Forgot your password? Create an account
  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
News

Stockwave Online กระแสหุ้นออนไลน์ หุ้น หลักทรัพย์ การเงิน ข่าวเศรษฐกิจ

Home Economic View สรุปประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจและการเงินรายวัน - ธ.ซีไอเอ็มบี ไทย
สรุปประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจและการเงินรายวัน - ธ.ซีไอเอ็มบี ไทย PDF Print E-mail
Friday, 13 May 2016 09:30

Snapshot

 

สหรัฐอเมริกา

กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงานว่า ราคาสินค้านำเข้าในเดือนเมษายนเพิ่มขึ้น 0.3% เมื่อเทียบรายเดือน หลังเพิ่มขึ้น 0.3% เช่นกันในเดือนมีนาคม ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ราคาสินค้านำเข้าจะเพิ่มขึ้น 0.5% อย่างไรก็ดี เมื่อเทียบรายปี ราคาสินค้านำเข้ายังคงลดลง 5.7% ราคาส่งออกเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนเมษายน เมื่อเทียบรายเดือน และหดตัวลง 5.0% เมื่อเทียบรายปี ทั้งนี้ การลดลงของราคาสินค้าดังกล่าวก็เป็นการสะท้อนการแข็งค่าของดอลลาร์ และการร่วงลงของราคาน้ำมันระหว่างเดือนมิ.ย.2014-ธ.ค.2015

ยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายใหม่ในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 7 พฤษภาคมเพิ่มขึ้น 20,000 ราย สู่ระดับ 294,000 ราย ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ของปีที่แล้ว ตรงกันข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่ายอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจะลดลงสู่ระดับ 270,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว อย่างไรก็ดี ยอดผู้ขอสวัสดิการว่างงานรายใหม่ได้อยู่ต่ำกว่า 300,000 ราย เป็นสัปดาห์ที่ 62 ติดต่อกัน ซึ่งยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 1973 ส่วนตัวเลขของยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานเฉลี่ยแบบถ่วงน้ำหนักเคลื่อนที่ 4 สัปดาห์ ซึ่งถือเป็นมาตรวัดตลาดแรงงานที่ดีกว่า เนื่องจากขจัดความผันผวนรายสัปดาห์ เพิ่มขึ้น 10,250 ราย สู่ 268,250 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 เดือน สำหรับยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องมีจำนวนเพิ่มขึ้น 37,000 ราย สู่ระดับ 2.16 ล้านราย ในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 30 เมษายน

นายเอริค โรเซนเกรน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) สาขาบอสตัน ระบุว่า ตลาดการเงินกำลังประเมินต่ำเกินไปเกี่ยวกับช่วงจังหวะการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด และมองในแง่ลบมากเกินไปเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ ทั้งนี้ นักลงทุนคาดว่า Fed จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 1 ครั้งในปีนี้ โดยจะเกิดขึ้นในเดือนธันวาคม ขณะที่ผลสำรวจของเจ้าหน้าที่ Fed ก่อนหน้านี้คาดว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ พร้อมกันนี้ยังได้กล่าวเสริมว่า Fed ควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หากตัวเลขเศรษฐกิจดีขึ้นตามที่คาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ ยังระบุถึงความกังวลเกี่ยวกับต้นทุนในการตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำเกินไป และเป็นเวลานานเกินไป

นายแจน นิฟเฟน นักวิเคราะห์ธุรกิจค้าปลีกสหรัฐ ระบุเตือนว่า ห้างค้าปลีกของสหรัฐราว 1 ใน 3 มีแนวโน้มที่จะปิดกิจการลงในช่วงหลายปีข้างหน้า หลังจากที่บริษัทเมซี อิงค์ และบริษัทค้าปลีกอีกหลายแห่งเปิดเผยผลประกอบการที่น่าผิดหวัง อันเนื่องจากภาวะอากาศที่อบอุ่นกว่าปกติในช่วงฤดูหนาว โดยผลประกอบการดังกล่าวเป็นสัญญาณเตือนถึงภาวะล้นตลาดของห้างค้าปลีก ในขณะที่ลูกค้ากำลังหันไปซื้อสินค้าทางระบบออนไลน์ ทั้งนี้ นายนิฟเฟนระบุว่า ห้างค้าปลีกราว 400 แห่งในสหรัฐ จากจำนวนทั้งหมด 1,100 แห่งจะปิดกิจการลงในช่วงอีกไม่กี่ปีข้างหน้า และในจำนวน 400 แห่งที่เหลืออยู่ 250 แห่งจะมีผลประกอบการที่แข็งแกร่ง ส่วนที่เหลือจะต้องดิ้นรนต่อไป

