ดัชนีดาวโจนส์ปิดร่วงลง119.53จุด
Print
Thursday, 14 June 2018 08:04

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเมื่อคืนนี้ (13 มิ.ย.) ที่ 25,201.20 จุด ลดลง 119.53 จุด หรือ -0.47% ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,775.63 จุด ลดลง 11.22 จุด หรือ -0.40% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,695.70 จุด ลดลง 8.09 จุด หรือ -0.11% หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งที่ 2 ในปีนี้ พร้อมกับส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นอีก 2 ครั้งในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้

ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงหลังจากคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 1.75-2.00% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ขณะเดียวกันเฟดได้ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในช่วงที่เหลือของปีนี้ โดยคาดว่าจะปรับขึ้นในเดือนก.ย. และธ.ค. ส่งผลให้มีการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวม 4 ครั้งในปีนี้

แถลงการณ์หลังการประชุมของเฟดบ่งชี้ว่า เฟดมีการปรับเปลี่ยนการใช้ถ้อยคำในแถลงการณ์เพื่อแสดงว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีการปรับตัวดีขึ้น โดยระบุว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจ"ปรับตัวขึ้นในอัตราที่แข็งแกร่ง" จากเดิมที่ใช้คำว่า"ปรับตัวขึ้นปานกลาง"ในการประชุมเดือนมี.ค. ส่วนอัตราการว่างงาน"ลดลง" จากเดิมที่ใช้คำว่า"อยู่ในระดับต่ำ" และการใช้จ่ายของภาคครัวเรือน "ปรับตัวขึ้น" จากเดิมที่ใช้คำว่า "ชะลอตัวลง"

นอกจากนี้ เฟดยังได้ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐในปีนี้ สู่ระดับ 2.8% จากเดิมที่ 2.7% และได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ตัวเลขเงินเฟ้อในปีนี้ สู่ระดับ 2.10% จากเดิมที่ระดับ 1.9% ส่วนอัตราการว่างงานในปีนี้ เฟดคาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 3.6% จากเดิมที่ 3.8%

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ดีดตัวขึ้น 0.5% ในเดือนพ.ค.เมื่อเทียบรายเดือน โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน และค่าใช้จ่ายในภาคบริการ

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ยอดค้าปลีกเดือนพ.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีราคานำเข้า-ดัชนีราคาส่งออกเดือนพ.ค., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนเม.ย., การผลิตภาคอุตสาหกรรม-การใช้กำลังการผลิตเดือนพ.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนมิ.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางต่างๆในสัปดาห์นี้ โดยการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะมีขึ้นในวันที่ 14 มิ.ย.นี้ ซึ่งคาดว่า ECB จะส่งสัญญาณปรับลดวงเงินซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ส่วนการประชุมของธนาคารญี่ปุ่น (BOJ) จะมีขึ้นในวันที่ 14-15 มิ.ย.นี้ โดยคาดว่าคณะกรรมการ BOJ จะคงนโยบายการเงินในการประชุมครั้งนี้

Written by :
กระแสหุ้นออนไลน์
 

Comments

B
i
u
Quote
Code
List
List item
URL
Name *
Code   
ChronoComments by Joomla Professional Solutions
Submit Comment