Forgot your password? Create an account
  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
News

Stockwave Online กระแสหุ้นออนไลน์ หุ้น หลักทรัพย์ การเงิน ข่าวเศรษฐกิจ

Home Daily Research Daily View - บล.กสิกรไทย
Daily View - บล.กสิกรไทย PDF Print E-mail
Wednesday, 29 August 2018 09:22

รัฐบาลเดินเครื่องออกมาตรการช่วยเหลือประชาชน คาดจะเห็นมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อที่มากขึ้นในช่วงใกล้การเลือกตั้งเป็นบวกต่อกลุ่มหุ้น Domestic สำหรับ SET Index คาดว่าจะเคลื่อนไหวเชิงบวกระหว่าง 1,715-1,730 จุด ตามงาน Thailand Focus ซึ่งปีนี้น่าจะได้รับการตอบรับที่ดีกว่าปีที่ผ่านๆมา เลือก STEC RJH BJC เป็นตัวเด่นวันนี้

ตลาดยังอยู่ในสภาวะผ่อนคลายจากความคาดหวังการเจรจาข้อตกลงทางการค้า : สตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ กล่าวว่ามีความหวังที่สหรัฐจะบรรลุต่อการค้าฉบับใหม่กับแคนาดาในไม่ช้า ต่อเนื่องจากการทำข้อตกลงกับเม็กซิโก นอกจากนั้น มนูชิน ยังเปิดเผยอีกว่าหลังเสร็จสิ้นการเจรจากับแคนาดาแล้วเป้าหมายต่อไปคือการเจรจาการค้ากับ EU และจีน

มองการไล่ทำข้อตกลงกับกลุ่มประเทศที่เกินดุลการค้าสหรัฐ เป็นสัญญาณที่ดีลดความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้า ที่เหลือคือรอติดตามการเจรจาการค้าระหว่าสหรัฐและจีน ซึ่งยังมีประเด็นซับซ้อนที่ยอมกันได้ยาก โดยเฉพาะประเด็นรัฐบาลจีนสนับสนุนหรืออุดหนุนเงินให้กับบริษัทส่งออกต่างๆของจีน จนล่าสุดสหรัฐเตรียมที่จะเก็บภาษีล้อเหล้กรถยนต์จากจีน หลังสหรัฐพบการอุดหนุนเงินของรัฐบาลจีน

ระยะสั้นเชื่อว่าข้อพิพาทการค้าที่ผ่อนคลาย จะช่วยหนุนตลาดหุ้นทั่วโลกไปอย่างน้อยจนถึงวันทำประชาพิจารณ์ 5 ก.ย.61 อย่างไรก็ตามต้องระวังในช่วงใกล้วันดังกล่าวหากสหรัฐและจีนยังไม่มีความคืบหน้าการเจรจาใดๆอาจสร้างความกังวลให้กับตลาดอีกครั้ง

รัฐบาลเดินเครื่อง ที่ประชุม ครม. เพิ่มวงเงินและกดเงินสดให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการคนจน : มาตรการอัดฉีดเม็ดเงินลงสู่มือประชาชน เริ่มปรากฎขึ้นอย่างต่อเนื่อง วานนี้ที่ประชุม ครม. มีมติอนุมัติมาตรการช่วยเหลือผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพิ่ม 2 มาตรการคือ 1) ปรับวงเงินการซื้อสินค้าเพิ่มอีก 100-200 บาทต่อเดือน โดยจำนวนเงินดังกล่าวสามารถถอนเป็นเงินสดและสะสมได้ 2) โครงการแจกอินเตอร์เน็ตสำหรับผู้มีรายได้น้อย

ทั้งนี้มาตรการดังกล่าวเป็นการเพิ่มจากเดิมที่ให้วงเงินซื้อสินค้าจากร้านธงฟ้า 200-300 บาทต่อเดือน และค่าใช้จ่ายในการเดินทาง รถเมล์/รถไฟฟ้า 500 บาทต่อเดือน บขส. 500 บาทต่อเดือน รถไฟ 500 บาทต่อเดือน ส่วนลดซื้อก๊าซหุงต้ม 45 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน

การเพิ่มวงเงินและให้ถอนเงินสด 100-200 บาทต่อเดือน แม้กำหนดระยะเวลาเพียง 4 เดือน ก.ย.-ธ.ค.61 และใช้วงเงินเพียงเดือนละ 700 ล้านบาทให้กับผู้มีสิทธิ 3.9 ล้านคน แต่ถือเป็นประโยชน์ต่อกลุ่มร้านสะดวกซื้อ CPALL และ BJC อีกมุมถือเป็นสัญญาณการเดินเครื่องในการช่วยเหลือและเพิ่มกำลังซื้อของประชาชน คาดว่าในช่วงใกล้การเลือกตั้งจะยิ่งเห็นมาตรการต่างๆของรัฐบาลออกมามากขึ้น มองเป็นบวกต่อกลุ่มหุ้น Domestic ที่อิงกับกำลังซื้อในประเทศเป็นหลัก

