| กรุงไทยอัดโปรโมชั่นทรัพย์ NPA ล็อตสุดท้ายกว่า 2,000 ยูนิต |
|
|
|
| Tuesday, 12 November 2013 20:45 | |||
|
ธนาคารกรุงไทยจัดหนักทรัพย์ NPA ทั้งอสังหาฯ เพื่อการอยู่อาศัยและการลงทุนกว่า 2,000 ยูนิต มูลค่ากว่า 4,000 ล้านบาทร่วมขายในงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 29 และงาน KTB NPA Grand Sale กระแทกโปรโมชั่นและเงื่อนไขพิเศษ ย้ำเป็นการขายราคาเดิมส่งท้ายปี 56 ก่อนปรับราคาใหม่ในปี 57
นายสุชาติ เดชอิทธิรัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารกลุ่มทรัพย์สินพร้อมขาย ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงแผนการขายทรัพย์ NPA ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2556 ว่า ธนาคารมีนโยบายที่จะจัดกิจกรรมขายอสังหาริมทรัพย์มือสองในทำเลต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง นอกจากการนำเสนอขายผ่านสาขาทั่วประเทศและกิจกรรมการขายอื่น ๆ แล้ว ยังได้เข้าร่วมงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 29 และงาน KTB NPA Grand Sale ที่จะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 14-17 พฤศจิกายน 2556 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยกิจกรรมขายภายในงานดังกล่าวธนาคารกรุงไทยได้จัดทรัพย์ที่มีศักยภาพจากทำเลต่าง ๆ ทั่วประเทศกว่า 2,000 รายการ มูลค่ากว่า 4,000 ล้านบาท มานำเสนอสำหรับประชาชนที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัย และผู้ประกอบการที่กำลังมองหาทรัพย์เพื่อรองรับการลงทุนจากโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐ 2.2 ล้านล้านบาท รวมทั้งการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC)
สำหรับจุดเด่นของการนำทรัพย์ NPA เข้าร่วมขายในงานมหกรรมบ้านและคอนโดฯ ธนาคารจะจัดให้มีกิจกรรม KTB NPA Grand Sale ด้วยการจัดโปรโมชั่นพิเศษในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาด 35% รวมทั้งนำเสนอเงื่อนไขและสิทธิพิเศษครั้งสุดท้ายของปี 2556 ก่อนที่ตลาดจะมีการปรับเปลี่ยนราคาเพิ่มสูงขึ้นในปี 2557 ซึ่งคาดว่าราคาตลาดน่าจะปรับขึ้นประมาณ 5-10% นอกจากนี้ยังมีทรัพย์ที่มีศักยภาพด้านการลงทุน เช่น ที่ดินแปลงใหญ่จำนวน 183 ไร่ ติดถนนบางนา – ตราด ซึ่งเหมาะสำหรับการพัฒนาเชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่ โครงการที่อยู่อาศัย หรือโลจิสติกส์ รวมทั้งอาคารสำนักงาน 5 ชั้นบนพื้นที่ 8 ไร่ ติดถนนบรมราชชนนี ใกล้ศาลายา เหมาะสำหรับการลงทุนทำโชว์รูม อาคารสำนักงาน และพาณิชย์กรรมอื่น ๆ นอกจากนี้แล้วยังมีที่ดินแปลงใหญ่จำนวน 77 ไร่ กลางเมือง จังหวัดพิษณุโลก มีสถานีรถไฟความเร็วสูงผ่าน เหมาะจะพัฒนาที่อยู่อาศัยแนวราบ หรือพัฒนาโรงแรม ส่วนผู้ประกอบการที่สนใจลงทุนในธุรกิจโรงแรมไม่ควรพลาดทรัพย์ในเส้นทาง AEC ซึ่งเป็นโรงแรมกลางเมืองจังหวัดมุกดาหารขนาด 125 ห้องพัก และโรงแรมกลางเมืองจังหวัดบุรีรัมย์ ขนาด 70 ห้องพัก เนื่องจากธุรกิจโรงแรมเป็นที่ต้องการสูงในตลาด AEC รวมทั้งทรัพย์ประเภทคลังสินค้าขนาดใหญ่ บนเนื้อที่กว่า 262 ไร่ พื้นที่ใช้สอย 10,890 ตารางเมตร อยู่ที่อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี
