TMT : Dividend stock with a hefty outlook by Sukit Udomsirikul |
![]() |
![]() |
![]() |
Tuesday, 23 February 2010 16:04 | |||
Investment Society by Sukit Udomsirikul TMT : Dividend stock with a hefty outlook แม้ความล่าช้าของการแก้ไขปัญหาในมาบตาพุด จะทำให้กำลังซื้อใหม่ในภาคตะวันออกเริ่มปรับลดลง อย่างไรก็ตาม การวางแผนเพิ่มปริมาณสินค้าคงคลังเพื่อรองรับการขยายตัวของกำลังซื้อที่คาดจะปรับตัวเพิ่มขึ้นตามสภาพเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มเครื่องจักรเกษตรที่ได้รับผลบวกจากราคาสินค้าเกษตรที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น อีกทั้ง การมุ่งเน้นตอบสนองและให้บริการลูกค้าในทุกกลุ่ม จากการเป็นศูนย์บริการค้าเหล็กที่มีสินค้าหลากหลาย คาดจะทำให้กำไรสุทธิในช่วงปี 2553-2555 เติบโตอย่างมั่นคงไม่ต่ำกว่าปีละ 16% CAGR สำหรับฐานะการเงินที่มีความมั่นคงและมีหนี้สินทางการเงินในระดับต่ำ ส่งผลให้ TMT สามารถจ่ายเงินปันผลได้ในระดับสูงต่อเนื่องเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 8.3% ต่อปี ดังนั้น คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสมตามปัจจัยพื้นฐานเท่ากับ 6.2 บาท/หุ้น
แม้ราคาขายเฉลี่ยที่ขยับขึ้นจาก 22 บาท/ก.ก. ใน Q3/52 เป็น 23 บาท/ก.ก. เป็นผลจาก Product Mixed ในส่วนของเหล็กรูปพรรณที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม การเร่งสะสมสินค้าคงคลังในช่วง Q3/52 ส่งผลให้ปริมาณขายใน Q4/52 ลดลง 20% qoq เป็น 57,200 ตัน และทำให้รายได้ใน Q4/52 ลดลง 16% qoq เป็น 1,317 ล้านบาท สำหรับราคาขายที่ขยับขึ้น ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นใน Q4/52 ทรงตัวได้ในระดับสูงที่ 9.8% ดังนั้น กำไรสุทธิใน Q4/52 จึงปรับลดลงตามคาดเป็น 46 ล้านบาท ทั้งนี้ หากพิจารณาผลการดำเนินงานรายปี 2552 พบว่าปริมาณขายและราคาขายที่ลดลง 11% และ 34% เป็น 255,574 ตันและ 22.18 บาท/ก.ก. ตามลำดับ กระทบให้อัตรากำไรขั้นต้นในปี 2552 ลดลงจาก 13.66% ในปี 2551 เป็น 10.33% และส่งผลต่อเนื่องให้กำไรปี 2552 ลดลง 66% จาก 733 ล้านบาทในปี 2551 เป็น 251 ล้านบาท
แม้ความล่าช้าในการแก้ปัญหาในนิคมมาบตาพุด จะทำให้กลุ่มลูกค้าใหม่บริเวณภาคตะวันออกปรับลดลง อย่างไรก็ตาม การคงระดับสินค้าคงคลังในระดับสูงเพื่อให้สามารถรองรับปริมาณลูกค้าที่เพิ่มขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว อาทิ ยอดขายในกลุ่มยานยนต์ที่กลับมาเติบโต กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่มีการเปิดโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของผู้ผลิตเครื่องจักรเพื่อการเกษตร อาทิ กลุ่มคูโบตา ที่ได้รับผลบวกจากราคาสินค้าเกษตรที่เพิ่มขึ้น คาดจะทำให้ปริมาณขายใน Q1/53 ปรับตัวดีขึ้น yoy จาก 68,545 ตันใน Q1/52 โดยในเดือน ม.ค. 2553 บริษัทมียอดขายแล้ว 24,000 ตัน อีกทั้ง การเร่งกระจายงบไทยเข้มแข็งของช่วงที่เหลือของปี คาดจะช่วยกระตุ้นปริมาณขายปี 2553 ของบริษัทเพิ่มขึ้น 15% yoy เป็น 294,000 ตัน ขณะที่ราคาขายเฉลี่ยมีแนวโน้มปรับขึ้นเป็น 25 บาท/ก.ก. ตามต้นทุนการผลิตเหล็กและอุปสงค์ที่ขยับเพิ่มขึ้น ช่วยหนุนให้รายได้ปี 2553 เพิ่มขึ้น 35% yoy เป็น 7,586 ล้านบาท และส่งผลต่อเนื่องให้อัตรากำไรขั้นต้นและกำไรสุทธิปี 2553 เพิ่มเป็น 11.22% และ 395 ล้านบาท ตามลำดับ
โครงสร้างทางการเงินที่มั่นคงและมีหนี้สินทางการเงินในระดับต่ำ จนทำให้ TMT จ่ายเงินปันผลได้ต่อเนื่อง และล่าสุดบริษัทประกาศจ่ายเงินปันผลปี 2552 เท่ากับ 0.45 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลเท่ากับ 8.33% ต่อปี (ขึ้น XD วันที่ 3/3/2553)
แม้ราคาหุ้นของ TMT จะเริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้นตามความคาดหวังของเงินปันจ่ายที่บริษัทจะได้รับในงวดปี 2552 อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นในปัจจุบันยังอยู่ต่ำกว่ามูลค่าเหมาะสมปี 2553 เท่ากับ 6.20 บาท/หุ้น (DDM, Re 14%, G 3.5%, Payout Ratio 50%) ดังนั้น แนะนำ ซื้อ สุดท้ายขอให้ทุกท่านโชคดีและพบกันใหม่สัปดาห์หน้า
|
![]() | Today | 1747 |
![]() | All days | 1747 |
Comments