Snapshot

สหรัฐอเมริกา

แหล่งข่าวกล่าวว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐจะประชุมกับนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันพฤหัสบดีนี้ โดยถือเป็นส่วนหนึ่งของการหาตัวผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งประธานเฟดคนใหม่ เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวกล่าวในวันพฤหัสบดีที่ 12 ต.ค.ว่า ปธน.ทรัมป์ได้ประชุมกับนายจอห์น เทย์เลอร์ นักเศรษฐศาสตร์ของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดเพื่อหารือเรื่องตำแหน่งประธานเฟด แหล่งข่าวกล่าวว่า ปธน.ทรัมป์กำลังพิจารณารายชื่อตัวเก็งตำแหน่งประธานเฟดคนใหม่ในช่วงนี้ โดยบุคคลในรายชื่อนี้รวมถึงนายเจอโรม พาวเวล ซึ่งเป็นผู้ว่าการคนหนึ่งในเฟด, นายเควิน วอร์ช อดีตผู้ว่าการเฟด, นายแกรี คอห์น ซึ่งเป็นที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจของปธน.ทรัมป์ และนางเยลเลน ซึ่งจะพ้นวาระการดำรงตำแหน่งสมัยปัจจุบันในเดือนก.พ. 2018  หัวหน้าเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวกล่าวในวันพฤหัสบดีที่ 12 ต.ค.ว่า ยังคงต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งก่อนที่ปธน.ทรัมป์จะตัดสินใจว่าจะเลือกใครให้มาดำรงตำแหน่งประธานเฟด เขากล่าวว่ายังคงมีการสัมภาษณ์กันต่อไป โดยทุกคนที่มาให้สัมภาษณ์ไปแล้วนั้นเป็นคนที่อยู่ในรายชื่อตัวเลือกในร่างแรก และก็จะยังคงมีคนอื่นๆตามมาอีก ปธน.ทรัมป์กล่าวต่อผู้สื่อข่าวในช่วงปลายเดือนที่แล้วว่า เขาได้ประชุมกับผู้มีสิทธิดำรงตำแหน่งประธานเฟดไปแล้ว 4 คน และเขาจะตัดสินใจในอีก 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า

รัฐมนตรีการค้าของสหรัฐ, แคนาดา และเม็กซิโกได้เสร็จสิ้นจากการเจรจาการค้าเรื่องความตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (นาฟตา) หนึ่งรอบในวันอังคารที่ผ่านมา โดยมีการโต้เถียงกันเป็นอย่างมากในการเจรจาครั้งนี้ เนื่องจากสหรัฐยื่นข้อเรียกร้องที่แข็งกร้าว และทำให้มีการตั้งข้อสงสัยกันว่า นาฟตาที่มีอายุมานาน 23 ปีจะมีอนาคตเป็นเช่นใดต่อไป สหรัฐได้ยื่นข้อเสนอในการปรับเปลี่ยนนาฟตาครั้งใหญ่ เพื่อจะได้ช่วยลดยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐ แต่ข้อเสนอดังกล่าวเป็นอุปสรรคต่อการเจรจาเรื่องการปรับปรุงนาฟตาให้ทันสมัย และส่งผลให้นักวิเคราะห์ตั้งข้อสงสัยกันว่า สมาชิกนาฟตาจะสามารถหลีกเลี่ยงจากภาวะทางตันได้อย่างไร ข้อเรียกร้องของสหรัฐรวมถึงการบังคับให้มีการเจรจาต่อรองใหม่ทุกๆ 5 ปี, การสงวนส่วนแบ่งใหญ่ในการผลิตรถยนต์ไว้ให้กับสหรัฐ และการอำนวยความสะดวกให้แก่การดำเนินมาตรการกีดกันการนำเข้าสินค้าบางประเภทจากแคนาดาและเม็กซิโก