วันนี้เริ่มงาน Thailand Focus เชื่อจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างสูง หนุนกระแสเงินไหลเข้า : งาน Thailand Focus จะเริ่มขึ้นแล้วในวันนี้ (29-30 ส.ค.) คาดว่าการเชิฐบรรดากองทุนทั่วโลกเข้าฟังวิสัยทัศน์ ยุทธศาสตร์ของรัฐบาลไทย รวมไปถึงฟังข้อมูลบริษัทจดทะเบียนที่มีศักยภาพ 150 บริษัท จะได้รับการตอบรับดีที่สุดในรอบ 4 ปีหลังสุด เนื่องจากในปีนี้ไทยมีปัจจัยหลายอย่างที่ดีกว่าเดิมไม่ว่าจะเป็น 1) การขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ดีที่สุดในรอบ 5 ปี (ครึ่งปีแรก 4.8%) 2) กำไรบริษัทพุ่งทำจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และ 3) Roadmap การเลือกตั้งปี 2562 ที่ชัดเจน คาดว่าปัจจัยบวกต่างๆจะสร้างความสนใจและดึงดูดเม็ดเงินจากบรรดากองทุนต่างๆทั่วโลกได้ และทำให้ SET Index มีโอกาสฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง

เมื่อย้อนกลับไปในปีที่ผ่านมา ระหว่าง 29-30 ส.ค.60 SET Index ปรับเพิ่มขึ้นในช่วงการจัดงานถึง 1.7% และขึ้นต่อเนื่องในอีก 1 สัปดาห์หลังจบงานอีก 0.5% โดยนักลงทุนต่างประเทศเป็นฝ่ายซื้อสุทธิในช่วงเวลาดังกล่าว 5.5 พันล้านบาทด้วยกัน ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตุว่าการจัดงาน 5 ครั้งหลังสุด นักลงทุนต่างประเทศมักจะเข้าซื้อสุทธิทั้งในช่วงจัดงานและหลังจากจัดงานไป 1 สัปดาห์ ด้วยความน่าจะเป็นราว 60% โดยจะเข้าซื้อสุทธิเฉลี่ย 1 พันล้านบาท ซึ่งในปีนี้มีความเป็นไปได้สูงพอสมควรที่ต่างชาติอาจซื้อเช่นปีที่ผ่านมา

 

กลยุทธ์การลงทุน

ดัชนียังคิดอยู่ใต้ 1,730 จุด แต่คาดว่าจะใช้เวลาไม่นานสุดท้ายจะผ่านขึ้นไปทดสอบแนวต้านใหญ่ 1,750 จุด มองกลุ่มหุ้นที่จะตอบสนองต่อการขึ้นของ SET Index ในรอบนี้จะประกอบการไปด้วย

1) Big cap play ธนาคาร BBL KTB พลังงาน PTTEP ปิโตรเคมี IVL PTTGC และสื่อสาร ADVANC TRUE

2) กำไรในครึ่งปีหลังดีกว่าครึ่งแรก ขณะที่มี Upside เปิดกว้าง BJC PRM ORI STEC RJH SVI COM7 HANA MTC SAWAD SPALI

 

Daily Picks

Daily Picks   Trading Target

STEC             24.00

RJH              25.00

BJC              62.00

 

Monthly pick

BBL CPN KTB CPALL MTC ROBINS ORI BEM LH DELTA AP TNR SPALI IVL QH

 

KS Daily Portfolio

เพิ่ม BJC เข้าพอร์ตตั้งแต่ระดับเปิดด้วยน้ำหนัก 20% ทำให้ KS Daily Portfolio ถือหุ้น PTTGC BBL STEC SAWAD BJC

1. หุ้นที่อิงกับ Investment Cycle

PTTGC แม้ความน่าสนใจของกลุ่มโรงกลั่นจะลดน้อยลงจากแรงกดดันของค่าการกลั่น (GRM) แต่ ในบรรดาหุ้นกลุ่มโรงกลั่นทั้งหมด ชอบ PTTGC มากที่สุดเนื่องจากเป็นบริษัทตัวแทนกลุ่มต้นน้ำ กอปรกับมีส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจโรงกลั่นที่น้อย และไม่มีการผลิตน้ำมันเบนซิน ขณะที่ประเด็นความเสียหายจากวัตถุดิบคงคลังในระบบของ GGC หายไปมูลค่ารวม 2.1 พันลบ. จะกระทบต่อ PTTGC เพียงเล็กน้อย คงคำแนะนำซื้อ

