ไทยพาณิชย์ ออกมาตรการเร่งด่วน ช่วยเหลือลูกค้าผู้ประสบภัยชายแดนไทย-กัมพูชา |
![]() |
![]() |
![]() |
Saturday, 26 July 2025 20:01 | |||
ธนาคารไทยพาณิชย์ ออกมาตรการเร่งด่วนเพื่อช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชา และอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือ โดยให้ความช่วยเหลือทั้งกลุ่มลูกค้าบุคคล ลูกค้าสินเชื่อธุรกิจเพื่อผู้ประกอบการและลูกค้าผู้ประกอบการ SME ทั้งมาตรการพักชำระและสินเชื่อพิเศษเพื่อซ่อมแซมบ้านและกิจการอย่างเต็มที่ จากสถานการณ์ ความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชาและสถานการณ์อุทกภัยฉับพลันจากอิทธิพลของพายุ “วิภา” ที่เกิดขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อทรัพย์สินและความเป็นอยู่ของประชาชนในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ธนาคารไทยพาณิชย์ตระหนักถึงความเดือดร้อนของลูกค้า และพร้อมอยู่เคียงข้างเพื่อให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มกำลัง ผ่านมาตรการเร่งด่วนที่ครอบคลุม ทั้งลูกค้าบุคคล ลูกค้าสินเชื่อธุรกิจเพื่อผู้ประกอบการและลูกค้าผู้ประกอบการ SME โดยให้ความช่วยเหลือสำหรับลูกค้าปัจจุบันและลูกค้าใหม่ ทั้งในรูปแบบการพักชำระหนี้ และการสนับสนุนสินเชื่อใหม่เพื่อซ่อมแซมที่อยู่อาศัย รวมถึงฟื้นฟูกิจการที่ได้รับผลกระทบ โดยมีรายละเอียดดังนี้ กลุ่มลูกค้าบุคคล และกลุ่มลูกค้าสินเชื่อธุรกิจเพื่อผู้ประกอบการ ประกอบด้วย 1. สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย • สำหรับลูกค้าปัจจุบัน - สินเชื่อบ้าน และสินเชื่อบ้านคือเงิน (My Home My Cash) พักชำระเงินต้นนาน 3 เดือน • สำหรับลูกค้าใหม่ - สินเชื่อบ้านได้เพิ่มเพื่อซ่อมแซมบ้าน (สินเชื่อบ้านได้เพิ่ม สำหรับลูกค้าสินเชื่อบ้าน (Home Loan Top Up) หรือ สินเชื่อบ้านได้เพิ่ม สำหรับลูกค้าสินเชื่อบ้านคือเงิน (My Home My Cash Top Up)) ดอกเบี้ย 0% นาน 3 เดือน ฟรีค่าประเมินราคาหลักประกัน ได้แก่ บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮ้าส์ทาวน์โฮม คอนโดมิเนียม และ อาคารพาณิชย์ 2. สินเชื่อรถยนต์ สำหรับลูกค้าสินเชื่อรถยนต์ สามารถพักชำระหนี้สูงสุด 3 เดือน และขยายระยะเวลาในการผ่อนชำระสูงสุด 3 เดือน (รวมอายุผู้กู้ไม่เกิน 65 ปี) 3. สินเชื่อธุรกิจเพื่อผู้ประกอบการ (SSME) • สำหรับลูกค้าสินเชื่อธุรกิจเพื่อผู้ประกอบการปัจจุบัน พักชำระเงินต้นสูงสุดนาน 3 เดือน และสินเชื่อเพื่อฟื้นฟูกิจการ ดอกเบี้ยคงที่เริ่มต้น 3.5% ต่อปี นาน 24 เดือน ระยะเวลากู้สูงสุด 10 ปี • สำหรับลูกค้าสินเชื่อธุรกิจเพื่อผู้ประกอบการที่ต้องการขอสินเชื่อใหม่ (ยอดขายไม่เกิน 75 ล้านบาทต่อปี) สามารถขอสินเชื่อเพื่อฟื้นฟูกิจการภายใต้โครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) โดยมีเงื่อนไข ดังนี้: o อัตราดอกเบี้ยคงที่เริ่มต้น 3.5% ต่อปี ในช่วง 24 เดือนแรก ค่าธรรมเนียมการให้สินเชื่อ (Front-End Fee) 1% o ระยะเวลากู้สูงสุดไม่เกิน 10 ปี o วงเงินสูงสุด 40 ล้านบาทต่อราย (รวมวงเงินจากทุกสถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการ) o ใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน o ลูกค้าต้องนำเงินกู้ไปใช้เพื่อฟื้นฟูกิจการที่ได้รับผลกระทบเท่านั้น ไม่สามารถนำไปชำระหนี้เดิม หรือ Refinance o ต้องยื่นเอกสารแสดงความเสียหายหรือผลกระทบจากสถานการณ์ประกอบการพิจารณา ลูกค้าสามารถติดต่อขอเข้าร่วมโครงการได้ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือโทร SCB Customer Call Center โทร 02-777-7777 ได้ตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคม 2568 – 31 ตุลาคม 2568 ลูกค้าผู้ประกอบการ SME ธนาคารมีโครงการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบทั้งทางตรง และทางอ้อม ผ่าน 4 มาตรการหลัก ประกอบด้วย 1) พักชำระเงินต้นสูงสุดนาน 6 เดือน 2) พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยสูงสุดนาน 3 เดือน 3) เพิ่มวงเงินหมุนเวียนชั่วคราว วงเงินสูงสุด 20% ของวงเงินหมุนเวียนเดิม และไม่เกิน 10 ล้านบาท 4) วงเงินกู้สำหรับปรับปรุง ซ่อมแซม หรือซื้อทดแทนทรัพย์สินที่เสียหายของกิจการ สูงสุด 20% ของวงเงินเดิม ไม่เกิน 10 ล้านบาท ลูกค้าผู้ประกอบการ SME สามารถติดต่อขอเข้าร่วมโครงการได้ที่เจ้าหน้าที่ธุรกิจสัมพันธ์ และ SCB Business Call Center โทร 02-722-2222 ได้ตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคม 2568 – 31 ธันวาคม 2568 ธนาคารไทยพาณิชย์ขอส่งกำลังใจให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว และพร้อมดำเนินการให้ความช่วยเหลือลูกค้าอย่างเต็มความสามารถ เพื่อให้ผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปได้ ทั้งนี้ ธนาคารจะเร่งดำเนินการอย่างเต็มความสามารถในการพิจารณาคำร้องของลูกค้าทุกท่านเพื่อให้ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบกลับมาฟื้นตัวได้อย่างทันท่วงที กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว สำหรับสินเชื่อบ้านได้เพิ่ม อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงอยู่ระหว่าง 4.906%- 13.879% ต่อปี โดยอัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (Minimum Retail Rate : MRR ) ปัจจุบันเท่ากับ 7.025%ต่อปี มีผลวันที่ 19 พฤษภาคม 2568 ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยลอยตัว สามารถเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ตามประกาศของธนาคาร รายละเอียดการคำนวณเพิ่มเติมดูได้ที่ เว็บไซต์ www.scb.co.th ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ This e-mail address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it
|
![]() | Today | 608 |
![]() | All days | 608 |
Comments