นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า แนวโน้มดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยในวันนี้มีโอกาสปรับเพิ่มขึ้นผ่านแนวต้านแรก 750 จุด เนื่องจากได้รับปัจจัยสนับสนุนจากต่างประเทศ ทั้งดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์ค ปิดตลาดฯ ปรับเพิ่มขึ้นแรงถึง 2.25% ประกอบกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่เปิดการซื้อขายปรับเพิ่มขึ้นในทิศทางเดียวกัน

ทั้งนี้ มาจากแรงซื้อในหุ้นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับพลังงาน จากแนวโน้มราคาสินค้าโภคภัณฑ์มีทิศทางอยู่ในช่วงปรับขึ้น อีกทั้งยังมีปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ล่าสุดปิดตลาดฯ ปรับเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ราคามาอยู่ที่เหนือระดับกว่า 73 เหรียญ โดยปัจจัยดังกล่าวคาดว่าจะส่งผลดีต่อราคาหุ้นในกลุ่มพลังงานให้มีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ พิจารณาจากปัจจัยการเมืองภายในประเทศพบว่ายังไม่มีการเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการลงทุนอย่างมีนัยสำคัญ

โดยดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นนิวยอร์ค ปิดที่ระดับ  10294.54 จุด เพิ่มขึ้น 225.52 จุด หรือ 2.25% ดัชนีนิกเกอิ  ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ปิดตลาดเช้าที่ระดับ  9,855.38 จุด เพิ่มขึ้น 252.14 จุด หรือ 2.63 %ส่วนราคาน้ำมันดิบไลท์ล่วงหน้าสัญญาส่งมอบเดือนกรกฎาคม ที่ตลาดนิวยอร์ค ปิดตลาดที่ราคา 72.86  ดอลลาร์/บาร์เรล  เพิ่มขึ้น 28 เซนต์ หรือ 0.39%

สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตาม คือ หลังจากที่เสร็จสิ้นการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่ารัฐบาลจะมีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) หรือไม่ อีกทั้งปัจจัยต่างประเทศ คือประเด็นความเชื่อมั่นและการแก้ไขปัญหากรณีหนี้ในยุโรปจะมีความคืบหน้าและมีความชัดเจนออกมาอย่างไร

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำเก็งกำไร ประเมินแนวรับอยู่ที่ 735 จุด ส่วนแนวต้านประเมินไว้ที่ 750 จุด และแนวต้านถัดไปอยู่ที่ 770 จุด    

ด้านนายรณกฤต สารินวงศ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.คันทรี่กรุ๊ป กล่าวว่า แนวโน้มดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยในเช้าวันนี้จะรีบาวน์ตามการเคลื่อนไหวของดัชนีดาวโจนส์ และบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในเอเชียอยู่ในเกณฑ์ดี แต่อย่างไรก็ตาม ในช่วงระหว่างวันคาดว่าดัชนีฯ จะเคลื่อนไหวผันผวนพอสมควร เนื่องจากนักลงทุนยังคงความกังวลถึงปัญหาเศรษฐกิจในยุโรป โดยเห็นได้จากดัชนีตลาดหุ้นในยุโรป

ส่วนปัจจัยในเอเชีย เริ่มมีความกังวลเพิ่มขึ้น หลังรัฐบาลญี่ปุ่นอาจต้องเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีแทนคนเดิมที่ประกาศลาออกไป ขณะเดียวกันมีแนวโน้มที่จีนอาจจะเริ่มใช้นโยบายลดความร้อนแรงของเศรษฐกิจ ทั้งนี้ ประเมินว่า ตลาดหุ้นไทยจะมีแรงขายเกิดขึ้นจากนักลงทุนต่างชาติที่ลดความเสี่ยงในสินทรัพย์ประเภทหุ้น หันไปถือครองเงินสกุลดอลลาร์มากขึ้น

กลยุทธ์การลงทุน มองว่าการรีบาวน์ของดัชนีฯ วันนี้ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ มีโอกาสปรับขึ้นถึงแนวต้านที่ 760 จุด ฉะนั้นให้ขายทำกำไรลดพอร์ตการลงทุน โดยให้ถือเงินสดครึ่งหนึ่ง เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงออกมา ตั้งรับรอดัชนีฯ ขึ้นไปอีกรอบหนึ่ง ซึ่งคาดว่าต้องใช้เวลาประเมินปัจจัยต่างๆ อีก 1-2 วัน ว่าจะรอซื้อบริเวณแนวรับจุดใดได้

Written by :

พิราบขาว

 

Comments

B

i

u

Quote

Code

List

List item

URL

Name *
Code   
ChronoComments by Joomla Professional Solutions

Submit Comment