BBL รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/2561 ที่ 9.2 พันลบ. สูงกว่าตลาดคาด 10% ปัจจัยเด่นในไตรมาสนี้คือคุณภาพสินเชื่อที่ปรับดีขึ้นอย่างมาก ด้วยอัตราส่วนหนี้สินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL ratio) ที่ปรับดีขึ้นอย่างมาก QoQ (ดีกว่าคาด) จาก 4.66% เป็น 4.04% เป็นผลจากการปรับโครงสร้างหนี้ที่สูงของธนาคารและการตัดบัญชี กอปรกับการก่อตัวของ NPL โดยรวมที่ลดลง คาดว่าจะเป็นสัญญาณที่ดีต่อผลประกอบการอย่างต่อเนื่องในครึ่งปีหลัง ทั้งนี้กำไรครึ่งแรกของปี 2561 คิดเป็น 51.2% ต่อประมาณการกำไรปี 2561 คงคำแนะนำ ซื้อ ด้วยมูลค่าพื้นฐาน 232 บาท

2. หุ้นผลประกอบการครึ่งหลังของปีจะดีกว่าครึ่งแรก

SAWAD เราคาดว่ากำไรสุทธิของบริษัทฯ แตะระดับต่ำสุดไปแล้วตั้งแต่ไตรมาส 1 และคาดจะปรับตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2561 หนุนจากสินเชื่อที่เติบโตขึ้น, อัตราตอบแทนสินเชื่อที่ผ่านระดับต่ำสุดแล้วและการตั้งสำรองที่ลดลงในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ผลจากการเริ่มใช้นโยบายบัญชีใหม่ของ BFIT ตั้งแต่เดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 2561-2563 ขึ้น 2-3% ด้วยอานิสงส์หลักจากการปรับเพิ่มอัตราเติบโตของสินเชื่อและอัตราตอบแทนพร้อมปรับเพิ่มราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 47.50 บาท (จาก 47 บาท) หรือด้วย PBV กลางปี 2562 ที่ 4.1 เท่า

STEC คาดราคาหุ้นจะตอบสนองต่อ มติ ครม. เกี่ยวกับประเด็น พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง ลดความกังวลว่าจะเป็นการเพิ่มขั้นตอนและทำให้การประมูลโครงการต่างๆล่าช้า คาดนับจากนี้จะได้เห็นการเข็นงานประมูลออกมามากขึ้นในครึ่งปีหลัง หนุนการฟื้นตัวของ STEC นอกจากนี้ด้วย Backlog ที่มีอยู่ 1.2 แสนล้านบาทจะเริ่มเห็นการเร่งรับรู้รายได้ในตั้งแต่ครึ่งหลังของปี 2561 และยาวไปจนถึง 2563 หนุนกำไรเติบโตต่อเนื่อง

BJC ผลประกอบการจะดีขึ้นในครึ่งปีหลัง โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจค้าปลีกยอดขายต่อสาขาเดิม SSSG ปรับตัวดีขึ้นเป็นผลมาจาก SSSG ของ BigC Supercenter มีอัตราการเติบโต 3.7% ในเดือนกรกฎาคม เนื่องจากแคมเปญส่งเสริมการขายที่ประสบความสำเร็จ และการปรับโครงสร้างบริษัท เพื่อวัตถุประสงค์ทางภาษีที่จะแล้วเสร็จในครึ่งหลังของปีนี้ ซึ่งจะทำให้อัตราภาษีที่แท้จริงลดลงเหลือ 18% ในปี 2562 แนะนำ ซื้อ ด้วยราคาเป้าหมาย 62 บาท

 

Strategist

 

ประกิต สิริวัฒนเกตุ

This e-mail address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it

 

ศักดิ์สิทธิ์ ผลมานะ

Assistant analyst

 

KS Research Team

 

Kasikorn Securities PCL

 

โดย บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด ประจำวันที่ 29 ส.ค. 2561

Comments

B
i
u
Quote
Code
List
List item
URL
Name *
Code   
ChronoComments by Joomla Professional Solutions
Submit Comment
 

Login

Forgot your password? Create an account
mod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_counter
mod_vvisit_counterToday27653
mod_vvisit_counterYesterday36228
mod_vvisit_counterAll days167320427

We have: 747 guests online
Your IP: 3.144.212.145
Mozilla 5.0, 
Today: Apr 19, 2024

4255864