ยังไม่มีสัญญาณเงินไหลออกจากประเทศไทย เห็นได้จากค่าเงินบาทที่แข็งค่าอยู่ คาดว่าเม็ดเงินขายหุ้นของต่างชาติจะกลับเข้าซื้อหุ้นไทยอีกครั้งในต้นปีหน้า สัปดาห์หน้าติดตามการประกาศ GDP Growth งวด 3Q60 ของไทย มีโอกาสสูงกว่า Consensus คาด ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้น วันนี้เลือก IVL BBL และ GUNKUL (นำเข้า Daily Portfolio วันนี้)

ยังไม่เกิดสัญญาณ Fund Flow ไหลออก การขายหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศเป็นเพียงแค่การพักลงทุนเท่านั้น : แม้นักลงทุนต่างประเทศจะยังคงขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยอย่างต่อเนื่องมา 6 วันติดต่อกัน 1.07 หมื่นล้านบาท และทำให้ตลอดเดือน พ.ย.60 มียอดขายสุทธิสะสม 1.51 หมื่นล้านบาท กระนั้นก็ยังไม่พบสัญญาณของ Fund Flow ไหลออก ซึ่งดูได้จากค่าเงินบาทแข็งค่ามากที่สุดในรอบ 2 ปี 7 เดือนที่ 32.91 บาทต่อดอลลาร์ สะท้อนว่าต่างชาติเพียงแค่พักการลงทุนใน SET และเงินยังไหลวนเวียนอยู่ในประเทศ โดยมีความเป็นไปได้ที่บางส่วนจะนำไปพักในตราสารหนี้ เห็นได้จากช่วง 6 วันที่ผ่านมานักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิในตราสารหนี้กว่า 1 หมื่นล้านบาท เป็นการเข้าซื้อในตราสารหนี้อายุต่ำกว่า 1 ปีถึง 1.70 หมื่นล้านบาท

คาดว่าแรงขายของต่างชาติใน SET จะเบาลงเรื่อยๆ จากสถานะการถือครองของต่างชาติ (%Foreign Ownership) ในปัจจุบันที่ลดลงต่ำสู่ 32.12% ของ Market Cap ( ยอดถือครองของต่างชาติที่มีการปิดโอน 24.83% และ NVDR 7.29%) ถือว่าเป็นระดับที่เกือบต่ำที่สุดในรอบ 10 ปี

KS Research ยังคงคาดว่านักลงทุนต่างประเทศจะพักการลงทุนไปตลอด พ.ย.-ธ.ค.60 และจะกลับมาซื้ออีกครั้งในช่วง ม.ค.61 ซึ่งจะทำให้การปรับฐานของ SET Index ลงมาใกล้ 1,680 จุด เป็นโอกาสในการเข้าซื้อสะสม เพื่อไปขายทำกำไรตอนดัชนีทดสอบ 1,760 จุด ในช่วงต้นปีหน้า

วันจันทร์ที่ 20 พ.ย.60 ติดตามการประกาศ GDP Growth มีโอกาสสูงที่จะมากกว่าที่ Consensus คาด ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่ทำให้ SET Index ปรับเพิ่มขึ้นได้อีกครั้ง : สัปดาห์หน้าติดตามการประกาศ GDP Growth ในงวด 3Q60 ของไทย ซึ่งตลาดคาดไว้ว่าจะขยายตัว 3.8% YoY แต่ในส่วนของ KS Research คาดว่า GDP จะขยายตัว 4.0% YoY โดยมีความเป็นไปได้สูงที่ตัวเลขจริงจะออกมามากกว่าที่ตลาดหรือ KS Research คาด อ้างอิงจากการกล่าวปาฐกถาพิเศษของ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ในงานสัมมนา "Thailand Economic Outlook 2018: An Era of business Transformation" เมื่อวันที่ 9 พ.ย.60 ว่า GDP ไทยในไตรมาส 3 ปี 2560 มีโอกาสที่จะโตทะลุ 4% จากภาพรวมเศรษฐกิจที่มีการฟื้นตัวต่อเนื่อง

