| SPALI ปันผลดี พีอีต่ำรับปี 53 |
|
| Tuesday, 05 January 2010 10:53 | |||
|
SPALI ยังโดดเด่น หลังจากกรณีที่มีกระแสข่าว "กรณ์ จาติกวณิช" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะต่ออายุมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ออกไปเป็นสิ้นสุดในปี 53 จากเดิมที่จะหมดอายุลงในเดือน มีนาคม 53 ซึ่ง "ประทีป ตั้งมติธรรม" ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI ก็เห็นด้วย เพราะจะทำให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคฟื้นตัวขึ้น พร้อมกับมั่นใจว่าภาวะเศรษฐกิจฟื้นตัวจริง อีกทั้งยังเป็นประโยชน์สำหรับผู้ซื้อบ้าน ขณะเดียวกันยังได้คาดการณ์ว่ายอดขายในปี 2552 น่าจะอยู่ที่ 1.3 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเป้าหมายเดิมที่วางไว้ที่ราว 1 หมื่นล้านบาท โดยสัดส่วนของยอดขายแบ่งเป็น โครงการคอนโดมิเนียม 60% และบ้านจัดสรร 40% ซึ่งทุกโครงการได้รับการตอบรับที่ดี ทั้งโครงการต่างจังหวัด ที่ภูเก็ต ขอนแก่นและหาดใหญ่ ขณะที่โครงการแนวราบและแนวสูงก็ได้รับผลตอบรับที่ดีเช่นกัน ส่วนเป้ายอดขายในปี 2553 ตั้งไว้ที่ไม่ต่ำกว่า 1.4 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2552 เนื่องจากน่าจะได้รับผลประโยชน์จากภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว โดยเตรียมเปิดโครงการใหม่อย่างน้อย 10-12 โครงการ มูลค่ารวมทั้งสิ้น 1.2-1.5 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 40% และโครงการแนวสูง 60% มุมมองของบล.ทิสโก้ แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 8 บาท จากการปรับเป้าหมายผลประกอบการปี 2552-53F ขึ้น เพื่อสะท้อนมูลค่า backlog ที่สูงขึ้น และผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของ SPALI ในปี 2552 ได้รับการหนุนจากการบริหารความสมดุลของพอร์ตสินค้าได้เป็นอย่างดีด้วยจำนวนยอดขายที่รอรับรู้รายได้ (backlog) ที่อยู่ในระดับสูงจากโครงการคอนโดมิเนียม ซึ่งส่งผลให้อัตราส่วนกำไรขั้นต้นสูงขึ้น ขณะที่ยอดขายจากโครงการแนวราบยังดีขึ้นอีกด้วย ราคาหุ้นที่ต่ำกว่ามูลค่าประเมินที่ 8 บาท (PER 7 เท่าปี 2553F) และมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่น่าสนใจ 10-11% ต่อปี บล.ยูไนเต็ด แนะนำซื้อ ราคาปัจจัยพื้นฐานปี 53 ที่ 7.45 บาท จากมุมมองยังไม่ถึงสิ้นปี 2552 ยอดขายเข้าเป้าที่หมื่นล้านบาทแล้ว ยอดขายในช่วงหนึ่งเดือนครึ่งของไตรมาส 4 ทำยอดขายได้กว่า 4.26 พันล้านบาท ส่งผลให้ให้ยอดขายตั้งแต่ต้นปีถึงกลางเดือน พ.ย. สูงกว่าหมื่นล้านบาท สิ้นไตรมาส 3 มี Backlog รอรับรู้ใน Q4 เกือบ 2.5 พันล้านบาท + ยอดขายที่เกิดขึ้นใหม่ใน Q4 ทำให้บริษัทมีโอกาสทำรายได้ปีนี้ทะลุหมื่นล้านบาท Backlog รอรับรู้รายได้ปีหน้า(ยังไม่รวมยอดขาย Q4) กว่า 5.62 หมื่นล้านบาท จะทำให้บริษัทมีโอกาสเติบโตได้ต่อเนื่องจึงให้ราคาปัจจัยพื้นฐานปี 53 ที่ 7.45 บาท บล.เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายที่ 13.0 บาท มองประเด็นเปิด 14 โครงการ 1.4 หมื่นล้านบาทสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปี 53 พร้อมทั้งตั้งเป้าการเติบโตของ Presales 20% โดยแบ่งเป็นโครงการในแนวราบ: คอนโด ในสัดส่วน 50: 50 คาดว่าจาก1 )แนวโน้มเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว 2) ทำเลที่ดี 3) อัตราดอกเบี้ยที่ยังอยู่ในระดับต่ำ SPALI จะสามารถทำ Presales ได้ตามที่ตั้งเป้าไว้ได้ ราคาเป้าหมายที่ 13.0 บาท: บน PER เป็น 9 เท่าซึ่งเป็นช่วงบนของ PE band ในอดีต เพื่อสะท้อนถึงการเติบโตที่แข็งแกร่งของ SPALI ที่มีกำไรสุทธิเติบโตเฉลี่ยถึง 40% (CAGR) ในช่วง 2 ปี มุมมองของ "ธณพงศ์ มีทอง" ต่อ SPALI ยังอยากแนะนำให้สะสม นอกจากประเด็นเรื่องผลประกอบการที่เติบโตโดดเด่น ยังถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มที่มีโอกาสจ่ายเงินปันผลสูง โดยเฉพาะเงินปันผลในส่วนที่ยังไม่ได้จ่ายตามผลดำเนินงานในครึ่งปีหลังของปี 2552 ทำให้ SPALI น่าสนใจทั้งในแง่ของการลงทุนระยะยาว ในกลุ่มหุ้นปันผล โดยคาดว่าจะมีการจ่ายปันผลเพิ่มเติมจากการจ่ายระหว่างกาลมากกว่า 5% ขณะที่การจ่ายปันผลใน 2553 น่าจะอยู่ประมาณ 9% กว่า (ตามการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์หลายค่าย) และมีค่าพีอีที่อยู่ในระดับต่ำ
|
Comments