กคช. เดินหน้าพัฒนาที่อยู่อาศัย เน้นบ้านเช่าให้ประชาชนเข้าถึง |
![]() |
![]() |
![]() |
Monday, 05 September 2022 00:12 | |||
กคช. เดินหน้าพัฒนาที่อยู่อาศัย เน้นบ้านเช่าให้ประชาชนเข้าถึง หนุนอาชีพสร้างรายได้ ลดรายจ่าย ส่งเสริมคุณภาพชีวิต พร้อมแก้ไข Sunk cost รับสังคมผู้สูงอายุ นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ เปิดเผยถึงความก้าวหน้าผลการดำเนินงานของการเคหะแห่งชาติ ประจำปี 2565 ว่า การเคหะแห่งชาติเป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจภายใต้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้ดำเนินนโยบายสำคัญของรัฐบาลตามแนวทางของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งนับตั้งแต่รับตำแหน่ง ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2563 เป็นต้นมา รวมระยะเวลาประมาณสองปีเศษ ตนมีความตั้งใจจริงที่จะเดินหน้าขับเคลื่อนการดำเนินงานของการเคหะแห่งชาติในทุกมิติ เพื่อให้การเคหะแห่งชาติสามารถเป็นที่พึ่งให้กับผู้มีรายได้น้อยและกลุ่มเปราะบางในด้านที่อยู่อาศัย รวมไปถึงการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยในด้านสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม พร้อมกันนั้นยังมุ่งมั่นสร้างธรรมาภิบาลและความโปร่งใสให้แก่องค์กร ด้วยการปรับปรุงโครงสร้างองค์กร ปรับปรุงกฎระเบียบ และข้อบังคับต่าง ๆ ให้มีความสอดคล้องกับยุคสมัยและเกิดความคล่องตัวในการทำงานมากยิ่งขึ้น สามารถให้บริการประชาชนได้อย่างรวดเร็ว ตลอดจนปรับปรุงเว็บไซต์องค์กรให้ทันสมัย ปรับปรุงช่องทางการร้องเรียนให้มี 6 ช่องทาง พร้อมด้วยการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ปี 2565 การเคหะแห่งชาติได้คะแนนผลการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ หรือ ITA 97.96 คะแนน จาก 100 คะแนนเต็ม เพิ่มสูงขึ้น 0.03 คะแนน จากปี 2564 ที่ได้ 97.93 คะแนน ถือเป็นอันดับที่ 1 ของหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) และอันดับที่ 5 ของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจทั้งหมดที่เข้าร่วมการประเมินจำนวน 51 แห่ง รวมทั้งได้ระดับผลการประเมิน AA ในระดับประเทศ ด้านผลการดำเนินโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยของการเคหะแห่งชาตินับตั้งแต่ปี 2519 ถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2565 ได้พัฒนาที่อยู่อาศัยไปแล้ว 746,616 หน่วย นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 การเคหะแห่งชาติได้ปรับเปลี่ยนนโยบายจากการสร้างบ้านเพื่อขาย มาเน้นการสร้างบ้านเช่าให้มากขึ้น เพื่อให้ผู้มีรายได้น้อยและกลุ่มเปราะบางสามารถเข้าถึงที่อยู่อาศัยในอัตราค่าเช่าที่รับภาระได้อย่างทั่วถึง อย่างเช่น โครงการบ้านเคหะสุขประชา ซึ่งเป็นบ้านเช่าพร้อมอาชีพ และโครงการบ้านเคหะสุขเกษม ที่นำโครงการบ้านเอื้ออาทรเดิมที่เป็น Sunk cost มาปรับเป็นบ้านเช่าสำหรับผู้สูงอายุและข้าราชการวัยเกษียณ รวมทั้งโครงการอาคารเช่าที่สร้างขึ้นใหม่ และการรับคืนอาคารเช่าเหมาจากเอกชนมาบริหารจัดการเอง เพื่อลดภาระค่าเช่าและค่าสาธารณูปโภคให้แก่ผู้อยู่อาศัยไปพร้อมกัน สำหรับความคืบหน้าของโครงการบ้านเคหะสุขประชา “บ้านเช่าพร้อมอาชีพ” ได้จัดสร้างโครงการนำร่อง 2 โครงการได้แก่ โครงการบ้านเคหะสุขประชาร่มเกล้า 270 หน่วย ก่อสร้างได้ 95.70% ขณะที่โครงการบ้านเคหะสุขประชาฉลองกรุง 302 หน่วย ก่อสร้างได้ 93% นอกจากนี้ ยังได้ลงนามในสัญญาเช่าที่ดินร่วมกับบริษัท เคหะสุขประชา จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ เพื่อก่อสร้างและประกอบการค้าเชิงพาณิชย์พร้อมบริหารพื้นที่ (ตลาด) โครงการบ้านเคหะสุขประชาฉลองกรุง เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2565 ขนาดเนื้อที่ประมาณ 3-0-0 ไร่ มีกำหนดเวลาเช่า 15 ปี นับตั้งแต่วันที่ 20 พฤษภาคม 2565 ถึงวันที่ 19 พฤษภาคม 2580 นอกจากนี้ การเคหะแห่งชาติมอบหมายให้ บริษัท โชติจินดา คอนซัลแตนท์ จํากัด ศึกษาวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของโครงการบ้านเคหะสุขประชา โดยวิธีการร่วมลงทุนกับภาคเอกชน (PPP) จำนวน 3 โครงการ ได้แก่ โครงการลำลูกกา คลอง 12 จังหวัดปทุมธานี โครงการวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และโครงการธรรมศาลา จังหวัดนครปฐม ขณะที่ โครงการบ้านเคหะสุขเกษม “บ้านเช่าสำหรับผู้สูงอายุและข้าราชการวัยเกษียณ” พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดโครงการบ้านเคหะสุขเกษมจังหวัดสมุทรปราการ (เทพารักษ์) เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 ณ ที่ตั้งโครงการ ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่ประมาณ 126.5 ไร่ ซอยที่ดินไทย ถนนเทพารักษ์ ตำบลบางพลีใหญ่ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ แบ่งการพัฒนาโครงการฯ ออกเป็น 4 ระยะ รวมทั้งสิ้น 4,089 หน่วย มีรูปแบบอาคารเป็นอาคารชุดสูง 5 ชั้น (มีลิฟต์ทุกอาคาร) ขนาดพื้นที่ใช้สอยประมาณ 33 ตารางเมตร (อาคารละ 40 หน่วย) และขนาดพื้นที่ใช้สอยประมาณ 23 ตารางเมตร (อาคารละ 5 หน่วย) ออกแบบโครงการภายใต้หลักอารยสถาปัตย์ (Universal Design) โดยคำนึงถึงการใช้งานของผู้สูงอายุเป็นสำคัญ นอกจากนี้ การเคหะแห่งชาติยังเดินหน้า โครงการอาคารเช่าสำหรับผู้มีรายได้น้อย จัดสร้างเป็นอาคารพักอาศัยสูง 4 ชั้น ขนาดห้องพักอาศัยประมาณ 28 และ 30 ตารางเมตร สำหรับห้องพักอาศัยชั้นที่ 1 ได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงหลักอารยสถาปัตย์ (Universal Design) พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก เพื่อให้ผู้สูงอายุหรือคนพิการสามารถอยู่อาศัยได้อย่างสะดวกสบายและพึ่งพาตนเองได้ อัตราค่าเช่าตั้งแต่ 1,400 - 2,500 บาท (ขึ้นอยู่กับที่ตั้งโครงการฯ) ปัจจุบันก่อสร้างแล้วเสร็จและเปิดให้ผู้ที่สนใจทำสัญญาพร้อมเข้าอยู่ได้ทันที จำนวน 6 โครงการ รวม 1,164 หน่วย โครงการฯ ที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ และอยู่ระหว่างให้ประชาชนลงทะเบียนจองสิทธิเช่า จำนวน 2 โครงการ รวม 157 หน่วย และโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง จำนวน 9 โครงการ รวม 3,813 หน่วย ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า การเคหะแห่งชาติยังมีแนวนโยบายที่จะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายที่อยู่อาศัยให้กับประชาชน จึงได้ดำเนินการขอรับคืนโครงการอาคารเช่า จากบริษัทเอกชนที่ครบสัญญาแล้วกลับมาบริหารเองเพื่อให้ประชาชนที่เช่าอาศัยในโครงการของการเคหะแห่งชาติได้จ่ายค่าเช่าโดยตรงกับการเคหะแห่งชาติซึ่งทำให้ค่าเช่าลดลง โดยมีเป้าหมายการรับคืนอาคารเช่าเหมาจากเอกชนไม่รวมหน่วยงานของรัฐ จำนวน 60 สัญญา รวม 32,632 หน่วย ปัจจุบันมีบริษัทที่หมดสัญญาและต้องส่งมอบอาคารคืนให้กับการเคหะแห่งชาติ จำนวน 52 สัญญา รวม 27,989 หน่วย ซึ่งมีผู้เช่ารายย่อยมาทำสัญญากับการเคหะแห่งชาติ โดยตรงแล้ว จำนวน 10,303 หน่วย สำหรับประโยชน์ที่ประชาชนได้รับเมื่อการเคหะแห่งชาตินำอาคารเช่ากลับมาบริหารเองจะมีทั้งการจ่ายค่าเช่าถูกลงกว่าเดิม 411 - 6,243 บาท/หน่วย/เดือน คิดเป็นลดลงเฉลี่ย 54 % จ่ายค่าไฟลดลงเฉลี่ย 32 บาท/หน่วย/เดือน จ่ายค่าน้ำลดลงเฉลี่ย 15 บาท/หน่วย/เดือน และไม่ต้องจ่ายค่าเก็บขยะ ทั้งนี้ การเคหะแห่งชาติได้จัดตั้ง “ศูนย์บริการประชาชน โครงการอาคารเช่า การเคหะแห่งชาติ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์” เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้เช่าอย่างครบวงจร ตั้งแต่การลงทะเบียน การทำสัญญา การชำระเงิน หรือการติดต่อสอบถามต่าง ๆ รวมถึงการดูแลผู้อยู่อาศัยให้ได้รับความสะดวกสบายยิ่งขึ้น +++++++++++++++++++++++++++++++++++++ This e-mail address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it
|
![]() | Today | 1380 |
![]() | All days | 1380 |
Comments