Forgot your password? Create an account
  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
News

Stockwave Online กระแสหุ้นออนไลน์ หุ้น หลักทรัพย์ การเงิน ข่าวเศรษฐกิจ

Home Economic View สรุปประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจและการเงินรายวัน - ธ.ซีไอเอ็มบี ไทย
สรุปประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจและการเงินรายวัน - ธ.ซีไอเอ็มบี ไทย PDF Print E-mail
Wednesday, 16 April 2014 09:41

Snapshot

 

สหรัฐเมริกา

          - ยอดค้าปลีกเดือนมีนาคมของสหรัฐฯปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.1% มาอยู่ที่ 4.339 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นับว่าเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบหนึ่งปีครึ่ง ซึ่งเป็นสัญญาณล่าสุดว่าเศรษฐกิจสหรัฐกำลังหลุดพ้นจากภาวะอ่อนแออันสืบเนื่องมาจากสภาพอากาศ ทั้งยังบ่งชี้ว่าการใช้จ่ายผู้บริโภค ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 70% ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจทั้งหมด กำลังฟื้นตัวขึ้น หลังจากที่ซบเซาในช่วงฤดูหนาว โดยผู้บริโภคจับจ่ายซื้อสินค้าและบริการเพิ่มขึ้นในเกือบทุกประเภท อาทิ ยานยนต์ วัสดุก่อสร้าง และสินค้าในห้างสรรพสินค้า ขณะที่ยอดขายน้ำมันเบนซินและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ปรับตัวลดลง

 

ยุโรป: สหภาพยุโรป

          - ไฟแนนเชียล ไทมส์ อ้างรายงานของนสพ.ฟรังฟวร์ตเตอร์ อัลเกไมเนอ ไซต์ทุง ของเยอรมนีว่า อีซีบีอาจต้องใช้เงินถึง 1 ล้านล้านยูโรต่อปี หรือราว 8 หมื่นล้านยูโรต่อเดือนไปกับการซื้อตราสารหนี้ในยุโรปซึ่งจะมีผลช่วยกระตุ้น อัตราเงินเฟ้อปี 2559 ได้ราว 0.2-0.8% หลังที่ประชุมบอร์ดอีซีบีสัปดาห์ที่แล้วส่งสัญญาณชัดเจนว่ากำลังพิจารณาใช้ โปรแกรมซื้อตราสารเพื่อป้องกันไม่ให้ยูโรโซนติดหล่มเงินฝืดหรือภาวะเงินเฟ้อ ต่ำเป็นระยะเวลายาวนาน

 

เยอรมนี

          - สถาบันวิจัยเศรษฐกิจชั้นนำหลายแห่งของเยอรมนี อาทิ สถาบัน DIW ในกรุงเบอร์ลิน สถาบัน Ifo ในกรุงมิวนิก สถาบัน IW ในเมืองฮัลเล และสถาบัน RWI ในเมืองเอสเซินได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจเยอรมนีประจำปี 2557 โดยสถาบันวิจัยดังกล่าวระบุว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของเยอรมนีจะขยายตัว 1.9% ในปี 2557 มากกว่าที่คาดการณ์ก่อนหน้าที่ 1.8% โดยมีสาเหตุหลักจากอุปสงค์ภายในประเทศที่แข็งแกร่ง เหล่านี้ สะท้อนว่าเศรษฐกิจเยอรมนีมีแนวโน้มที่จะอยู่ในช่วงขาขึ้น

ฝรั่งเศส

          - สำนักงานสถิติแห่งชาติฝรั่งเศส (Insee) รายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมีนาคมปรับตัวขึ้น 0.4% เมื่อเทียบรายเดือน และเพิ่มขึ้น 0.6% เมื่อเทียบรายปี โดยระบุว่า ดัชนี CPI ที่เพิ่มขึ้นเป็นผลจากการฟื้นตัวของราคาผลิตภัณฑ์ภาคการผลิต และจากแรงกดดันตามฤดูกาลในค่าบริการ ซึ่งเกี่ยวข้องกับช่วงวันหยุดฤดูหนาว

