Forgot your password? Create an account
  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
News

Stockwave Online กระแสหุ้นออนไลน์ หุ้น หลักทรัพย์ การเงิน ข่าวเศรษฐกิจ

Home Economic View สรุปประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจและการเงินรายวัน - ธ.ซีไอเอ็มบี ไทย
สรุปประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจและการเงินรายวัน - ธ.ซีไอเอ็มบี ไทย PDF Print E-mail
Friday, 25 September 2015 09:24

Snapshot

 

สหรัฐอเมริกา

นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) คาดว่า Fed จะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงต่อไปของปีนี้ ตราบใดที่อัตราเงินเฟ้อยังคงทรงตัว และเศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่งเพียงพอที่จะกระตุ้นการจ้างงาน  นางเยลเลนกล่าวว่า เธอและผู้กำหนดนโยบายคนอื่นๆของ Fed ไม่คาดว่า สถานการณ์ทางเศรษฐกิจและตลาดการเงินทั่วโลกในช่วงที่ผ่านมาจะมีผลกระทบอย่างมากต่อนโยบายของ Fed

กระทรวงระบุว่า ยอดขายบ้านใหม่ในเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้น 5.7% เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 552,000 ยูนิต จากระดับ 522,000 ยูนิต ในเดือนกรกฎาคม (ซึ่งเป็นตัวเลขที่ถูกปรับทบทวนแล้ว) ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่ายอดขายบ้านใหม่จะอยู่ที่ระดับ 515,000 ยูนิต และเมื่อเทียบรายปียอดขายบ้านใหม่เพิ่มขึ้น 21.6% (y-o-y) ส่วนราคากลางของบ้านใหม่อยู่ที่ 292,700 ดอลลาร์สหรัฐฯ ทั้งนี้ ยอดขายบ้านใหม่ในสหรัฐเพิ่มขึ้น บ่งชี้ถึงภาวะฟื้นตัวของตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐในช่วงครึ่งปีหลัง

ยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายใหม่ในสัปดาห์ที่แล้ว เพิ่มขึ้น 3,000 ราย สู่ระดับ 267,000 ราย ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าจะอยู่ที่ระดับ 275,000 ราย อย่างไรก็ดี ตัวเลขดังกล่าวยังคงต่ำกว่าระดับ 300,000 รายเป็นเวลามากกว่า 6 เดือนแล้ว ซึ่งเป็นระยะเวลายาวนานที่สุดในรอบกว่า 40 ปี และเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานของสหรัฐยังคงมีความแข็งแกร่ง

ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไปในเดือนสิงหาคมลดลง 2% เมื่อเทียบรายเดือน ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 2.5% จากที่เพิ่มขึ้น 1.9% ในเดือนกรกฎาคม (ซึ่งเป็นตัวเลขที่ปรับทบทวนจากตัวเลขเบื้องต้นที่ขยายตัว 2.2%) อันเป็นผลกระทบจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในต่างประเทศ ซึ่งส่งผลกระทบต่อสินค้าส่งออกของสหรัฐ

ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) สาขาแอตแลนตา รายงานว่า แบบจำลองการคาดการณ์ GDPNow แสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มขยายตัว 1.4% ในไตรมาส 3 ต่ำกว่าการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ระดับ 1.5% โดยได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ภาคที่อยู่อาศัย ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะรายงานตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ขั้นสุดท้ายสำหรับไตรมาส 2 ในวันพรุ่งนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า จีดีพีจะขยายตัว 3.7%

 

ยุโรป: ยูโรโซน

นายมาริโอ ดรากีกล่าวเมื่อวานนี้ว่า ความเสี่ยงต่อแนวโน้มเงินเฟ้อและการขยายตัวทางเศรษฐกิจของยุโรปได้เพิ่มขึ้น อันเนื่องมาจากการชะลอตัวของตลาดเกิดใหม่ อย่างไรก็ดี  ECB ยังต้องการเวลามากขึ้นก่อนการตัดสินใจว่าจะออกมาตรการกระตุ้นเพิ่มเติมหรือไม่

 