KS Research ประเมินว่าหาก GDP ออกมาใกล้เคียงหรือสูงกว่า 4% ซึ่งเป็นระดับที่มากกว่า Consensus คาดไว้ ตลาดจะตอบรับในเชิงบวก และเป็นแรงผลักดันให้ SET Index ทะยานขึ้นได้อีกครั้ง เหมือนที่เกิดขึ้นหลังจากการประกาศ GDP Growth งวด 2Q60 โดยคาดว่า SET Index ในสัปดาห์หน้าจะขยับตัวขึ้นในกรอบบนที่สูงขึ้น 1,695 - 1,720 จุด

ยังคงเน้นเข้าสะสมหุ้นที่ Upside เปิดกว้าง และหุ้นที่จะได้ประโยชน์จากวัฐจักรการลงทุน : ต่อเนื่องจากบทวิเคราะห์ Daily View วานนี้ กับกลุ่มหุ้น High Upside และ High EPS Growth ซึ่งประกอบไปด้วย KAMART STEC TPCH TRC KCE IVL SC MTLS GUNKUL SAWAD และต่อเนื่องกับ Daily View 15 พ.ย.60 การขึ้น Outperform ตลาดของหุ้นในกลุ่มวัฐจักรการลงทุนซึ่ง KS Research ประเมินว่าถัดจากกลุ่มนิคมฯ AMATA WHA TICON จะเป็นรับเหมาฯ STEC PYLON และธนาคารฯ BBL TISCO ทั้งหมดที่กล่าวถึง KS Research ยังคงมุมมองว่าจะเป็นหุ้นที่สามารถเคลื่อนไหวดีกว่าตลาดต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปีนี้ โดยวันนี้เลือก IVL GUNKUL และ BBL เป็น Top Pick

กลยุทธ์การลงทุน

คาดว่า STE Index จะกลับไปทดสอบ 1,700 จุดอีกครั้ง และสัปดาห์หน้ามีโอกาสที่จะไปทดสอบ 1,720 จุด นักลงทุนที่ซื้อเพิ่มตอน 1,680 จุดให้ถือต่อเพื่อไปขายที่ 1,760 จุดต้นปีหน้า สำหรับวันนี้เลือก IVL GUNKUL และ BBL เป็น Top Pick โดยระยะกลาง-ยาว ยังคงให้ถือหุ้นเด่นที่ได้แนะนำมาตลาด ทั้ง AMATA CPALL COM7 KCE KAMART PTTEP MTLS BBL TICON STEC JWD IVL TISCO KKP และที่ KS Research ไม่ได้ออกบทวิเคราะห์ PYLON ASK WHA SYNTEC MINT PLANB BDMS MCS

Daily Picks

Daily Picks  Trading Target

GUNKUL           4.40

BBL            210.00

IVL             58.00

Alternative Trading

SET50 Futures: S50Z17 เปิด long ไปที่ระดับเปิดเพื่อทำกำไรที่ 1,084 จุด ส่วน Short S50Z17H18 ที่ 1.5 จุดให้ถือเพื่อเป้าทำกำไรที่ -3.5 จุด

หุ้นแนะนำ Long

Long     ระดับ   เป้าทำกำไร

IVLZ17    ATO       58.00

BBLZ17    ATO      210.00

หุ้นแนะนำ Short

Short    ระดับ   เป้าทำกำไร

TOPZ17    ATO       87.00

EPGZ17    ATO       10.00

KS Daily Portfolio

วันนี้เอา GUNKUL เข้าแทน SIRI ที่ถูกตัดขาดทุนไปวานนี้ โดยให้ซื้อที่ระดับเปิดด้วยน้ำหนัก 20% ซึ่งจะทำให้ KS Daily Portfolio มีหุ้นลงทุนทั้งหมด 5 ตัวคือ PYLON AMATA PTTEP CPALL GUNKUL

KS Daily Portfolio Top Pick

1. หุ้นที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันขาขึ้น

PTTEP หุ้น Laggard ในกลุ่มพลังงาน มีประเด็นบวกจากราคาน้ำมันที่กำลังเป็นขาขึ้นต่อเนื่อง รวมไปถึงเงินบาทที่แข็งค่าจะทำให้ PTTEP มีกำไรทางบัญชีเพิ่มมากขึ้นจาก Deferred Tax นอกจากนั้นยังมีประเด็นการเก็งผลประกอบการในงวด 3Q60 เบื้องต้นคาดว่าจะมีผลประกอบการทรงตัว QoQ แต่จะดีขึ้น YoY

