Forgot your password? Create an account
  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
News

Stockwave Online กระแสหุ้นออนไลน์ หุ้น หลักทรัพย์ การเงิน ข่าวเศรษฐกิจ

Home Economic View สรุปประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจและการเงินรายวัน - ธ.ซีไอเอ็มบี ไทย
สรุปประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจและการเงินรายวัน - ธ.ซีไอเอ็มบี ไทย PDF Print E-mail
Tuesday, 21 February 2017 10:18

Snapshot

 

สหรัฐอเมริกา

ไม่มีรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ เนื่องจากตลาดต่างๆและหน่วยงานราชการสหรัฐปิดทำการเนื่องในวันประธานาธิบดี

 

ยุโรป: กรีซ

รัฐบาลกรีซได้แสดงความพอใจหลังจากรัฐมนตรีคลังกลุ่มสหภาพยุโรป หรือ ยูโรกรุ๊ป มีความคืบหน้าในการทบทวนนโยบายเศรษฐกิจรอบที่สอง เพื่อเปิดทางให้กรีซได้รับความช่วยเหลือด้านการเงินครั้งต่อไป โดยคณะรัฐมนตรีกรีซระบุว่า กรีซสามารถพิสูจน์ให้กลุ่มเจ้าหนี้เห็นความคืบหน้าทางเศรษฐกิจของกรีซ โดยกลุ่มเจ้าหนี้ซึ่งประกอบไปด้วยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF), สหภาพยุโรป (EU) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) นั้น กำลังติดตามความคืบหน้าในการปฏิรูปเศรษฐกิจของกรีซ หลังจากที่กรีซใช้มาตรการรัดเข็มขัดมาเป็นเวลา 7 ปี โดยความคืบหน้าในครั้งนี้ ทำให้กรีซคาดหวังว่า กลุ่มเจ้าหนี้จะอนุมัติเงินกู้ครั้งต่อไปให้กับกรีซ ซึ่งคาดว่าจะมีมูลค่าราว 8.6 หมื่นล้านยูโร หรือ 9.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทางด้านนายเจอโรน ดิจเซลโบลม ประธานยูโรกรุ๊ป เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตัวแทนของกลุ่มเจ้าหนี้จะเดินทางไปยังประเทศกรีซอีกครั้งในสัปดาห์หน้า เพื่อสรุปข้อตกลงเกี่ยวกับการปฏิรูปเศรษฐกิจของกรีซ สำหรับการประชุมยูโรกรุ๊ปในครั้งนี้มีขึ้นก่อนที่กรีซจะครบกำหนดชำระหนี้มูลค่า 7.2 พันล้านดอลลาร์ในเดือนก.ค. และก่อนที่จะถึงวันเลือกตั้งของเยอรมนี ฝรั่งเศส และเนเธอร์แลนด์ ซึ่งก็เป็นเสาหลักทางเศรษฐกิจของสหภาพยุโรป

 

เยอรมนี

สำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมนี (Destatis) รายงานว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนมกราคมปรับตัวขึ้น 2.4% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นอัตราเพิ่มรายปีสูงสุดในรอบเกือบ 5 ปี ขณะที่เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PPI เพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนมกราคม ซึ่งก่อนหน้านี้นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าดัชนี PPI จะเพิ่มขึ้น 2.1% เทียบรายปี และ 0.3% เทียบรายเดือน อันเนื่องมาจากราคาพลังงานเพิ่มขึ้น 1.1% เมื่อเทียบรายเดือน และ 4.0% เทียบรายปี ส่วนดัชนี PPI ที่ไม่รวมราคาพลังงาน เพิ่มขึ้น 0.6% เทียบรายเดือน และ 1.8% เทียบรายปี

 

เอเซีย: จีน

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า กระทรวงสิ่งแวดล้อมของจีนได้ระบุชื่อและกล่าวตำหนิหลายเมืองในภาคเหนือของประเทศที่ไม่ได้ดำเนินการเพียงพอในการรับมือกับปัญหาหมอกควัน  พื้นที่ส่วนใหญ่ของภาคเหนือของจีนถูกปกคลุมด้วยหมอกควันในฤดูหนาวปีนี้ แม้รัฐบาลพยายามหลายครั้งที่จะจัดการกับปัญหานี้ก็ตาม สัญญาณเตือนมลภาวะเป็นสิ่งที่พบได้ทั่วไปในภาคเหนือของจีน โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว ซึ่งความต้องการใช้พลังงานสูงขึ้นมาก การตรวจสอบเมือง 18 เมืองของกระทรวงในปักกิ่ง, เทียนจิน และเหอเป่ยได้ตรวจพบปัญหาหลายปัญหาในการจัดการกับหมอกควัน ซึ่งรวมถึงการวางแผนที่ไม่เพียงพอ และการปฏิบัติตามนโยบายอย่างไม่เคร่งครัด

