Forgot your password? Create an account
  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
News

Stockwave Online กระแสหุ้นออนไลน์ หุ้น หลักทรัพย์ การเงิน ข่าวเศรษฐกิจ

Home Top Headlines กสอ.ดันเงินกู้กองทุนประชารัฐสู่อุตฯแฟชั่น
กสอ.ดันเงินกู้กองทุนประชารัฐสู่อุตฯแฟชั่น PDF Print E-mail
Tuesday, 25 July 2017 08:10

กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม เร่งดำเนินนโยบายกองทุนพั ฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารั ฐวงเงิน 20,000 ล้านบาท ขยายผลสู่ผู้ประกอบการกลุ่มแฟชั่ น โดยหวังให้นำวงเงินไปพัฒนาธุรกิ จเพื่อให้เกิดผลิตภัณฑ์ที่ สอดคล้องกับความต้ องการของตลาดและสร้างมูลค่าได้ มากยิ่งขึ้น โดยคาดว่าไตรมาส 2 - ต้นไตรมาสที่ 3 ปีนี้จะมีผู้ประกอบการในกลุ่มดั งกล่าวเข้าขอสินเชื่อกองทุ นประชารัฐไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาททั้งยังมุ่งหวังที่จะดั นมูลค่าอุตสาหกรรมแฟชั่นเติบโต 30 % หรือแตะระดับ 9 แสนล้านบาท ทั้งนี้ กสอ. ได้จัดประชุมชี้แจงรายละเอี ยดการขอสินเชื่อกองทุนให้แก่ผู้ ประกอบการในเครือข่ายศูนย์ ออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่ อประชาสัมพันธ์กองทุนให้ผู้ ประกอบการในอุตสาหกรรมแฟชั่นได้ รับทราบและเข้าถึงแหล่งเงินทุ นเพื่อพัฒนาธุรกิจทั้งด้ วยการใช้เทคโนโลยี นวัตกรรม และความสร้างสรรค์มากขึ้น โดยมีเป้าหมายที่จะให้ก้าวสู่การเป็นอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าสู งตามยุทธศาสตร์ชาติประเทศไทย 4.0 เมื่อเร็ว ๆ นี้

ดร.พสุ โลหารชุน อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ตามที่ กสอ.ได้รับมอบหมายนโยบายจากรั ฐบาลและกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่องมาตรการการพัฒนาผู้ ประกอบการวิสาหกิ จขนาดกลางและขนาดย่อมด้วยการจั ดตั้งกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอี ตามแนวประชารัฐวงเงิน 20,000 ล้านบาท รวมทั้งการวางกรอบวงเงินและเป้ าหมายการให้ความช่วยเหลือส่ งเสริมสนับสนุนเอสเอ็มอีนั้น ขณะนี้ได้ทยอยอนุมัติสินเชื่ อให้กับผู้ประกอบการ SMEs แล้ว จำนวน 128 ราย ทั่วประเทศ วงเงิน 383,540 ล้านบาท โดยความคืบหน้าล่าสุด กสอ. ยังได้จัดการประชุม ชี้แจงรายละเอียดการขอสินเชื่ อกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอี ตามแนวประชารัฐให้แก่ผู้ ประกอบการอุตสาหกรรมแฟชั่น ในเครือข่ายศูนย์ออกแบบและพั ฒนาผลิตภัณฑ์ (Thailand Industrial Design Center : Thai IDC) โดยมีเป้าหมายเพื่อประชาสัมพั นธ์กองทุนให้ผู้ประกอบการในอุ ตสาหกรรมแฟชั่นรับทราบและเข้าถึ งแหล่งเงินทุน เพื่อพัฒนาธุรกิจ ทั้งยังมุ่งหวังจะให้อุ ตสาหกรรมดังกล่าวได้ นำงบประมาณไปปรับปรุงธุรกิจด้ วยการใช้เทคโนโลยี นวัตกรรม และความสร้างสรรค์มากขึ้น ซึ่งในอนาคตวงเงินเหล่านี้ยั งจะช่วยพัฒนาให้ผลิตภัณฑ์ได้ มาตรฐานและเป็นที่ต้ องการของตลาดในระดับต่าง ๆ ได้ต่อไป

ดร.พสุ กล่าวเพิ่มเติมว่า อุตสาหกรรมแฟชั่นนับเป็น 1 ในอุตสาหกรรมที่มีคุณสมบัติ ตามหลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลื อของกองทุนฯ เนื่องจากเป็นอุตสาหกรรมที่มีมู ลค่าสูงและยังเป็นกลุ่มธุรกิจที่ มีศักยภาพ สามารถเชื่อมโยงและพัฒนาไปสู่ กลุ่ม 10 อุตสาหกรรมเป้ าหมายตามนโยบายของรัฐบาลในชุดปั จจุบันได้ ซึ่ง กสอ.มีจุดมุ่งหมายที่หวังจะให้ ผู้ประกอบการที่มีความสนใจเข้ าร่วมกองทุนได้นำวงเงินดังกล่ าวไปพัฒนาธุรกิจ เพื่อให้ก้าวสู่การเป็นอุ ตสาหกรรมที่มีมูลค่าสูงตามยุ ทธศาสตร์ชาติและยุทธศาสตร์ การปฏิรูปประเทศไทยที่สอดคล้ องตามนโยบาย Thailand 4.0 โดยกองทุนนี้ยังจะเป็นกองทุนที่ ช่วยเติมเต็มให้ SMEs ที่มีอุปสรรคไม่สามารถเข้าถึ งแหล่งเงินทุนปกติ ได้มีเงินทุนที่จะสามารถพัฒนาธุ รกิจให้มีศักยภาพเพียงพอที่ จะเข้าสู่ระบบการเงินปกติ ของสถาบันการเงินเอกชนต่อไป ทั้งยังจะทำให้ SMEs ในกลุ่มแฟชั่นสามารถเป็ นฐานการจ้างงาน การสร้างรายได้ ตลอดจนเป็นหนึ่งในฐานทางเศรษฐกิ จที่สำคัญของประเทศในอนาคต

