Forgot your password? Create an account
  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
News

Stockwave Online กระแสหุ้นออนไลน์ หุ้น หลักทรัพย์ การเงิน ข่าวเศรษฐกิจ

Home Daily Research ภาวะตลาดหุ้นรายวัน - บล.เคทีบี (ประเทศไทย)
ภาวะตลาดหุ้นรายวัน - บล.เคทีบี (ประเทศไทย) PDF Print E-mail
Thursday, 24 May 2018 09:22

The Morning Bell

 

“ตัวแปรคลุมเครือ ฝรั่งขายหุ้นต่อ”

 

SET Recap

SET ปิดที่ระดับ 1,753.60 จุด ลดลง 7.11 จุด (-0.40%) มูลค่าการซื้อขาย 64,209.52 ล้านบาท  ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวลง แม้ได้ Sentiment บวกจากผลวินิจฉัยร่างกฏหมายที่มา ส.ว.ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ แต่ตลาดฯยังติดลบเพราะให้น้ำหนัก Sentiment ต่างประเทศมากกว่า โดยเฉพาะกังวลสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีนกดดัน ตลาดภูมิภาคส่วนใหญ่ติดลบ

 

SET Outlook

ประเมินทิศทางดัชนีฯ ผันผวนและอ่อนตัวลงจากวันก่อน จากตัวแปรที่ดูๆแล้วไม่ระบุทิศทางตลาดที่ชัดเจนนัก   .... การแถลงคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญต่อร่าง พ.ร.ป.ที่มา ส.ว.ที่ไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ เป็นบวกต่อตลาด เราอนุมานว่าคำวินิจฉัยของ พ.ร.ป.เลือกตั้งที่จะแถลง 30 พ.ค.นี้ ผลอาจไม่ต่างกันนัก หรือถ้าต้องแก้น่าจะใช้เวลาไม่นาน อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเป็นประเด็นสำคัญของตลาด นักลงทุนอาจรอดูคำวินิจฉัยก่อน ส่งผลให้ดัชนีฯปรับขึ้นไม่ได้เพราะข่าวนี้ ....... ด้านต่างประเทศ นักลงทุนกลับมากังวลต่อนโยบายการค้าของสหรัฐฯ-จีน หลังประธานาธิบดีสหรัฐฯยังไม่พอใจข้อเสนอที่จีนเสนอในเรื่องแผนการลดการเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ ขณะที่รายงานประชุม FOMC ที่เผยวานนี้ ระบุเงินเฟ้อสูงขึ้น แต่ยังไม่เร่งขึ้นดอกเบี้ย Bond Yield อ่อนตัวลง แต่ Dollar Index ขยับเข้าใกล้ 94.0 จุดมาทุกขณะ กดดันต่อเงินลงทุนที่จะไหลออกจากภูมิภาคนี้อยู่ต่อไป  ... วันนี้ จะมีการเผยทีโออาร์รถไฟเชื่อม 3 สนามบิน จะทำให้หุ้นรับเหมา-ผู้บริหารการเดินรถไฟฟ้าและผู้ร่วมประมูลดูคึกคักขึ้น

 

Recommendation

กลยุทธ์ยังเน้นเล่นสั้นๆ แต่ลดการถือหุ้นที่ราคาขึ้นมามาก ค่า P/E สูง และขาดปัจจัยหนุน  ..... ในประเด็นของกำหนดวันเลือกตั้งที่ยังไม่ชัดเจน  แต่เรายังมองในทางบวก แนะนำสะสมหุ้นที่เป็น top pick จากเรื่องนี้ คือ KBANK , WHA, AMATA, STEC*, BTS*, BEM*, PLANB* ….  ขณะที่หุ้นมีปัจจัยหนุนตัวอื่นๆ เราแนะนำ ADVANC* จากผลประกอบการไม่อิงภาวะตลาดมากนัก และน่าจะเริ่มดีขึ้นตามลำดับ  หุ้นที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่า เราเลือก HANA

Technical:  ADVANC ,UTP, BIG

* เป็นหุ้นที่แนะนำโดย KTBST ยังไม่ได้จัดทำบทวิเคราะห์

 

Key Factors to Watch

แถลงผลการดำเนินงานและทิศทางธุรกิจ : ADVANC, SCN, UV, PCSGH, THCOM

รัฐมนตรีคลัง แถลงภาวะเศรษฐกิจไทย (24 พ.ค.)

