Forgot your password? Create an account
  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
News

Stockwave Online กระแสหุ้นออนไลน์ หุ้น หลักทรัพย์ การเงิน ข่าวเศรษฐกิจ

Home Hot News Fed มาตามนัด คงดอกเบี้ย พร้อมประกาศเริ่มลดงบดุลตุลาคมนี้
Fed มาตามนัด คงดอกเบี้ย พร้อมประกาศเริ่มลดงบดุลตุลาคมนี้ PDF Print E-mail
Friday, 22 September 2017 07:37

ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจ และธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (อีไอซี) ออกบทวิเคราะห์ เรื่อง Fed มาตามนัด คงดอกเบี้ย พร้อมประกาศเริ่มลดงบดุลตุลาคมนี้ โดยระบุว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) ได้ประกาศว่าจะเริ่มลดขนาดงบดุล หรือทำให้งบดุลเข้าสู่ระดับปกติ (balance sheet normalization) ในเดือนตุลาคมนี้ โดยจะดำเนินการตามแผนที่เคยประก าศไว้ภายหลังการประชุมเมื่อเดือ นมิถุนายน โดยเริ่มต้นจากการหยุดซื้อพันธบั ตรเพื่อทดแทนพันธบัตรเดิมที่หมด อายุลง (reinvest) ทั้งพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ และตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อ ยู่อาศัยค้ำประกัน (Mortgage-Backed Securities: MBS) รวม 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อเดือน และทยอยเพิ่มปริมาณการหยุด reinvest จนกระทั่งลดงบดุลทั้งสิ้น 5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อเดือน อย่างไรก็ตาม Fed ยังไม่ได้กำหนดช่วงเวลาสิ้นสุดก ารลดงบดุลที่ชัดเจน

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการ FOMC มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอก เบี้ยนโยบาย (Fed funds rate) ไว้ในช่วง 1.00 – 1.25% ทั้งนี้ คณะกรรมการของ FOMC ส่วนใหญ่มองว่าควรจะปรับขึ้นอัต ราดอกเบี้ยนโยบายอีก 1 ครั้งในปีนี้ ซึ่งจะทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบาย สหรัฐฯ อยู่ในช่วง 1.25 – 1.50% ณ สิ้นปี 2017

Fed คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในครั้งนี้ ขณะที่ส่งสัญญาณการขึ้นดอกเบี้ย อีก 1ครั้งในปีนี้ ตามปัจจัยพื้นฐานของเศรษฐกิจที่ แข็งแกร่ง โดยข้อมูลจาก Dot Plot แสดงให้เห็นว่าคณะกรรมการ FOMC ยังคงมีมุมมองการขึ้นดอกเบี้ยเห มือนการประชุมครั้งก่อน ซึ่งมีแนวโน้มขึ้นดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งในปีนี้และอีก 3 ครั้งในปี 2018 ถึงแม้อัตราเงินเฟ้อจะยังอยู่ใน ระดับต่ำกว่าเป้าหมาย 2.0% โดย Fed คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะยังคงขยายตัวได้ต่อเนื่องเพีย งพอที่จะดำเนินนโยบายการเงินที่ เข้มงวดขึ้นได้ ปัจจัยหลักมาจากตลาดแรงงานที่แข็ งแกร่งขึ้นต่อเนื่อง โดยอัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ ต่ำสุดในรอบ 16 ปีอยู่ที่ 4.4% ในเดือนสิงหาคม ส่งผลให้การบริโภคในประเทศและกา รลงทุนภาคเอกชนขยายตัวต่อเนื่อง ทั้งนี้ Fed ยังได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยาย ตัวของเศรษฐกิจฯ ปีนี้ไปที่ 2.4% จาก 2.2% ที่เคยคาดการณ์ในเดือน มิ.ย. ขณะที่ปรับลดคาดการณ์อัตราเงินเ ฟ้อพื้นฐานปีนี้ลงมาที่ 1.5% จาก 1.7% โดยระบุว่าจะติดตามการเคลื่อนไห วของเงินเฟ้ออย่างใกล้ชิด

Fed ประกาศเริ่มการลดงบดุลและคงอัตร าดอกเบี้ยนโยบายตามที่ตลาดคาดกา รณ์ไว้ ทำให้ตลาดการเงินยังคงสงบ ภายหลังการประชุมเสร็จสิ้นในวัน ที่ 20 กันยายน 2017 ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย โดยดัชนีตลาดหลักทรัพย์ดาวน์โจน ส์ปิดตลาดเพิ่มขึ้น 0.19% ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ S&P 500 ปิดตลาดสูงขึ้น 0.06% โดยนักลงทุนมองความเสี่ยงในตลาด ลดลงสะท้อนจาก VIX index ที่ปรับตัวลงเล็กน้อยที่ -3.4% ขณะที่ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ฯ ปิดตลาดแข็งค่าขึ้นที่ 0.78% ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 2 basis points มาอยู่ที่ 2.27% สำหรับเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงเช้าวันนี้อ่อนค่าลงเล็กน้ อยจากราคาปิดที่ 0.13% ขณะที่ตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียเค ลื่อนไหวไร้ทิศทาง

