กรุงศรีคาดเงินบาทสัปดาห์นี้เคลื่อนไหวในกรอบ31.10-31.50
Print
Monday, 19 February 2018 16:27

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่ามีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 31.10-31.50  ต่อดอลลาร์ เทียบกับระดับปิดแข็งค่าที่ 31.24 ต่อดอลลาร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

โดยเงินบาททำสถิติแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 51 เดือนครั้งใหม่ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 1.0 หมื่นล้านบาท แต่ซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตร 1.5 หมื่นล้านบาท

ดอลลาร์อ่อนค่าเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ โดยแตะระดับต่ำสุดในรอบสามปีเมื่อเทียบกับตะกร้าเงิน ท่ามกลางปัจจัยกดดันหลายด้าน อาทิ ความกังวลที่ว่ารัฐบาลสหรัฐฯ ต้องการดำเนินนโยบายดอลลาร์อ่อน แนวโน้มการเริ่มปรับสมดุลนโยบายการเงินนอกสหรัฐฯ รวมถึงยอดขาดดุลแฝดของสหรัฐฯ ที่จะเพิ่มสูงขึ้นจากการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดและดุลงบประมาณ ส่วนผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ได้รับการเสนอชื่อจากรัฐบาลให้ดำรงตำแหน่งต่ออีกหนึ่งสมัย

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี มองว่า ตลาดจะให้ความสนใจกับการเปิดเผยบันทึกการประชุมรอบล่าสุดของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อย่างไรก็ดี เป็นที่น่าสนใจว่าข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนมกราคมของสหรัฐฯ ซึ่งแข็งแกร่งกว่าคาดอย่างมากไม่สามารถกระตุ้นแรงซื้อดอลลาร์ได้ แม้มีแรงซื้อกลับเข้ามาบ้างประปรายในช่วงท้ายสัปดาห์ภายหลังจากที่ดอลลาร์อ่อนค่าลงอย่างรวดเร็ว แต่ในภาพรวมประเด็นพื้นฐานต่างๆ ที่กดดันค่าเงินดอลลาร์ยังคงอยู่ และจะจำกัดการฟื้นตัวของเงินดอลลาร์ต่อไป

สำหรับปัจจัยภายในประเทศ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติเอกฉันท์ให้คงดอกเบี้ยไว้ที่ 1.50%   กนง.ระบุว่า เศรษฐกิจไทยขยายตัวชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะจากการส่งออกและท่องเที่ยว รวมถึงแรงสนับสนุนจากมาตรการภาครัฐ ขณะที่กำลังซื้อของครัวเรือนฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากรายได้ภาคเกษตรยังอยู่ในระดับต่ำและหนี้ภาคครัวเรือนไม่ได้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยกนง.ยังคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะทยอยปรับตัวสูงขึ้นจะกลับเข้าสู่กรอบล่างของเป้าหมายในไตรมาสสองตามภาวะอุปสงค์ในประเทศและราคาน้ำมัน อย่างไรก็ตาม ทางการประเมินว่าแรงกดดันของเงินเฟ้อด้านอุปสงค์ยังอยู่ในระดับต่ำ นอกจากนี้ กนง.ระบุว่าไม่ได้ให้น้ำหนักเป็นพิเศษกับการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดในการตัดสินใจด้านนโยบาย ขณะที่กนง.กล่าวเตือนว่าเงินบาทยังคงมีแนวโน้มผันผวน ท่าทีโดยรวมของกนง.สนับสนุนมุมมองของเราที่ว่า ดอกเบี้ยนโยบายจะเริ่มขยับขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ แม้ข้อมูลล่าสุดจากสภาพัฒน์บ่งชี้ว่าจีดีพีไตรมาสสี่ของไทยเติบโต 4.0% เทียบปีต่อปี ซึ่งต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ แต่การขยายตัวทางเศรษฐกิจมีแนวโน้มกระจายตัวมากขึ้นและจะประคองแรงส่งเชิงบวกของการเติบโตให้ต่อเนื่องในปีนี้

Written by :
กระแสหุ้นออนไลน์
 

Comments

B
i
u
Quote
Code
List
List item
URL
Name *
Code   
ChronoComments by Joomla Professional Solutions
Submit Comment