ศาลรธน.นัดชี้ขาดกฎหมายลูก ส.ส. (30 พ.ค.)

 

Story of the Day

เงินดอลล่าร์ยังเดินหน้าแข็งค่า เปลี่ยน trend เป็นขาขึ้น หลัง Fed ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย 3-4 ครั้งในปีนี้ ส่งผลให้ค่าเงินสกุลต่างๆ เริ่มอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับดอลล่าร์กันถ้วนหน้า  ในแง่ของธุรกิจส่งออก ปี 2017 เงินบาทแข็งค่าถึง 9% กดดันต่อรายได้และกำไรของบริษัทเหล่านี้ แต่ในปีนี้ ค่าเงินบาท ที่มีแนวโน้มอ่อนค่าลง ล่าสุด 32.1 บาท/ดอลล่าร์ จะทำให้ผลประกอบการดีขึ้นเล็กน้อย หรือผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว เราให้ความสนใจกับหุ้นกลุ่มอีเล็คทรอนิคส์ ทั้ง HANA และ  KCE

 

Today Stock Picks

 

HANA (ซื้อ, เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 38 บาท)

แนวโน้มเงินบาท ที่น่าจะอ่อนค่าลง หลังดอลล่าร์แนวโน้มแข็งค่าขึ้นจาก การปรับขึ้นดอกเบี้ยของ Fed และตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯออกมาดี ล่าสุด Dollar Index 93.9 และบาท/ดอล่าร์ 32.1 บาท ซึ่งจะเป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มส่งออกหลังเงินบาทแข็งกระทบกำไรมาตั้งแต่ต้นปี 2017  ..... จากการประชุมนักวิเคราะห์วานนี้ เรามีมุมมองเป็นบวกเล็กน้อยต่อ HANA จากยอดขายที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นตั้งแต่ 2Q18 จากสัญญาณการฟื้นตัวของ mobile sensor และโรงงานที่กัมพูชาได้ order เพิ่มขึ้นจากลูกค้าเก่า รวมทั้งแนวโน้มยอดขาย semiconductor โลกยังคงมีการเติบโตต่อเนื่อง  …… ราคาที่เหมาะสมโดย KTBST 38 บาท ........  (ราคาปิด 36.25)

 

News Comment

 

BGRIM: เจอตอ “กนอ.” โรงไฟฟ้า 2 แห่งสะดุด

แผนก่อสร้างโรงไฟฟ้า 2 โครงการ BGPR1-2 กำลังการผลิตรวม 240MW มีโอกาสพัฒนาต่อไม่ได้ ต้องยื่นขอย้ายที่ตั้งไปยังนิคมฯ ที่สมุทรปราการ แทนที่เดิมที่นิคมฯ วี.อาร์.เอ็ม ที่ราชบุรี หลัง กนอ. ประกาศยุบเมื่อต้นปี 2559 (ที่มา: ข่าวหุ้น)

KTBST: มีมุมมองเป็นลบต่อประเด็นดังกล่าว โดยมีความเป็นไปได้ที่โครงการ BGPR 1-2 ขนาดกำลังการผลิต 240MW ซึ่งทางบริษัทถือหุ้น 100% กำหนด COD ในปี 2564 จะไม่เกิดขึ้นหลังนิคม วี.อาร์.เอ็ม ไปตั้งอยู่ในพื้นที่ทับซ้อนกับเขตดำเนินงานปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม ทำให้การตั้งนิคมดังกล่าวถูกยกเลิกไป ซึ่งหากโครงการดังกล่าวถูกยกเลิกจะส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัทซึ่งเรารวมเข้ามาในประมาณการในปี 2564 และกระทบต่อราคาเป้าเหมาะสมของเราราว 4.7 บาทต่อหุ้น ทั้งนี้เราอยู่ระหว่างติดต่อข้อมูลเพิ่มเติมจากทางบริษัทต่อแนวทางการดำเนินการกับสิ่งที่เกิดขึ้น โดยเราอยู่ระหว่างทบทวนคำแนะนำและราคาเหมาะสมซึ่งมีโอกาสปรับลง (เดิม “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 36.50บาท)