เยอรมนี

GfK รายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนตุลาคมลดลงสู่ระดับ 9.6 จากระดับ 9.9 ในเดือนกันยายน โดยเป็นการลดลงเป็นเดือนที่สองติดต่อกัน และนับว่าเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่แตะระดับ 9.3 ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา รวมทั้งต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ในโพลล์รอยเตอร์ที่ระดับ 9.8 โดยเป็นผลจากปัจจัยเสี่ยงในเศรษฐกิจโลก และความไม่แน่นอนในเรื่องการรับมือกับผู้อพยพที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยดัชนีย่อยสำหรับการคาดการณ์ทางเศรษฐกิจลดลง 10.2 จุด สู่ระดับ 6.4 ในรายงานล่าสุด ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2014 เป็นต้นมา โดยดิ่งลงจากระดับ 16.6 ในเดือนที่แล้ว ทั้งนี้ ดัชนีการคาดการณ์รายได้ของผู้บริโภคเยอรมนีลดลงสู่ระดับ 47.7  จากการสำรวจในเดือนก่อนที่อยู่ระดับ 53.5 ส่วนดัชนีความเต็มใจซื้อสินค้าร่วงลงสู่ระดับ 50.4  จากระดับ 52.0 ในเดือนก่อน อย่างไรก็ดี ตัวเลขโดยรวมยังคงอยู่ในระดับสูง และอยู่สูงกว่าช่วงเดียวกันในปีที่แล้วเป็นอย่างมาก

 

ฝรั่งเศส

สำนักงานสถิติแห่งชาติของฝรั่งเศส (INSEE) รายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมของฝรั่งเศสในเดือนกันยายนเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 104 จากระดับ 103 ในเดือนสิงหาคม ซึ่งถือว่าเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2011 และสูงกว่าการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ที่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 102 ด้านดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจโดยรวมของฝรั่งเศสในเดือนกันยายนอยู่ที่ 100  ซึ่งเท่ากับระดับในเดือนสิงหาคม อย่างไรก็ดี นักเศรษฐศาสตร์มักจะให้ความสำคัญกับดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมของฝรั่งเศสมากกว่าดัชนีภาคธุรกิจโดยรวม โดยดัชนีที่ระดับ 100 ถือเป็นค่าเฉลี่ยระยะยาวฝรั่งเศสกำลังประสบปัญหาในการทำให้เศรษฐกิจเติบโตในระดับที่มากพอที่จะทำให้การว่างงานลดลง อย่างไรก็ดี รัฐบาลฝรั่งเศสย้ำว่า การปฏิรูปตลาดแรงงานกำลังส่งผลบวกต่อภาคธุรกิจ และเศรษฐกิจฝรั่งเศสให้เติบโต 0% ในไตรมาส 2 แต่ดัชนีกิจกรรมทางธุรกิจของภาคเอกชนฝรั่งเศสดีดตัวขึ้นในเดือนกันยายน โดยผลผลิตภาคการผลิตกลับมาเติบโตอีกครั้ง หลังจากร่วงลง 2 เดือนติดต่อกัน

 

เอเชีย : จีน

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนให้สัญญาว่า เขาจะปรับลดข้อจำกัดสำหรับการลงทุนของต่างชาติในจีน โดยถ้อยแถลงของเขาเป็นความพยายามที่จะกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับจีน  และแสดงให้เห็นถึงบรรยากาศที่ดีขึ้นสำหรับธุรกิจสหรัฐในจีน  ทางด้านนายหลู เว่ย หัวหน้าสำนักงานสารสนเทศอินเทอร์เน็ตของรัฐบาลจีนกล่าวว่า สหรัฐกับจีนต้องร่วมมือกันในประเด็นด้านความมั่นคงทางระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งรวมถึงเรื่องอาชญากรรมและการจารกรรม โดยถ้อยแถลงของเขาเป็นการปูทางไปสู่การทำข้อตกลงพื้นฐานเรื่องสงครามระบบคอมพิวเตอร์ในช่วงต่อไปในสัปดาห์นี้  ปธน.สีของจีนเดินทางเยือนชายฝั่งตะวันตกของสหรัฐเมื่อวันพุธที่ผ่านมาซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางเยือนสหรัฐนานหนึ่งสัปดาห์ โดยการเยือนชายฝั่งตะวันตกในครั้งนี้เปิดโอกาสให้เขาได้กล่าวย้ำถึงการร่วมมือกันระหว่างจีนกับบริษัทสหรัฐ ก่อนที่เขาจะเดินทางเยือนกรุงวอชิงตันในช่วงปลายสัปดาห์ โดยเขาจะต้องหารือเกี่ยวกับประเด็นขัดแย้งมากมายที่กรุงวอชิงตัน ซึ่งรวมถึงเรื่องปัญหาทะเลจีนใต้และปัญหาด้านสิทธิมนุษยชน

 