วุฒิสภาสหรัฐเตรียมเดินหน้าพิจารณาแผนการปฏิรูปภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ หลังจากพรรครีพับลิกันยังไม่สามารถผลักดันให้ร่างกฎหมายดังกล่าวมีผลบังคับใช้ได้ในช่วงที่ผ่านมา ดังนั้น พรรครีพับลิกันจึงจำเป็นที่จะต้องผลักดันแผนปฏิรูปภาษีครั้งนี้ให้ลุล่วงไปให้ได้ ทั้งนี้ วุฒิสภาสหรัฐจะพิจารณาทางออกเรื่องงบประมาณ ซึ่งถือเป็นก้าวแรกของการอนุมัติแผนการปฏิรูปภาษี แต่พรรครีพับลิกันอาจจะได้รับการสนับสนุนไม่มากนัก ในขณะที่วุฒิสมาชิกของพรรค 1 คน มีแผนจะเดินทาง และไม่สามารถใช้สิทธิในการลงคะแนนเสียงได้

สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐฯ รายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านในเดือนตุลาคมปรับตัวขึ้น 4 จุด สู่ระดับ 68 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม โดนดัชนีความเชื่อมั่นที่อยู่สูงกว่าระดับ 50 บ่งชี้ถึงมุมมองโดยทั่วไปที่เป็นบวก ส่วนดัชนีคาดการณ์ยอดขายในช่วง 6 เดือนข้างหน้า เพิ่มขึ้น 5 จุด สู่ระดับ 78 จุด ขณะที่ดัชนียอดขายในปัจจุบันบวก 5 จุด สู่ระดับ 75 จุด

ดัชนีราคาสินค้านำเข้าปรับเพิ่มตัวขึ้น 0.7% เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2016 หลังจากเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนสิงหาคม และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าดัชนีราคานำเข้าจะเพิ่มขึ้น 0.5% เมื่อเทียบรายปี ดัชนีราคานำเข้าเพิ่มขึ้น 2.7% (yoy) หลังจากปรับตัวขึ้น 2.1% ในเดือนสิงหาคม ทั้งนี้ ดัชนีราคานำเข้าได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมัน และอาหารที่เพิ่มขึ้น ขณะที่การแข็งค่าของดอลลาร์เป็นปัจจัยสกัดราคานำเข้า นอกจากนี้  ดัชนีราคาส่งออกเพิ่มขึ้น 0.8% เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2016 หลังจากเพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนสิงหาคมเมื่อเทียบรายปี ดัชนีราคาส่งออกเพิ่มขึ้น 2.9% หลังจากเพิ่มขึ้น 2.4% ในเดือนสิงหาคม

ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) รายงานว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ประกอบด้วยภาคการผลิต, เหมืองแร่ และสาธารณูปโภค ในเดือนกันยายนเพิ่มขึ้น 0.3% โดยได้แรงหนุนจากการผลิตรถยนต์ และอุปกรณ์อิเลคทรอนิคส์ ซึ่งบ่งชี้ถึงการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภคสหรัฐ ทั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดว่าการผลิตภาคอุตสาหกรรมจะดีดตัวขึ้นต่อไป จากการที่โรงกลั่นน้ำมันได้กลับมาทำการผลิต หลังจากที่ปิดโรงงานก่อนหน้านี้จากอิทธิพลของพายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์ และเออร์มา

ยุโรป: ยูโรโซน

สมาคมผู้ผลิตรถยนต์ยุโรป (ACEA) รายงานว่า ยอดขายรถใหม่ในสหภาพยุโรป (EU) ปรับตัวลดลง 2% ในเดือนก.ย. แตะที่ 1.43 ล้านคัน เนื่องจากความต้องการรถยนต์ในตลาดใหญ่ชะลอตัว โดยเฉพาะในสหราชอาณาจักร ประกอบกับฐานการเปรียบเทียบเดือนก.ย. ปีที่แล้วซึ่งอยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์  ทั้งนี้ ACEA ระบุว่า ยอดขายรถใหม่ในเยอรมนีลดลง 3.3% และสหราชอาณาจักรร่วง 9.3% ซึ่งถึงแม้จะได้รับการชดเชยจากยอดขายที่เพิ่ม 8.1% และ 4.6% ในอิตาลีและสเปน ตามลำดับ รวมถึงยอดขายรถใหม่ในฝรั่งเศสที่เพิ่มขึ้น 1.1% แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะช่วยหนุนให้ยอดขายโดยรวมทั้งภูมิภาคปรับตัวขึ้น

