Forgot your password? Create an account
  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
News

Stockwave Online กระแสหุ้นออนไลน์ หุ้น หลักทรัพย์ การเงิน ข่าวเศรษฐกิจ

Home Hot News กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และ SCG 3D Printing ร่วมต่อยอดไอเดีย
กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และ SCG 3D Printing ร่วมต่อยอดไอเดีย PDF Print E-mail
Thursday, 18 September 2025 22:01

-โครงการ ARTIFICIAL REEFS HACKATHON 2025 พัฒนาและนำร่องผลิตฐานลงเกาะตัวอ่อนปะการัง ขับเคลื่อนภารกิจฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเล

กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และ SCG 3D Printing โชว์ผลงาน “ฐานลงเกาะตัวอ่อนปะการัง Whirling Wave Pagoda หรือเจดีย์เกลียวคลื่น” ไอเดียต้นแบบรางวัลชนะเลิศจากโครงการ “ARTIFICIAL REEFS HACKATHON 2025” มาพัฒนา ต่อยอดผลิตด้วยเทคโนโลยี 3D Printing จาก SCG เพื่อเป็นโครงการต้นแบบ นำร่องจัดวางในพื้นที่ตามแผนงานอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลของไทยในปี 2569

นายอุกกฤต สตภูมินทร์ รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่า "โครงการ ARTIFICIAL REEFS HACKATHON 2025 เป็นตัวอย่างที่ดีของการมีส่วนร่วมจากสถาบันการศึกษาที่มีองค์ความรู้เกี่ยวกับทรัพยากรทางทะเลเพื่อร่วมพัฒนานวัตกรรมกับแนวทางการอนุรักษ์ทรัพยากรทะเลของชาติ ในขณะที่ไทยกำลังเผชิญวิกฤติการฟอกขาวสูงถึง 60-80% และการเสื่อมโทรมของทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ทั้งฝั่งอันดามันและอ่าวไทย ความคิดสร้างสรรค์ของคนรุ่นใหม่ร่วมกับเทคโนโลยีที่ทันสมัย จะเข้ามาช่วยเร่งการฟื้นฟูระบบนิเวศทางทะเลให้กลับมาอุดมสมบูรณ์และยั่งยืนในอนาคต"

"เจดีย์เกลียวคลื่น" ไอเดียชนะเลิศสู่การผลิตต้นแบบจริง

ผลงาน "Whirling Wave Pagoda หรือเจดีย์เกลียวคลื่น" จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง โดดเด่นด้วยการออกแบบที่ผสานความเข้าใจเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรมการยึดเกาะของตัวอ่อนปะการัง ระบบนิเวศชายฝั่งทะเล และสภาพแวดล้อมใต้น้ำ ชูจุดแข็งของเทคโนโลยี 3D Printing จาก SCG ที่มีการขึ้นรูปเป็นชั้นๆ ทรงเกลียวโค้งช่วยบังคับทิศทางของกระแสน้ำใต้ทะเล ช่วยให้ตัวอ่อนปะการังลงเกาะได้ง่ายขึ้น มีพื้นที่ผิวสัมผัสมาก และมีช่องหรือโพรงลดการต้านทานกระแสน้ำ ป้องกันการสะสมของตะกอนและส่งเสริมการแลกเปลี่ยนสารอาหาร ตลอดจนเสนอไอเดียนำเปลือกหอยเหลือทิ้งจากชาวประมงมาบดละเอียดผสมกับปูนมอร์ตาร์นำมาขึ้นรูป ที่จะช่วยเพิ่มสารเหนี่ยวนำการลงเกาะของตัวอ่อนปะการัง

นายเฉลิมวุฒิ สงวนญาติ Concrete and Construction Technology Director หน่วยงาน Innovation and Technology ธุรกิจ SCG Cement and Green Solutions เผยว่า "ผลงานจากโครงการ ARTIFICIAL REEFS HACKATHON 2025แสดงให้เห็นถึงเทคโนโลยี 3D Printing ของ SCG สามารถนำมาผนวกกับองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ทางทะเล ที่มีส่วนร่วมอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลกับทาง ทช. ได้เป็นอย่างดี อันจะทำให้แผนงานการพัฒนาวัสดุฐานลงเกาะตัวอ่อนปะการัง ดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว แม่นยำมากขึ้น อีกทั้งไม่ก่อให้เกิดมลภาวะในระยะยาว แสดงให้เห็นความเหมาะสมของเทคโนโลยี 3D Printing ของ SCG ในวันนี้ ที่จะเข้ามาช่วย ‘ฟื้นฟู’ ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งของประเทศ อันสอดคล้องกับแนวทางการดำเนินธุรกิจของ SCG – Inclusive Green Growth"

