สรุปประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจและการเงินรายวัน - ธ.ซีไอเอ็มบี ไทย |
Tuesday, 07 August 2018 09:23 | |||
สถานการณ์เศรษฐกิจต่างประเทศ นางแอมริตา เซน หัวหน้านักวิเคราะห์ของบริษัทเอเนอร์จี แอสเพคท์ ระบุว่า การที่สหรัฐใช้มาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน อาจส่งผลให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นเหนือระดับ 90 ดอลลาร์สหรัฐฯ /บาร์เรล ทางด้านมอร์แกน สแตนลีย์คาดว่า การผลิตน้ำมันของอิหร่านจะลดลงมากกว่า 1 ล้านบาร์เรล/วัน สู่ระดับ 2.7 ล้านบาร์เรล/วันภายในไตรมาส 4 ทั้งนี้ การส่งออกน้ำมันของอิหร่านเริ่มได้รับผลกระทบ ขณะที่ใกล้ถึงกำหนดเวลาที่สหรัฐจะทำการคว่ำบาตรน้ำมันจากอิหร่าน โดยสหรัฐเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ ระงับการซื้อน้ำมันดิบจากอิหร่านโดยสิ้นเชิงภายในวันที่ 4 พ.ย. มิฉะนั้นจะถูกสหรัฐทำการคว่ำบาตร ซึ่งวันที่ 4 พ.ย.ถือเป็นวันครบกำหนด 180 วันนับจากวันที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านในเดือนพ.ค. และจะทำให้ปธน.ทรัมป์สามารถออกคำสั่งคว่ำบาตรอิหร่านครั้งใหม่ ทางด้านอิหร่านขู่ตอบโต้สหรัฐ หากสหรัฐพยายามที่จะปิดกั้นการส่งออกน้ำมันของอิหร่าน ทั้งนี้ นายฮัสซัน รูฮานี ประธานาธิบดีอิหร่าน ได้ออกมากล่าวก่อนหน้านี้ว่า อิหร่านจะปิดช่องแคบฮอร์มุซ หากมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐกระทบต่อการส่งออกของอิหร่าน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐได้กล่าวปกป้องการใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าที่ก่อให้เกิดความตึงเครียดกับจีนและสหภาพยุโรป โดยปธน.ทรัมป์กล่าวกับผู้สนับสนุนในเมืองโคลัมบัส รัฐโอไฮโอ ระบุว่า การใช้กลยุทธ์ที่แข็งกร้าวด้านการค้าถือเป็นแนวทางของตน นอกจากนี้ ทรัมป์ยังกล่าวด้วยว่า "เราสร้างจีนขึ้นมาใหม่และถึงเวลาแล้วที่ในตอนนี้เราจะสร้างประเทศของเราขึ้นใหม่เช่นเดียวกัน" พร้อมย้ำว่า หุ้นของจีนกำลังดิ่งลงอย่างหนัก ส่งผลทำให้อำนาจการจรจาต่อรองของจีนอ่อนแอลงในช่วงที่สงครามการค้าทวีความรุนแรงขึ้น นายมัวรีย์ ออบสต์เฟลด์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยว่า ความไม่แน่นอนของเยอรมนีในการลดการเกินดุลการค้าจะส่งผลให้เกิดความตึงเครียดทางการค้า และเพิ่มความเสี่ยงซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อความมั่นคงทางการเงินทั่วโลก ทั้งนี้ ออบสต์เฟลด์แสดงความคิดเห็นลงในหนังสือพิมพ์ ดี เวล์ต ของเยอรมนีว่า "เราจะเห็นได้ว่ามาตรการจัดการกับยอดเกินดุลการค้า (ในบัญชีปัจจุบัน) ของประเทศต่างๆ อย่างเยอรมนียังคงไม่มีความแน่นอน ขณะที่ทางออกที่ดีที่สุดก็คือ การทำให้ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการเกินดุลลดลงเหลือน้อยที่สุด" ทั้งนี้ IMF และคณะกรรมาธิการยุโรปได้เรียกร้องให้เยอรมนีเร่งสนับสนุนอุปสงค์ภายในประเทศด้วยการปรับขึ้นค่าแรงและการลงทุน เพื่อลดภาวะไร้สมดุลทางการค้าทั่วโลก สื่อทางการของจีนได้เผยแพร่บทบรรณาธิการเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า จีนได้เตรียมความพร้อมรับมือกับสงครามการค้าที่ยืดเยื้อกับสหรัฐ และไม่ได้หวั่นเกรงถึงเรื่องการเสียสละซึ่งผลประโยชน์ด้านเศรษฐกิจในระยะสั้น สื่อของทางการจีน ยังระบุในบทบรรณาธิการด้วยว่า เมื่อพิจารณาจากความต้องการที่ไม่สมเหตุสมผลของสหรัฐแล้ว สงครามการค้าจึงเป็นการกระทำที่มีเป้าหมายที่จะบีบอธิปไตยด้านเศรษฐกิจของจีน รวมทั้งความพยายามที่จะกดดันจีนให้อยู่ภายใต้ระบบศักดินาของสหรัฐ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ของจีนประกาศว่า จีนจะเรียกเก็บภาษีจากสินค้านำเข้าจากสหรัฐวงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ โดยคิดอัตราภาษี 25%, 20%, 10% และ 5% ต่อสินค้า 5,207 รายการของสหรัฐ โดยจีนจะดำเนินการเรียกเก็บภาษีดังกล่าว หากสหรัฐเดินหน้าจัดเก็บภาษีนำเข้าต่อสินค้าจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ฯความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้สั่งการให้นายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) พิจารณาปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนสู่ระดับ 25% จากเดิมในอัตรา 10% คิดเป็นวงเงินรวม 2 แสนล้านดอลลาร์ฯ โดยครอบคลุมสินค้าจำนวน 6,031 รายการ ซาอุดิอาระเบียปรับลดการผลิตน้ำมันดิบลงมาอยู่ที่ประมาณ 10.290 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนก.ค. หรือลดลง 200,000 บาร์เรล/วันจากระดับของเดือนมิ.ย. ขณะที่ปริมาณผลผลิตน้ำมันที่ถูกป้อนให้กับตลาดในเดือนก.ค.เพิ่มขึ้นเล็กน้อยสู่ระดับ 10.380 ล้านบาร์เรล/วัน ทั้งนี้ ที่ประชุมโอเปกเมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมาได้มีมติร่วมกันในการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน เพื่อชดเชยปริมาณน้ำมันที่สูญเสียไปจากการที่บางประเทศได้ลดกำลังการผลิตลง แถลงการณ์จากที่ประชุมโอเปกระบุว่า เนื่องจากสมาชิกบางประเทศได้ลดกำลังการผลิตมากกว่าที่ได้ตกลงกันไว้ในเดือนพ.ย.2559 ดังนั้น ที่ประชุมจึงมีมติให้สมาชิก 12 ประเทศจากทั้งหมด 14 ประเทศ เพิ่มกำลังการผลิต เพื่อให้ความร่วมมือในการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันกลับสู่จำนวน 1.2 ล้านบาร์เรล/วันที่ตกลงกันไว้ในเดือนพ.ย.2559 สมาคมผู้นำเข้ารถยนต์และตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ของเกาหลีใต้ (KAIDA) เปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์นำเข้าเติบโตในอัตราเลข 2 หลักเมื่อเดือนที่ผ่านมา โดยได้รับแรงหนุนจากความต้องการรถหรูสัญชาติเยอรมนีที่เพิ่มสูงขึ้นรายงานระบุว่า ยอดรถยนต์นำเข้าที่จดทะเบียนใหม่ในเดือนก.ค. มีจำนวนทั้งสิ้น 20,518 คัน เพิ่มขึ้น 16.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ ในช่วง 7 เดือนแรกของปี เกาหลีใต้มียอดขายรถยนต์ต่างประเทศอยู่ที่ 160,627 คัน เพิ่มขึ้น 18.3% จากปีก่อนหน้า
ปัจจัยต่างประเทศ (7 สิงหาคม 2561): ตามเวลาประเทศไทย
ประเทศ ปัจจัย ญี่ปุ่น - การใช้จ่ายภาคครัวเรือนเดือนมิ.ย. - ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศเดือนก.ค. เยอรมนี - ดุลการค้าเดือนมิ.ย. - การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมิ.ย. ฝรั่งเศส - ดุลการค้าเดือนมิ.ย. อังกฤษ - ดัชนีราคาบ้านเดือนก.ค.โดยฮาลิแฟกซ์ Source: https://www.ryt9.com/s/iq24/2866302
ปัจจัยในประเทศ วันที่ ปัจจัย สัปดาห์ที่ 2 - ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) แถลงข้อมูลสรุปภาวะการซื้อขายหลักทรัพย์ - ศูนย์วิจัยทองคำแถลงดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำประจำเดือน 7 สิงหาคม - ประชุมคณะกรรมการร่วม 3 สถาบันภาคเอกชน (กกร.) - กระทรวงพาณิชย์ เชิญผู้ประกอบการส่งออกประเมินแนวโน้มในช่วงที่เหลือของปีนี้ - ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งที่ 5/2561 Source: https://www.ryt9.com/s/iq03/2851586
Money Market - ดอลลาร์/บาท วันจันทร์ (6 ส.ค.) เงินบาทแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯในเช้าวันนี้ ขณะที่วันนี้เงินหยวนของจีนก็แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯเช่นกัน โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาธนาคารกลางจีนได้ออกมาตรการให้ธนาคารพาณิชย์ในจีนต้องกันสำรอง 20% ของมูลค่าการทำสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า (Forward) ของลูกค้าโดยมีผลตั้งแต่วันจันทร์ที่ 6 สิงหาคมเนื่องจากเดิมที่ไม่ต้องสำรองฯ เนื่องจากทางการจีนไม่ต้องการให้มีการเก็งกำไรค่าเงินหยวนมากเกินไปจนทำให้เงินหยวนอ่อนค่าเร็วเกินไป อย่างไรก็ดีเนื่องจากจีนไม่สามารถที่จะขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯได้เป็นจำนวนมากได้เท่ากับที่สหรัฐฯอาจจะทำเนื่องจากจีนนำเข้าจากสหรัฐฯน้อยกว่าสหรัฐฯนำเข้าจากจีน ดังนั้นจีนจึงอาจจะใช้วิธีในการทำให้เงินหยวนค่อยๆอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯเพื่อลดผลกระทบดังกล่าวและตอบโต้สหรัฐฯหากสหรัฐฯยังเดินหน้าขึ้นภาษีนำเข้าต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี เงินบาทได้อ่อนค่าในช่วงท้ายตลาดสหรัฐฯ - ดอลลาร์/เยน วันจันทร์ (6 ส.