ที่ปรึกษาของรัฐบาลจีนกล่าวว่า การลงทุนของจีนในภาคอสังหาริมทรัพย์มีแนวโน้มที่จะขยายตัวในอัตราที่เชื่องช้าลงในปีนี้ ในขณะที่รัฐบาลจีนพยายามควบคุมการเก็งกำไร ส่วนการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานมีแนวโน้มที่จะเติบโตเป็นตัวเลขสองหลักต่อไป หนังสือพิมพ์ไชน่า อิโคโนมิค เดลี่รายงานในวันอาทิตย์ว่า นายหลี่ เว่ย ประธานศูนย์วิจัยการพัฒนาของคณะรัฐมนตรีจีนแสดงความเห็นดังกล่าวในงานสัมมนาในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นายหลี่กล่าวว่า ยอดส่งออกของจีนมีแนวโน้มที่จะกลับมามีอัตราการเติบโตเป็นบวกในปีนี้ ในขณะที่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์เข้าสู่เสถียรภาพ และมีการปรับตัวรับผลกระทบจากการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐฯอย่างค่อยเป็นค่อยไป จีนมียอดส่งออกดิ่งลง 7.7% ในปี 2016 ซึ่งถือเป็นการปรับลดลงเป็นปีที่สองติดต่อกัน และถือเป็นการลดลงครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2009 ในขณะที่อุปสงค์ในตลาดโลกอยู่ในภาวะอ่อนแออย่างต่อเนื่อง การลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนเพิ่มขึ้น 6.9% ในปี 2016 ในขณะที่ยอดขายอสังหาริมทรัพย์ทั่วประเทศจีนเพิ่มขึ้น 22.5 % ในปี 2016 ซึ่งถือเป็นการพุ่งขึ้นครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 7 ปี โดยเป็นผลจากภาวะเฟื่องฟูเป็นอย่างมากของภาคอสังหาริมทรัพย์ในเมืองใหญ่

 

ญี่ปุ่น

ยอดส่งออกของญี่ปุ่นปรับขึ้นในเดือนม.ค.ในอัตราที่เชื่องช้ากว่าเดือนธ.ค. โดยเป็นผลจากการลดลงของยอดส่งออกสู่สหรัฐ และเป็นผลจากช่วงวันหยุดในเทศกาลตรุษจีน นอกจากนี้ความกังวลเรื่องมาตรการกีดกันทางการค้าก็ส่งผลให้ภาคส่งออกมีแนวโน้มที่ไม่แน่นอนด้วย ยอดส่งออกเพิ่มขึ้น 1.3% ในเดือนม.ค.เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันในปีก่อน โดยต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 4.7% ต่อปี และต่ำกว่าอัตราการเติบโตที่ 5.4% ต่อปีในเดือนธ.ค. 2016 ทั้งนี้ ยอดส่งออกปรับขึ้นในเดือนม.ค.เป็นเดือนที่สองติดต่อกัน หลังจากหดตัวลงนาน 14 เดือนติดต่อกัน ส่วนยอดนำเข้าของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 8.5% ต่อปีในเดือนม.ค. ซึ่งถือเป็นการปรับขึ้นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2014 ในขณะที่ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น หลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ทำข้อตกลงในปีที่แล้วในการปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมัน ยอดส่งออกจากญี่ปุ่นสู่สหรัฐลดลง 6.6% ในเดือนม.ค.เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันในปีก่อน  ยอดเกินดุลการค้าของญี่ปุ่นต่อสหรัฐดิ่งลง 26.6% ต่อปี สู่ 3.993 แสนล้านเยน (3.54 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ในเดือนม.ค. หลังจากลดลง 5.1% ต่อปีในเดือนธ.ค. โดยนักวิเคราะห์กังวลว่าถ้าหากยอดเกินดุลการค้าของญี่ปุ่นต่อสหรัฐเริ่มเพิ่มขึ้นอีกครั้ง สิ่งนี้อาจจะก่อให้เกิดความขัดแย้งระหว่างประเทศ หลังจากปธน.ทรัมป์กล่าวโจมตีญี่ปุ่น, จีน และเยอรมนี เนื่องจากสามประเทศนี้ส่งออกสินค้าจำนวนมากเข้าสู่ตลาดสหรัฐ ยอดส่งออกจากญี่ปุ่นสู่จีนปรับขึ้น 3.1% ต่อปีในเดือนม.ค. หลังจากทะยานขึ้น 12.4% ต่อปีในเดือนธ.ค. โดยยอดส่งออกสู่จีนชะลอการเติบโตลง เพราะว่าโรงงานชะลอการผลิตก่อนถึงเทศกาลตรุษจีน ทั้งนี้จีนถือเป็นประเทศคู่ค้าที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น และญี่ปุ่นถือเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก

