นายสมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนทหารไทย จำกัด เปิดเผยว่า เพื่อให้เกิดการเพิ่มมูลค่าของสินทรัพย์ภายใต้การจัดการของบริษัท (AUM) ได้อย่างยั่งยืน และเพื่อสนับสนุนธนาคารทหารไทยในการดำเนินการตามกรอบกลยุทธ์แผนระยะยาว 5 ปี ซึ่ง AUM ของ บริษัทฯ ถือเป็นส่วนหนึ่งในมูลค่าสินทรัพย์สุทธิของธนาคารทหารไทยด้วยนั้น ในรอบปี 2554 นี้ บลจ.ทหารไทย ได้กำหนดกรอบกลยุทธ์หลักเพื่อการดำเนินงานอันประกอบด้วย 3 ส่วนหลักคือ 1) การสร้างความเข้มแข็งของผลิตภัณฑ์และบริการที่ครอบคลุมทุกช่องทางหลักของการลงทุน 2) การสนับสนุนธุรกิจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ โดยมุ่งเน้นพัฒนาระบบและบริการให้ผู้ใช้บริการสามารถเลือกนโยบายการลงทุนโดยสมัครใจ และ3) การเสริมสร้างประโยชน์และเสริมสร้างความร่วมมืออย่างเข้มแข็งกับธนาคารทหารไทยและพันธมิตรตัวแทนสนับสนุนการขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุนเพื่อให้เกิดการลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพครบวงจร

ในช่วงที่ผ่านมา บลจ.ทหารไทย มีจุดแข็งหลายด้าน โดยเฉพาะนโยบายการลงทุนอย่างระมัดระวัง และการเป็นผู้นำทางด้าน Passive Investment ที่มีหลักการ เข้าใจง่าย มีต้นทุนค่าใช้จ่ายที่สมเหตุสมผล และยังคงไว้ซึ่งผลการดำเนินงานที่ดีในระดับแนวหน้าของประเทศ อาทิเช่น ในด้านกองทุนหุ้น กองทุนเปิดทหารไทย SET 50 ให้ผลตอบแทนการลงทุนในรอบปี 2553 ถึงร้อยละ 44.23 ซึ่งสูงกว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ SET50 ซึ่งปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 38.31 ขณะที่กองทุนหุ้นที่เป็นที่นิยมอีกหนึ่งกองทุนของบริษัทฯ คือกองทุนเปิดทหารไทย Jumbo 25 ก็ให้ผลตอบแทนในรอบปี 2553 เท่ากับร้อยละ 43.18 ในส่วนของกองทุนตลาดเงินนั้นในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมากองทุนเปิดทหารไทยธนรัฐ และธนบดี ได้รับการปรับอันดับเครดิตกองทุนรวมใหม่เป็น ‘AAAmmf(tha)’ ซึ่งเป็น ระดับสูงที่สุดตามเกณฑ์การจัดอันดับกองทุนรวมตลาดเงินในประเทศเกณฑ์ใหม่ของสถาบันจัดอันดับ บริษัท ฟิทช์ เรตติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งตามนิยามของฟิทช์ แสดงถึง กองทุนที่มีความสามารถสูงอย่างมากในการที่จะมีผลการดำเนินงานที่บรรลุวัตถุประสงค์ของการลงทุนในการรักษาเงินต้นที่ลงทุนและการดำรงสภาพคล่องให้อยู่ในระดับที่สูงโดยจำกัดความเสี่ยงด้านเครดิต ความเสี่ยงทางตลาดและความเสี่ยงทางสภาพคล่อง เมื่อเทียบกับการลงทุนระยะสั้นอื่นๆในประเทศไทย

ขณะที่กองทุนใหม่ 5 กองทุนที่ออกในรอบปี 2553 (ไม่นับรวมกองทุนที่มีกำหนดระยะเวลาแน่นอน อาทิ กองทุนพันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้ กองทุนพันธบัตรรัฐบาลไทย เป็นต้น) อันได้แก่ กองทุนเปิดทหารไทยธนพลัส กองทุนเปิดทหารไทยธนไพศาล กองทุนเปิดทหารไทยธนไพศาลเพื่อการเลี้ยงชีพ กองทุนเปิดทหารไทยออยล์ฟันด์ และกองทุนเปิดทหารไทย Global Bond Fund ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์การลงทุนของบริษัทฯ มีความหลากหลายและครบถ้วนสมบูรณ์สำหรับผู้ลงทุนมากยิ่งขึ้น นอกจากนั้นทั้ง 5 กองทุนดังกล่าวก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดียิ่ง

