สรุปประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจและการเงินรายวัน - ธ.ซีไอเอ็มบี ไทย |
![]() |
![]() |
![]() |
Wednesday, 05 September 2018 09:56 | |||
สถานการณ์เศรษฐกิจต่างประเทศ นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ยืนยันว่า รัฐบาลจะปรับขึ้นภาษีการขายภายในปีหน้า และเตรียมมาตรการเพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อการอุปโภคบริโภค อันเนื่องมาจากกการปรับขึ้นภาษีดังกล่าว นายอาเบะเปิดเผยกับหนังสือพิมพ์นิกเกอิว่า รัฐบาลญี่ปุ่นจะปรับขึ้นภาษีการขายภายในปีหน้าอย่างแน่นอน พร้อมกับแสดงความเชื่อมั่นว่า ผลกระทบของการขึ้นภาษีดังกล่าวขึ้นสู่ระดับ 10% นั้น จะไม่รุนแรงเท่ากับเมื่อครั้งที่มีการปรับขึ้นเป็น 8% นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้เตรียมมาตรการเพื่อบรรเทาความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นในวันข้างหน้า ที่ผ่านมานายอาเบะได้เลื่อนการขึ้นภาษีมาแล้วสองครั้ง หลังจากที่เพิ่มภาษีจาก 5% เป็น 8% ในปี 2557 ซึ่งทำให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นตกต่ำ ทั้งนี้ นักวิเคราะห์บางรายเตือนว่าการขึ้นภาษีในปีหน้าอาจสร้างความเสียหายให้กับการอุปโภคบริโภคในเอกชนที่กำลังเปราะบางอยู่ และอาจส่งผลกระทบต่อการจัดงานกีฬาโอลิมปิก 2020 ที่ญี่ปุ่นจะเป็นเจ้าภาพด้วย นาย สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนเปิดเผยว่า จีนจะมอบความช่วยเหลือในการบรรเทาหนี้ให้กับประเทศบางประเทศในทวีปแอฟริกาที่กำลังประสบปัญหาความยากจน ภายใต้ความพยายามในการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันระหว่างจีนและแอฟริกา ถ้อยแถลงดังกล่าวของประธานาธิบดีจีนมีขึ้น ขณะที่เขาขึ้นกล่าวปาฐกถาพิเศษในพิธีเปิดการประชุมการประชุมความร่วมมือจีน-แอฟริกา ซึ่งจัดขึ้น ณ กรุงปักกิ่ง โดยมีผู้นำจากประเทศต่างๆในทวีปแอฟริการาว 50 ประเทศเข้าร่วมการประชุม นักลงทุนจับตาประเด็นการทำสงครามการค้ารอบใหม่ระหว่างสหรัฐและจีนในสัปดาห์นี้ โดยสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เตรียมเดินหน้าตามแผนเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีนรอบใหม่ในสัปดาห์นี้แหล่งข่าวระบุว่า ปธน.ทรัมป์กล่าวกับคนสนิทของเขาว่า เขาจะทำการเรียกเก็บภาษีนำเข้าต่อสินค้าของจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทันทีที่มาตรการดังกล่าวได้ข้อสรุปจากการทำประชาพิจารณ์จากภาคส่วนต่างๆของสหรัฐในวันพฤหัสบดีนี้ ทั้งนี้ หากสหรัฐเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มอีก 2 แสนล้านดอลลาร์ฯ ก็เท่ากับว่าสหรัฐเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าเป็นสัดส่วนประมาณครึ่งหนึ่งจากสินค้าที่นำเข้าจากจีนทั้งหมดในแต่ละปี การทำสงครามการค้ารอบใหม่ระหว่างสหรัฐและจีนอาจจะมีขึ้นในสัปดาห์นี้ หลังจากที่การเจรจาการค้าระหว่างเจ้าหน้าที่สหรัฐและจีนในวันที่ 22-23 ส.ค.ได้สิ้นสุดลง โดยไม่มีความคืบหน้าใดๆ นอกจากนี้ วันที่ 23 ส.ค.