ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง82.76จุด |
![]() |
![]() |
![]() |
Thursday, 08 March 2018 08:06 | |||
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเมื่อคืนนี้ (7 มี.ค.) ที่ 24,801.36 จุด ลดลง 82.76 จุด หรือ -0.33% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,726.80 จุด ลดลง 1.32 จุด หรือ -0.05% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,396.65 จุด เพิ่มขึ้น 24.64 จุด หรือ +0.33% เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าการที่นายแกรี่ โคห์น หัวหน้าที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว ได้ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งนั้น อาจจุดชนวนให้เกิดสงครามการค้าในไม่ช้า อย่างไรก็ตาม ดัชนีดาวโจนส์ลดช่วงลบก่อนปิดตลาด หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book ซึ่งระบุว่า อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐขยายตัวปานกลาง ซึ่งรายงานดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลจากความเป็นไปได้ที่ว่า เฟดอาจจะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับปัจจัยลบจากการที่นายแกรี่ โคห์น ได้ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว เพื่อแสดงความไม่เห็นด้วยต่อการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กในอัตรา 25% และภาษีนำเข้าอลูมิเนียมในอัตรา 10% นักลงทุนมองว่า การลาออกของนายโคห์นจะยิ่งทำให้ปธน.ทรัมป์เดินหน้าการใช้นโยบายกีดกันทางการค้า ซึ่งจะจุดปะทุให้เกิดสงครามการค้าทั่วโลก โดยล่าสุดทำเนียบขาวได้ออกแถลงการณ์เมื่อคืนนี้ว่า ปธน.ทรัมป์จะเดินหน้าประกาศแผนการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมภายในสัปดาห์นี้ ขณะที่ข่าวบางกระแสระบุว่า ปธน.ทรัมป์อาจลงนามในคำสั่งประธานาธิบดีอย่างเร็วที่สุดในวันนี้ ทางด้านปธน.ทรัมป์ได้ทวีตข้อความระบุว่า เขาจะสรรหาคนใหม่มาดำรงตำแหน่งหัวหน้าที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจในไม่ช้านี้ ท่ามกลางกระแสคาดการณ์กันว่า นายปีเตอร์ นาวาร์โร ผู้อำนวยการสภาการค้าแห่งชาติประจำทำเนียบขาว เป็นหนึ่งในตัวเก็งที่จะได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งดังกล่าว แต่รายงานล่าสุดระบุว่า นายนาวาร์โรได้ปฏิเสธที่จะรับตำแหน่งหัวหน้าที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาวแทนนายโคห์น อย่างไรก็ตาม ดัชนีดาวโจนส์ลดช่วงลบ เนื่องจากตลาดได้รับปัจจัยหนุนจากถ้อยแถลงของทำเนียบขาวที่ว่า แคนาดาและเม็กซิโกอาจจะได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียม นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากรายงาน Beige Book ของเฟดซึ่งระบุว่า อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐปรับตัวขึ้นในระดับปานกลาง ส่วนภาวะเศรษฐกิจทั่วทั้ง 12 เขตของสหรัฐนั้น มีการขยายตัวเล็กน้อยจนถึงปานกลาง ในช่วงเดือนม.ค.-ก.พ. โดยรายงานดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลจากความเป็นไปได้ที่ว่า เฟดอาจจะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐพุ่งขึ้น 235,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 195,000 ตำแหน่ง หลังจากพุ่งขึ้น 244,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. ทางด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 9 ปีในเดือนม.ค. โดยเพิ่มขึ้น 5.0% สู่ระดับ 5.66 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2551 จากระดับ 5.39 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนธ.ค. นักลงทุนจับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.พ.ของสหรัฐซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันพรุ่งนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานเดือนก.พ.จะเพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่ง
|
![]() | Today | 1272 |
![]() | All days | 1272 |
Comments