อีไอซีมองว่า มีความเป็นไปได้ที่ Fed จะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งในปี นี้ แม้อัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับ ต่ำ การที่คณะกรรมการ FOMC ยังคงมุมมองต่อการขยายตัวของเศร ษฐกิจและทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโย บายไว้เหมือนเดิม สะท้อนได้ว่าคณะกรรมการ FOMC ให้น้ำหนักกับการฟื้นตัวของตลาด แรงงานที่ชัดเจนมากกว่าอัตราเงิ นเฟ้อ โดยยังระบุว่าเงินเฟ้อที่อยู่ใน ระดับต่ำเป็นผลมาจากปัจจัยชั่วค ราวและมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นจนเข้ าใกล้กรอบเป้าหมายในปี 2018 พร้อมทั้งแสดงความเชื่อมั่นว่าอั ตราการว่างงานจะลดลงต่อเนื่องจา ก 4.3% ในปีนี้ไปสู่ 4.1% ในปีหน้า

การลดขนาดงบดุลจะส่งผลให้ต้นทุน การระดมทุนของภาคเอกชนสูงขึ้น โดยการลดขนาดงบดุลจะมีผลให้ปริม าณเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ในระบบเศรษฐกิจทยอยลดลง และทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรั ฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีปรับตัวเพิ่มขึ้นเฉลี่ยประมาณ 15 bps ต่อปีตั้งแต่ปี 2018 เป็นต้นไป ทั้งนี้ จะทำให้มีเงินทุนไหลกลับเข้าสู่ ตลาดสหรัฐฯ กดดันให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรั ฐบาลไทยอายุ 10 ปีปรับเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยอีไอซีประเมินว่าอัตราผลตอบแ ทนพันธบัตรรัฐบาลไทยอายุ 10 ปีจะเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 2.45% และ 2.65% ณ สิ้นปี 2017 และ 2018 ตามลำดับ ซึ่งจะทำให้ภาคเอกชนที่ต้องการร ะดมทุนจากตลาดตราสารหนี้ต้ องเผชิญต้นทุนการกู้ยืมที่สูงขึ้ น เป็นความเสี่ยงต่อเนื่องที่อาจก ดดันการลงทุนภาคเอกชน

อย่างไรก็ตาม การลดงบดุลอาจไม่กระทบค่าเงินบา ทมากนัก แต่การขึ้นดอกเบี้ยนโยบายจะมีผล มากกว่า อีไอซีมองว่าผลกระทบของการลดขนา ดงบดุลอาจไม่ส่งผลต่อค่าเงินดอล ลาร์สหรัฐฯ โดยตรง เนื่องจาก Fed ได้ประกาศว่าจะดำเนินการลดงบดุล ตามแผนที่ประกาศไว้ ซึ่งจะทำให้ตลาดคาดการณ์ได้และไ ม่ทำให้เกิดความผันผวนในตลาดการ เงินมากนัก อย่างไรก็ตาม ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อาจได้รับผลกระทบจากมุมมองและกา รเปลี่ยนแปลงของดอกเบี้ยนโยบายม ากกว่า ทั้งนี้ หาก Fed ปรับขึ้นดอกเบี้ยโยบายอีก 1 ครั้งในเดือนธันวาคม ประกอบกับปัญหาทางการเมืองของสห รัฐฯ ที่เริ่มคลี่คลาย จะส่งผลให้ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ส หรัฐฯ แข็งค่าขึ้น เป็นผลให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงไป ที่ 33.5-34.0 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ณ สิ้นปี 2017

อีไอซีคาดว่า ธปท. มีแนวโน้มคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ไว้ที่ 1.50% ในปี 2017 ถึงแม้อัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ จะมีแนวโน้มสูงขึ้น โดยเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 2 ขยายตัวได้ 3.7%YOY จาก 3.3%YOY ในไตรมาสแรก โดยเฉพาะการส่งออกเติบโตอย่างโด ดเด่น อย่างไรก็ตาม อุปสงค์ในประเทศยังคงอ่อนแอทำให้ ธนาคารแห่งประเทศ (ธปท.) ยังมีแนวโน้มคงอัตราดอกเบี้ยไว้ ในระดับต่ำเพื่อสนับสนุนการขยาย ตัวของเศรษฐกิจต่อไป อย่างไรก็ตาม ธปท.ยังแสดงความกังวลถึงอัตราดอ กเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำมาเป็นเ วลานานอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อระบ บการเงินในระยะต่อไป

 

Comments

B
i
u
Quote
Code
List
List item
URL
Name *
Code   
ChronoComments by Joomla Professional Solutions
Submit Comment
 
 

Login

Forgot your password? Create an account
mod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_counter
mod_vvisit_counterToday25599
mod_vvisit_counterYesterday52922
mod_vvisit_counterAll days166378470

We have: 704 guests online
Your IP: 54.198.154.234
 , 
Today: Mar 29, 2024

13843512