โดยเฉพาะกองทุนเปิดทหารไทยธนพลัส ซึ่งนับได้ว่าบริษัทฯ ได้ริเริ่มแนะนำกองทุนในลักษณะ Short-term Fixed Income เข้าสู่ตลาดเพื่อเป็นทางเลือกในการบริหารสภาพคล่องแก่ผู้ลงทุน ซึ่งผู้ลงทุนยังคงได้รับความอุ่นใจขณะที่ได้รับโอกาสของผลตอบแทนที่สูงกว่าการลงทุนในกองทุนตลาดเงินโดยทั่วไปอีกด้วย โดย ณ สิ้นปี 2553 สินทรัพย์สุทธิภายใต้การจัดการของกองทุนเปิดทหารไทยธนพลัส มีมูลค่าเท่ากับ 18,834 ล้านบาท เลยทีเดียว และสำหรับกองทุนเปิดทหารไทย Global Bond Fund ภายหลังการเปิดตัวในช่วงกลางเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ได้เติบโตเป็นกองทุนที่ลงทุนยังต่างประเทศ (Foreign Investment Fund - FIF) ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย คือมีมูลค่าเท่ากับ 7,500 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2553 และให้อัตราผลตอบแทนที่น่าประทับใจเป็นอย่างมาก คือให้อัตราผลตอบแทนเท่ากับร้อยละ 5.28 นับแต่การจัดตั้งกองทุน ณ วันที่ 14 กรกฎาคม 2553

“ในรอบปีที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าอุตสาหกรรมกองทุนรวมต้องปรับตัวกันพอสมควรเนื่องจากอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรภาครัฐของประเทศเกาหลีใต้มีทิศทางขาลงเมื่อเทียบกับผลตอบแทนที่ผู้ลงทุนได้รับจากการลงทุนในประเทศ ดังนั้น การที่ผู้ลงทุนให้การตอบรับเป็นอย่างดีกับทางเลือกการลงทุนในพันธบัตรทั่วโลกโดยไม่ต้องมีข้อจำกัดของการกำหนดอายุของการลงทุนที่แน่นอน (Fixed-Term Funds) ในที่นี้ก็คือ กองทุนเปิดทหารไทย Global Bond Fund ทำให้บริษัทฯ สามารถรักษาฐานการลงทุนเดิม รวมทั้งสร้างการเจริญเติบโตขึ้นของ AUM ได้ 5,389 ล้านบาท ส่งผลให้ ณ สิ้นปี 2553 สินทรัพย์ภายใต้การจัดการของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นเป็น 132,915 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเพิ่มประมาณร้อยละ 4.23 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา” ดร.สมจินต์กล่าวเพิ่มเติม

สำหรับปี 2554 นั้น นอกจากการเสริมจุดแข็งดังกล่าวให้เพิ่มมากขึ้นไปอีกแล้ว บริษัทฯ ได้วางแผนในการออกกองทุนใหม่ๆเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ลงทุนที่เพิ่มมากขึ้น อาทิเช่น ในระหว่างวันที่ 24 ม.ค.-4 ก.พ.2554 นี้ บริษัทฯ กำหนดออก IPO กองทุนใหม่จำนวน 3 กองทุน ประกอบด้วยการนำกองทุนยอดนิยมของบริษัทฯ มาเติมเต็มศักยภาพทางด้านสิทธิประโยชน์ทางภาษีให้แก่ผู้ลงทุน คือการออก กองทุนเปิดทหารไทย Global Bond Fund เพื่อการเลี้ยงชีพ และกองทุนเปิดทหารไทย โกลด์ สิงคโปร์ เพื่อการเลี้ยงชีพ ซึ่งในช่วง IPO  นี้ทุกยอดการลงทุน 50,000 บาทใน 2 กองทุน RMF ออกใหม่ดังกล่าวจะได้รับเงินลงทุนพิเศษในกองทุนเปิดทหารไทยธนบดี 500 บาทเลยทีเดียว นอกจากนั้น ได้กำหนดออกกองทุนเปิดทหารไทย โกลด์ สิงคโปร์ เพื่อต่อยอดความสำเร็จของกองทุนทองคำที่มีอยู่เดิมโดยกองทุนทองคำใหม่นี้จะเน้นลงทุนที่ตลาดสิงคโปร์ช่วยให้ผู้ลงทุนรับทราบ NAV ได้รวดเร็วขึ้น รวมทั้งจะมีการป้องกันความเสี่ยงของอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งโปรโมชั่นช่วง IPO ผู้ซื้อกองทุนเปิดทหารไทย โกลด์ สิงคโปร์ ทุก 100,000 บาท จะได้รับอั่งเปาเงินลงทุนเพิ่มในกองทุนเดียวกันเป็นมูลค่า 200 บาท ซึ่งผู้สนใจสามารถศึกษารายละเอียดของทั้งสามกองทุนเพิ่มเติมได้จากหนังสือชี้ชวน หรือโทรสอบถามเงื่อนไขโปรโมชั่นและรายละเอียดกองทุนได้จากศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ โทร 1725