          - รัฐบาลฝรั่งเศสประกาศขายที่พักสุดหรูในราคาอย่างน้อย 48 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในนิวยอร์กของทูตฝรั่งเศสประจำสหประชาชาติ อันเป็นอพาร์ทเมนต์แฝด 18 ห้อง 6 ห้องนอน 5 เตาผิง มีลิฟต์ส่วนตัวและบันไดโค้งเชื่อมระหว่างชั้นบนกับชั้นล่าง และสามารถมองเห็นทัศนียภาพอันสวยงามของพาร์ค อเวนิว เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในแผนหารายได้เพิ่มเติม ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่นายมานูเอล วาลส์นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของฝรั่งเศส เปิดเผยมาตรการทางภาษีและลดการใช้จ่ายอย่างกว้างขวาง โดยมีเป้าหมายลดตัวเลขขาดดุลของประเทศ

 

ยูเครน

          - ธนาคารกลางยูเครนประกาศลดค่าเงิน hryvnya ซึ่งเป็นสกุลเงินภายในประเทศ ลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐและยูโร อันเป็นผลมาจากภาวะไร้เสถียรภาพทางเศรษฐกิจและการเมือง รวมทั้งสถานการณ์ความตึงเครียดทางการเมืองกับรัสเซีย ทั้งนี้ ธนาคารกลางยูเครนได้ปรับลดค่าเงิน hryvnya ลง 6% สู่ระดับ 12.6 hryvnya/ดอลลาร์ และยังได้กำหนดอัตราแลกเปลี่ยนเมื่อเทียบกับยูโรในระดับใหม่ที่ 17.4 hryvnya/ยูโร เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนที่ระดับ 16.3 hryvnya/ยูโร

 

สเปน

          - รัฐบาลสเปนสามารถระดมทุนจากการประมูลขายพันธบัตรอายุ 6 เดือน และ 12 เดือน เป็นวงเงินทั้งสิ้น 4.558 พันล้านยูโร หรือ 6.322 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แบ่งเป็น ประมูลขายพันธบัตรอายุ 6 เดือนในวงเงิน 1.216 พันล้านยูโร ด้วยอัตราผลตอบแทนเฉลี่ย 0.369% เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับการประมูลในเดือนมีนาคมที่ระดับ 0.366% ส่วนพันธบัตรอายุ 12 เดือนประมูลขายได้ในวงเงิน 3.341 พันล้านยูโร ด้วยอัตราผลตอบแทน 0.556% เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับการประมูลในเดือนมีนาคมที่ระดับ 0.544% ทั้งนี้ รัฐบาลสเปนจะเปิดให้มีการประมูลพันธบัตรอีก 2 ครั้งในเดือนนี้ ในวันที่ 22 และ 24 เมษายนตามลำดับ โดยจนถึงขณะนี้รัฐบาลสเปนสามารถระดมทุนจากการขายพันธบัตรไปแล้วทั้งสิ้น 5.081 หมื่นล้านยูโร

 

รัสเซีย

          - นายจิม ยอง คิม ประธานธนาคารโลกกล่าวว่า เศรษฐกิจรัสเซียอาจหดตัวลงมากถึง 1.8% ในปีนี้ หากวิกฤตยูเครนดำเนินต่อไปและทวีความรุนแรงมากขึ้น ประธานธนาคารโลกกล่าวว่า ในปัจจุบัน ธนาคารโลกยังคงรักษาความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นทั้งกับรัฐบาลยูเครนและรัฐบาลรัสเซีย และจับตาดูประเด็นดังกล่าวอย่างระมัดระวัง ทั้งนี้ ธนาคารโลกได้จัดสรรเงินช่วยเหลือแก่ยูเครน มูลค่า 3.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งได้แก่ การสนับสนุนด้านงบประมาณโดยตรง 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และเงิน 2 พันล้านดอลลาร์สำหรับโครงการด้านสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานและโครงการช่วยเหลือประชากรที่ยากจน

          - ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ส่งหนังสือถึงเหล่าผู้นำอียู แสดงความกังวลต่อการที่ยูเครนยังค้างชำระค่าก๊าซแก่รัสเซีย และเตือนว่าปัญหานี้อาจกระทบต่อการส่งมอบก๊าซแก่ยุโรป ขณะที่ความเคลื่อนไหวกดดันอียูท่ามกลางวิกฤตฝ่ายตะวันตก-ตะวันออกนับเป็นครั้งเลวร้ายที่สุด นับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามเย็น หลังจากมอสโกผนวกสาธารณรัฐปกครองตนเองไครเมียของยูเครนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดน

 

