| ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 98.19 จุด |
|
|
|
| Tuesday, 08 January 2019 07:35 | |||
|
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเมื่อคืนนี้ (7 ม.ค.) ที่ 23,531.35 จุด เพิ่มขึ้น 98.19 จุด หรือ +0.42% ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,823.47 จุด เพิ่มขึ้น 84.61 จุด หรือ +1.26% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,549.69 จุด เพิ่มขึ้น 17.75 จุด หรือ +0.70% โดยได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนคาดหวังว่า การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่กำลังดำเนินไปในขณะนี้ จะสามารถคลี่คลายข้อพิพาททางการค้าระหว่างสองประเทศได้ อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงกดดันในระหว่างวันหลังจากสหรัฐเผยดัชนีภาคบริการที่ขยายตัวต่ำกว่าคาด และจากการที่นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขาย ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะชัตดาวน์ในสหรัฐที่ล่วงเข้าสู่วันที่ 17 ดัชนีดาวโจนส์ปิดในแดนบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนคาดหวังว่า การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนซึ่งจัดขึ้นที่กรุงปักกิ่งในระหว่างวันที่ 7-8 ม.ค.นั้น จะช่วยคลี่คลายข้อพิพาททางการค้าระหว่างสองประเทศ โดยกระทรวงพาณิชย์จีนแถลงเมื่อวานนี้ว่า จีนและสหรัฐได้แสดงความกระตือรือร้นที่จะทำงานร่วมกัน และจีนก็พร้อมที่จะแก้ไขความขัดแย้งทางการค้ากับสหรัฐ บนพื้นฐานของความเท่าเทียมกัน ทางด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวว่า ความอ่อนแอของเศรษฐกิจจีนได้กระตุ้นให้ทางการจีนมีความต้องการยุติสงครามการค้ากับสหรัฐ พร้อมกับแสดงความเห็นว่า เขาคิดว่าจีนต้องการให้เรื่องจบลง เนื่องจากเศรษฐกิจกำลังย่ำแย่ รายงานข่าวระบุว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐและจีนจะเจรจากันในหลายประเด็น ซึ่งรวมถึงประเด็นทรัพย์สินทางปัญญา, ข้อกล่าวหาที่ว่าบริษัทหัวเว่ยมีการจารกรรมข้อมูล, ยุทธศาสตร์ของจีนในการเป็นผู้นำภาคการผลิตขั้นสูงที่สหรัฐมองว่าไม่เป็นธรรม, ข้อตกลงด้านพลังงาน, ข้อตกลงเรื่องการนำเข้าสินค้าเกษตรและยานยนต์จากสหรัฐ และการยกระดับสิทธิในการเข้าถึงของธนาคารต่างชาติในจีน อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงกดดันจากข้อมูลภาคบริการที่อ่อนแอของสหรัฐ โดยผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) พบว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐร่วงลงสู่ระดับ 57.6 ในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นระดับตำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.ปีที่แล้ว และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 59.0 หลังจากแตะระดับ 60.7 ในเดือนพ.ย. นักลงทุนจับตาสถานการณ์ที่หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐถูกปิดทำการชั่วคราวเนื่องจากขาดงบประมาณ หรือชัตดาวน์ ซึ่งล่วงเข้าสู่วันที่ 17 เนื่องจากคณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และสภาคองเกรส ยังไม่สามารถตกลงกันได้ในประเด็นการอนุมัติงบประมาณวงเงิน 5 พันล้านดอลลาร์เพื่อสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโกตามคำเรียกร้องของปธน.ทรัมป์ นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ดุลการค้าเดือนพ.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, การใช้จ่ายภาคการก่อสร้างเดือนพ.ย., ยอดขายบ้านใหม่เดือนพ.ย., สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนพ.ย. และอัตราเงินเฟ้อเดือนธ.ค.
|






![]() | Today | 832 |
![]() | All days | 832 |
Comments