 

เกาหลีใต้

นายซอง อวน-ซอก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังของเกาหลีใต้กล่าวว่า เศรษฐกิจเกาหลีใต้ส่งสัญญาณในทางบวกสำหรับการเติบโตของภาคส่งออกและการลงทุนด้านทุน  อย่างไรก็ดีการบริโภคยังคงอยู่ในภาวะเฉื่อยชา นายซองกล่าวในการแถลงข่าวว่าสื่อมวลชนบางรายคาดการณ์ในทางลบต่อเศรษฐกิจของเรา แต่เขาไม่คิดว่าเศรษฐกิจของเกาหลีใต้กำลังจะเผชิญกับความยากลำบากเป็นอย่างมาก การบริโภคภาคครัวเรือนเติบโตอย่างเฉื่อยชาเล็กน้อย แต่มีสัญญาณในทางบวกจากการลงทุนด้านทุนและการส่งออก นายซองกล่าวว่า ภาวะปั่นป่วนวุ่นวายที่เคยเกิดขึ้นในตลาดหลังจากนายโดนัลด์ ทรัมป์เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐได้สงบลงมากแล้วในเกาหลีใต้ กระทรวงการคลังเกาหลีใต้เพิ่งประกาศในช่วงเช้าวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า ทางกระทรวงจะเปิดขายพันธบัตรรัฐบาลประเภทอายุ 50 ปีในเดือนมี.ค. โดยนายซองได้กล่าวว่า รัฐบาลตัดสินใจออกจำหน่ายพันธบัตรประเภทนี้ หลังจากมีอุปสงค์สูงมากในตลาด นายซองกล่าวว่าเราจำเป็นต้องพิจารณาอุปสงค์ในตลาด แต่เขาเชื่อว่าในอนาคตนั้นเกาหลีใต้จะปรับเพิ่มปริมาณการออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลระยะยาว อย่างเช่นพันธบัตรประเภท 20 ปี, 30 ปี และ 50 ปี โดยเส้นอัตราผลตอบแทนของเกาหลีใต้แบนราบมากในปัจจุบัน และทางการเกาหลีใต้จะตัดสินใจโดยพิจารณาจากเส้นอัตราผลตอบแทน เพื่อทำให้เส้นอัตราผลตอบแทนกลับเข้าสู่ภาวะปกติ รัฐบาลเกาหลีใต้เพิ่งเปิดขายพันธบัตร 50 ปีครั้งแรกในเดือนต.ค. 2016 โดยมีอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 1.574% โดยพันธบัตรนี้ถือเป็นพันธบัตรที่มีอายุไถ่ถอนยาวนานที่สุดของเกาหลีใต้

 

ฟิลิปปินส์

นางเรจินา โลเปซ รมว.สิ่งแวดล้อมของฟิลิปปินส์กล่าวยืนยันการตัดสินใจที่จะปิดเหมืองมากกว่าครึ่งหนึ่งในประเทศ และห้ามการทำเหมืองในพื้นที่ลุ่มน้ำก่อนการประชุมระหว่างหน่วยงานในวันจันทร์เพื่อทบทวนมาตรการดังกล่าว ในเดือนนี้ นางโลเปซได้สั่งปิดเหมือง 23 แห่งจาก 41 แห่งของฟิลิปปินส์ และระงับการทำเหมืองของอีก 5 แห่งเนื่องจากสร้างความเสียหายแก่พื้นที่ลุ่มน้ำ และการตกตะกอนในน่านน้ำที่เป็นชายฝั่ง ในสัปดาห์ที่แล้ว นางโลเปซได้สั่งยกเลิกสัญญาการทำเหมือง 75 ฉบับหรือเกือบ 1 ใน 3 ของการผลิตของเหมือง