นายสุชาติ เปิดเผยเพิ่มเติมถึงแนวโน้มการตัดสินใจเลือกซื้อทรัพย์ NPA ว่า การซื้อทรัพย์เพื่อการลงทุนนั้น มีแนวโน้มที่จะสนใจซื้อทรัพย์ที่อยู่ในแนวการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นโครงการไฟฟ้า 10 สาย และการพัฒนาอื่น ๆ ที่จะมีเพิ่มขึ้นในอนาคต รวมทั้งหัวเมืองหลักที่เป็นประตูสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ทั้งนี้ ประเภททรัพย์ที่อยู่ในความสนใจของนักลงทุนเป็นอย่างสูงได้แก่ ที่ดินเปล่า อาคารสำนักงาน คลังสินค้าฯลฯ ส่วนการซื้อเพื่อการอยู่อาศัยนั้นประชาชนส่วนใหญ่ยังคงให้ความสำคัญกับทำเลที่ตั้งของทรัพย์ ซึ่งมีทั้งประเภท คอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ และที่ดินเปล่า ทั้งในทำกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตลอดจนหัวเมืองเศรษฐกิจในภูมิภาค เช่น จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย อุดรธานี ขอนแก่น นครราชสีมา ภูเก็ต หาดใหญ่ กาญจนบุรี เพชรบุรี ชลบุรี ระยอง เป็นต้น สำหรับผู้ที่สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 02-208-8333 หรือดูรายละเอียดทรัพย์ทุกรายการได้ที่ www.ktb.co.th/npa หรือ Facebook โดยคลิ๊กเข้าไปที่ www.ktbnpaclinic.com
บริษัท มาลีสามพราน จำกัด (มหาชน) หรือ MALEE เผยผลประกอบการไตรมาส 3/2556 ยอดขายรวม 1,206.9 ล้านบาท กำไรสุทธิ 83.2 ล้านบาท ยอดขายในส่วนของผลิตภัณฑ์แบรนด์มาลีเติบโตขึ้น 7.6%
นาวสาวรุ่งฉัตร บุญรัตน์ กรรมการและรองผู้จัดการใหญ่สายการขายและการตลาด บริษัท มาลีสามพราน จำกัด (มหาชน) หรือ MALEE เปิดเผยว่า “ในไตรมาส 3/2556 สภาพเศรษฐกิจโดยรวมขยายตัวค่อนข้างน้อย ผู้บริโภคระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น และสภาพคล่องในตลาดน้อยลง ทั้งนี้บริษัทฯ สามารถทำยอดขายรวมในไตรมาส 3/2556 เท่ากับ 1,206.9 ล้านบาท กำไรสุทธิ 83.2 ล้านบาท และกำไรต่อหุ้น (EPS) เท่ากับ 0.59 บาท โดยลดลงจากไตรมาส 2/2556 ซึ่งมียอดขายรวม 1,404.80 ล้านบาท กำไรสุทธิ 91.2 ล้านบาท และกำไรต่อหุ้น (EPS) 0.65 บาท อันเนื่องมาจากยอดขายในประเทศของธุรกิจรับจ้างผลิตลดลง แต่ยอดขายในส่วนของธุรกิจตราผลิตภัณฑ์มาลีกลับเติบโตขึ้น 7.6%”