ค.) เงินเยนอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯในเช้าวันนี้ ขณะที่ตัวเลขการจ้างงานฯของสหรัฐฯยังหนุนการคาดการณ์แนวโน้มการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ โดยการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯในเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้น 157,000 ตำแหน่ง ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 190,000 ตำแหน่ง หลังจากที่เพิ่มขึ้น 248,000 ตำแหน่งในเดือนมิถุนายน แต่เฉลี่ย 7 เดือนแรกที่เพิ่มขึ้นถึง 214,000 ต่อเดือน สูงกว่าปี 2016 และ 2017 ที่เพิ่มเฉลี่ย 195,000 ต่อเดือน และ 182,000 ต่อเดือน รวมทั้งสูงกว่าจำนวนผู้ที่เข้ามาในตลาดแรงงานเฉลี่ยรายเดือน ซึ่งจะทำให้อัตราการว่างงานมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง ก็เป็นปัจจัยหนุนการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ - ยูโร/ดอลลาร์ วันจันทร์ (6 ส.ค.)เงินยูโรอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯในเช้าวันนี้หลังรายงานตัวเลขการจ้างงานฯของสหรัฐฯเดือนกรกฎาคมเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
Capital Market - ตลาดหุ้นสหรัฐฯวันจันทร์ (6 ส.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวก เนื่องจากนักลงทุนยังคงมีมุมมองเป็นบวกต่อผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน และยังได้รับปัจจัยหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มสินค้าผู้บริโภค อย่างไรก็ตาม ความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน และความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างสหรัฐและอิหร่าน ก็ได้ลดแรงบวกของตลาด ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,502.18 จุด เพิ่มขึ้น 0.16% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,850.40 จุด เพิ่มขึ้น 0.35% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,859.68 จุด เพิ่มขึ้น 0.61% - ตลาดหุ้นเอเชีย วันจันทร์ (6 ส.ค.ดัชนีนิกเกอิปิดลดลงเล็กน้อยในวันนี้ เนื่องจากความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐและจีนได้สกัดแรงบวกในช่วงเช้า อันเนื่องมาจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทรายใหญ่ญี่ปุ่นซึ่งได้มีการเปิดเผยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยปิดตลาดวันนี้ดัชนีนิกเกอิปิดลดลง 0.08% มาอยู่ที่ 22,507.3ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดตลาดวันนี้ลดลง เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ ภายหลังจากที่กระทรวงพาณิชย์จีนได้ประกาศเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐ โดยกระทรวงพาณิชย์ของจีนประกาศว่า จีนจะเรียกเก็บภาษีจากสินค้านำเข้าจากสหรัฐวงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ โดยคิดอัตราภาษี 25%, 20%, 10% และ 5% ต่อสินค้า 5,207 รายการของสหรัฐ โดยจีนจะดำเนินการเรียกเก็บภาษีดังกล่าว หากสหรัฐเดินหน้าจัดเก็บภาษีนำเข้าต่อสินค้าจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ฯ โดยปิดตลาดวันนี้ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตลดลง 1.15% ปิดที่ 2,705.1 ส่วนดัชนีฮั่งเส็งปิดปรับตัวขึ้นวันนี้ โดยดัชนีฮั่งเส็งปิดเพิ่มขึ้น 0.52% มาอยู่ที่ 27,819.56 - ตลาดหุ้นไทย วันจันทร์ (6 สค.)ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้เคลื่อนไหวในแดนบวกในช่วงเช้าก่อนที่ในช่วงบ่ายดัชนีจะปรับตัวลดลง นำโดยหุ้นในกลุ่มปิโตรเคมี อาหารและเครื่องดื่ม พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ การแพทย์ และกลุ่มขนส่ง โดยปิดตลาดวันนี้ SET INDEX ลดลง 15.85 จุด
โดย สำนักวิจัยธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ประจำวันที่ 7 ส.ค. 2561
|
Today | 24352 | |
Yesterday | 52922 | |
All days | 166377223 |
Comments