2. หุ้นที่จะได้ประโยชน์จาก EEC

AMATA วัฎจักรการลงทุนที่เราคาดว่ากำลังจะกลับมาหลังรัฐบาลไทยสร้างความมั่นใจแก่นักลงทุนได้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆสำหรับโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก กอรปกับเศรษฐกิจโลกที่เริ่มฟื้นตัวอย่างช้าๆจะเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันการลงทุนในประเทศไทยและเวียดนาม นอกจากนี้ระดับ NAV ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผ่านการปรับเพิ่มราคาขายที่ดินในไทยยังเป็นปัจจัยสนับสนุนมูลค่าของ AMATA ที่สำคัญอีกด้วย

3. หุ้นที่กำไรน่าจะมีการฟื้นตัวในไตรมาส 4

CPALL SSSG ที่พลิกเป็นบวกในเดือน ส.ค. สืบเนื่องจากความสำเร็จของแคมเปญแสตมป์ล่าสุดของบริษัท โดยเราเชื่อว่า SSSG และกำไรของ CPALL ได้ผ่านจุดต่ำของปีไปแล้ว คาดกำไรของ CPALL ในครึ่งหลังของปี 2560 จะได้รับปัจจัยสนับสนุนมาจากกลยุทธ์การตลาดของบริษัทและการขยายกิจการอย่างต่อเนื่อง โดยกำไรครึ่งหลังของปี 2560 จะโตขึ้น 13.4% YoY และ 1.4% HoH เป็น 9.5 พันลบ. และการเติบโตของกำไรสุทธิปี 2560 ที่ 14%

PYLON รายงานกำไรงวด 3Q60 4.74 ล้านบาท -88.60% YoY และ -70.43% QoQ มองเป็นเรื่องปกติที่ผลการดำเนินงานในไตรมาส 3 ปีนี้เนื่องจากมีฝนตกชุกตลอดทั้งไตรมาส กอปรปริมาณงานที่ส่งมอบในงวดมีค่อนข้างน้อย โดยดูได้จากการรันกำลังก่อสร้างโดยใช้ชุดเครนเพียง 10-11 ชุดเท่านั้น อย่างไรก็ตามมองว่ากำไรในงวด 3Q60 จะเป็นจุดต่ำสุด จากสัญญาณการใช้เครนเพิ่มขึ้นมาเป็น 16 ชุด ณ สิ้น ต.ค. โดยในปี 2561 PYLON ได้เตรียมเครนไว้มากถึง 26 ชุดเพื่อรองรับงานที่จะเกิดขึ้นอย่างชุดชุมในปีหน้า ซึ่งจะทำให้ผลประกอบการฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญแนะนำซื้อ

GUNKUL เหลือครงการในมืออีก 6 โครงการ โดยจะเริ่มทยอยรับรู้ในปี 2561 ถึง 4 โครงการ โดยจะเป็นการรับรู้พลังงานลม GNP 60MW ใน ก.พ.61 รวมถึงเริ่มรับรู้โรงไฟฟ้าพลังงานลม KWE กำลังผลิต 50MW ใน พ.ค.61 และโรงไฟฟ้าที่ญี่ปุ่นอีก 2 โรง กำลังการผลิตรวม 66 MW ทั้งหมดจะเป็นแรงขับเคลื่อนทำให้กำไรของ GUNKUL ยกฐานขึ้นเกิน 1 พันล้านบาท ในปี 2561 โดยระยะสั้นในงวด 4Q60 คาดว่าจะเริ่มเห็นการฟื้นตัวเนื่องจากเป็น High Season ของพลังงานลม แนะนำซื้อราคาเป้าหมาย 4.50 บาท

Analyst (s)

ประกิต สิริวัฒนเกตุ

This e-mail address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it

KS Research Team

Kasikorn Securities PCL

โดย บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด ประจำวันที่ 17 พ.ย. 2560

Written by :

กระแสหุ้นออนไลน์

 

Comments

B

i

u

Quote

Code

List

List item

URL

Name *
Code   
ChronoComments by Joomla Professional Solutions

Submit Comment