IRPCแจงความเสียหายจากเพลิงไหม้สูญรายได้400ล้าน |
![]() |
Tuesday, 10 June 2014 13:13 | |||
นายสุกฤตย์ สุรบถโสภณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC ชี้แจงกรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้ที่หน่วยปรับปรุงคุณภาพน้ำมันเตา(Vacuum Gas Oil Hydro Treating Unit : VGOHT)เพื่อป้อนหน่วยแครกเกอร์ (DCC:Deep Catalytic Cracking ) เพื่อผลิตเป็นสารโพรไพลีน น้ำมันเบนซินและดีเซล ที่ต.เชิงเนิน จ.ระยอง วานนี้ (9 มิ.ย.) โดยระบุว่า ขณะนี้บริษัทฯได้หยุดการผลิตหน่วยVGOHT และหน่วยใกล้เคียง DCC แล้ว ทำให้กำลังการผลิตหายไปดังนี้ คือ โพรไพลีนหายไป 360 ตัน/วัน น้ำมันดีเซล 1.3 ล้านลิตร/วันและเบนซิน 1.3 ล้านตัน/วัน หากคิดเป็นมูลค่าความเสียหายเลวร้ายสุดถ้าไม่ได้เปิดหน่วยDCC เฉลี่ยเดือนละ 400 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯมั่นใจว่ากรมโรงงานจะอนุญาตให้มีการเปิดเดินเครื่องในหน่วย DCC ได้โดยเร็ว หลังจากสั่งให้ปิดชั่วคราวและเข้าตรวจสอบพื้นที่ในขณะนี้ เนื่องจากเป็นหน่วยที่ไม่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์เพลิงไหม้ดังกล่าว โดยหน่วยDCC จะรับวัตถุดิบ คือ น้ำมันเตาจากหน่วยVGOHT ประมาณ 50%ของกำลังการผลิต ดังนั้นหากหน่วยDCC กลับมาผลิตได้อีกครั้งจะต้องเดินเครื่องจักรอย่างน้อย 60%ของกำลังการผลิตรวม ต้องหาวัตถุดิบมาชดเชย โดยโรงกลั่นไออาร์พีซีต้องนำเข้าน้ำมันดิบกำมะถันต่ำ(Sweet Crude)มากลั่นเพื่อให้ได้น้ำมันเตามาใช้ในหน่วยDCCอีกครั้ง ทำให้มูลค่าเสียหายลดลงเหลือเพียง 160 ล้านบาท/เดือน
“ ขอแสดงความเสียใจ และขออภัยกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ซึ่งเบื้องต้นสันนิษฐานอุบัติเหตุครั้งนี้เกิดจากการรั่วไหลของสารไฮโดรคาร์บอนเป็นเหตุให้เกิดเพลิงไหม้ที่หน่วย VGOHT ซึ่งเป็นหน่วยหนึ่งเท่านั้น โดยขณะนี้โรงกลั่นน้ำมันไออาร์พีซี และโรงงานปิโตรเคมียังเดินเครื่องจักรตามปกติอยู่ ส่วนการหยุดหน่วยVGOHT ทำให้ต้องส่งออกน้ำมันเตาจากโรงกลั่น 1,000 ตัน/วัน เบื้องต้นคาดว่าจะสรุปว่าจะประเมินความเสียหายและนำวัตถุดิบใดมาผลิตแทนภายใน 2-3 สัปดาห์ และจะซ่อมแซมอุปกรณ์ที่เสียหายจากอุบัติเหตุนี้ได้ภายใน 3 เดือน ”นายสุกฤตย์ กล่าว
จากเหตุการณ์อุบัติเหตุเพลิงไหม้ดังกล่าวทำให้ผลประกอบการไตรมาส 2 นี้ขาดทุนสุทธิ แม้ว่าค่าการกลั่นรวมเฉลี่ย (GIM)ไตรมาสนี้อยู่ที่ 8.5 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล (รวมเฮดจิ้ง 1 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล) แต่ปริมาณการผลิตลดลง ทำให้ต้นทุนต่อหน่วยสูง และยังมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะตั้งสำรองค่าเสียหายดังกล่าวหรือไม่ โดยบริษัท ฯได้มีการการทำประกันภัยวงเงิน 1,200 ล้านเหรียญสหรัฐ
ทั้งนี้ ในช่วงเวลา 18.00 น.ของวันที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้หน่วยVGOHT บริษัท ได้ตัดแยกระบบของหน่วยที่เกิดเพลิงไหม้ออกจากโรงงานอื่นๆ ของบริษัทฯ และสามารถควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดได้ตั้งแต่เวลา 19.00 น. และทำการดับเพลิงได้ทั้งหมดตั้งแต่เวลา 20.20 น. โดยไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นได้มีการตรวจสอบผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม โดยได้ส่งรถเคลื่อนที่ออกตรวจวัดภาพอากาศโดยรอบโรงงานทันทีที่เกิด เบื้องต้นพบว่ามีผลกระทบเล็กน้อยต่อสภาพอากาศ เนื่องจากช่วงนั้นลมพัดไปทางทะเล มีเพียงค่ามาตรฐานฝุ่นเกินบ้างในช่วงแรกที่เกิดเพลิงไหม้ และกลับสู่ค่ามาตรฐานปกติแล้ว พร้อมทั้งส่งหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออกตรวจเยี่ยมประชาชน
สำหรับ อุบัติเหตุครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่เกิดขึ้นกับโรงกลั่นน้ำมันไออาร์พีซี ในรอบ 25 ปี ซึ่งก่อนหน้านี้เกิดอุบัติเพลิงไหม้เมื่อปี 2532 ในสมัยที่เป็นบริษัท อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย จำกัด (ทีพีไอ)ยุคนายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ เป็นเจ้าของก่อนที่จะประสบปัญหาหนี้สินในยุควิกฤตต้มยำกุ้งปี 2540 จนสุดท้าย ปตท.ได้เข้ามาควบกิจการ
|
Comments