สำหรับกลยุทธ์การสนับสนุนธุรกิจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และธุรกิจการลงทุนส่วนบุคคล ภายหลังจากที่ บลจ.ทหารไทย ได้จัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ  TMBAM M Choice ซึ่งจดทะเบียนแล้ว ซึ่งเป็นกองทุนสำรองเลี้ยงชีพแบบ Master Fund (หมายถึง กองทุนที่มีหลายนโยบาย) เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2552  ปรากฏว่ากองทุนดังกล่าวได้รับความไว้วางใจจากนายจ้างมากกว่า 120 ราย  โดย ณ สิ้นปี 2553 มูลค่าสินทรัพย์สุทธิได้เติบโตขึ้นเป็น 1,998 ล้านบาท   ซึ่งปัจจัยหลักที่ทำให้กองทุนนี้ประสพความสำเร็จและเป็นที่สนใจของลูกค้าเนื่องจากกองทุนให้ทางเลือกที่ครอบคลุม มีความหลากหลาย ปัจจุบันมีให้เลือกกว่า 10 นโยบายการลงทุนตั้งแต่ความเสี่ยงต่ำไปจนถึงความเสี่ยงสูง  และที่สำคัญสมาชิกสามารถกำหนดแผนการลงทุนได้ด้วยตนเอง  หรือ คณะกรรมการกองทุนจะเป็นผู้กำหนดกรอบการลงทุนให้สมาชิกก็ได้  นอกจากนี้กองทุนดังกล่าวสามารถทำรายการได้ทุกวัน และยังเลือกปรับสัดส่วนการลงทุนหรือจำนวนเงินเข้ารายเดือนได้อีกด้วย

และในดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา  บลจ. ทหารไทย ได้ขึ้นระบบ FunLlink M Choice Online ซึ่งเป็นระบบที่พัฒนาขึ้นในแนวทางเดียวกับระบบ FunLink Online ซึ่งเป็นระบบการทำธุรกรรมกองทุนทางอินเตอร์เน็ต ของบริษัทฯ ที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง ทำให้สมาชิกสามารถติดตามผลการดำเนินงานแต่ละนโยบายการลงทุนของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของตนเองรวมถึงตรวจสอบรายการเคลื่อนไหวที่สมาชิกทำรายการได้ทุกวันทำให้สมาชิกได้รับประโยชน์สูงสุดจากระบบดังกล่าว โดย ณ สิ้นปี 2553 บริษัทฯ มีสินทรัพย์ของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพภายใต้การจัดการเพิ่มขึ้นเป็น 9,077 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราเติบโตร้อยละ 14 ต่อปี มีจำนวนนายจ้าง 262 ราย ครอบคลุมสมาชิกกว่า 52,500 คน ในส่วนธุรกิจกองทุนส่วนบุคคล ถือได้ว่าบริษัทฯ อยู่ในช่วงของการเริ่มต้นวางรากฐานและกลยุทธ์ โดยปัจจุบันบริษัทฯ ได้รับการอนุมัติจาก สำนักงาน ก.ล.ต. ให้สามารถประกอบธุรกิจจัดการกองทุนส่วนบุคคลแล้วโดยบริษัทฯกำลังเร่งดำเนินการขยายฐานผู้ลงทุนต่อไป

ด้านกลยุทธ์การทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับธนาคารทหารไทย และการเสริมสร้างความเข้มแข็งร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจที่เป็นตัวแทนสนับสนุนการขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุนนั้น จากการที่ บริษัทฯ มีความแข็งแกร่งด้านบริการเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าโดยพัฒนาช่องทางการลงทุนไว้อย่างครบถ้วน ทำให้ผู้ถือหน่วยลงทุนสามารถซื้อขายหน่วยลงทุนได้อย่างสะดวกรวดเร็ว รวมทั้งสามารถวางแผนการลงทุนล่วงหน้าเพื่อให้การบริหารการเงินเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น การประสานการทำกิจกรรมการตลาดร่วมกับธนาคารทหารไทยซึ่งมีจุดแข็งดังกล่าวเช่นกันรวมถึงการมีฐานลูกค้าเงินฝากที่แข็งแกร่ง และการทำงานร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจซึ่งก็คือตัวแทนสนับสนุนการขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุน เพื่อดำเนินกิจกรรมการตลาด การให้ข้อมูลการลงทุน การจัดสัมมนาและคืนกำไรให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนในรูปแบบอื่นๆ จะได้รับการส่งเสริมอย่างเป็นรูปธรรมในปี 2554 นี้ เพื่อให้ครอบคลุมผู้ถือหน่วยลงทุนทุกรายของบริษัทฯ และอำนวยประโยชน์แก่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง

"ปี 2554 นับเป็นปีแห่งการสร้างมูลค่าเพิ่มและสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้าในทุกกลุ่ม โดยจะเสริมสร้างจุดแข็งที่มีอยู่ และมุ่งพัฒนาระบบและเพิ่มประสิทธิภาพและบริการในรูปแบบใหม่ๆเพื่อรองรับทั้งธุรกรรมกองทุนโดยปกติและธุรกรรมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่จะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคต รวมทั้งส่งเสริมความร่วมมืออย่างแข็งขันกับธนาคารทหารไทยและพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อการเติบโตอย่างมีเสถียรภาพและยั่งยืนในระยะยาวควบคู่ไปกับผู้ถือหน่วยลงทุนของบริษัทฯ และสานต่อเจตนารมณ์ของการเป็น คู่ชีวิตการลงทุน"

Written by :

กระแสหุ้นออนไลน์

 

Comments

B

i

u

Quote

Code

List

List item

URL

Name *
Code   
ChronoComments by Joomla Professional Solutions

Submit Comment