อังกฤษ

นายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ของอังกฤษและนายฌอง-คล็อด ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) ได้ตกลงกันในงานเลี้ยงอาหารเย็นที่กรุงบรัสเซลส์เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า ควรจะมีการเร่งความเร็วในการเจรจาต่อรองเรื่องที่อังกฤษจะถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (อียู) หรือ Brexit  แถลงการณ์ร่วมกันที่ออกมาระบุว่า การประชุมนานสองชั่วโมงนี้ดำเนินไปอย่าง "สร้างสรรค์และเป็นมิตร" โดยในการประชุมนี้ พวกเขา "ได้ทบทวนความก้าวหน้าในการเจรจาต่อรองตามมาตรา 50 ในช่วงที่ผ่านมา และตกลงกันว่าควรจะมีการเร่งความเร็วในเรื่องนี้ในช่วงหลายเดือนข้างหน้า" นายกรัฐมนตรีเมย์ของอังกฤษกำลังจะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดของอียูที่กรุงบรัสเซลส์ในวันที่ 19-20 ต.ค.ทั้งสองฝ่ายต่างก็เรียกร้องให้มีการเร่งความเร็วในการเจรจาต่อรอง ในขณะที่อังกฤษจะถอนตัวออกจากอียูในเดือนมี.ค. 2019 และธุรกิจหลายแห่งประกาศเตือนว่า ถ้าหากไม่มีความชัดเจนว่าสถานการณ์จะเป็นเช่นใดในช่วงหลังจากนั้น ธุรกิจเหล่านี้ก็จะเริ่มต้นโยกย้ายการลงทุนในช่วงต้นปี 2018 แถลงการณ์ร่วมกันในครั้งนี้แทบไม่ได้ให้ข้อมูลอื่นๆ และไม่มีการระบุถึงการกล่าวโทษซึ่งกันและกันระหว่างอังกฤษกับอียูในช่วงที่ผ่านมา โดยทั้งสองฝ่ายต่างก็เคยกล่าวหาอีกฝ่ายหนึ่งว่าสร้างทางตันในการเจรจา อียูเคยกล่าวหานางเมย์ว่าไม่ยอมให้รายละเอียดในเรื่องที่ว่า อังกฤษเต็มใจที่จะจ่ายเงินมากเพียงใดเพื่อแลกกับการถอนตัวออกจากอียู และอียูก็ไม่ยอมเจรจาเรื่องการทำข้อตกลงทางการค้ากับอังกฤษในอนาคต จนกว่านางเมย์จะให้รายละเอียดในเรื่องนี้

อังกฤษเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนกันยายนเพิ่มขึ้น 3% จากที่ขยายตัว 2.9% ในเดือนก่อน ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์

เอเชีย : ญี่ปุ่น

สหรัฐและญี่ปุ่นเห็นพ้องที่จะทำงานร่วมกันเพื่อต่อต้านภัยคุกคามมากขึ้นจากเกาหลีเหนือ แต่ก็ไม่สามารถแก้ข้อขัดแย้งในประเด็นเรื่องการค้าในระหว่างการเจรจาด้านเศรษฐกิจเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยญี่ปุ่นหลีกเลี่ยงข้อเรียกร้องของสหรัฐที่ต้องการเจรจาต่อรองข้อตกลงการค้าระหว่างสองประเทศ ในการเจรจาเศรษฐกิจระดับทวิภาคีรอบสองที่จัดขึ้น 1 เดือนก่อนที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะเดินทางเยือนเอเชียเป็นครั้งแรก นายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดี และนายทาโร อาโสะ รองนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้ย้ำความร่วมมือกันเพื่อจัดการกับความสามารถด้านนิวเคลียร์ที่เพิ่มขึ้นของเกาหลีเหนือ นายเพนซ์กล่าวกับนายอาโสะว่าสหรัฐจะยังคงนำอำนาจแบบเต็มศักภยภาพของสหรัฐมายังเกาหลีเหนือ  ขณะที่สหรัฐหวังว่าจะบรรลุวิธีแก้ไขปัญหาแบบสันติด้วยวิธีทางการทูตและเศรษฐกิจ และการบรรลุเป้าหมายของคาบสมุทรเกาหลีที่ปลอดนิวเคลียร์ ญี่ปุ่นตกลงที่จะปรับปรุงกระบวนการทดสอบเสียงและการปล่อยไอเสียสำหรับรถยนต์ที่ส่งออกไปยังสหรัฐ ขณะที่ทั้งสองประเทศได้ยกเลิกข้อกำหนดการค้ามันฝรั่งของสหรัฐ และลูกพลับของญี่ปุ่น  แต่สหรัฐและญี่ปุ่นยังคงขัดแย้งในเรื่องการกำหนดกรอบการเจรจาการค้าในอนาคต ขณะที่ญี่ปุ่นคัดค้านข้อเรียกร้องของสหรัฐที่เสนอโดยนายเพนซ์เพื่อเปิดการเจรจาสำหรับข้อตกลงการค้าเสรีทวิภาคี (FTA) นอกจากนี้ ยังไม่มีข้อตกลงเกี่ยวกับการร้องเรียนของสหรัฐเกี่ยวกับกลไกการป้องกันของญี่ปุ่นต่อการนำเข้าเนื้อวัวแช่แข็งของสหรัฐ โดยแหล่งข่าวเปิดเผยกับรอยเตอร์ว่า ญี่ปุ่นจะเสนอให้มีการเปลี่ยนแปลงทางเทคนิคกับระบบดังกล่าวเพื่อลดแรงกดดันของสหรัฐ