ญี่ปุ่น

มาร์กิต/นิกเกอิเปิดเผยผลสำรวจระบุว่า กิจกรรมภาคการผลิตของญี่ปุ่นขยายตัวในอัตราที่ช้าลงในเดือนกันยายน ในขณะที่ยอดสั่งซื้อเพื่อส่งออกดิ่งลงในเดือนก.ย.ในอัตราที่รุนแรงที่สุดในรอบเกือบ 3 ปี และสิ่งนี้เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า การชะลอตัวทางเศรษฐกิจในจีนกำลังสร้างความเสียหายต่ออุปสงค์ในตลาดโลก มาร์กิต/นิกเกอิรายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ขั้นต้นสำหรับภาคการผลิตของญี่ปุ่นอยู่ที่ 50.9 ในเดือนกันยายนโดยลดลงจาก 51.7 ในเดือนสิงหาคม โดยดัชนีที่สูงกว่า 50 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตขยายตัวจากเดือนก่อนหน้า ทั้งนี้ดัชนีอยู่สูงกว่า 50 เป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน แต่ดัชนีปรับลดลงในเดือนก.ย.เป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน

 

ฟิลิปปินส์

ธนาคารกลางฟิลิปปินส์มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ 4.0% ในการประชุมวันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมาตามความคาดหมายของนักวิเคราะห์ และระบุว่าอัตราเงินเฟ้ออาจจะลดลงต่ำกว่าเป้าหมายที่ระดับ 2-4% ในปีนี้ แต่จะดีดตัวกลับสู่กรอบเป้าหมายในปีหน้า ธนาคารกลางยังมีมติคงอัตราดอกเบี้ยบัญชีเงินฝากพิเศษระยะสั้น (SDA) ที่ระดับ 2.5% คณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางจะประชุมทุก 6 สัปดาห์

บริษัทฟิทช์ เรทติงส์ได้ทบทวนปรับเพิ่มแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของฟิลิปปินส์เป็น "เชิงบวก"  จาก "มีเสถียรภาพ" โดยระบุว่า มาตรฐานธรรมาภิบาล และดัชนีบ่งชี้ขีดความสามารถในการแข่งขันปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องภายใต้การบริหารของประธานาธิบดีเบนิกโน อาคีโน ดัชนีบ่งชี้ด้านการคอร์รัปชั่น, ความโปร่งใส และเสรีภาพทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นอย่างมากเช่นกัน ฟิทช์ระบุว่าหลักฐานที่แสดงว่าสามารถดำเนินการปรับปรุงธรรมาภิบาลได้ต่อเนื่องหลังวัฏจักรการเลือกตั้งครั้งต่อไป จะเป็นผลบวกต่ออันดับความน่าเชื่อถือด้วย  ฟิทช์คงอันดับความน่าเชื่อถือของฟิลิปปินส์ที่ 'BBB'

 

ไทย

นายกุลิศ สมบัติศิริ ผู้อำนวยการ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เผยว่าโครงการที่เปิดโอกาสให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ(PPP) ที่มีความพร้อมจะเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี(ครม.)ในปีนี้มีทั้งสิ้น 5 โครงการ ประกอบด้วย การเดินรถโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย มูลค่า 8.24 หมื่นล้านบาท, รถไฟฟ้าสายสีเหลืองมูลค่า 5.46 หมื่นล้านบาท, รถไฟฟ้าสายสีชมพู มูลค่า 5.67 หมื่นล้านบาท โครงการโรงไฟฟ้าขยะของ อบจ.นนทบุรี มูลค่า 4.14 พันล้านบาท และ โรงไฟฟ้าขยะของ อบจ.นครราชสีมา มูลค่า 2.25 พันล้านบาท ทั้ง 5 โครงการนี้ เลือกจากความพร้อมของโครงการ ที่มีการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ ในการเสนอ ครม. ซึ่งเมื่อครม.อนุมัตินับหนึ่งเข้าโครงการ  PPP ก็จะมีขั้นตอนการร่างทีโออาร์ ประกาศเชิญชวนเอกชน และจะพยายามผลักดันให้เริ่มลงเสาเข็มได้ในปีหน้า

 

Money Market

-บาท/ดอลลาร์ วันพฤหัส (  24 กย.) ดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินบาทในช่วงเช้าวันนี้ต่อเนื่องจากเมื่อวันพุธ ขณะที่วันนี้ดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินเอเชียส่วนใหญ่ โดยนักลงทุนรอฟังการแถลงของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในคืนนี้ซึ่งอาจจะมีความชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งในภาวะที่เศรษฐกิจจีนชะลอตัวมากขึ้นทำให้แนวโน้มการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯมีความไม่แน่นอนมากขึ้น ขณะเดียวกันเศรษฐกิจจีนที่อ่อนแอมากขึ้นก็ส่งผลกดดันค่าเงินเอเซียโดยรวมด้วยเช่นกันแม้ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯจะยังไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ย