 

TK, BAY: TK ซุ่มซื้อ 'เงินติดล้อ' คาดใช้เงินกว่าพันล้านบาท

แบงก์กรุงศรี (BAY) ขายหน่วยธุรกิจลีสซิ่งคาดเป็น “เงินติดล้อ” พร้อมลือ “ฐิติกร” หรือ TK สนใจ และอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อปิดดีล ด้านวงการเอฟเอเผยขนาดสินทรัพย์ของ “เงินติดล้อ” ใหญ่กว่า ฐิติกร หากซื้อจริง ต้องจับตาจะเลือกวิธีการกู้เงินธนาคาร หรือเพิ่มทุน ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ผู้บริหารของ บ.เงินติดล้อ ตั้งเป้าหมายเปิดสาขาปี 2561 เพิ่มอีก 200 สาขาทั่วประเทศ จากที่มีอยู่ในปัจจุบัน 593 สาขาโดยแต่ละสาขาจะใช้เงินลงทุนประมาณ 1 ล้านบาท โดยคาดว่ามูลค่าบริษัท "เงินติดล้อ" ขั้นต่ำน่าจะอยู่ที่ 3.5 หมื่นล้านบาท (ที่มา: ข่าวหุ้น, Money Channel)

KTBST: เรามีมุมมองเป็นกลางต่อข่าวข้างต้น เนื่องจากเรามองว่ามีความเป็นไปได้ที่ต่ำจากเหตุผล ดังนี้ 1) แม้ว่าดีลนี้จะส่งผลให้สินเชื่อของ TK สามารถขยายตัวอย่างก้าวกระโดดจากการขยายสินเชื่อจำนำทะเบียน แต่จากมูลค่าดีลที่มากกว่า 3.5 หมื่นล้านบาท (สูงกว่ามูลค่าสินทรัพย์ของ TK ที่ 1 หมื่นล้านบาท) ส่งผลให้ TK จะต้องจัดหาแหล่งเงินทุนเพิ่มเพื่อรักษาระดับ D/E ให้ต่ำกว่า 4.0x (จากปกติอยู่ที่ 1.0X) ส่งผลให้ TK มีต้นทุนในการเข้าซื้อที่สูง และกดดันต่อการดำเนินงานในอนาคต 2) จาก TK มี Loan Yield เฉลี่ยที่ 30% มากกว่าเงินติดล้อที่ 23% เราจึงมองว่าดีลนี้มีอัตราผลตอบแทนที่น่าสนใจน้อย นอกจากนี้ TK มีโอกาสในการขยายสินเชื่อไปในกลุ่มประเทศ CLMV ส่งผลให้ TK จะมี Loan Yield ในอนาคตสูงขึ้นมากกว่าการเข้าซื้อเงินติดล้อ และ 3) เรามองว่า BAY มีโอกาสที่จะขายน้อย เนื่องจากสินเชื่อเงินติดล้อมี Loan Yield ที่สูงกว่าสินเชื่อประเภทอื่นๆและมองว่า BAY จะเป็นธนาคารที่มองหาการซื้อพอร์ตสินเชื่อประเภทนี้เพิ่มเติมมากกว่าโดยรวมเราจึงมองว่าดีลนี้อาจจะเกิดขึ้นในรูปแบบการร่วมทุนของบริษัทมากกว่าเพื่อที่จะให้ TK สามารถขยายสินเชื่อจำนำทะเบียนรถได้เพิ่ม ในขณะที่ BAY จะสามารถขยายสินเชื่อเข้าสู่ CLMV ผ่านทาง TK ได้เพิ่ม โดยเรายังคงชอบ TK และ BAY ที่ราคาเป้าหมาย 15.00 บาท และ 43.26 บาท (Bloomberg consensus) ตามลำดับ

 