รอยเตอร์เปิดเผยผลสำรวจระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของบริษัทผู้ผลิตญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นในเดือนต.ค.จนแตะจุดสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงกลางปี 2007 และสิ่งนี้ถือเป็นหลักฐานอีกชิ้นหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่า การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในญี่ปุ่นกำลังทวีความเร็วขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของเยน และจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งจากต่างประเทศ รอยเตอร์เปิดเผยผลสำรวจรอยเตอร์ ทังกันรายเดือนในวันอังคารที่ผ่านมา หลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) เปิดเผยผลสำรวจทังกันรายไตรมาสในวันที่ 2 ต.ค. โดยระบุว่าบริษัทผู้ผลิตขนาดใหญ่ของญี่ปุ่นคาดการณ์ในทางบวกต่อแนวโน้มธุรกิจมากที่สุดในรอบ 10 ปี ผลสำรวจเหล่านี้จะส่งผลดีต่อนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะของญี่ปุ่น ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาล่างในวันที่ 22 ต.ค.นี้ ในขณะที่นายอาเบะพยายามจะทำให้ประชาชนเชื่อมั่นว่า นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจและเงินเฟ้อของเขาจะช่วยทำให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นฟื้นตัวอย่างยั่งยืน รอยเตอร์ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของบริษัทผู้ผลิตญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 6 จุด จาก +25 ในเดือนก.ย. สู่ +31 ในเดือนต.ค. ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2007 โดยได้รับแรงหนุนจากความเชื่อมั่นของผู้ผลิตเครื่องจักรไฟฟ้า, ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์โลหะและเครื่องจักรอื่นๆ และบริษัทกลั่นน้ำมัน ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ผลิตเครื่องจักรไฟฟ้าพุ่งขึ้นจาก +30 ในเดือนก.ย. สู่ +50 ในเดือนต.ค., ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ผลิตผลิตภัณฑ์โลหะและเครื่องจักรอื่นๆทะยานขึ้นจาก +32 ในเดือนก.ย. สู่ +50 ในเดือนต.ค. ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นของบริษัทกลั่นน้ำมันพุ่งขึ้นจาก 0 ในเดือนก.ย. สู่ +33 ในเดือนต.ค.สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นของภาคบริการญี่ปุ่นลดลงจาก +34 ในเดือนก.ย. ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดรอบ 2 ปี สู่ +30 ในเดือนต.ค. โดยได้รับแรงกดดันจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคค้าปลีกที่ดิ่งลงจาก +5 ในเดือนก.ย. สู่ -10 ในเดือนต.ค. โดยรายงานตัวเลขนี้อาจสร้างความกังวลในด้านการบริโภคภาคครัวเรือนซึ่งครองสัดส่วนราว 60% ของเศรษฐกิจญี่ปุ่น ผู้จัดการบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์การขนส่งแห่งหนึ่งระบุว่า "ยอดขายรถยนต์ทั่วโลกอยู่ในระดับที่ดีในช่วงที่ผ่านมา บริษัทผู้ผลิตเครื่องจักรไฟฟ้าแห่งหนึ่งระบุว่า สกุลเงินแกว่งตัวเพียงเล็กน้อย และยอดสั่งซื้ออยู่ในระดับสม่ำเสมอ รอยเตอร์จัดทำผลสำรวจนี้จากคำตอบของบริษัทขนาดกลางและขนาดใหญ่ของญี่ปุ่น 254 แห่งในวันที่ 28 ก.ย.-12 ต.ค.คณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) จะพิจารณาความเชื่อมั่นในภาคธุรกิจ เมื่อบีโอเจออกรายงานคาดการณ์แนวโน้มเงินเฟ้อและเศรษฐกิจระยะยาวในการประชุมวันที่ 30-31 ต.ค. ผู้กำหนดนโยบายของบีโอเจตั้งความหวังว่า การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องจะช่วยหนุนค่าแรงและปริมาณการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภค อย่างไรก็ดีนักวิเคราะห์คาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะยังคงอยู่ห่างจากเป้าหมายที่บีโอเจตั้งไว้ที่ 2%

