ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น184.15จุด |
![]() |
Thursday, 24 August 2023 07:10 | |||
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดในวันพุธ (23 ส.ค.) ที่ 34,472.98 จุด เพิ่มขึ้น 184.15 จุด หรือ +0.54%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,436.01 จุด เพิ่มขึ้น 48.46 จุด หรือ +1.10% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,721.03 จุด เพิ่มขึ้น 215.16 จุด หรือ +1.59 ขณะที่ดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้นกว่า 200 จุด ขานรับการคาดการณ์ผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทอินวิเดีย (Nvidia) ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล ในวันศุกร์นี้ ในช่วงกลางเดือนส.ค.ที่ผ่านมา มอร์แกน สแตนลีย์ระบุในคำแนะนำถึงลูกค้าว่า อินวิเดียยังคงเป็นหุ้น "Top Pick" และคาดว่าผลประกอบการของอินวิเดียในช่วง 3-4 ไตรมาสข้างหน้าจะยังคงแข็งแกร่ง เมื่อพิจารณาจากการที่บริษัทจำนวนมากหันมาเพิ่มการใช้จ่ายในการซื้อชิป AI ทั้งนี้ การพุ่งขึ้นของหุ้นอินวิเดียช่วยหนุนหุ้นบริษัทเทคโนโลยีและบริษัทผลิตชิปรายอื่น ๆ ดีดตัวขึ้นด้วย โดยหุ้นไมโครซอฟท์ เพิ่มขึ้น 1.41% หุ้นไมครอน เทคโนโลยี พุ่งขึ้น 2.81% หุ้นอัลฟาเบท พุ่งขึ้น 2.55% หุ้นแอดวานซ์ ไมโคร ดิไวซ์ (เอเอ็มดี) พุ่งขึ้น 3.57% ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีชะลอตัวลงสู่ระดับ 4.227% เมื่อคืนนี้ หลังจากเอสแอนด์พี โกลบอลเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นเดือนส.ค.ของสหรัฐ ปรับตัวลงสู่ระดับ 50.4 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือน จากระดับ 52.0 ในเดือนก.ค. ก่อนที่เอสแอนด์พี โกลบอลจะเปิดเผยดัชนี PMI อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปีปรับตัวสูงขึ้น ท่ามกลางความวิตกกังวลว่าเฟดอาจจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงต่อไปเป็นเวลานานขึ้น สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่พุ่งขึ้น 4.4% สู่ระดับ 714,000 ยูนิตในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายเดือน และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 703,000 ยูนิต จากระดับ 684,000 ยูนิตในเดือนมิ.ย. นักลงทุนจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของนายพาวเวลในการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันศุกร์ที่ 25 ส.ค. เวลา 10.05 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 21.05 น.ตามเวลาไทย โดยคาดหวังว่านายพาวเวลจะส่งสัญญาณที่ชัดเจนขึ้นเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด
|
Comments