 

ยุโรป: ยูโรโซน

สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (Eurostat) รายงานว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของยูโรโซนในเดือนมีนาคมปรับตัวลดลง 0.8% จากเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นการลดลงในอัตราสูงติดต่อกันเป็นเดือนที่สอง บ่งชี้ว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในเขตยูโรโซนยังคงซบเซา และเมื่อเทียบเป็นรายปี ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมีนาคม ปรับตัวขึ้นเพียง 0.2% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ทั้งนี้ เศรษฐกิจยูโรโซนปรับตัวดีขึ้นในช่วงสามเดือนแรกของปีนี้ โดยเติบโตอย่างรวดเร็วถึงสองเท่า เช่นเดียวกับช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2558 อย่างไรก็ตาม ผลผลิตของโรงงาน เหมืองแร่ และสาธารณูปโภคนั้นกลับปรับตัวลดลงโดยไม่คาดหมายในเดือนมีนาคม ซึ่งสะท้อนว่าแรงกระตุ้นเศรษฐกิจเริ่มอ่อนแรงในช่วงปลายไตรมาส

 

อังกฤษ

ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีมติเอกฉันท์ 9-0 ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.5% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และยังมีมติคงวงเงินการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่ระดับ 3.75 แสนล้านปอนด์ พร้อมกันนี้ ยังประกาศปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจในปีนี้ สู่ระดับ 2.0% จากเดิมที่ 2.2% ส่วนในปี 2017 มีการปรับลดลงสู่ระดับ 2.3% จากระดับ 2.4% และในปี 2018 มีการปรับลดลงสู่ระดับ 2.3% จากระดับ 2.5% นอกจากนี้ BoE ยังได้ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อในช่วง 2 ปีข้างหน้าสู่ระดับ 2.07% จากเดิมที่ 2.05%

 

นอร์เวย์

ธนาคารกลางนอร์เวย์มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.50% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจของนอร์เวย์ยังคงปรับตัวสอดคล้องกับการคาดการณ์ ทั้งนี้ ธนาคารกลางระบุว่า พัฒนาการทางเศรษฐกิจนับตั้งแต่เดือนมีนาคมไม่ได้เบี่ยงเบนไปมากนักจากการคาดการณ์ในรายงานการประชุมนโยบายการเงินประจำเดือนมีนาคม นอกจากนี้ การฟื้นตัวขึ้นของราคาน้ำมันอาจช่วยลดความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ และจะช่วยหนุนการขยายตัวของนอร์เวย์

 

เอเชีย: จีน

นายจ้าว เฉินซิน โฆษกคณะกรรมการด้านการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติของจีน (NDRC) เปิดเผยว่า NDRC ได้อนุมัติโครงการการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรจำนวน 13 โครงการมูลค่ารวม 1.388 แสนล้านหยวน (2.135 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ในเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ส่วนการลงทุนที่เสร็จสมบูรณ์แล้วทั้งหมดมีมูลค่ารวม 5.59 ล้านล้านหยวน ณ สิ้นเดือนมี.ค.

โฆษกคณะกรรมการด้านการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติ (NDRC) ของจีนเปิดเผยว่า จีนจะดำเนินมาตรการเพื่อเปิดเสรีภาคอุตสาหกรรมต่างๆมากขึ้นเพื่อรับการลงทุนของภาคเอกชน นอกจากนี้ จีนจะเพิ่มการสนับสนุนด้านการเงิน และลดต้นทุนในการระดมทุนของบริษัทเอกชนลงด้วย

 

