บลจ.กสิกรไทยใจป้ำทุ่ม65ล้านปันผลRKF3ควบABFTH |
![]() |
Thursday, 07 June 2012 15:50 | |||
นางสาวยุพาวดีตู้จินดาผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ. กสิกรไทย) เปิดเผยว่า บลจ. กสิกรไทย เตรียมจ่ายเงินปันผลกองทุนเปิดรวงข้าว 3 (RKF3) สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่ 1 ธันวาคม 2554 – 31 พฤษภาคม 2555 ให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีรายชื่อในสมุดทะเบียน ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2555 ในอัตรา 0.39 บาทต่อหน่วย คิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากการจ่ายเงินปันผล หรือ dividend yield ที่ 5.3% ต่อปี มูลค่าการจ่ายเงินปันผลประมาณ 48 ล้านบาท กำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 14 มิถุนายน นี้
"กองทุนเปิดรวงข้าว 3 จัดตั้งมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2536 ถือเป็นหนึ่งในกองทุนหุ้นที่เผชิญความผันผวนในตลาดหุ้นไทยท่ามกลางแรงกดดันจากวิกฤตเศรษฐกิจทั้งในประเทศและวิกฤตทั่วโลกมาแล้วร่วม 2 ทศวรรษ แต่ด้วยจุดเด่นของกองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นพื้นฐานดีที่ผ่านกระบวนการคัดกรองอย่างเข้มข้น จึงส่งผลให้กองทุนนี้ยังคงรักษาผลการดำเนินงานไว้ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ และสามารถจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ลงทุนได้อย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่จัดตั้งกองทุนในเดือนพฤศจิกายน 2536 กองทุน RKF3 ได้จ่ายปันผลไปแล้ว 20 ครั้ง ในอัตรารวมทั้งสิ้น 8.33 บาทต่อหน่วย คิดเป็นอัตราผลตอบเฉลี่ยต่อปีตั้งแต่จัดตั้งกองทุน (Total Return) เฉลี่ยอยู่ที่ ประมาณ 7% ต่อปี ขณะที่ผลตอบแทนจากตลาดหลักทรัพย์ฯ ในรอบ 19 ปีที่ผ่านมามีค่าเฉลี่ย - 0.9% ต่อปี เท่านั้น จึงถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่รับความเสี่ยงได้สูงและต้องการจัดสรรเงินลงทุนเข้ามาอยู่ในกองทุนหุ้นเพื่อโอกาสรับผลตอบแทนที่น่าสนใจในระยะยาวพร้อมโอกาสได้รับเงินปันผลระหว่างทาง ในแง่ของผลการดำเนินงานตั้งแต่ต้นปี 2555 กองทุน RKF3 ให้โอกาสรับผลตอบแทนอยู่ที่ประมาณ 13.18% สูงกว่าผลตอบแทนจากตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งอยู่ที่ 11.33% ซึ่ง บลจ. กสิกรไทยยังคงเชื่อว่าหุ้นพื้นฐานดีในพอร์ตของกองทุน RKF3 ซึ่งได้แก่ หุ้นกลุ่มธนาคาร พลังงานและสาธารณูปโภค เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และอาหารเครื่องดื่ม จะสามารถสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่น่าสนใจให้ผู้ลงทุนต่อไปในอนาคต" นางสาวยุพาวดีกล่าว
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในตลาดหุ้นไทย นางสาวยุพาวดีเปิดเผยว่า ท่ามกลางการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกจากปัญหาหนี้ในยุโรป แต่เศรษฐกิจไทยกลับฟื้นตัวได้อย่างโดดเด่น และคาดว่าในช่วงครึ่งหลังของปีนี้เศรษฐกิจไทยจะเติบโตได้สูงกว่าครึ่งปีแรกโดยได้รับอานิสงส์จากภาคการผลิตที่กลับมาผลิตได้เต็มกำลังอีกครั้งหลังจากที่ต้องชะลอกำลังผลิตจากเหตุอุทกภัยเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งเมื่อผนวกกับการที่บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังมีผลประกอบการที่แข็งแกร่ง และหากการเมืองในประเทศมีเสถียรภาพแล้ว บลจ.กสิกรไทย มองว่าตลาดหุ้นไทยยังปรับตัวขึ้นไปได้อีก โดยยังคงเป้าหมายปลายปีที่ 1,250-1,300 จุด
นางสาวยุพาวดีกล่าวต่อไปว่า นอกจากกองทุนเปิดรวงข้าว 3 แล้ว บลจ.กสิกรไทย ยังเตรียมจ่ายเงินปันผลกองทุนเปิดดัชนีพันธบัตรไทยเอบีเอฟ (ABFTH) สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่ 1 ธันวาคม 2554 – 31 พฤษภาคม 2555ด้วย ในอัตรา 3.50 บาทต่อหน่วย มูลค่าการจ่ายปันผลกว่า 17 ล้านบาท โดยจะจ่ายให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีรายชื่อในสมุดทะเบียน ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2555 กำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 14 มิถุนายน นี้เช่นกัน
"สำหรับกองทุน ABFTH เป็นกองทุนที่จัดตั้งขึ้นภายใต้โครงการกองทุนพันธบัตรเอเชียระยะที่ 2 หรือ Asian Bond Fund 2 – ABF2 ซึ่งเกิดจากความร่วมมือของธนาคารกลางชาติต่างๆ ในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกจำนวน 11 ประเทศ ได้แก่ ออสเตรเลีย จีน ฮ่องกง อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น เกาหลี มาเลเซีย นิวซีแลนด์ ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และไทย เพื่อให้เกิดการพัฒนาตลาดตราสารหนี้ และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของนักลงทุนตลอดทั้งผู้ออกตราสารในตลาดตราสารหนี้ของประเทศสมาชิก และนับเป็นกองทุน ETF กองทุนแรกของไทยที่มีการลงทุนโดยอ้างอิงกับดัชนีตราสารหนี้ภาครัฐ ตั้งแต่จัดตั้งกองทุนเมื่อ 23 กุมภาพันธ์ 2549 กองทุน ABFTH มีการจ่ายเงินปันผลไปแล้ว 13 ครั้ง คิดเป็นอัตรารวมทั้งสิ้น 252.36 บาทต่อหน่วย"นางสาวยุพาวดีกล่าวในที่สุด
ผู้ที่สนใจลงทุนในกองทุน RKF3 และ ABFTH สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา หรือสอบถามเพิ่มเติมที่ บลจ. กสิกรไทย หรือ KAsset Contact Center 0 2673 3888
|
Comments