แผนนำร่องจัดวางวัสดุฐานลงเกาะตัวอ่อนปะการัง และการขยายผลตามแผนงานอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลของไทย

กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เผยโครงการนำร่องในการจัดวางวัสดุฐานลงเกาะ "Whirling Wave Pagoda หรือ เจดีย์เกลียวคลื่น" พร้อมแผนงานอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งของไทย ด้วยการจัดวางฐานลงเกาะตัวอ่อนปะการังอย่างเป็นระบบ โดยแผนการดำเนินงานระยะสั้น ในช่วงต้นปี 2569 ตั้งเป้าการจัดวางต้นแบบวัสดุฐานลงเกาะตัวอ่อนปะการัง ใน 7 จังหวัด ครอบคลุมพื้นที่ 14 ไร่ พร้อมร่วมมือกับนักวิชาการจาก ทช. ในการศึกษาวิจัย ติดตาม และประเมินผลประสิทธิภาพของการลงเกาะ และการเจริญเติบโตของตัวอ่อนปะการัง ความหลากหลายของจำนวนและชนิดของปะการัง และสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลต่อไป  โดยหากผลการศึกษาประเมินผลเป็นไปตามเป้าหมาย จะมีการขยายผลไปยังพื้นที่อื่นๆ พร้อมสร้างเครือข่ายท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่เชื่อมโยงกับพื้นที่และแผนงานการอนุรักษ์ฟื้นฟูฯ สำหรับแผนระยะยาวนั้น จะนำเสนอตัวอย่างผลงานและผลการดำเนินงาน สำหรับเป็นแนวทางไปยังประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ประสบปัญหาเช่นเดียวกัน เพื่อสร้างองค์ความรู้และต่อยอดจากแผนงานของไทย ในการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลต่อไปได้

นายอุกกฤต เสริมว่า "สิ่งที่ทำให้โครงการนี้แตกต่าง คือการมองไปข้างหน้าอย่างมีกลยุทธ์  ทช. ไม่ได้มองแค่การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แต่กำลังสร้างระบบการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะลที่ปรับตัวได้ตามการเปลี่ยนแปลงของสภาพระบบนิเวศทางทะเลซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเรากำลังสู้กับการปรับตัวของธรรมชาติและการเสื่อมโทรมของทรัพยากรทางทะเลอย่างต่อเนื่อง โดยหากเราไม่เร่งดำเนินการตอนนี้ อนาคตเราอาจไม่ได้เห็นความสวยงามของแนวปะการังไทย ที่จะส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ต่อระบบนิเวศทางทะลของชาติ  ทั้งนี้ การนำเอาเทคโนโลยีต่างๆ เช่น 3D Printing มาร่วมออกแบบพัฒนาโครงสร้างฐานลงเกาะตัวอ่อนปะการัง ทำให้เราสามารถปรับได้หลากหลายมิติ รวมถึงรูปแบบให้เหมาะสมกับสภาพระบบนิเวศในแต่ละพื้นที่ เช่น ความลึก ความแรงและทิศทางของกระแสน้ำ การจมตัวของชิ้นงาน อุณหภูมิ  ซึ่งสามารถต่อยอดพัฒนากับเทคโนโลยีต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการลงเกาะของตัวอ่อนปะการัง การติดตามวัดผลได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อคืนความสมบูรณ์ของทรัพยากรทางทะเลได้อย่างยั่งยืน"

++++++++++++++++++++++++++++++++++++

This e-mail address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it

 

Comments

B
i
u
Quote
Code
List
List item
URL
Name *
Code   
ChronoComments by Joomla Professional Solutions
Submit Comment
 
 

Login

Forgot your password? Create an account
mod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_counter
mod_vvisit_counterToday1246
mod_vvisit_counterAll days1246

We have: 1244 guests online
Your IP: 216.73.216.99
Mozilla 5.0, 
Today: Sep 19, 2025

8203832