ดัชนีดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้น434.90จุด |
![]() |
Thursday, 31 January 2019 07:58 | |||
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเมื่อคืนนี้ (30 ม.ค.) ที่ 25,014.86 จุด พุ่งขึ้น 434.90 จุด หรือ +1.77% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,681.05 จุด เพิ่มขึ้น 41.05 จุด หรือ +1.55% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,183.08 จุด เพิ่มขึ้น 154.79 จุด หรือ +2.20% หลังจากที่ประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยตามคาด พร้อมกับย้ำว่า เฟดจะใช้ความอดทนต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในครั้งต่อไป นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ ซึ่งรวมถึงโบอิ้ง และแอปเปิล อิงค์ ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างคึกคักเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนขานรับผลการประชุมเฟดซึ่งส่งสัญญาณถึงการไม่เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่อย่างโบอิ้ง, แอปเปิล อิงค์ และแมคโดนัลด์ โดยปัจจัยดังกล่าวช่วยหนุนดัชนีหลักทั้ง 3 ดัชนีปิดที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 6 ธ.ค. 2561 และยังช่วยหนุนดัชนีดาวโจนส์ให้สามารถกลับมายืนเหนือแนวต้านที่ระดับ 25,000 จุดได้เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 1 เดือน คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติเป็นเอกฉันท์ในการคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 2.25-2.50% ในการประชุมเมื่อวานนี้ตามคาด พร้อมระบุในแถลงการณ์ว่า เฟดจะใช้ความอดทนต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในครั้งต่อไป โดยจะจับตาภาวะเศรษฐกิจ ขณะเดียวกัน แถลงการณ์ของเฟดได้ตัดข้อความ "เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป" ซึ่งเป็นถ้อยคำที่บ่งชี้ถึงการส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด และเฟดได้ทดแทนด้วยข้อความที่ว่า "เฟดกำลังดำเนินแนวทางที่มีความระมัดระวังมากขึ้น" ซึ่งบ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงจากนโยบายเดิมที่เฟดใช้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ในส่วนของการปรับลดงบดุลนั้น แถลงการณ์ระบุว่า เฟดพร้อมที่จะทำการพิจารณาใหม่เกี่ยวกับการปรับลดการถือครองพันธบัตรในงบดุลของเฟด หากสภาวะเศรษฐกิจบ่งชี้ถึงความจำเป็นดังกล่าว โดยเฟดคาดหวังว่าวงเงินในงบดุลจะยังคงอยู่ในระดับสูง หลังจากที่เฟดเสร็จสิ้นการปรับลดงบดุล ทั้งนี้ แถลงการณ์ระบุว่า "เฟดเตรียมที่จะใช้เครื่องมือทั้งหมด ซึ่งรวมถึงการปรับขนาดและองค์ประกอบในงบดุล ถ้าหากภาวะเศรษฐกิจในอนาคตทำให้เฟดมีความจำเป็นที่จะต้องใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้นกว่าการใช้เพียงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น" สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้น 213,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 178,000 ตำแหน่ง ขณะที่สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ลดลง 2.2% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าปรับตัวขึ้น 0.5% นักลงทุนจับตาการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนซึ่งเริ่มเปิดฉากขึ้นที่กรุงวอชิงตันเมื่อวานนี้และจะเสร็จสิ้นในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ โดยทั้งสองฝ่ายหารือกันเพื่อแก้ไขความขัดแย้งทางการค้า ก่อนถึงกำหนดเส้นตายในเดือนมี.ค. นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนม.ค.ของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันพรุ่งนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานเดือนม.ค.จะเพิ่มขึ้น 168,000 ตำแหน่ง ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนม.ค.จากมาร์กิต และดัชนีภาคการผลิตเดือนม.ค. จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM)
|
Comments