AUTO: ส.อ.ท.รายงานสถิติอุตสาหกรรมยานยนต์เดือน เม.ย. ดีขึ้นต่อเนื่อง

ส.อ.ท.รายงานเดือน เม.ย.2018 ผลิตรถยนต์ได้ 134,779 คัน เพิ่มขึ้น 11.9% YoY โดยยอดขายรถยนต์ในประเทศอยู่ที่ 79,206 คัน เพิ่มขึ้น 25.2% YoY จากผลบวกการจัดงานมอเตอร์โชว์ และเศรษฐกิจหลายภาคส่วนปรับตัวดีขึ้น สำหรับยอดส่งออกรถยนต์อยู่ที่ 72,571 คัน เพิ่มขึ้น 5.29% YoY การส่งออกเติบโตเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6 เพิ่มขึ้นในเกือบทุกตลาด ยกเว้นตลาดเอเชีย และตลาดออสเตรเลีย (ข้อมูล Local Press Release จาก ส.อ.ท.)

KTBST: เรามองเป็นบวกกับกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ จากภาพรวมอุตสาหกรรมรถยนต์ที่ยังคงมีทิศทางขยายตัวต่อเนื่อง สำหรับยอดผลิตรถยนต์รวม 4 เดือน อยู่ที่ 6.74 แสนคัน คิดเป็นประมาณ 33% ของคาดการณ์ยอดผลิตรถยนต์ของเราปีนี้ที่ 2.08 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 5% YoY สำหรับหุ้น Top Pick กลุ่มยานยนต์ ได้แก่ SAT เป้าหมาย 24 บาท, AH เป้าหมาย 44 บาท ขณะที่ยอดขายรถยนต์ในประเทศที่เติบโตโดดเด่นมากจะเป็นบวกกับกลุ่มเช่าซื้อ Top Pick ได้แก่ KKP เป้าหมาย 82 บาท ส่วนยอดส่งออกที่ยังเติบโตดีจะเป็นบวกกับ NYT

 

MEDIA: คสช.ออก ม.44 เปิดทางยืดชำระ 3 ปี ลดค่าเช่าโครงข่าย 50% ห้ามขายต่อใบอนุญาต

เมื่อวันที่ 23 พ.ค. คสช.ออก ม.44 เพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบต่อผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล ได้แก่ 1.) อนุญาตให้ผู้ประกอบการสามารถพักชำระค่า License ได้ 3 งวด (ปี 2018-2020) โดยต้องจ่ายดอกเบี้ยอยู่ที่ 1.5% ต่อปี และ 2.) ลดค่า MUX 50% เป็นเวลา 2 ปี (ที่มา: อินโฟเควสท์)

KTBST: เรามีมุมมองเป็นบวกกับข่าวข้างต้น โดย RS, BEC, GRAMMY, MONO ยืนยันขอใช้สิทธิ์ทั้ง 2 ข้อ เรามองว่าหุ้นที่จะใช้ประโยชน์ ม.44  ทั้ง 2 ข้อ ได้แก่ RS (แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 35 บาท) , BEC (แนะนำ ถือ ราคาเป้าหมาย 10.20 บาท), MONO และ GRAMMY  สำหรับหุ้นที่เลือกรับการลดค่า MUX 50% ได้แก่ WORK โดยเรายังคงมองว่าหุ้นที่ได้รับประโยชน์มากที่สุดคือ BEC ซึ่งเราคาดว่ากำไรสุทธิจะเพิ่มขึ้นที่ 121 ล้านบาท (จากดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลง และการลดค่า MUX) สำหรับ RS เราคาดว่ากำไรสุทธิจะเพิ่มขึ้นที่ 26.2 ล้านบาท จากการใช้สิทธิ์ 2 ข้อข้างต้น ทั้งนี้เรายังไม่ได้รวมผลกระทบจากม.44 ในการประเมินราคาหุ้น

 

Research Highlights

 

HANA (ถือ, ราคาเป้าหมาย 38.00 บาท)

“แนวโน้มกำไรปกติใน 2Q18 จะกลับมาเติบโต QoQ แต่ทั้งปีทรงตัว”