สิงคโปร์

สำนักงานวิสาหกิจระหว่างประเทศของสิงคโปร์รายงานว่า ยอดส่งออกของสิงคโปร์ลดลงในเดือนก.ย.ปีนี้เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันในปีก่อน ซึ่งถือเป็นการลดลงเมื่อเทียบปีต่อปีเป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน ในขณะที่ยอดส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ปรับลดลงเป็นครั้งแรกในรอบเกือบหนึ่งปี ยอดส่งออกยกเว้นน้ำมัน (NODX) ของสิงคโปร์ลดลง 1.1% ต่อปีในเดือนก.ย. ซึ่งถือเป็นการลดลงครั้งแรกนับตั้งแต่ปรับลง 0.6% ต่อปีในเดือนเม.ย. โดยก่อนหน้านี้นักวิเคราะห์คาดว่า ยอดส่งออกอาจเพิ่มขึ้น 12.7% ต่อปีในเดือนก.ย. ยอดส่งออกของสิงคโปร์เติบโต 16.7% ต่อปีในเดือนส.ค.ในตัวเลขที่ผ่านการทบทวนแล้ว ยอดส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ลดลง 7.9% ต่อปีในเดือนก.ย. ซึ่งถือเป็นการลดลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2016 ทั้งนี้ภาคอิเล็กทรอนิกส์เคยเป็นปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นการค้าของสิงคโปร์ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา

ไทย

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เผยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในเดือนก.ย.ที่ 2.56 ล้านคน เพิ่มขึ้น 5.75% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ส่งผลให้ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ มีนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งสิ้น 26.1 ล้านคน ขยายตัว 5.40% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งทำให้เกิดรายได้ 1.33 ล้านล้านบาท นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวในเอกสารเผยแพร่ว่า ในเดือนก.ย. นักท่องเที่ยวจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกมากที่สุด ตามด้วยจากยุโรป เอเชียใต้ และอเมริกาในเดือนก.ย.การใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติดังกล่าว ก่อให้เกิดรายได้ 1.33 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งนักท่องเที่ยวจากจีน เกาหลี และญี่ปุ่น เป็นกลุ่มที่สร้างรายได้สูงสุด นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วโดยคาดว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาไทยในปีนี้ ราว 33-34 ล้านคน จากที่ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 35 ล้านคน โดยมาจากแรงหนุนของจำนวนนักท่องเที่ยวจีน

Money Market

- ดอลลาร์/บาท วันอังคาร (17 ตค.) เงินบาทอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯในช่วงเช้าวันนี้ขณะที่วันนี้ดอลลาร์สหรัฐฯก็แข็งค่าเมื่อเทียบกับค่าเงินส่วนใหญ่เนื่องจากข่าวประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐอาจจะเลือกนายจอห์น เทย์เลอร์ ซึ่งมีแนวคิดแบบสายเหยี่ยว ให้มาดำรงตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คนใหม่ ทั้งนี้ขณะเดียวกันก็มีรายงานข่าวว่า ประธานาธิบดีทรัมป์จะประชุมกับนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐในวันพฤหัสบดีนี้ โดยถือเป็นส่วนหนึ่งของการหาตัวผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งประธานเฟดคนใหม่ ทั้งนี้หัวหน้าเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวกล่าวในวันพฤหัสบดีที่แล้วว่า ยังคงต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งก่อนที่ปธน.ทรัมป์จะตัดสินใจว่าจะเลือกใครให้มาดำรงตำแหน่งประธานเฟด