เอเซีย: จีน

          - นายอี้ กัง รองผู้ว่าการธนาคารกลางจีน (PBOC) กล่าวว่ารัฐบาลจีนและธนาคารกลางจีนควรใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมากในการดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใดๆ เพราะมาตรการดังกล่าวมักจะมีประสิทธิภาพในการกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจต่ำกว่าแรงผลักดันปกติในตลาด โดยเขากล่าวว่าเศรษฐกิจจีนที่เติบโตในระดับที่สูงกว่า 7.5 % เล็กน้อยหรือต่ำกว่า 7.5 % เล็กน้อยถือเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ โดยเศรษฐกิจจีนเติบโต 7.7 % ในปีที่แล้ว ขณะเดียวกันเขากล่าวว่าการที่สกุลเงินหยวนของจีนแกว่งตัวในสองทิศทางถือเป็นเรื่องปกติ โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่สหรัฐฯได้แสดงความกังวลต่อการที่ค่าเงินหยวนอ่อนลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯในระยะนี้ โดยธนาคารกลางจีนเพิ่งผ่อนคลายมาตรการควบคุมหยวนในเดือนมีนาคมโดยใช้วิธีขยายกรอบการซื้อขายหยวนให้กว้างขึ้นเป็นสองเท่า ซึ่งถือเป็นการทำตามสัญญาที่ว่าจีนจะปล่อยให้แรงผลักดันในตลาดเข้ามามีบทบาทมากยิ่งขึ้นต่อเศรษฐกิจจีน โดยเขามองว่ามีบางสิ่งเกิดขึ้นในไตรมาสแรกของปีนี้ โดยธนาคารกลางสหรัฐได้ปรับลดขนาดมาตรการเข้าซื้อตราสารหนี้ ส่วนจีนมียอดขาดดุลการค้าเพิ่มขึ้น ด้วยเหตุนี้การที่หยวนแกว่งตัวในทั้งสองทิศทางถือเป็นปรากฏการณ์ตามปกติ

          - สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) รายงานว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เพิ่มขึ้น 2.4% ในเดือนมีนาคมจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ลดลง 2.3% ขณะที่ผลสำรวจของรอยเตอร์คาดว่าดัชนี CPI จะเพิ่มขึ้น 2.5% และดัชนี PPI จะลดลง 2.2%

 

ญี่ปุ่น

          - สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายอากิระ อามาริ รมว.เศรษฐกิจญี่ปุ่นจะเดินทางไปสหรัฐฯเพื่อเข้าร่วมการเจรจาทางการค้าในช่วงปลายสัปดาห์หน้า โดยมีจุดประสงค์เพื่อหาทางบรรลุข้อตกลงสองทาง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่จะนำไปสู่การทำสนธิสัญญาระดับภูมิภาคในวงกว้าง นายอามาริจะประชุมกับนายไมเคิล โฟรแมน ผู้แทนการค้าสหรัฐฯในวันพฤหัสบดีที่ 17 เม.ย. หลังจากทั้งสองเพิ่งเสร็จสิ้นจากการหารือกันเป็นเวลาสองวันที่กรุงโตเกียวเมื่อวันพฤหัส โดยทั้งสองกล่าวว่ามีความก้าวหน้าเกิดขึ้นในการเจรจา แต่ยังคงมีความเห็นที่แตกต่างจากกันเป็นอย่างมากก่อนที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐจะเดินทางเยือนกรุงโตเกียวในช่วงต่อไปในเดือนนี้

          - ธนาคารกลางญี่ปุ่น รายงานผลการประชุมนโยบายประจำเดือนมีนาคมว่า สมาชิกคณะกรรมการนโยบายทั้ง 9 คนมีมุมมองที่สอดคล้องกันว่า ยอดส่งออกของญี่ปุ่นจะยังคงชะลอตัวลงในอนาคต โดยมีสาเหตุบางส่วนมาจากการย้ายฐานผลิตไปยังต่างประเทศขององค์กรต่างๆ รวมทั้งปัญหาจากปัจจัยเชิงโครงสร้าง ตลอดจนอุปสงค์จากตลาดเกิดใหม่ซึ่งรวมถึงประเทศแถบอาเซียนที่ยังคงอ่อนแรง ขณะที่พายุหิมะในสหรัฐและการดำเนินงานของบริษัทญี่ปุ่น ก็ได้ส่งผลต่อการส่งออกเช่นเดียวกัน   แต่สำหรับแนวโน้มในระยะยาวนั้น ยอดส่งออกน่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นในระดับปานกลาง เนื่องจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจต่างประเทศ