จากการประชุมนักวิเคราะห์วานนี้ เรามีมุมมองเป็นบวกเล็กน้อยต่อ HANA จากยอดขายที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นตั้งแต่ 2Q18 เนื่องจากสัญญาณการฟื้นตัวของ mobile sensor และโรงงานที่กัมพูชาได้ order เพิ่มขึ้นจากลูกค้าเก่า รวมทั้งแนวโน้มยอดขาย semiconductor โลกยังคงมีการเติบโตต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามอัตรากำไรขั้นต้นยังคงได้รับผลกระทบจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นทั้งจากค่าแรงขั้นต่ำที่ปรับตัวขึ้นตั้งแต่เดือน เม.ย.18 ประมาณ 4 – 5% และราคาวัตถุดิบที่ทรงตัวระดับสูง ดังนั้นเรายังคงประมาณการกำไรปกติปี 2018 ที่ 2,341 ลดลง 1% YoY เราประเมินราคาเหมาะสมได้ที่ 38.00 บาท คิดจาก กำไรปรกติปี 2018 ที่ 2.91บาท x PER ที่ 13.3x (ค่าเฉลี่ย PER ย้อนหลัง 3 ปีของ HANA) เรามองว่าปัจจัยเสี่ยงทางด้านค่าเงินและอัตรากำไรขั้นต้นค่อนข้างจำกัดแล้ว และคาดอัตราจ่ายปันผลจะอยู่ที่ระดับสูงถึง 5% แต่กำไรจะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป จึงคงคำแนะนำ “ถือ”

 

MINT (ถือ, ราคาเป้าหมาย 37.00 บาท)

“เข้าลงทุนในโรงแรม NHH เพียง 8.6%”

MINT แจ้งข่าวกับตลาดหลักทรัพย์ฯว่า เข้าซื้อลงทุนในบริษัท NH Hotel Group SA. (NHH) จำนวน 34 ล้านหุ้น คิดเป็นการเข้าถือหุ้น 8.6% ของทุนทั้งหมด มูลค่ารวมราว 7.4 พันล้านบาท ซึ่งจะใช้เงินลงทุนจากเงินกู้ยืม โดยเรามีมุมมองเป็นกลาง เนื่องจากการเข้าซื้อในสัดส่วนที่น้อย ขณะที่เราคาดว่า การเข้าซื้อหุ้น NHH เพิ่มน่าจะเป็นไปได้ยาก เพราะผู้ถือหุ้นใหญ่ NHA Group ที่ถืออยู่ 29.35% อยู่ระหว่างการดีลกับชาวจีนรายหนึ่ง นอกจากนี้ การรับรู้รายได้จะรับรู้ได้เพียงเงินปันผลราว 2% โดยระยะสั้นยังไม่คุ้มทุน แต่ระยะยาว หากมีการกู้เงินในยุโรปคาดว่า จะมีรายได้จากเงินปันผลปีละ 70 ล้านบาท คิดเป็น upside ต่อกำไรสุทธิเพียง 1% ของประมาณการของเรา ขณะที่เรายังคงคำแนะนำ “ถือ” ราคาเป้าหมายที่ 37 บาท อิง DCF (WACC ที่ 7%, terminal growth 2%) เทียบเท่า PE ที่ 28x ที่ระดับค่าเฉลี่ย SD ย้อนหลัง 3 ปี

 

News Summary

 

Markets

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (23 พ.ค.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 1-2 พ.ค.เมื่อวานนี้ โดยนักลงทุนมองว่ารายงานดังกล่าวไม่ได้ส่งสัญญาณว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวดเร็วไปกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้แล้วก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับปัจจัยหนุนจากรายงานของไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ทั้งภาคการผลิตและภาคบริการของสหรัฐ ต่างก็ขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในเดือนพ.ค.

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,886.81 จุด เพิ่มขึ้น 52.40 จุด หรือ +0.21% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,425.96 จุด เพิ่มขึ้น 47.50 จุด หรือ +0.64% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,733.29 จุด เพิ่มขึ้น 8.85 จุด หรือ +0.32%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (23 พ.ค.) หลังจากไอเอชเอส มาร์กิต เปิดเผยว่าดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ทั้งภาคการผลิตและภาคบริการของกลุ่มยูโรโซน ชะลอตัวลงในเดือนพ.ค. นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านการเมืองระหว่างสหรัฐและเกาหลีเหนือ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐเปิดเผยว่า โอกาสสูงมากที่การประชุมสุดยอดระหว่างตัวเขา และนายคิม จะไม่เกิดขึ้นตามแผนการที่วางไว้ในเดือนหน้า

ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 1.1% ปิดที่ 392.58 จุด

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (23 พ.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ทั้งภาคการผลิตและภาคบริการของสหรัฐ ขยายตัวสูงกว่าคาดการณ์ในเดือนพ.ค.

