นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ เอสซีจี เปิดเผยว่า งบการเงินรวมก่อนสอบทานของเอสซีจีในไตรมาส 3 ปี 2559 มีรายได้ 104,957 ล้านบาท ลดลง 5% จากช่วงเดียวกันปีก่อน แต่มีกำไรสำหรับงวด 14,091 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 57% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน

ด้านผลประกอบการ 9 เดือน ปี 2559 เอสซีจีมีรายได้ 323,829 ล้านบาท ลดลง 3% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน เนื่องจากความต้องการปูนซีเมนต์ของตลาดภายในประเทศชะลอตัว และจากราคาขายสินค้าเคมีภัณฑ์ลดลงตามราคาน้ำมัน อย่างไรก็ตาม เอสซีจีมีกำไรรอบ 9 เดือน 43,606 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28% จากช่วงเดียวกันปีก่อน จากผลการดำเนินงานที่ดีของธุรกิจเคมีภัณฑ์

ทั้งนี้ ธุรกิจของเอสซีจีในอาเซียน ช่วง 9 เดือนแรกของปี 2559 ทำรายได้ทั้งจากฐานการผลิตในภูมิภาคและการส่งออกไปจากประเทศไทยรวม 74,072 ล้านบาท คิดเป็น 23% จากยอดขายรวม และลดลงจากปีก่อนเล็กน้อย

สำหรับผลประกอบการรอบ 9 เดือนปีนี้ของเอสซีจีแยกตามรายธุรกิจมีดังนี้ 1.เอสซีจี ซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง ทำรายได้ 129,834 ล้านบาท ลดลง 5% จากช่วงเดียวกันปีก่อน จากสภาวะตลาดในประเทศยังซบเซา กระทบต่อปริมาณขายและราคา ด้านกำไรมี 7,446 ล้านบาท ลดลง 13% จากช่วงเดียวกันปีก่อน

2.เอสซีจี เคมิคอลส์ ทำรายได้ 145,477 ล้านบาท ลดลง 5% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน จากราคาสินค้าเคมีภัณฑ์ลดลง แต่มีกำไร 32,122 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 53% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน จากผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นและต้นทุนที่ลดลง

3.เอสซีจี แพคเกจจิ้ง ทำรายได้ 56,137 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% จากช่วงเดียวกันปีก่อน จากปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นในธุรกิจบรรจุภัณฑ์ มีกำไร 2,940 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29% จากช่วงเดียวกันปีก่อน

นายรุ่งโรจน์กล่าวว่า คาดการณ์ผลประกอบการรายได้ปี 2559 ของเอสซีจีน่าจะติดลบ 3-5% เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจประเทศยังค่อนข้างชะลอตัว และคนไทยยังอยู่ในภาวะเศร้าโศกจากการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ซึ่งมีผลต่อการจับจ่ายใช้สอยในประเทศ

และหากแบ่งตามประเภทธุรกิจ ตลาดซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้างน่าจะยังคงซบเซา เพราะปีนี้มีฝนตกมากและยังคงตกหนักอยู่ในเดือนตุลาคม ทำให้การก่อสร้างล่าช้า ด้านธุรกิจเคมีภัณฑ์ แม้จะมีแนวโน้มราคาดีขึ้นตามราคาน้ำมันที่ปรับขึ้น แต่เอสซีจีเตรียมปิดปรับปรุงโรงงานโอเลฟินส์ จ.ระยอง เป็นเวลา 40 วันช่วงปลายเดือนพ.ย.นี้ ซึ่งจะทำให้กำลังผลิตลดลง 3-5% จากปกติผลิตได้ 2 ล้านตันต่อปี ทางด้านธุรกิจแพคเกจจิ้ง ปกติไตรมาส 4 จะเป็นฤดูขายของแพคเกจจิ้ง แต่จากภาวะเศรษฐกิจดังกล่าวจึงยังต้องจับตามองต่อไป

Written by :

กระแสหุ้นออนไลน์

 

Comments

B

i

u

Quote

Code

List

List item

URL

Name *
Code   
ChronoComments by Joomla Professional Solutions

Submit Comment