Forgot your password? Create an account
  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
News

Stockwave Online กระแสหุ้นออนไลน์ หุ้น หลักทรัพย์ การเงิน ข่าวเศรษฐกิจ

Home Hot News ขุนคลังเชื่อตลาดเงินไม่ผันผวนหลังเฟดฉีดเม็ดเงิน
ขุนคลังเชื่อตลาดเงินไม่ผันผวนหลังเฟดฉีดเม็ดเงิน PDF Print E-mail
Thursday, 04 November 2010 12:06

          นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า มาตรการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบ 6 แสนล้านดอลลาร์ เป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ ถือว่าปริมาณเงินเป็นระดับกลาง ๆ จากที่ประเมินไว้ จึงเป็นเรื่องที่ตลาดรับรู้ไปมากแล้ว ดังนั้น เชื่อว่าตลาดการเงินจะไม่เกิดความผันผวน

"เม็ดเงิน 6 แสนล้านเหรียญ อยู่ในกรอบที่คาดไว้ และคิดว่าตลาดเงินโดยรวมได้คาดการณ์ว่าจะใช้เงินอย่างน้อย 5 แสนล้านเหรียญ หรืออย่างมาก 7.5 แสนล้านเหรียญ ดังนั้นจึงไม่ใช่ข่าวใหม่ที่จะทำให้ตลาดเงินระยะสั้นที่มีความผันผวน แต่เป็นการยืนยันนโยบายการเงินของสหรัฐ และคิดว่าสหรัฐให้เวลาพอสมควรถึงกลางปีหน้าในการซื้อพันธบัตรด้วยเม็ดเงิน 6 แสนล้านเหรียญ และทยอยซื้อเพื่อไม่ให้กระทบตลาดการเงินโลก"นายกรณ์ กล่าว

โดยนโยบายการเงินของสหรัฐจะทำให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบเงินทุกสกุล ซึ่งเป็นเรื่องที่คาดการณ์ไว้แล้ว และเป็นการยืนยันว่าจะต้องมีการปรับตัวในระยะต่อไป เพราะเม็ดเงินอัดฉีดเข้าระบบเป็นจำนวนมหาศาลคงยากที่จะต้านทานได้ ขณะที่รัฐบาลได้มีการศึกษามาตรการไว้ทุกด้าน

อย่างไรก็ตาม มาตรการที่รัฐบาลประกาศใช้ในการเก็บภาษีหัก ณ ที่จ่าย 15% จากกำไร และดอกเบี้ยรับที่นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในพันธบัตรไทยขณะนี้ส่งผลทำให้ปริมาณการซื้อพันธบัตรของต่างชาติลดลงกว่าครึ่ง และมีการขายออกพันธบัตรออกมา สะท้อนว่าต่างชาติหยุดเก็งกำไรค่าเงินบาทผ่านตลาดตราสารหนี้ทันที

นายกรณ์ กล่าวว่า แม้จะมีข้อเสนอให้มีการเก็บภาษีเพื่อสกัดกั้นเงินทุนไหลเข้า แต่มองว่าไม่สามารถเปลี่ยนทิศทางอัตราแลกเปลี่ยนได้ เห็นได้จากประสบการณ์หลายประเทศ เช่น บราซิล และชิลิ ที่ใช้มาตรการนี้ แต่ค่าเงินก็ยังแข็งค่าต่อเนื่อง หรือญี่ปุ่นที่แทรกแซงค่าเงินเยนด้วยเงินมหาศาล ทำให้เงินเยนอ่อนค่าลงระดับหนึ่งเท่านั้น แต่ท้ายสุดก็กลับมาทิศทางเดิม อีกทั้ง ในช่วงก่อนหน้านี้ที่ทางการไทยเคยใช้มาตรการกันเงินสำรอง 30% เงินทุนนำเข้าระยะสั้น แต่เงินบาทยังแข็งค่า ดังนั้นเมื่อรู้ทิศทางอัตราแลกเปลี่ยนแล้ว สิ่งที่ป้องกันได้คือไม่ให้มีเงินทะลักเข้ามาเกินควรในแง่ของการเก็งกำไร

" แนวโน้มดอลลาร์อ่อนค่าลงต่อเนื่อง ทำให้การแข่งขันด้วยราคา โดยเฉพาะกำหนดราคาเป็นดอลลาร์จะยากขึ้น ดังนั้น ผู้ส่งออกต้องมีการปรับตัว ขณะนี้ก็พบว่าผู้ส่งออกขยายตลาดส่งออกกว้างขึ้น จากเดิมที่พึ่งพาตลาดยุโรปและสหรัฐถึง 60% ของการส่งออกทั้งหมด ขณะนี้เหลือ 20%  ส่วนที่เหลือส่งออกประเทศที่ค่าเงินแข็งค่าด้วย เพราะยังมีกำลังซื้อยังอยู่เหมือนเดิม"นายกรณ์ กล่าว

นอกจากนี้ นายกรณ์ ยังได้แนะนำให้ผู้ส่งออกไทยกำหนดราคาสินค้าเป็นเงินสกุลอื่นได้มากขึ้น หรือเจรจาในการปรับราคาสินค้าเพิ่มขึ้น เพราะผู้ซื้อที่ค่าเงินแข็งเช่นกัน ไม่ได้เปรียบเสียเปรียบ จะทำให้เรารักษาส่วนต่างกำไรได้

 ในวันนี้ ตนจะเดินทางเข้าร่วมประชุม รัฐมนตรีคลังกลุ่มประเทศเอเปค และจะได้เสนอแนวคิดต่อรมว.คลังอาเซียน เพื่อหารือถึงจุดยืดและความร่วมมือของกลุ่มประเทศอาเซียนในการดูแลค่าเงิน

ส่วนในวันที่ 6 พ.ย.จะเข้าพบ รัฐมนตรีคลังสหรัฐ  ซึ่งคงต้องมีการหารือถึงผลกระทบและข้อเสนอของสหรัฐที่มีต่อเศรษฐกิจในภูมิภาค เพราะเห็นว่ามาตรการอัดฉีดเงิน 6 แสนล้านเหรียญอาจจะมีผลกระทบ และข้อเสนอของสหรัฐให้กลุ่มประเทศจี 20 ควบคุมดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลหรือขาดดุลไม่เกิน 4% ซึ่งอาจจะส่งผลในเรื่องการกีดกันทางการค้าได้

Comments

B
i
u
Quote
Code
List
List item
URL
Name *
Code   
ChronoComments by Joomla Professional Solutions
Submit Comment
 
 

Login

Forgot your password? Create an account
mod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_counter
mod_vvisit_counterToday927
mod_vvisit_counterAll days927

We have: 924 guests online
Your IP: 216.73.216.199
Mozilla 5.0, 
Today: Jun 24, 2025

8176992