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 2.40 ดอลลาร์ หรือ 0.19% ปิดที่ 1289.60 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (23 พ.ค.) หลังสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะปรับลดลง นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะมีมติเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันในการประชุมเดือนหน้า เพื่อชดเชยกับการที่อิหร่านและเวเนซุเอลาอาจลดการผลิตน้ำมัน จากการถูกสหรัฐคว่ำบาตร

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 36 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 71.84 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 23 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 79.80 ดอลลาร์/บาร์เรล

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (23 พ.ค.) หลังจากไอเอชเอส มาร์กิตรายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ทั้งภาคการผลิตและภาคบริการของสหรัฐ ต่างก็ขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในเดือนพ.ค. ขณะที่สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลง หลังจากดัชนี PMI ทั้งภาคการผลิตและภาคบริการของยูโรโซน ชะลอตัวลงในเดือนพ.ค.

 

Economy & Politics & Industry

 

เร่งประมูลมอเตอร์เวย์นครปฐม-ชะอำ

กรมทางหลวงยันประกาศเชิญชวนเอกชนร่วมซื้อซองมอเตอร์เวย์นครปฐม-ชะอำ วงเงิน 8 หมื่นล้านในปลายปี 61 ก่อนเปิดประมูลโครงการในเดือน ก.พ.62 มั่นใจแล้วเสร็จสามารถรองรับภาคอุตสาหกรรมและท่องเที่ยวได้ คาดมีปริมาณการจราจรเฉลี่ย 43,673 เที่ยวคัน/วัน ในปีแรกเปิดให้บริการ

 

"พาณิชย์"จับมือผู้ผลิต-โชวห่วย จัดเซลสินค้าราคาถูกลดค่าครองชีพ

"พาณิชย์" จับมือสมาคมการค้าส่ง-ปลีกไทย ผู้ผลิต ซัปพลายเออร์ และร้านค้าส่ง ค้าปลีกท้องถิ่นทั่วประเทศ จัดงาน "ค้าส่งรวมใจ โชวห่วยไทยคู่สังคม" ลดราคาสินค้าอุปโภคบริโภคครั้งใหญ่ 20-50% เผยช่วยเพิ่มความเข้มแข็งให้ร้านโชวห่วยและลดค่าครองชีพ คาดเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท

 

สตาร์ทอัพเชื่อมั่นเศรษฐกิจ

ออมสินเผยดัชนีเชื่อมั่นสตาร์ทอัพ ไตรมาสแรกได้แค่ 62.16 ชี้แม้คำสั่งซื้อเริ่มดี แต่ต้นทุนยังสูง พ่วงปัญหาขาดสภาพคล่อง นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจธุรกิจและเศรษฐกิจฐานราก ธนาคารออมสิน ได้ทำการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการสตาร์ทอัพเป็นครั้งแรก ภายหลังจากที่ได้จัดทำประมาณการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทย (จีดีพี) และดัชนีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจฐานราก

 

Company

 

BCPG อัดฉีดข่าวดีไม่ยั้ง ขายโซลาร์เข้ากองทุนฯ จ่ายเงินปันผล 16 สตางค์

BCPG อัดฉีดข่าวดี ประกาศขายสินทรัพย์โซลาร์ฟาร์ม 27.6 MW เข้ากองทุนโครงสร้างพื้นฐานในญี่ปุ่น มูลค่าขั้นต่ำ 3,185 ล้านบาท พร้อมจ่ายปันผลไตรมาสแรกอีก 16 สตางค์ แขวน XD ภายใน 5 มิ.ย.นี้

 

CPN ทุ่มงบลงทุนแสนล้านบาท ขยายอาณาจักร-เป้าโตปีละ13%

CPN วางงบลงทุน 5 ปี ราว 1 แสนล้านบาท พร้อมปักธงรายได้โตเฉลี่ยปีละ 13% แย้มสนใจเปิดศูนย์การค้าที่เวียดนามรองรับไลฟ์สไตล์กลุ่มคนที่เริ่มเปลี่ยนไปพร้อมกระจายการลงทุนจับมือพันธมิตรขยายธุรกิจต่อเนื่องทั้งในส่วนของคอนโดมิเนียม และธุรกิจโรงแรม ส่วนปี 2561 ตั้งเป้ารายได้โต 20%