ดร.พสุ กล่าวเสริมว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ กสอ.ได้จัดประชุมชี้แจงรายละเอี ยดการขอสินเชื่อกองทุนให้แก่ผู้ ประกอบการในเครือข่ายศูนย์ ออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อประชาสัมพันธ์กองทุนให้ผู้ ประกอบการในอุตสาหกรรมแฟชั่นได้ รับทราบและเข้าถึงแหล่งเงินทุ นเพื่อพัฒนาธุรกิจทั้งด้ วยการใช้เทคโนโลยี นวัตกรรม และความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น โดยมีผู้ประกอบการให้ ความสนใจเข้าร่วมรับฟั งนโยบายกองทุนข้างต้นกว่า 50 ราย ซึ่งการดำเนินงานดังกล่าวได้ใช้ ศูนย์ออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ เป็นหน่วยงานกลางสร้างความร่ วมมือระหว่างหน่วยงานเครือข่ ายต่าง ๆ ที่ให้บริการด้านการส่งเสริ มการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ รวมทั้งผลักดันให้ผู้ประกอบการ SMEs เห็นความสำคัญของการออกแบบและพั ฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างมูลค่ าเพิ่มอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมีหน่วยงานร่วมเป็ นเครือข่ายกว่า 50 หน่วยงาน นอกจากนี้ยังได้มีการจัดประชุ มเครือข่ายศูนย์ออกแบบและพั ฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อระดมข้อคิดเห็ นและแนวทางการขับเคลื่ อนการดำเนินงานศูนย์ออกแบบฯ ให้สามารถตอบสนองความต้องการของ SMEs ได้อย่างกว้างขวางมากยิ่งขึ้น ซึ่งหน่วยงานเครือข่ายต่างเห็ นชอบร่วมกันที่จะสนับสนุ นการดำเนินงานของกองทุนพั ฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารั ฐและศูนย์ช่วยเหลือและสนับสนุ นเอสเอ็มอีที่กระทรวงอุ ตสาหกรรมได้จัดตั้งขึ้น โดยหน่วยงานเครือข่ายศูนย์ ออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์จะเข้ าไป ต่อยอดกับผู้ประกอบการ SMEs ที่ขอรับการบริการจากศูนย์สนั บสนุนและช่วยเหลือเอสเอ็มอี หรือผู้ที่ได้รับสินเชื่อสนั บสนุนจากกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอี ตามแนวประชารัฐ โดยเฉพาะสินเชื่อที่จะนำไปพั ฒนาผลิตภัณฑ์ของตนเองจะได้รั บการปรึกษาแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ และนักออกแบบของหน่วยงานเครือข่ ายศูนย์ออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ในพื้นที่นั้นๆ เพื่อปรับปรุง ยกระดับการผลิต การสร้างสรรค์พัฒนาผลิตภัณฑ์ ให้เป็นที่สอดคล้องกับความต้ องการของตลาด หรือสร้างมูลค่าให้ผลิตภัณฑ์ได้ มากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ หลังจัดการจัดประชุมชี้ แจงรายละเอียดการขอสินเชื่ อกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอี ตามแนวประชารัฐให้แก่ผู้ ประกอบการอุตสาหกรรมแฟชั่นในครั้ งนี้คาดว่าจะมีผู้ประกอบการ SMEs ในกลุ่มอุตสาหกรรมแฟชั่นเข้ าขอสินเชื่อในวงเงินไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท ในช่วงระยะไตรมาสที่ 2 จนถึงช่วงต้นไตรมาสที่ 3 ของปี 2560 ทั้งยังเชื่อมั่นอีกว่ากองทุนดั งกล่าวนี้จะเป็นอีกหนึ่งปัจจั ยส่งเสริมที่ช่วยให้อุ ตสาหกรรมแฟชั่นสามารถเติบโตขึ้ นได้กว่า 30 % หรือแตะระดับหลัก 9 แสนล้านบาท และทะลุหลัก 1 ล้านล้านบาทภายในระยะไม่เกินห้ าปีนี้ ดร.พสุ กล่าวปิดท้าย

สำหรับผู้ประกอบการที่มี ความสนใจรายละเอียดกองทุนพั ฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่  สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด หรือ ศูนย์ออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ กองพัฒนาอุตสาหกรรมรายสาขา 1 ถนนพระรามที่ 4 เขตคลองเตย กรุงเทพฯ โทร 02 367 8201, 02 367 8227 และ ติดตามข้อมูล ข่าวสาร โครงการต่าง ๆ ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมได้ที่ www.dip.go.th หรือ facebook.com/dip.pr

Comments

B
i
u
Quote
Code
List
List item
URL
Name *
Code   
ChronoComments by Joomla Professional Solutions
Submit Comment
 
 

Login

Forgot your password? Create an account
mod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_counter
mod_vvisit_counterToday5814
mod_vvisit_counterYesterday36228
mod_vvisit_counterAll days167298588

We have: 658 guests online
Your IP: 3.141.47.221
 , 
Today: Apr 19, 2024

13495232