 

ไทย

คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สภาพัฒน์) เผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี)ของไทย ในไตรมาส 4/59 เติบโต 3.0% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และเพิ่มขึ้น 0.4% จากไตรมาสก่อนหน้า โดยเป็นผลจากการส่งออกสินค้า การใช้จ่ายรัฐบาล และการลงทุนโดยรวมขยายตัวดีขึ้น ขณะที่การใช้จ่ายภาคครัวเรือนยังขยายตัวต่อเนื่อง สภาพัฒน์ยังคงตัวเลขการเติบโตของจีดีพีในไตรมาส 3/59 ไว้ที่ 3.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ขณะที่ถ้าเทียบรายไตรมาส จีดีพีไตรมาส 3/59 มีการปรับตัวเลขจากเดิมที่ขยายตัว 0.6% เป็นเติบโต 0.4%  สภาพัฒน์ระบุอีกว่า จีดีพีในปี 59 ขยายตัว 3.2% เท่ากับที่เคยคาดไว้ก่อนหน้านี้ สภาพัฒน์คงคาดการณ์จีดีพีปี 60 เติบโตในช่วง 3.0-4.0% ขณะที่ปรับเพิ่มคาดการณ์การส่งออกปีนี้เป็นเติบโต 2.9% จากเดิมคาดโต 2.4% สภาพัฒน์ระบุว่า เศรษฐกิจไทยในปี 60 มีปัจจัยสนับสนุนจากการขยายตัวของการส่งออก ซึ่งจะสนับสนุนให้การผลิตภาคอุตสาหกรรมและการลงทุนภาคเอกชนปรับตัวดีขึ้น ขณะที่การฟื้นตัวและขยายตัวเร่งขึ้นของการผลิตภาคเกษตรและฐานรายได้เกษตรกร จะเป็นปัจจัยสนับสนุนการขยายตัวของการใช้จ่ายภาคครัวเรือน นอกจากนี้เศรษฐกิจไทยปีนี้จะได้แรงหนุนจากการลงทุนภาครัฐยังอยู่ในเกณฑ์สูงและเร่งตัวขึ้น, การจัดทำงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมวงเงิน 1.9 แสนล้านบาท และแรงขับเคลื่อนจากภาคการท่องเที่ยว

 

Money Market

- ดอลลาร์/บาท วันจันทร์ (20 กพ.) เงินบาทอ่อนค่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯในช่วงเช้าวันนี้ขณะที่วันนี้ดอลลาร์สหรัฐฯเคลื่อนไหวทั้งในทิศทางที่อ่อนค่าและแข็งค่าเมื่อเทียบกับค่าเงินเอเซียโดยรวม โดยปัจจัยจากความกังวลเรื่องนโยบายเศรษฐกิจสหรัฐฯส่งผลกดดันดอลลาร์สหรัฐฯในช่วงนี้ แม้ว่าปัจจัยเรื่องแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยยังหนุนดอลลาร์สหรัฐฯให้มีแนวโน้มแข็งค่าก็ตาม โดยสัปดาห์นี้นักลงทุนรอฟังการแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐระดับภูมิภาค

- ดอลลาร์/เยน วันจันทร์ (20 กพ.) เงินเยนอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯในช่วงเช้าวันนี้ตามปัจจัยพื้นฐานที่ดอลลาร์สหรัฐฯมีแนวโน้มแข็งค่าเทียบกับเยนเนื่องจากส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มกว้างขึ้น อย่างไรก็ดีเนื่องจากปัจจัยเสี่ยงต่างๆมีมากขึ้นทำให้เงินเยนกลับมาแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งการแข็งค่าของเยนเป็นผลลบต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่พึ่งการส่งออกเป็นสำคัญในการที่จะทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัว โดยล่าสุดยอดส่งออกเพิ่มขึ้น 1.3% ในเดือนม.ค.เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันในปีก่อน ต่ำกว่าอัตราการเติบโตที่ 5.4% ต่อปีในเดือนธ.ค. 2016