 

GGC วางเป้าเมทิลเอสเตอร์โต 6% ลุ้น Q3 กำลังผลิตเพิ่ม 2 แสนตัน

GGC คาดผลงานไตรมาส 2/2561 ทรงตัว ปีนี้ตั้งเป้าปริมาณการขายเมทิลเอสเตอร์โต 5-6% คาดโครงการ Methyl Ester Plant 2 มูลค่า 1,650 ล้านบาท เริ่มเดินเครื่องไตรมาส 3/2561 หนุนกำลังการผลิตเพิ่ม 200,000 ตัน/ปี

 

GPSC รับรู้ขายไฟเต็มปีรายได้ปีนี้ทะลุ 2.1 หมื่นล.

GPSC มั่นใจรายได้ปี 2561 เติบโตทะลุ 2.1 หมื่นล้านบาท หลังรับรู้รายได้โรงไฟฟ้า 3 โครงการ กำลังการผลิตรวม 377 เมกะวัตต์ เต็มปี ลั่นปัจจุบันมีกำลังการผลิตในมือ 1500 เมกะวัตต์ กางแผน 5 ปี (2561-2565) มีกำลังผลิตเพิ่มอีก 500 เมกะวัตต์ ปีหน้ารอ COD เพิ่มอีก 400 เมกะวัตต์

 

HPT ปรับราคาขายอัพกำไรโชว์แบ็กล็อกทะยานเท่าตัว

HPT ปรับราคาขายสินค้าอัพกำไร หลังอัตราแลกเปลี่ยนแข็งค่า ฟากแม่ทัพหญิง "นิจวรรณ เชาว์กิตติโสภณ" ปักหมุดรายได้ปี 2561 โต 10-15% ดันสัดส่วนยอดขายในประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 7% แย้มเจรจารับออเดอร์กัมพูชา เมียนมาเพิ่ม อวด Backlog ทะยานเท่าตัวแตะ 60 ล้านบาท

 

 

ORI ผนึกพันธมิตรฮ่องกง บุกหนักตลาดต่างประเทศ ลั่น 3 ปียอดขาย 1.5 หมื่นล.

ORI จับมือ “ฟัลครัม โกลบอล” พันธมิตรสัญชาติฮ่องกง บุกตลาดต่างประเทศเต็มสูบ พร้อมตั้งเป้า 3 ปีจากนี้จะมียอดขายจากลูกค้าต่างประเทศรวม 15,000 ล้านบาท

 

PTTGC คุยญี่ปุ่นร่วมทุนบุกปิโตรเคมีในเขตอีอีซี

PTTGC เดินเครื่องกำลังการผลิตเต็มสูญ ดันรายได้ปีนี้ดีกว่าปีก่อนที่มีรายได้ 4.48 แสนล้านบาท หลังราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นที่ระดับ 60-65 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล พร้อมทุ่มงบลงทุน 1.3 แสนล้านบาท ขยายปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษ 3 โครงการ ในพื้นที่ EEC ซุ่มเจรจาพันธมิตรญี่ปุ่นร่วมทุน คาดได้ข้อสรุปปลายปี 2562

 

PTTEP รุกซื้อกิจการเล็งบราซิล-เม็กซิโก

PTTEP เดินเกมกินรวบถือหุ้นในแหล่งก๊าซบงกชเพิ่ม 22% หวังดันปริมาณการขายเพิ่มเป็น 1.7 หมื่นบาร์เรลต่อวัน เล็งซื้อกิจการในประเทศบราซิล-เม็กซิโก ตั้งเป้าปริมาณการขายปีนี้แตะ 3 แสนบาร์เรลต่อวัน คาด EBITDA Margin ปี 2561 ที่ 70-75%

 

SIRI พ้นต่ำสุด-มาร์จิ้นฟื้นชูเป้ายอดขาย 4.5 หมื่นล.

