้ำเสียในแหล่งท่องเที่ยว ตั้งเป้าผลิตจำนวน 1,000,000 ลูก แต่ต้องผลิตมากกว่านั้นในช่วงมหาอุทกภัย เพื่อแจกจ่ายไปยังจังหวัดและประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วมขังเน่าเสีย ซึ่งเป็นโครงการหนึ่งที่เราได้เห็นถึงพลังของชุมชน เนื่องจากใช้กำลังคนในชุมชนบริเวณวัดถ้ำกระบอกทั้งเด็ก คนหนุ่มสาว และคนชรา มาช่วยกันปั้น และที่บ้านสลักคอก ชุมชนในพื้นที่พิเศษของ อพท.  จังหวัดตราดได้สนับสนุนจัดตั้งโครงการให้เด็กนักเรียนในจังหวัดตราดผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาช่วยกันปั้นดาสต้าบอล โดย อพท. นั้นเป็นเพียงผู้ให้ความรู้ สนับสนุนทุนตั้งต้นในการผลิต แล้วนำเงินงบประมาณจากองค์กรภายนอกมาเป็นรายได้ให้กับชาวบ้านผลิตต่อไป”

“ภายหลังจากสรุปผลงานในปีที่ผ่านมา  พันเอก ดร.นาฬิกอติภัค ได้กล่าวถึงแผนปฏิบัติงานในปี 2555 ว่า ในปีนี้เรายังคงนโยบาย “Co-Creation” ไว้ พร้อมสานต่อนโยบาย Creative Tourism และ Low Carbon Tourism ซึ่งจะเป็นการต่อยอดจากเดิม เช่น Creative Tourism เป็นการสร้างคุณค่าเพื่อสร้างความยั่งยืน ทั้งนี้ อพท. ได้จัดทำข้อตกลงความร่วมมือด้านการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนกับคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ร่วมกันจัดทำต้นแบบการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ ซึ่งกำหนดไว้ 2 พื้นที่ คือ พื้นที่พิเศษอุทยาประวัติศาสตร์สุโขทัย-ศรีสัชนาลัย-กำแพงเพชร ด้วยการสร้างคุณค่าของมรดกโลก ทั้งทางโบราณสถาน โบราณวัตถุ และภูมิปัญญา และพื้นที่พิเศษเลย เป็นการสร้างคุณค่าของธรรมชาติและประเพณีวัฒนธรรมที่มีความเกี่ยวเนื่องกัน”

พันเอก ดร.นาฬิกอติภัค กล่าวเพิ่มเติมเรื่อง Creative Tourism อีกว่า เป็นการเน้นให้นักท่องเที่ยวมีประสบการณ์อย่างลึกซึ้ง ซึมซับความแตกต่างและหลากหลายของพื้นที่ จึงได้จัดทำเส้นทางท่องเที่ยวโดยจักรยาน เนื่องจากเป็นการท่องเที่ยวที่ไม่รีบเร่ง โดยเฉพาะหากนักท่องเที่ยวยึดการท่องเที่ยวแบบ Slow Travel หรือการท่องเที่ยวแบบละเลียดไปด้วย ก็จะเป็นการท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวสามารถสร้างความสัมพันธ์กับชุมชนและผู้ประกอบการท้องถิ่นได้ โดยผู้อาสาจัดทำเส้นทางท่องเที่ยวโดยจักรยานนี้ คือ คุณวรรณกับคุณหมู หรือคุณอรวรรณและคุณเจริญ คู่รักนักปั่น ซึ่งเป็นคนไทยคู่แรกที่เดินทางรอบโลกด้วยจักรยาน

“สำหรับคำจำกัดความของการท่องเที่ยวแบบละเลียดมาจากคำว่า Slow Travel : S ก็คือ Studying การศึกษา / L Learning การเรียนรู้ / O Observing การสังเกต / W Wrapping การห่อหุ้มความรู้ ซึ่งจะทำให้การท่องเที่ยวในพื้นที่นั้นมีความสนุกและมีคุณค่ามากยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างการท่องเที่ยวในพื้นที่พิเศษอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย- ศรีสัชนาลัย-กำแพงเพชร เป็น Slow Travel in World Heritage City และพื้นที่พิเศษเลยเป็น Slow Travel in Leisure Loei”

ส่วนนโยบาย Low Carbon Tourism ที่ อพท. นำมาต่อยอดนั้น จริงๆ แล้ว “อพท. เป็นองค์กรไม่เอาถ่าน” พันเอก ดร.นาฬิกอติภัค กล่าวและอธิบายเพิ่มเติมว่า ถ่านที่ว่านี้คือ Carbon เนื่องจากเราดำเนินนโยบาย Low Carbon Tourism เราก็ต้องเป็น Low Carbon Office ด้วย ทั้งนี้เพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายองค์การมหาชนแห่งแรกที่จะเป็น Low Carbon Office และการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว Low Carbon Destination ในพื้นที่หมู่เกาะทะเลตราดโดยเฉพาะเกาะหมากให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ ในระดับ World Class เป้าหมายคือให้ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมกิจกรรมมีแผนงานการลดการปลดปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ โดยแผนการดำเนินงานจะจะมุ่งเน้นการพัฒนากิจกรรมเชิงอนุรักษ์และฟื้นฟูระบบนิเวศป่าชายเลนและปะการังให้ดำรงคงอยู่ ตลอดจนการใช้พลังงานทดแทนและกิจกรรมสร้างสรรค์เพื่อลดภาวะโลกร้อนในพื้นที่หมู่เกาะทะเลตราด โดยเฉพาะพื้นที่เกาะหมาก ให้สามารถก้าวสู่แหล่งท่องเที่ยวระดับสากลในฐานะ Low Carbon Island โดยมีแนวทางการดำเนินงานเพื่อพัฒนาพื้นที่สีเขียวด้านการท่องเที่ยวของเกาะหมาก ลดการปลดปล่อยคาร์บอนในภาคการท่องเที่ยว รวมถึงขอความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐเละเอกชนในการสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมพัฒนาการส่งเสริมศักยภาพการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น สนับสนุนให้มีการประเมินการวัดร่องรอยคาร์บอน (Carbon Footprint) ในสถานประกอบการ สนับสนุนให้มีการจัดการขยะโดยชุมชน (Community Based Solid Waste Management) รวมทั้งส่งเสริมการใช้พลังงานและการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพในภาคการท่องเที่ยวแบบลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่บรรยากาศ ทั้งนี้ก็เพื่อให้พื้นที่พิเศษหมู่เกาะช้างและพื้นที่เชื่อมโยงเป็นต้นแบบของการท่องเที่ยวที่เป็นมิตรต่อสภาพภูมิอากาศของทวีปเอเชียอย่างแท้จริง