ญี่ปุ่น

สำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นรายงานว่า ความเชื่อมั่นทางธุรกิจของชาวญี่ปุ่นที่ประกอบอาชีพที่มีความอ่อนไหวต่อแนวโน้มของเศรษฐกิจ ปรับตัวลงในเดือนเม.ย. หลังจากเพิ่มขึ้นในเดือนก่อนหน้า เนื่องจากการบริโภคและกิจกรรมของภาคเอกชนได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงในพื้นที่ตะวันตกเฉียงใต้ที่เกิดขึ้นในเดือนเดียวกัน ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่น diffusion index ในกลุ่มอาชีพที่อ่อนไหวต่อสภาพเศรษฐกิจ  อาทิ คนขับรถแท็กซี่ และพนักงานร้านอาหาร ลดลง 1.9 จุด จากเดือนก่อนหน้า สู่ระดับ 43.5 ในเดือนเม.ย.ดัชนี diffusion index จัดทำขึ้นเพื่อสอบถามผู้ตอบรับการสำรวจว่ามองภาวะเศรษฐกิจดีขึ้นหรือแย่ลงในระยะ 3 เดือนที่ผ่านมา โดยตัวเลขที่ต่ำกว่าระดับ 50 บ่งชี้ว่า มีมุมมองเชิงลบมากกว่าเชิงบวก

 

ฟิลิปปินส์:

ธนาคารกลางฟิลิปปินส์คงอัตราดอกเบี้ย Overnight Borrowing Rate ไว้ที่ 4% ในการประชุมเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคมที่ผ่านมาตามที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์โดยมองว่าเศรษฐกิจยังมีแนวโน้มขยายตัวแข็งแกร่งหลังการเลือกตั้งผ่านพ้นไปและได้ประธานาธิบดีคนใหม่

จับตาการประชุมธนาคารกลางเกาหลีใต้ที่จะมีขึ้นในวันศุกร์ที่ 13 พฤษภาคม 2559

 

ไทย

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า มั่นใจว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้ดีแน่นอน หลังสถาบัน เอ.ที.เคียร์มีย์ (A.T.Kearney) จัดอันดับไทยอยู่ในอันดับที่ 21 ใน 25 ประเทศที่นักลงทุนต่างชาติสนใจเข้ามาลงทุน รวมถึงนักธุรกิจต่างชาติสนใจลงทุนในไทยเพิ่มมากขึ้น  เขากล่าวอีกว่า สถาบัน เอ.ที.เคียร์มีย์ ได้จัดอันดับไทยอยู่ในอันดับที่  21 ใน 25 ประเทศ ที่นักลงทุนต่างชาติสนใจลงทุน หลังก่อนหน้านี้ไทยหลุดอันดับ 1 ใน 25 เป็นเวลา 2 ปี โดยสถาบันแห่งนี้ระบุว่ารัฐบาลชุดนี้เปิดกว้างเรื่องการลงทุนและการท่องเที่ยว  ขณะเดียวกันเห็นว่าหากประเทศเพื่อนบ้านเศรษฐกิจดีขึ้น จะเป็นโอกาสดีที่ไทยจะกระจายสินค้าไปสู่ภูมิภาคนี้ ซึ่งไทยจะเป็น gateway และเป็น hub  ของอาเซียน นอกจากนี้จะเห็นว่ามีนักธุรกิจต่างชาติหลายประเทศ สนใจเข้ามาลงทุนในไทยเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงม.ค.จนถึงปัจจุบัน มีบริษัทต่างชาติมาตั้งสำนักงานใหญ่ข้ามประเทศ(IHQ) ถึง 49 บริษัท

จับตาการรายงานตัวเลขอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยไตรมาสแรกปี 2559 ในวันจันทร์ที่ 16 พฤษภาคมนี้

 

Money Market

- บาท/ดอลลาร์ วันพฤหัส ( 12 พ.ค.) เงินบาทอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯในช่วงเช้าวันนี้ต่อเนื่องจากเมื่อวันพุธซึ่งสอดคล้องกับการที่ดอลลาร์สหรัฐฯวันนี้แข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินส่วนใหญ่ในเอเซียรวมทั้งสกุลหลักอื่นๆเช่นเยนและยูโร ทั้งนี้การแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐฯในวันนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่าเมื่อเทียบกับหลายสกุลเงินในช่วงก่อนหน้านี้จากการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯมีแนวโน้มชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ย อย่างไรก็ดีเนื่องจากโดยพื้นฐานเศรษฐกิจสหรัฐฯขณะนี้ที่ยังขยายตัวได้ดีกว่าประเทศสำคัญอื่นๆก็สนับสนุนให้ดอลลาร์สหรัฐฯมีแนวโน้มที่จะแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินส่วนใหญ่ในช่วงระยะ 6-12 เดือนข้างหน้า