SIRI ปักหมุดยอดขายทั้งปี 2561 ตามเป้า 4.5 หมื่นล้านบาท ส่วนรายได้ปีนี้แตะ 3 หมื่นล้านบาท จ่อเปิดโครงการครึ่งปีหลังอีก 17 โครงการ มูลค่ากว่า 3 หมื่นล้านบาท มองตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังเติบโตดี พร้อมเชื่อมั่นธุรกิจผ่านจุดต่ำสุด มาร์จิ้นฟื้นตัวคาดทั้งปีอัตรากำไรสุทธิใกล้เคียงปีก่อนที่ 8.8%

 

THG รายได้ธุรกิจรพ.ปีนี้โต 10% ส่งซิกผลงาน Q3 พีคสุด รับไฮซีซั่นธุรกิจ

THG มั่นใจรายได้ธุรกิจโรงพยาบาลโตไม่ต่ำกว่า 10% จากปีก่อนทำได้ 6,171 ล้านบาท ขณะที่จ่อบุ๊ครายได้โอนอาคารที่พักอาศัยโครงการ Jin Wellbeing County เข้ามาเดือนพ.ย.61 ส่งซิกผลงาน Q3 พีคสุดรับไฮซีซั่นธุรกิจเข้าหน้าฝน-โรคระบาดเพียบหนุนลูกค้าใช้บริการแน่น

 

TPIPL เก็บงบ Q2 สดใส ราคา-ดีมานด์ปูนหนุน

TPIPL คาดไตรมาส 2/2561 มีแนวโน้มดีกว่าไตรมาส 1/2561 ที่ขาดทุน 46 ล้านบาท ตามความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ที่เพิ่มขึ้น หนุนปรับราคาขายได้ต่อเนื่อง ประกอบกับการผลิตเม็ดพลาสติกคุณภาพสูงช่วยปั๊มกำไร--จบ--

 

'TOP'ค่ากลั่นปีนี้ 6 ดอลลาร์เดินหน้า CFP-ศึกษาออกหุ้นกู้

TOP ติดเครื่องโรงกลั่นเต็มสูบ ประเมินค่ากลั่นปีนี้แตะระดับ 5.5-6 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลทรงตัว เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จับตาราคาน้ำมันดิบดูไบยืน 70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ฟากโครงการ CFP คาดสรุปมูลค่าลงทุนในไตรมาส 3/2561 ขนเงินสดเต็มมือ 8 หมื่นล้านบาท รองรับการลงทุน พร้อมศึกษาแผนออกหุ้นกู้

 

VGI ผงาดลุยปั๊มรายได้หมื่นล.ผนึก KERRY-ดีลแตกไลน์เพิ่ม

VGI วางหมากงวดบัญชีปี 2563/64 รายได้แตะ 1 หมื่นล้านบาท รับโฆษณาโตเด่น-ธุรกิจใหม่หนุน พร้อมทุ่มงบ 1 พันล้านบาท พลิกโฉมสื่อเป็นดิจิตอล-ระบบ AI เพิ่ม กรุยทางรับทรัพย์เพิ่ม แถมซุ่มดีลพาร์ตเนอร์ใหม่ หวังร่วมทุนแตกไลน์ธุรกิจใหม่โกยเงินเพิ่ม คาดชัดเจนปีหน้า บอสใหญ่ "กวิน กาญจนพาสน์" ชงเรื่องลงทุน "เคอร์รี่" มูลค่ากว่า 5.9 พันล้านบาท เสนอผู้ถือหุ้นชี้ขาด 5 กรกฎาคมนี้ ระบุหากลุล่วงดันอนาคตรุ่ง

 

Mongkol Puangpetra & Fundamental Research Team

 

โดย บล.เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด ประจำวันที่ 24 พ.ค. 2561

Comments

B
i
u
Quote
Code
List
List item
URL
Name *
Code   
ChronoComments by Joomla Professional Solutions
Submit Comment
 

Login

Forgot your password? Create an account
mod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_counter
mod_vvisit_counterToday11478
mod_vvisit_counterYesterday39562
mod_vvisit_counterAll days167268024

We have: 450 guests online
Your IP: 3.138.102.178
 , 
Today: Apr 18, 2024

4363120