 

ไทย

          - สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) เผยยอดขอส่งเสริมลงทุนช่วงไตรมาสแรกปีนี้ลดลง 10% มาอยู่ที่ 2.34 แสนล้านบาท โดยเงินลงทุนส่วนใหญ่มาจากการยื่นขอส่งเสริมลงทุนในโครงการอีโคคาร์ ระยะ 2 ขณะที่ยังมั่นใจยอดขอส่งเสริมการลงทุนทั้งปีนี้ยังเป็นไปตามเป้าหมายที่ 9 แสนล้านบาท นายอุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) กล่าวว่ายอดขอรับส่งเสริมการลงทุนในช่วงเดือนม.ค.-มี.ค.57 มีจำนวน 291 โครงการ ด้วยมูลค่าเงินลงทุน 2.34 แสนล้านบาท แต่จำนวนโครงการลดลง 48% ขณะที่มูลค่าเงินลงทุนลดลง 10% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สำหรับการยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนในไตรมาสแรกนั้นพบว่ามีหลายกลุ่มอุตสาหกรรมที่ยังมีการขยายการลงทุน โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ชิ้นส่วนยานยนต์ และเครื่องจักร มีมูลค่าเงินลงทุน 1.57 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 265% ซึ่งเป็นผลมาจากการยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนผลิตรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากลระยะที่ 2 (อีโคคาร์ 2) ตามด้วยกลุ่มบริการและสาธารณูปโภค 3.14 หมื่นล้านบาท ขณะที่กลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเคมี กระดาษและพลาสติก มีมูลค่าเงินลงทุนของโครงการทั้งหมดที่ยื่นขอรับส่งเสริม 2.32 หมื่นล้านบาท และกลุ่มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และ เครื่องใช้ไฟฟ้า มีมูลค่าเงินลงทุน 1.19 หมื่นล้านบาท

 

Money Market

          - บาท/ดอลลาร์ เมื่อวันศุกร์-อังคาร (11-15 เม.ย.) ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯแข็งขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับค่าเงินบาทและหลายสกุลเงินในเอเซียในช่วงเช้าวันศุกร์ ซึ่งสอดคล้องกับภาวะที่ดัชนีตลาดหุ้นเอเซียส่วนใหญ่ลดลงในวันนี้ ทั้งนี้ในวันอังคารค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯได้ปรับตัวแข็งขึ้นเมื่อเทียบกับค่าเงินบาทซึ่งสอดคล้องกับการที่ดอลลาร์สหรัฐฯกลับมาแข็งขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลัก

          - เยน/ดอลลาร์ เมื่อวันศุกร์-อังคาร ( 11-15 เม.ย.) ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯแข็งขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนในช่วงเช้าวันศุกร์หลังจากที่ค่าเงินเยนแข็งขึ้นมามากเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯในช่วงต้นสัปดาห์จากปัจจัยหนุนเรื่องความกังวลต่อการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจจีน รวมทั้งรายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯครั้งล่าสุดที่เปิดเผยออกมาส่งผลให้นักลงทุนมองว่าธนาคารกลางสหรัฐฯอาจยังไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเร็วเท่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ในวันจันทร์และวันอังคารค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯก็ยังคงปรับตัวแข็งขึ้นเมื่อเทียบกับค่าเงินเยนอย่างต่อเนื่อง

          - ยูโร/ดอลลาร์ เมื่อวันศุกร์-อังคาร (11-15 เม.ย.) ค่าเงินยูโรแข็งขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯในช่วงเช้าวันศุกร์โดยส่วนหนึ่งค่าเงินยูโรได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งในการเปิดประมูลขายพันธบัตรกรีซเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี หลังจากกรีซผิดนัดชำระหนี้เมื่อสองปีก่อน อย่างไรก็ดีค่าเงินยูโรได้ปรับอ่อนลงในวันจันทร์และวันอังคารจากการที่ประธานธนาคารกลางยุโรปกล่าวว่าหากค่าเงินยูโรยังแข็งขึ้นต่อเนื่องจะยิ่งเป็นปัจจัยกระตุ้นให้ธนาคารกลางยุโรปตัดสินใจเพิ่มมาตรการผ่อนคลาย