- ยูโร/ดอลลาร์ วันจันทร์ ( 20 กพ.) เงินยูโรแข็งค่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯในช่วงเช้าวันนี้เนื่องจากปัจจัยเรื่องความวิตกเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจของสหรัฐฯยังกดดันค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอยู่ในช่วงนี้ อย่างไรก็ดีเงินยูโรก็มีแนวโน้มจะถูกกดดันจากปัจจัยเรื่องการเลือกตั้งในหลายประเทศของยูโรโซนในปีนี้เช่นกัน รวมถึงปัจจัยเรื่องความอ่อนแอของเศรษฐกิจหลายประเทศในยูโรโซนที่ยังไม่ฟื้นตัว ทั้งนี้เงินยูโรอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯในช่วงตลาดสหรัฐฯโดยยูโรถูกกดดันจากการที่นักลงทุนกังวลว่าการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสจะทำให้สถานภาพที่เป็นอยู่เปลี่ยนแปลงไป ในขณะที่กระแสต่อต้านกลุ่มฐานอำนาจเดิมได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้น ขณะที่โพลล์ระบุว่า นางมารีน เลอ แปน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีฝรั่งเศสจากฝ่ายขวาจัด ได้รับคะแนนนิยมใกล้เคียงกับผู้สมัครสายกลางมากยิ่งขึ้น

 

Capital Market

- ตลาดสหรัฐฯ วันจันทร์ ( 20 กพ.) ตลาดหุ้นสหรัฐปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันประธานาธิบดี

- ตลาดหุ้นเอเชีย วันจันทร์ ( 20 กพ.) ดัชนีตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่สูงขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ สำหรับดัชนีนิกเกอิปิดตลาดบวก  0.09% มาอยู่ที่ 19,251.08 หลังจากเคลื่อนตัวในแดนลบช่วงเช้าจากผลของเงินเยนที่แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯในช่วงนี้และความกังวลเรื่องนโยบายเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทั้งนี้ภาวะการซื้อขายผันผวน และปริมาณการซื้อขายเบาบาง ขณะที่รายงานข่าวชี้ว่านักลงทุนปลีกตัวอยู่นอกตลาด เนื่องจากความกังวลเรื่องปัจจัยเสี่ยงต่างๆที่สูงขึ้น อีกทั้งตลาดสหรัฐปิดทำการวันนี้เนื่องในวันหยุด ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดตลาดเพิ่มขึ้น 1.23% มาอยู่ที่ 3,241.45 หลังจากรายงานของสื่อระบุว่า กองทุนบำเหน็จบำนาญอาจจะเริ่มลงทุนในตลาดหุ้นจีนในสัปดาห์นี้ ดัชนีฮั่งเส็งปิดเพิ่มขึ้น 0.47% สู่ระดับ 24,146.08 โดยได้แรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของตลาดหุ้นและตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ของจีน

- ตลาดหุ้นไทย วันจันทร์ ( 20 กพ.) ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้สูงขึ้นในช่วงเปิดตลาดก่อนที่จะปรับตัวลดลงหลังจากนั้นและเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบๆเป็นส่วนใหญ่ โดยวันนี้สภาพัฒน์รายงานตัวเลขจีดีพีของไทย ในไตรมาส 4/59 เติบโต 3.0% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และเพิ่มขึ้น 0.4% จากไตรมาสก่อนหน้า ส่งผลให้จีดีพีในปี 59 ขยายตัว 3.2% สภาพัฒน์คงการคาดการณ์จีดีพีปี 60 เติบโตในช่วง 3.0-4.0% ขณะที่ปรับเพิ่มคาดการณ์การส่งออกปีนี้เป็นเติบโต 2.9% จากเดิมคาดโต 2.4% ทั้งนี้ปิดตลาดวันนี้ SET INDEX เพิ่มขึ้น 0.63 จุด

 

โดย สำนักวิจัยธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ประจำวันที่ 21 ก.พ. 2560

Comments

B
i
u
Quote
Code
List
List item
URL
Name *
Code   
ChronoComments by Joomla Professional Solutions
Submit Comment
 
 

Login

Forgot your password? Create an account
mod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_counter
mod_vvisit_counterToday24052
mod_vvisit_counterYesterday40565
mod_vvisit_counterAll days167605260

We have: 667 guests online
Your IP: 3.139.237.130
Mozilla 5.0, 
Today: Apr 26, 2024

5957552