บลจ. กสิกรไทย โชว์จ่ายปันผล4กองทุน2,000 ล้าน |
![]() |
![]() |
![]() |
Saturday, 02 March 2013 11:07 | |||
นายจงรัก รัตนเพียร ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ. กสิกรไทย) เปิดเผยว่า บลจ. กสิกรไทย จะจ่ายเงินปันผล กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) จำนวน 4 กองทุน สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2555 ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2556 ประกอบด้วย กองทุนเปิดเค โกรทหุ้นระยะยาวปันผล (KGLTF) และกองทุนเปิดเค หุ้นระยะยาวปันผล (KDLTF) จ่ายเงินปันผลในอัตรากองทุนละ 1.00 บาทต่อหน่วย คิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากการจ่ายเงินปันผล (Dividend Yield) ที่ 4.69% และ 5.09% ตามลำดับ พร้อมด้วยกองทุนเปิดเค 20 ซีเล็คท์หุ้นระยะยาวปันผล (K20SLTF) ซึ่งจะจ่ายปันผลในอัตรา 0.90 บาทต่อหน่วย คิดเป็น Dividend Yield 5.13% และกองทุนเปิดเค 70:30 หุ้นระยะยาวปันผล (K70LTF) จ่ายในอัตรา 0.70 บาทต่อหน่วย คิดเป็น Dividend Yield ที่ 3.97% โดยทุกกองทุนข้างต้นจะจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ลงทุนที่มีรายชื่อในสมุดทะเบียน ณ เวลา 08.00 น. ของวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2556 กำหนดจ่ายเงินปันผลดังกล่าวพร้อมกันในวันที่ 14 มีนาคม นี้ รวมมูลค่าเงินปันผลทั้งสิ้น 1,993.75 ล้านบาท
“ผลการดำเนินงานของกองทุน LTF ทั้ง 4 กองทุนในรอบที่ผ่านมานับว่าอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพึงพอใจ และยังสามารถเอาชนะ Dividend Yield ของหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ได้มากพอสมควร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเปรียบเทียบ Dividend Yield ของทั้ง 4 กองทุนเฉพาะช่วง 6 เดือนล่าสุดอยู่ในระดับ 3.97% - 5.13% และหากมองถึง Dividend Yield ตลอดทั้งปี คือ ตั้งแต่ 1 มีนาคม2555 ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2556 กองทุน LTF ทั้ง 4 กองทุนสามารถให้ dividend yield สูงถึง 5.39% - 5.95% ในขณะที่ค่าเฉลี่ยทั้งปีของตลาดหลักทรัพย์ ณ ช่วงเวลาเดียวกันอยู่ที่ประมาณ 2.58% เท่านั้น” นายจงรักกล่าว
ด้านมุมมองต่อตลาดหุ้นไทย นายจงรักเปิดเผยว่า บลจ.กสิกรไทย เชื่อว่าตลาดหุ้นไทยยังได้รับปัจจัยบวกจากเศรษฐกิจที่ยังคงมีแนวโน้มเติบโตดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงอัตราดอกเบี้ยปัจจุบันที่ค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับอัตราเงินเฟ้อซึ่งจะส่งผลให้หุ้นมีความน่าสนใจเพิ่มขึ้น โดยตั้งแต่ต้นปีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นไปกว่า 10% นับว่าค่อนข้างโดดเด่น ส่วนระดับราคาปัจจุบันแม้จะค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับอดีต แต่ยังคงอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นอื่นๆ ในภูมิภาคเดียวกันไม่ว่าจะเป็นฟิลิปปินส์ อินเดีย หรือมาเลเซีย จึงเป็นโอกาสที่จะดึงดูดเม็ดเงินจากต่างชาติให้เข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยได้อย่างต่อเนื่อง
“ในแง่ปัจจัยบวก นอกจากเรื่องความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจไทยซึ่งเป็นปัจจัยบวกภายในประเทศแล้ว การที่ธนาคารกลางต่างๆ ยังคงดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการอัดฉีดเม็ดเงิน จะทำให้เม็ดเงินไหลเข้ามาลงทุนในตลาดเอเชียรวมถึงไทยอย่างต่อเนื่อง โดย บลจ. กสิกรไทยยังคงเป้าหมาย SET Index ที่ 1,570 – 1,600 จุด และคาดการณ์อัตราการเติบโตของผลกำไรบริษัทจดทะเบียนที่ 20% ในส่วนนักลงทุนต่างชาติ แม้ว่าตั้งแต่ต้นปีจะมีแรงขายสุทธิหุ้นไทยไปแล้วกว่า 6,000 ล้านบาท แต่ก็เชื่อว่าเป็นเพียงผลกระทบที่ทำให้เกิดการปรับฐานในระยะสั้น ในทางกลับกันนักลงทุนสถาบันยังคงมีแรงซื้อเข้ามา ทำให้ดัชนีสามารถปรับตัวดีขึ้นได้อีก จึงเป็นโอกาสที่ผู้ลงทุนในกองทุน LTF จะทยอยจับจังหวะเข้าลงทุนได้เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนในระยะยาวจากการเติบโตของตลาดหุ้นไทยและเพื่อรับสิทธิลดหย่อนภาษีในปีนี้” นายจงรักกล่าวในที่สุด
สำหรับผู้ลงทุนในกองทุน LTF ของ บลจ. กสิกรไทยในปีที่ผ่านมา สามารถยื่นหนังสือรับรองการซื้อกองทุน LTF เพื่อขอคืนภาษีสำหรับปีภาษี 2555 ได้ โดยใช้เอกสารที่บลจ. กสิกรไทย นำส่งให้ทางไปรษณีย์ และอีเมล์ตั้งแต่เดือนมกราคม 2556 หรือเลือกดาวน์โหลดเอกสารด้วยตนเองทาง www.kasikornasset.com โดยคลิกเลือกเมนู “ขอหนังสือรับรองการซื้อ LTF / RMF ปี2555” กรอกชื่อ-นามสกุล เลขประจำตัวประชาชนและเลขบัญชีกองทุนของตนเอง และเลือกพิมพ์เอกสารเพื่อใช้ประกอบการยื่นภาษีได้ทันที
ผู้ที่สนใจลงทุนในกองทุน KDLTF กองทุน KGLTF กองทุน K20SLTF และกองทุน K70LTF สามารถขอรับหนังสือชี้ชวน เสนอขายได้ที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ KAsset Contact Center 0 2673 3888
|
![]() | Today | 1040 |
![]() | All days | 1040 |
Comments