 

Capital Market

          - ตลาดสหรัฐฯ เมื่อวันศุกร์-อังคาร (11-15 เม.ย.) ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 0.89% ในวันศุกร์โดยได้รับแรงกดดันจากรากรายงานผลประกอบการธนาคารใหญ่ในสหรัฐฯประกอบกับแรงขายในกลุ่มเทคโนโลยี ในวันจันทร์ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 0.91% หลังรายงานยอดขายปลีกสหรัฐฯเดือนมีนาคมเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับจากปี 2012 และผลกำไรของ Citigroup เพิ่มขึ้นอย่างไม่คาดหมาย สำหรับในวันอังคารดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 0.55% หลังรายงานผลประกอบการบริษัทที่ออกมาดีเกินคาด

          - ตลาดหุ้นเอเชีย เมื่อวันศุกร์-อังคาร (11-15 เม.ย.) ดัชนีตลาดหุ้นเอเซียส่วนใหญ่ลดลงในช่วงเช้าวันศุกร์ โดยดัชนีนิกเกอิปิดตลาดลดลง 2.38% โดยมีสาเหตุมาจากการที่ค่าเงินเยนแข็งขึ้นมามากในช่วงสัปดาห์นี้ ขณะที่ความกังวลเรื่องเศรษฐกิจจีนก็ส่งผลลบต่อตลาดหุ้นญี่ปุ่นและตลาดเอเซียโดยรวมเช่นกัน ส่วนตลาดหุ้นจีนและฮ่องกงในวันศุกร์ ดัชนีไชน่า เอ็นเทอร์ไพรเซสสำหรับหุ้นบริษัทชั้นนำของจีนที่จดทะเบียนในตลาดฮ่องกงลดลง 2.4 % ในช่วงเช้าวันศุกร์  หลังจากมีการประกาศแผนการลงทุนในหุ้นข้ามพรมแดนระหว่างตลาดฮ่องกงกับตลาดเซี่ยงไฮ้เมื่อวันพฤหัส โดยนักลงทุนเทขายหุ้นโดยมีจุดประสงค์เพื่อลดส่วนต่างระหว่างราคาหุ้นในตลาดฮ่องกงกับราคาหุ้นในตลาดเซี่ยงไฮ้ โดยปิดตลาดวันศุกร์ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตและดัชนีฮั่งเส็งลดลง 0.18% และ 0.79% ตามลำดับ สำหรับในวันจันทร์ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตและดัชนีฮั่งเส็งปิดเพิ่มขึ้น 0.05% และ 0.15% ตามลำดับ โดยนักลงทุนรอดูข้อมูลเศรษฐกิจจีนที่จะทยอยรายงานในสัปดาห์นี้ ขณะที่ดัชนีนิกเกอิปิดลดลง 0.36% สำหรับในวันอังคารดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตและดัชนีฮั่งเส็งปิดลดลง 1.40% และ 1.60% ตามลำดับ จากการที่รายงานปริมาณเงินในระบบของจีนเดือนมีนาคมเพิ่มขึ้นในอัตราที่ต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์

          - ตลาดหุ้นไทย เมื่อวันศุกร์ (11 เม.ย.) ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันศุกร์สอดคล้องกับตลาดหุ้นเอเซียส่วนใหญ่ อย่างไรก็ดีหลังจากนั้นดัชนีฯได้ปรับตัวสูงขึ้น โดยมูลค่าการซื้อขายค่อนข้างน้อยเนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการลงทุนก่อนช่วงวันหยุดยาว ทั้งนี้มีแรงขายมากในหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ขณะที่มีแรงซื้อมากเข้ามาในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โดยปิดตลาดวันนี้ SET INDEX ลดลง 0.40 จุด

 

          โดย สำนักวิจัยธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ประจำวันที่ 16 เม.ย. 2557

Comments

B
i
u
Quote
Code
List
List item
URL
Name *
Code   
ChronoComments by Joomla Professional Solutions
Submit Comment
 
 

Login

Forgot your password? Create an account
mod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_counter
mod_vvisit_counterToday19259
mod_vvisit_counterYesterday39562
mod_vvisit_counterAll days167275805

We have: 591 guests online
Your IP: 3.145.163.58
 , 
Today: Apr 18, 2024

11838528