“บ้านปู”ปรับแผนลงทุน หลังราคาถ่านหินวูบฉุดกำไร |
![]() |
![]() |
![]() |
Tuesday, 24 July 2012 17:22 | |||
นายชนินทร์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANP ผู้ผลิตและจำหน่ายถ่านหินรายใหญ่ เปิดเผยว่า กำไรจากการดำเนินงานในปีนี้ของบริษัท อาจต่ำกว่าปีที่ผ่านมาที่มีกำไรประมาณ 1.3 หมื่นล้านบาท จากราคาถ่านหินที่อ่อนตัวลง หลังได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจโลก และการส่งออกแก๊สจากสหรัฐฯ ซึ่งมีราคาที่ต่ำกว่าทำให้โรงไฟฟ้าหลายแห่ง เปลี่ยนไปใช้ต้นทุนพลังงานแบบนี้
โดยบริษัทได้ปรับลดเป้าหมายรายได้รวมปี2555 จากเดิมเติบโต 15% จาก 1.2 แสนล้านบาทเมื่อปีก่อน เป็น เติบโตเพียง 3% อีกทั้งบริษัทได้ปรับลดเป้าการผลิตและการขาย จากเดิม 47 ล้านตัน เหลือ 44 ล้านตัน เพราะได้เลื่อนแผนการผลิตเหมืองในมองโกเลีย เพราะเห็นว่ายังไม่คุ้มค่าการลงทุน รวมทั้งลดการผลิตจากเหมืองในอินโดนีเซียและออสเตรเลียลงอีก
“ตอนนี้เราต้องการคงสถานะการเงินให้มีความมั่นคง และมุ่งมั่นรักษาผลประโยชน์สูงสุดให้แก่ผู้ถือหุ้น จึงมีการควบคุมเพื่อลดค่าใช้จ่าย และเลื่อนการลงทุนบางส่วนออกไป ส่วนจะมีการจ่ายเงินปันผลตามนโยบายเดิม 50%ของกำไรสุทธิหรือไม่นั้น เรื่องนี้จะยื่นให้บอร์ด และผู้ถือหุ้นพิจารณา ภาพรวมราคาถ่านหินจากนี้จะอยู่ทีประมาณ 94 เหรียญสหรัฐ/ตัน จากเดิม 100-120 ล้านเหรียญ/ตัน โดยคาดว่าว่าจนถึงปีหน้าราคาจะอยู่ในช่วงประมาณ 80-100 เหรียญสหรัฐ/ตัน”นายชนินทร์ กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทได้ปรับลดงบลงทุนในช่วง 5 ปี ลงประมาณ30% หรือ 500-600 ล้านเหรียญสหรัฐ จากเดิมที่ตั้งไว้ 1.75 พันล้านเหรียญ โดยมีบางโครงการที่จำเป็นต้องเลื่อนออกไปเมื่อพิจารณาแล้วว่าไม่คุ้มค่ากับการลงทุนในช่วงนี้ ขณะที่บางโครงการจะดำเนินการต่อแต่ไม่เร่งลงทุนทั้งหมด โดยยังคงเหลือวงเงินลงทุนไว้ประมาณ 1.15 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ตลาดในปัจจุบันที่ราคาถ่านหินในตลาดโลกอ่อนตัวลง และคาดว่าราคายังทรงตัวไปจนถึงอย่างน้อยในปลายปีนี้หรือต้นปี 2556
จากปัจจัยลบที่เข้ามากระทบธุรกิจของบริษัท แม้ผู้บริหารบมจ.บ้านปู จะเชื่อว่าเป็นระยะสั้น แต่ทางบริษัทได้ปรับลดเป้าปริมาณการผลิตและขายในปี 2556-2558 ลงจากเดิมที่ตั้งเป้าในปี 2558 ทั้งกลุ่มจะมีปริมาณการผลิตและขายถ่านหินที่ 60 ล้านตัน เหลือเพียง 55 ตัน หรือลดลง 10% เช่นเดียวกับการออกมาตรการลดค่าใช้จ่ายการดำเนินงานกลุ่มธุรกิจถ่านหินในประเทศอินโดนีเซียในปีนี้ ลงอีก 6-7% ของงบประมาณที่ตั้งไว้ หรือ 4 เหรียญฯ/ตัน และปี 2556จะลดต้นทุนเป็น 10-12%
“บ้านปูเรายังมีสินทรัพย์อีกหลายแห่งที่สามารถสร้างความแข็งแกร่งด้านกระแสเงินสดให้แก่บริษัท ทั้งในส่วนธุรกิจถ่านหินและธุรกิจไฟฟ้า ซึ่งมีโรงไฟฟ้าบีแอลซีพี โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมในจีน โครงการโรงไฟฟ้าหงสาที่มีการก่อสร้างคืบหน้าไปมากกว่า20% และจะสามารถสร้างรายได้อย่างมั่นคงในอนาคตอันใกล้ ขณะที่ธุรกิจถ่านหินก็มีแหล่งรายได้ที่แน่นอนจากการขายถ่านหินในประเทศของCentennial Coal และการขายถ่านหินจากแหล่งผลิตในจีนให้แก่ตลาดในประเทศ”นายชนินทร์ กล่าว
|
![]() | Today | 1170 |
![]() | All days | 1170 |
Comments