- ดอลลาร์/เยน วันอังคาร (17 ตค.) เงินเยนอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯในช่วงเช้าวันนี้ต่อเนื่องจากเมื่อวานนี้จากข่าวการเลือกประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คนใหม่ ขณะที่นักลงทุนก็รอดูการเลือกตั้งสมาชิกสภาล่างของญี่ปุ่นในวันที่ 22 ต.ค.นี้

- ยูโร/ดอลลาร์ วันอังคาร (17 ตค.) เงินยูโรอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯในช่วงเช้าวันนี้ต่อเนื่องจากเมื่อวานนี้หลังการเลือกตั้งในออสเตรียทำให้นักการเมืองสายอนุรักษ์นิยม ขึ้นมาเป็นผู้นำประเทศคนใหม่ ขณะเดียวกันสเปนก็ใกล้ที่จะกำหนดกฏเกณฑ์กลางต่อแคว้นกาตาลุญญา เพื่อสกัดกั้นการผลักดันเพื่อแยกตัวเป็นอิสระ หลังผู้นำกาตาลุญญา ไม่ได้แสดงเจตนารมย์ที่ชัดเจนของเขาตามกำหนดเส้นตายของสเปนขั้นต้นเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

Capital Market

- ตลาดหุ้นสหรัฐฯ วันอังคาร (17 ตค.) ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปิดปรับตัวขึ้นในวันอังคาร โดยดัชนีดาวโจนส์ขึ้นเหนือระดับ 23,000 ได้ระยะสั้นๆเป็นครั้งแรก โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทยูไนเต็ดเฮลธ์ และบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ทั้งนี้ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 0.18% สู่ระดับ 22,997.44, ดัชนี S&P 500 ปิดเพิ่มขึ้น 0.07% สู่ระดับ 2,559.36 และดัชนี Nasdaq ปิดปรับตัวลง 0.01% สู่ระดับ 6,623.36

- ตลาดหุ้นเอเชีย วันอังคาร (17 ตค.) ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดบวก 0.38% สู่ระดับ 21,336.12 ขณะที่ภาวะซื้อขายค่อนข้างผันผวนในวันนี้ ทั้งนี้ค่าเงินเยนที่ทรงตัวช่วยหนุนหุ้นกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ และการคาดการณ์ว่าพรรคร่วมรัฐบาลจะชนะการเลือกตั้งในเดือนนี้ก็ยังคงหนุนบรรยากาศซื้อขาย ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดลดลง 0.15% มาอยู่ที่ 3,373.43 ขณะที่นักลงทุนรอดูข้อมูลเศรษฐกิจของจีน และการประชุมสุดยอดผู้นำครั้งสำคัญในสัปดาห์นี้ แต่หุ้นกลุ่มทรัพยากรปรับตัวลงจากความวิตกว่า แรงบวกของหุ้นกลุ่มทรัพยากรอาจจะสิ้นสุดลงแล้ว

- ตลาดหุ้นไทย วันอังคาร ( 17 ตค.) ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนีสูงขึ้นในช่วงแรกก่อนที่จะปรับตัวลดลงและเคลื่อนไหวอยู่ในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ในช่วงเช้า ขณะที่ในช่วงบ่ายดัชนียังอยู่ในแดนลบอย่างต่อเนื่องส่งผลให้ปิดตลาดวันนี้ SET INDEX ลดลง 2.20จุด

โดย สำนักวิจัยธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ประจำวันที่ 18 ต.ค. 2560

Written by :

กระแสหุ้นออนไลน์

 

Comments

B

i

u

Quote

Code

List

List item

URL

Name *
Code   
ChronoComments by Joomla Professional Solutions

Submit Comment