ดัชนีดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้น208.77จุด |
![]() |
![]() |
![]() |
Friday, 16 November 2018 11:34 | |||
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเมื่อคืนนี้ (15 พ.ย.) ที่ 25,289.27 จุด พุ่งขึ้น 208.77 จุด หรือ +0.83% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,730.20 จุด เพิ่มขึ้น 28.62 จุด หรือ +1.06% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,259.03 จุด เพิ่มขึ้น 122.64 จุด หรือ +1.72% หลังจากหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทม์สรายงานว่า สหรัฐได้ชะลอการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเอาไว้ชั่วคราว ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐและจีนเริ่มส่งสัญญาณคลี่คลายลง นอกจากนี้ การฟื้นตัวของราคาหุ้นแอปเปิลยังช่วยหนุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดีดตัวขึ้นด้วย ดัชนีดาวโจนส์ปิดในแดนบวกเป็นวันแรกในรอบ 5 วันทำการ หลังจากไฟแนนเชียล ไทม์สรายงานว่า นายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) ได้เปิดเผยกับผู้บริหารในแวดวงอุตสาหกรรมของสหรัฐว่า รัฐบาลสหรัฐได้ชะลอการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเอาไว้ชั่วคราว ทั้งนี้ แม้ว่าโฆษกของนายไลท์ไฮเซอร์ได้ออกมาปฏิเสธรายงานข่าวดังกล่าวของไฟแนนเชียล ไทม์สในเวลาต่อมา แต่ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงเคลื่อนไหวในแดนบวกจนกระทั่งปิดทำการซื้อขาย มีการคาดการณ์กันว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง จะพบปะกันนอกรอบการประชุม G20 ที่กรุงบัวโนสไอเรสของอาร์เจนตินา ในวันที่ 30 พ.ย.-1 ธ.ค. เพื่อเจรจาแก้ไขความขัดแย้งทางการค้า สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยล่าสุด กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกพุ่งขึ้น 0.8% ในเดือนต.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.5% หลังจากลดลง 0.1% ในเดือนก.ย. โดยการดีดตัวขึ้นของยอดค้าปลีกในเดือนต.ค.ได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของยอดขายรถยนต์และวัสดุก่อสร้าง ทางด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 2,000 ราย สู่ระดับ 216,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 212,000 ราย
|
![]() | Today | 1176 |
![]() | All days | 1176 |
Comments