Error
กนง.มีมติคงดอกเบี้ยนโยบายที่3%
Print
Wednesday, 13 June 2012 14:54

ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ในวันที่ 13 มิ.ย.55 มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 3.00% ตามคาด แต่มองว่าเศรษฐกิจโลกมีความเสี่ยงชะลอตัวมากกว่าที่เคยคาดอาจกระทบเศรษฐกิจไทยได้ ดังนั้นพร้อมปรับนโยบายการเงินให้ทันต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง

 

นายไพบูลย์ กิตติศรีกังวาน ผู้ช่วยผู้ว่าผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ในฐานะเลขานุการ กนง. กล่าวว่า กนง.มีความเห็นว่าเศรษฐกิจไทยในขณะนี้มีความเสี่ยงด้านการขยายตัวมากกว่าความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ  โดยปัจจัยเสี่ยงหลักคือ เศรษฐกิจโลก ซึ่งมีความไม่แน่นอนสูงอันเนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจในยุโรป

 

"กนง.จึงเห็นควรดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนปรนต่อไป เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยให้มั่นคงและรองรับความเสี่ยงจากเศรษฐกิจโลก และมีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 3.0% ต่อปี โดยจะติดตามพัฒนาการของเศรษฐกิจโลกอย่างใกล้ชิด และพร้อมที่จะปรับนโยบายการเงินตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง"นายไพบูลย์ กล่าว

 

ทั้งนี้ เศรษฐกิจโลกมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นจากการประชุมครั้งก่อน จากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับอนาคตของกรีซในกลุ่มประเทศยูโรและปัญหาภาคสถาบันการเงินในสเปน ซึ่งทำให้เศรษฐกิจกลุ่มประเทศยูโรโดยรวมมีแนวโน้มหดตัวมากกว่าที่คาดไว้เดิม และอาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ รวมทั้งเศรษฐกิจเอเชียที่ชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจจีน แต่อุปสงค์ภายในของประเทศในเอเชียที่ยังขยายตัวได้ดีและความสามารถใช้นโยบายการเงินการคลังเพิ่มเติมหากจำเป็น จะช่วยบรรเทาผลกระทบจากความอ่อนแอของเศรษฐกิจโลกได้ระดับหนึ่ง

 

ส่วนเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวดีเกินคาดในไตรมาสแรกของปีนี้ และมีสัญญาณว่าจะสามารถขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง โดยได้รับแรงสนับสนุนจากภาวะการเงินที่ผ่อนคลาย สินเชื่อภาคเอกชนที่ขยายตัวสูง และนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ อย่างไรก็ดี ภาคการส่งออกมีโอกาสที่จะทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจชะลอลงหากปัญหาในกลุ่มประเทศยูโรทวีความรุนแรงขึ้น

 

แรงกดดันเงินเฟ้อจากต้นทุนการผลิตแผ่วลงตามราคาน้ำมันและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ภายใต้แนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอลง แต่เศรษฐกิจในประเทศที่ขยายตัวได้ดีทำให้การส่งผ่านของต้นทุนไปยังราคาสินค้าและบริการมีอยู่ต่อเนื่อง ขณะที่การปรับค่าแรงที่ผ่านมาและการปรับโครงสร้างราคาพลังงานในอนาคต ทำให้การคาดการณ์เงินเฟ้อของประชาชนยังอยู่ในระดับค่อนข้างสูง โดยรวมแล้วแรงกดดันเงินเฟ้อยังคงมีอยู่แต่ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้า

Written by :
กระแสหุ้นออนไลน์
 

Comments

B
i
u
Quote
Code
List
List item
URL
Name *
Code   
ChronoComments by Joomla Professional Solutions
Submit Comment