Investment Society by Sukit Udomsirikul |
![]() |
![]() |
![]() |
Tuesday, 19 January 2010 15:28 | |||
Investment Society by Sukit Udomsirikul PTTEP : Montara Project will resume in mid 2011 โครงการมอนทาราคาดจะเลื่อนดำเนินการเป็นกลางปี 2554 โดยในส่วนของค่าประกันภัยแม้คาดว่าจะคลอบคลุมค่าความเสียหายส่วนใหญ่ แต่การจ่ายชดเชยทยอยเข้ามาในปี 2552-2554 ทำให้ SCRI ต้องปรับประมาณการกำไรปี 2552 ลง 14% และปี 2553 ลง 8% แต่ไปเพิ่มขึ้นในปี 2554 ที่ 27% ผลประกอบการ Q4/52 คาดจะอยู่ในระดับทรงตัว และปี 2552 ลดลง 46% แต่ตั้งแต่ปี 2553 เป็นต้นไปคาดผลประกอบการจะอยู่ในช่วงกลับมาเติบโต โดยต่อเนื่องได้ตามการเติบโตของปริมาณการผลิตโดยเฉพาะตั้งแต่ปี 2555 ซึ่งมอนทารากลับมาผลิตเต็มปี การปรับประมาณการส่งผลต่อการปรับมูลค่าเหมาะสมใหม่ลดลงเล็กน้อยเป็น 186 บาท ซึ่งในปี 2553 มี PER ที่ 13.5 เท่า ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยหุ้น E&P ในภูมิภาคที่ 21 เท่า ประกอบกับคาดมีปัจจัยหนุนจากการปรับเพิ่มปริมาณสำรองจากโครงการ M9 คงคำแนะนำ “ซื้อ”
ความคืบหน้าในการสำรวจความเสียหายของโครงการมอนทารา ปัจจุบันยังคงอยู่ในช่วงส่งวิศวกรเข้าไปสำรวจ ซึ่ง PTTEP เชื่อว่าความเสียหายยังคงน่าจะเกิดขึ้นเฉพาะในส่วนบนของแท่นผลิต (Top Side) และคาดจะเริ่มกลับมาดำเนินการผลิตได้ในกลางปี 2554(เลื่อนไป 18 เดือน) สำหรับผลประกอบการ Q4/52 คาดจะทรงตัวโดยมีปัจจัยบวกจากราคาก๊าซที่ปรับเพิ่มขึ้นและมีค่าใช้จ่ายจากการตัดจำหน่ายมอนทาราใน Q4/52 ลดลง (ตัดจำหน่ายใกล้เคียง Q3/52 ราว 5,000 ล้านบาท แต่มีการรับเงินชดเชยประกันภัย 40 ล้านเหรียญ หักภาษีที่ประหยัดได้ ทำให้ค่าใช้จ่ายคาดเพิ่มขึ้นเพียงราว 1.4 พันล้านบาท) แต่คาดมีปริมาณการผลิตลดลงจากเยตากุนหยุดซ่อมบำรุง 10 วัน
PTTEP เชื่อว่าความเสียหายส่วนใหญ่ของโครงการมอนทาราจะครอบคลุมได้ด้วยประกันภัยซึ่งคาดจะเบิกได้รวมประมาณ 260 ล้านเหรียญ(จากวงเงินทั้งหมด 267 ล้านเหรียญ) ซึ่งเทียบกับการบันทึกค่าใช้จ่ายใน 2H/52 รวมประมาณ 10,000 ล้านบาท คาดมีค่าใช้จ่ายส่วนเกินบ้างแต่ต่ำกว่ากรณี Worse Case ที่ SCRI ประเมินไว้ที่ 200 ล้านเหรียญ อย่างไรก็ตาม การรับรู้รายได้ประกันภัยคาดทยอยเข้าในปี 2552-2554 ส่งผลให้ประมาณการกำไรปี 2552-2553 ยังคงต้องมีการปรับลดลงราว 14%(จากการบันทึกรายได้ประกันภัยเต็มที่ในปี 2552) และ 8% (จากการปรับลดแผนการผลิตปี 2553) แต่จะกลับมาเพิ่มขึ้น 27%(จากการปรับเพิ่มแผนการผลิตและรับรู้ชดเชยประกันภัยส่วนที่เหลือ) ในปี 2554
PTTEP มีการปรับแผนการผลิตปี 2553-2554 ลดลง 46,000 บาร์เรล/วัน และ 8,000 บาร์เรล คิดเป็นประมาณ 15% และ 8% โดยแผนการผลิตปรับลงมากกว่ากำลังการผลิตของโครงการมอนทารา (35,000 บาร์เรล/วัน) เนื่องจากโครงการเวียดนาม 9-2 ที่เริ่มผลิตเมื่อกลางปี 2551 มีปริมาณการผลิตและปริมาณสำรองน้อยกว่าที่คาดเดิมราว 50% ด้วย อย่างไรก็ตาม ผลกระทบไม่ได้มากนัก เนื่องจากโครงการดังกล่าว PTTEP ถือหุ้นอยู่เพียง 25% สำหรับภาพในระยะยาว เมื่อโครงการมอนทารากลับมาผลิตได้เต็มที่คาดว่ากำลังการผลิตของ PTTEP จะกลับมาเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 304,000 บาร์เรล/วันได้ในปี 2555 โดยคาดยังคงรักษาอัตราการเติบโตเฉลี่ยใน 5 ปีข้างหน้าได้ในระดับใกล้เคียง 6% ต่อปี
จากการปรับประมาณการกำไรส่งผลต่อราคาเหมาะสมใหม่ของ PTTEP ให้ปรับลดลงเล็กน้อยราว 4% มาอยู่ที่ 186 บาท แต่หากเทียบ upside จากราคาปัจจุบันยังคงสูง 25% ปัจจัยหนุนราคาหุ้นคาดจะมาจาก 1) แนวโน้มผลประกอบการกลับมาฟื้นตัวเติบโตตั้งแต่ปี 2553 2) PER ที่ 13.5 เท่า ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยหุ้น E&P ในภูมิภาคที่ 21 เท่า และ 3) จะมีการปรับปริมาณสำรองเพิ่มราว 15% จากโครงการ M9 ดังนั้น คงคำแนะนำ “ซื้อ” สุดท้ายขอให้ทุกท่านโชคดีและพบกันใหม่สัปดาห์หน้า
|
![]() | Today | 1111 |
![]() | All days | 1111 |
Comments