ทั้งนี้ผลการดำเนินงานรวมของบริษัทฯ สำหรับงวดเก้าเดือนแรกของปี 2556 มียอดขายรวม 4,012.8 ล้านบาท ต่ำกว่าปีที่แล้วซึ่งมียอดขายรวม 4,721ล้านบาท หรือลดลง 14% และมีกำไรสุทธิรวมในเก้าเดือนแรกปี 2556 เท่ากับ 258 ล้านบาท ต่ำกว่ายอดกำไรสุทธิเก้าเดือนแรกในปีที่แล้ว ที่มียอดกำไรสุทธิ 437.3 ล้านบาท ทั้งนี้อันเนื่องมาจากปี 2555 บริษัทฯ รับงานรับจ้างผลิตในปริมาณสูงมากเป็นกรณีพิเศษเนื่องจากหลายๆ ธุรกิจประสบปัญหาสภาวะน้ำท่วม แต่ในปี 2556 ภาพรวมเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง ทำให้กำลังซื้อและการจับจ่ายของผู้บริโภคลดลง ขณะเดียวกันบริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ค่าใช้จ่ายทางการตลาดในการโปรโมทผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และการลงทุนเพื่อขยายกำลังการผลิต เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจในอนาคตเพิ่มมากขึ้น ซึ่งบริษัทฯ พร้อมเดินหน้าเต็มที่ ในการขยายธุรกิจรับจ้างผลิตให้เติบโตในปี 2557 นี้”
นาวสาวรุ่งฉัตร บุญรัตน์ กล่าวต่อว่า “เมื่อไม่นานมานี้บริษัทฯ ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์แบรนด์มาลีใหม่ ภายใต้ชื่อ “Malee Healti Plus” ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ค่อนข้างแตกต่างจากคู่แข่งในตลาด โดยเป็นเจ้าแรกที่ผสมผสานสองคุณค่าจากน้ำแร่ธรรมชาติลงในน้ำผลไม้ชั้นเลิศ ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้บริโภคที่รักสุขภาพ โดยคาดว่า Malee Healti Plus จะมีสัดส่วนยอดขายต่อกลุ่มน้ำผลไม้แบรนด์มาลี ไม่ต่ำกว่า 10% ในปี 2557
ทั้งนี้บริษัท มาลีสามพราน จำกัด (มหาชน) ยังได้รับรางวัล เป็น 1 ใน 200 สุดยอดบริษัทขนาดกลางและเล็กในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (Asia’s 200 Best Under a Billion) จากนิตยสาร FORBES ซึ่งประเทศไทยมีเพียง 8 บริษัทเท่านั้นที่ผ่านการคัดเลือกครั้งนี้ และMALEE เป็นเพียงบริษัทฯ เดียวในไทยที่เป็นบริษัทผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคหรือ Fast Moving Consumer Goods (FMCG) ที่ได้รับรางวัลนี้ ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นว่าบริษัทฯ มีโครงสร้างธุรกิจที่มั่นคง มีผลการดำเนินธุรกิจที่แข็งแกร่ง การจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงมีโครงสร้างทางการเงินที่เหมาะสม ทำให้ผลการดำเนินงานเติบโตอย่างโดดเด่น และให้ผลตอบแทนผู้ถือหุ้นสูง โดย MALEE มีอัตราผลตอบแทนต่อส่วนผู้ถือหุ้น (ROE) สูงถึง 50% มีอัตราผลตอบแทนต่อทรัพย์สิน (ROA) ที่ 23% และ อัตราเงินปันผลเฉลี่ย 4.32% (ตัวเลข ณ วันที่ 4 พ.ย. 2556)”
ปัจจุบันบริษัทได้ดำเนินธุรกิจทั้งแบบ Own Brand Manufacturing คือการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม น้ำผลไม้และผลไม้กระป๋องภายใต้แบรนด์ MALEE รวมถึงนมสด 100% ตราฟาร์มโชคชัย นอกจากนี้ MALEE ยังเป็นผู้ให้บริการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และรับจ้างผลิต (Contract Manufacturing) ให้กับบริษัทชั้นนำทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งสามารถสร้างรายได้และผลกำไรที่มั่นคงให้กับบริษัทได้อย่างต่อเนื่อง
|






![]() | Today | 807 |
![]() | All days | 807 |
Comments