“นอกจากการดำเนินงานตามนโยบายหลักในปี 2555 นี้ อพท. ได้จัดให้มีโครงการส่งเสริมรายได้ชุมชนในพื้นที่พิเศษด้วย โดยสนับสนุนงบประมาณการดำเนินการโครงการที่มาจากชุมชนและเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในชุมชน และที่สำคัญกำหนดให้มีตัวชี้วัดที่ชัดเจนคือ จะต้องเห็นตัวเลขรายได้ของชุมชนที่เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 จากโครงการที่ให้การสนับสนุนนั้น

อีกทั้งยังจัดทำเกณฑ์การรับรองแหล่งท่องเที่ยวชุมชน โดย อพท. ร่วมกับสมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กรมการท่องเที่ยว สมาคม อบจ. แห่งประเทศไทย สมาคม อบต. แห่งประเทศไทย สมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย สถาบันการท่องเที่ยวโดยชุมชน มูลนิธิใบไม้เขียว สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จัดทำเกณฑ์การรับรองแหล่งท่องเที่ยวชุมชนอย่างยั่งยืน เพื่อใช้เป็นกรอบและแนวทางการพัฒนาการท่องเที่ยวชุมชน

นอกจากนี้ อพท. ยังให้ความสำคัญกับเรื่องการสร้างเครือข่ายภาคีนานาชาติ เช่น Japan International Cooperation Agency (JICA) และ French Development Agency (AFD) เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้สหวิทยาการด้านนวัตกรรมสิ่งแวดล้อม และการเผยแพร่องค์ความรู้ด้าน Creative Tourism, Low Carbon Tourism และการจัดการการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนไปสู่เวทีโลก โดยการประสานงานความร่วมมือด้านวิชาการนวัตกรรมใหม่ ด้านการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

สำหรับพื้นที่พิเศษเมืองพัทยาและพื้นที่เชื่อมโยงที่ พันเอก ดร.นาฬิกอติภัค ไม่ลืมที่จะเน้นย้ำว่ามีเป้าหมายให้เป็น Greenovative City หรือเมืองแห่งนวัตกรรมเขียว ซึ่งจะต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน แต่ก่อนอื่นจะต้องทำความเข้าใจให้ตรงกันก่อนว่ารูปแบบของ Greenovative City เป็นอย่างไร จึงมีความจำเป็นต้องจัดทำ คู่มือ Green Innovative Style เพื่อรวบรวมข้อมูล กรณีศึกษา ของทั้งในและต่างประเทศ โดยให้มีเนื้อหาด้านแนวคิดการพัฒนา แนวคิดการออกแบบเมืองและพื้นที่สีเขียว แนวทางการดำเนินธุรกิจ และรูปแบบการสร้างแรงจูงใจและผลตอบแทนต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย”

พันเอก ดร.นาฬิกอติภัค กล่าวปิดท้ายว่า อพท. นั้นมีบทบาทภารกิจในการดำเนินงานสนับสนุน และส่งเสริมการพัฒนาการท่องเที่ยวชุมชนในพื้นที่ดำเนินงานของ อพท. เท่านั้น คือในพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน 5 แห่ง คือ พื้นที่พิเศษหมู่เกาะช้างและพื้นที่เชื่อมโยง พื้นที่พิเศษเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี พื้นที่พิเศษอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย-ศรีสัชนาลัย-กำแพงเพชร และพื้นที่พิเศษเลย โดยในปี 2555 นี้ มีพื้นที่เตรียมการประกาศเป็นพื้นที่พิเศษอีก 2 แห่ง คือ พื้นที่เมืองน่าน และพื้นที่เมืองโบราณอู่ทอง โดยงบประมาณทั้งหมด 535.9442 ล้านบาทนั้น แบ่งเป็นงบพัฒนา 377.5724 ล้านบาท และงบบริหาร 158.3718 ล้านบาท โครงการในปี 2555 มีทั้งหมด 16 โครงการหลัก แบ่งเป็นงบประมาณด้านเศรษฐกิจ 206.6243 ล้านบาท ด้านสังคม 84.3391 ล้านบาท และด้านสิ่งแวดล้อม 86.6090 ล้านบาท ซึ่ง อพท. จะสร้างการท่องเที่ยวไทยให้เกิดความยั่งยืนให้จงได้

Written by :
กระแสหุ้นออนไลน์
 

Comments

B
i
u
Quote
Code
List
List item
URL
Name *
Code   
ChronoComments by Joomla Professional Solutions
Submit Comment