หลักทรัพย์กสิกรไทยเปิดตัว DW11 ทางเลือกใหม่ล่าสุดเพื่อการลงทุนรับปีม้าทอง พร้อมวิ่งเร็ว ควบแรง ตอบโจทย์นักลงทุนรุ่นใหม่รับความเสี่ยงได้สูง เปิดโอกาสทำกำไรทั้งภาวะตลาดขาขึ้นขาลง มั่นใจด้วยกลยุทธ์การลงทุนแบบ Straddle นำร่อง 11 ตัวสุดเจ๋ง พร้อมเทรด 9 มกราคมนี้

นายธิติ ตันติกุลานันท์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปี 2557 นี้บริษัทมีแผนที่จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ทางการลงทุนใหม่เพิ่มขึ้น โดยเริ่มที่ Derivative Warrants (DW) ชุดแรกของบริษัทภายใต้ชื่อ DW11 โดยมีจุดเด่นกับครั้งแรกในประเทศไทยที่นำ กลยุทธ์การลงทุนแบบ Straddle มาใช้ ซึ่งจะทำให้นักลงทุนไม่พลาดโอกาสการทำกำไรในทุกการเปลี่ยนแปลงของตลาด มีการกำหนดราคาอย่างยุติธรรมเป็นมาตรฐานสากล พร้อมระบบการแจ้ง Indicative price เพื่อให้นักลงทุนคาดการเปลี่ยนแปลงของราคา DW เมื่อเทียบกับราคาหลักทรัพย์อ้างอิงได้อย่างรวดเร็ว สามารถซื้อขายได้เหมือนหุ้นทั่วไปในตลาดหลักทรัพย์โดยไม่จำเป็นต้องวางหลักประกันใดๆ โดยนักลงทุนเริ่มซื้อขาย DW11 ทั้ง 11 ตัว ได้แก่ CPF11C1406A, IVL11C1406A, KTB11C1406A, PTTG11C1406A, QH11C1406A, SCB11C1403A, SCB11P1403A, THCO11C1406A, TRUE11C1406A, TTA11C1406A, TUF11C1406A ตั้งแต่วันที่ 9 มกราคม 2557 เป็นต้นไป

DW11 ที่หลักทรัพย์กสิกรไทยพัฒนาขึ้นจะมีความพิเศษด้วยระบบ Smart KS Market Making Module ซึ่งจะช่วยสร้างสภาพคล่องให้กับ DW11 แบบอัตโนมัติ ทำให้นักลงทุนสามารถซื้อขาย DW11 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้การสนับสนุนอย่างครบวงจรจากทีมงานมืออาชีพจากธนาคารกสิกรไทย ในการวางระบบปฏิบัติการทั้งหมด พร้อมนำเสนอกลยุทธ์การลงทุนแบบ Straddle ที่จะสร้างโอกาสให้นักลงทุนสามารถทำกำไรจากการเปลี่ยนแปลงราคาหุ้นอ้างอิงไม่เกี่ยงทิศทาง นอกจากนั้นยังมีการกำหนดค่าความผันผวนให้เหมาะสมกับ DW แต่ละตัว เพื่อให้ผู้ลงทุนสามารถเลือกใช้กลยุทธ์การลงทุนได้อย่างหลากหลายมากขึ้นอีกด้วย ซึ่งทั้งหมดถือเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยสร้างความแข็งแกร่งและความน่าเชื่อถือให้กับ DW 11

“การนำเสนอ DW11 เข้าสู่ตลาดในช่วงนี้ เรามั่นใจว่าจะเป็นทางเลือกการลงทุนที่ดีให้กับนักลงทุนที่ต้องการหาช่องทางทำกำไรทั้งช่วงตลาดขาขึ้นและขาลง โดย DW11 จะเป็นผลิตภัณฑ์ทางการลงทุนใหม่จากหลักทรัพย์กสิกรไทย ที่เปิดตัวนำร่องในปีนี้ และตลอดทั้งปี 2557 บริษัทมีแผนที่จะเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์การลงทุนอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ๆ ที่จะตอบสนองทุกสไตล์การลงทุน   ทั้งนี้จะเป็นการพัฒนาควบคู่ไปกับการเพิ่มลูกเล่นใหม่ๆ ของผลิตภัณฑ์ทางการลงทุนที่มีอยู่ให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น  พร้อมๆไปกับการปรับปรุงระบบการดูแลลูกค้า โดยการนำ Business Intelligence Tools เข้ามาใช้เพื่อช่วยให้ผู้แนะนำการลงทุนสามารถดูแลลูกค้าได้อย่างใกล้ชิดมากขึ้น เรามั่นใจว่าการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการลงทุนและด้านบทวิเคราะห์ให้ครอบคลุมและหลายหลายมากยิ่งขึ้นจะช่วยให้บริษัทฯขยายส่วนแบ่งการตลาดและขยายฐานนักลงทุนหน้าใหม่ของบริษัทให้เพิ่มมากขึ้นได้ ” นายธิติ กล่าว

ด้านผลการดำเนินงานในปี 2556 ที่ผ่านมา บริษัทฯ สามารถชิงส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มขึ้น และไต่ขึ้นสู่อันดับ 2 โดยมีปริมาณลูกค้าใหม่ตลอดทั้งปีอยู่ที่ประมาณ 21,000 บัญชี ซึ่งเกินกว่าเป้าหมายที่วางไว้ 18,000 บัญชี ในปี 2557 บริษัทฯ วางเป้าหมายส่วนแบ่งทางการตลาดที่ 6.81% โดยเน้นไปที่นักลงทุนที่ซื้อขายออนไลน์และลูกค้าที่ใช้บริการผ่าน K-Investment Corner ทั้ง 58 สาขา

Written by :

กระแสหุ้นออนไลน์

 

Comments

B

i

u

Quote

Code

List

List item

URL

Name *
Code   
ChronoComments by Joomla Professional Solutions

Submit Comment