- เยน/ดอลลาร์ วันพฤหัส ( 12 พ.ค.) เงินเยนอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯในช่วงเช้าวันนี้โดยที่ปัจจัยพื้นฐานเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่ยังไม่ฟื้นตัวและการคาดการณ์เกี่ยวกับการที่ธนาคารกลางญี่ปุ่นจะแทรกแซงตลาดอัตราแลกเปลี่ยนเป็นปัจจัยที่สนับสนุนการกลับมาอ่อนค่าเงินเยนในช่วงนี้ ขณะที่ในช่วงตลาดสหรัฐฯเงินเยนก็ยังอ่อนค่าต่อเนื่องเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯเนื่องจากมีการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) อาจขยายมาตรการกระตุ้นทางการเงินอย่างเร็วที่สุดในเดือนหน้า  ขณะที่นายทาคาโตชิ อิโต นักวิชาการญี่ปุ่นกล่าวว่าบีโอเจอาจขยายมาตรการกระตุ้นทางการเงินอีกในเดือนมิ.ย.หรือก.ค. ส่วนนายอีริค โรเซนเกร็น ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาบอสตันกล่าวว่า เฟดควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง หากข้อมูลเศรษฐกิจในไตรมาสสองยืนยันว่า ตลาดแรงงานสหรัฐใกล้ระดับแข็งแกร่งเต็มที่ และเงินเฟ้อปรับตัวขึ้น

- ยูโร/ดอลลาร์ วันพฤหัส ( 12 พ.ค.) เงินยูโรอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯในช่วงเช้าวันนี้สอดคล้องกับการที่ดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าเมื่อเทียบกับค่าเงินอื่นๆส่วนใหญ่ในวันนี้

 

Capital Market

- ตลาดสหรัฐฯ วันพฤหัส ( 12 พ.ค.) ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปิดไร้ทิศทางในวันพฤหัสบดี โดยการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเทเลคอมและหุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคได้ช่วยชดเชยการลดลงของหุ้นแอปเปิลสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 0.05% สู่ 17,720.50 ดัชนี S&P 500 ปิดลบ 0.02% สู่ 2,064.11 และดัชนี Nasdaq  ปิดลดลง 0.49% สู่ 4,737.33

- ตลาดหุ้นเอเชีย วันพฤหัส ( 12 พ.ค.) ดัชนีนิกเกอิวันนี้ปิดตลาดเพิ่มขึ้น 0.41% จากการที่เงินเยนกลับมาอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯในช่วงนี้ ขณะที่ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตวันนี้ปิดตลาดลดลง 0.01% และดัชนีฮั่งเส็งลดลง 0.70% โดยปัจจัยจากการที่เศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มที่จะชะลอตัวต่อเนื่องและยังมีความเสี่ยงจากการที่ภาคการเงินขยายตัวมากก่อนหน้านี้ยังกดดันให้นักลงทุนขาดความเชื่อมั่นที่จะลงทุนในตลาดหุ้นจีน

- ตลาดหุ้นไทย วันพฤหัส ( 12 พ.ค.) ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวสูงขึ้นนำโดยหุ้นในกลุ่มพลังงานตามการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก โดยปิดตลาดวันนี้ SET INDEX เพิ่มขึ้น 16.90 จุด

 

โดย สำนักวิจัยธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ประจำวันที่ 13 พ.ค. 2559

Comments

B
i
u
Quote
Code
List
List item
URL
Name *
Code   
ChronoComments by Joomla Professional Solutions
Submit Comment
 
 

Login

Forgot your password? Create an account
mod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_counter
mod_vvisit_counterToday12757
mod_vvisit_counterYesterday40565
mod_vvisit_counterAll days167593965

We have: 570 guests online
Your IP: 18.118.200.86
Mozilla 5.0, 
Today: Apr 26, 2024

4163640