-เยน/ดอลลาร์ วันพฤหัส (24 กย.) เงินเยนแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯในช่วงเช้าวันนี้ในภาวะที่ปัจจัยความเสี่ยงของเศรษฐกิจจีนส่งผลให้นักลงทุนหลีกเลี่ยงสินทรัพย์เสียง อย่างไรก็ดีการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนก็ส่งผลลบต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นมากเช่นกัน โดยวันนี้มาร์กิต/นิกเกอิเปิดเผยผลสำรวจระบุว่ากิจกรรมภาคการผลิตของญี่ปุ่นขยายตัวในอัตราที่ช้าลงในเดือนกันยายน ขณะที่ยอดสั่งซื้อเพื่อส่งออกดิ่งลงในเดือนก.ย.ในอัตราที่รุนแรงที่สุดในรอบเกือบ 3 ปี

-ยูโร/ดอลลาร์ วันพฤหัส ( 24 ก.ย.) เงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯในช่วงเช้าวันนี้ ขณะที่เมื่อวานนี้นายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) กล่าวต่อคณะกรรมการกิจการด้านเศรษฐกิจและการเงินของรัฐสภายุโรปว่า ความเสี่ยงต่อแนวโน้มเงินเฟ้อและการขยายตัวทางเศรษฐกิจของยุโรปได้เพิ่มขึ้น อันเนื่องมาจากการชะลอตัวของตลาดเกิดใหม่ แต่อีซีบียังต้องการเวลามากขึ้นก่อนการตัดสินใจว่าจะออกมาตรการกระตุ้นเพิ่มเติมหรือไม่

 

Capital Market

-ตลาดสหรัฐฯ วันพฤหัส ( 24 ก.ย.) ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปิดปรับตัวลง หลังการซื้อขายที่ผันผวนจากความไม่แน่ใจเกี่ยวกับนโยบายการเงินของสหรัฐฯ และการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก ขณะที่บริษัทคาเตอร์พิลลาร์ปรับลดคาดการณ์ยอดขาย และนักลงทุนขายหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลบ  0.48% สู่ 16,201.32, ดัชนี S&P 500 ปิดลด 0.34% สู่ 1,932.24 และดัชนี Nasdaq ปิดปรับตัวลง 0.38% สู่ 4,734.48

-ตลาดหุ้นเอเชีย วันพฤหัส (24 ก.ย.) ดัชนีนิกเกอิวันนี้ปิดตลาดลดลง 2.76% หลังจากตลาดปิดทำการ 3 วันก่อนหน้านี้ โดยการลดลงของดัชนีในวันนี้เป็นผลจากการที่รายงานดัชนี PMI ของจีนเมื่อวันพุธชี้ว่าภาคการผลิตของจีนเดือนกันยายนหดตัวมากขึ้นจากเดือนก่อนหน้า ซึ่งเมื่อประกอบกับการที่ตัวเลขอื่นๆก่อนหน้านี้ก็ชี้ว่าเศรษฐกิจจีนชะลอตัวลงมากในไตรมาสที่สามทำให้การคาดการณ์เกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจเอเชียโดยรวมแย่ลงไปด้วยและส่งผลลบต่อตลาดหุ้นเอเชียโดยรวมซึ่งรวมถึงญี่ปุ่น สำหรับดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตวันนี้ปิดตลาดเพิ่มขึ้น 0.89% สวนทางตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่แม้ว่าปัจจัยหลักที่ส่งผลลบต่อตลาดหุ้นเอเชียโดยรวมขณะนี้มาจากการที่นักลงทุนวิตกมากขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจจีน ส่วนดัชนีฮั่งเส็งวันนี้ปิดตลาดลดลง 0.97%

-ตลาดหุ้นไทย วันพฤหัส ( 24 ก.ย.) ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ลดลงในช่วงเช้าก่อนที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังจากนั้นส่งผลให้ปิดตลาดวันนี้ SET INDEX ลดลงเล็กน้อย 2.82 จุด ซึ่งการลดลงดังกล่าวสอดคล้องกับหลายตลาดหุ้นในเอเชียที่ดัชนีลดลงในวันนี้จากผลของปัจจัยเศรษฐกิจโลกโดยรวมที่ยังมีความไม่แน่นอนสูงมาก

 

โดย สำนักวิจัยธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ประจำวันที่ 25 ก.ย. 2558

Comments

B
i
u
Quote
Code
List
List item
URL
Name *
Code   
ChronoComments by Joomla Professional Solutions
Submit Comment
 
 

Login

Forgot your password? Create an account
mod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_counter
mod_vvisit_counterToday5012
mod_vvisit_counterYesterday42927
mod_vvisit_counterAll days167629147

We have: 434 guests online
Your IP: 3.144.230.82
Mozilla 5.0, 
Today: Apr 27, 2024

11228144