ยังเป็นวันที่สหรัฐและจีนต่างก็ประกาศบังคับใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าระหว่างกันรอบที่ 2 ในอัตรา 25% วงเงิน 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ ขณะที่สงครามการค้าระหว่างสองชาติมหาอำนาจทางเศรษฐกิจทวีความรุนแรงขึ้น ธนาคารกลางเกาหลีใต้เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/2561 ขยายตัว 0.6% เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส ซึ่งน้อยกว่าที่ธนาคารกลางได้ประมาณการไว้เมื่อเดือนก.ค.ว่ามีการขยายตัว 0.7% นอกจากนี้ GDP ไตรมาส 2 ยังชะลอตัวลงจากไตรมาส 1 ซึ่งมีการขยายตัวที่ระดับ 1% โดยมีสาเหตุมาจากตัวเลขการลงทุนด้านการก่อสร้างที่ซบเซาลง หากเทียบเป็นรายปี GDP ไตรมาส 2 ของเกาหลีใต้ขยายตัว 2.8% สำนักงานสถิติแห่งชาติเกาหลีใต้เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญ ขยายตัว 1.4% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งชะลอตัวลงจากเดือนก.ค.ที่ขยายตัว 1.5% และต่ำกว่าเป้าหมายเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางเกาหลีใต้กำหนดไว้ที่ 2% ซึ่งส่งผลให้ตลาดคาดการณ์ว่า การดำเนินนโยบายคุมเข้มทางการเงินของธนาคารกลางเกาหลีใต้นั้น อาจจะเป็นในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป หากเทียบเป็นรายเดือน ดัชนี CPI เดือนส.ค.ขยายตัว 0.5% ส่วนดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมราคาในหมวดพลังงานและอาหาร ปรับตัวขึ้น 0.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี สำนักงานสถิติฯระบุว่า ปัจจัยที่ทำให้ดัชนี CPI ขยายตัวในเดือนส.ค.นั้น มาจากราคาสินค้าเกษตรที่พุ่งขึ้น 3.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งสูงกว่าเดือนก.ค.ที่ปรับตัวขึ้นเพียง 1.5% ขณะที่ราคาสินค้าอุตสาหกรรมปรับตัวขึ้น 2% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นระดับการขยายตัวที่เท่ากันกับในเดือนก.ค. รัฐบาลเกาหลีใต้จะจัดทำประชาพิจารณ์เพื่อสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) ระหว่างเกาหลีใต้และสหรัฐที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ ก่อนที่จะนำไปยื่นต่อรัฐสภาเกาหลีใต้เพื่อทำการอนุมัติต่อไปการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนถือเป็นข้อกำหนดภายใต้กฎหมายการค้าของเกาหลีใต้ หลังจากนั้น รัฐบาลเกาหลีใต้จะทำการกำหนดวันลงนามอย่างเป็นทางการกับรัฐบาลสหรัฐ และจะนำข้อตกลงฉบับปรับปรุงนี้ไปยื่นให้สภาเกาหลีใต้อนุมัติ กระทรวงพาณิชย์เกาหลีใต้เปิดเผยว่า กระบวนการดังกล่าวคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปีนี้ ธนาคารรายใหญ่หลายแห่งในเกาหลีใต้เปิดเผยว่า ยอดการปล่อยเงินกู้จำนองในเดือนส.ค.ได้เพิ่มขึ้นรวดเร็วที่สุดในรอบเกือบสองปี ซึ่งเป็นผลจากราคาที่อยู่อาศัยปรับตัวสูงขึ้นอย่างมาก ทั้งนี้ ยอดการปล่อยกู้ที่มีบ้านเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน ณ สิ้นเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 2.88 ล้านล้านวอนจากเดือนก่อนหน้า ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับแต่เดือนพ.ย. 2559 อันเป็นผลจากการที่ราคาอพาร์ทเมนต์ในเกาหลีใต้พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเพิ่มขึ้นมา 1.17% จากเดือนก.ค. และ 7.37% เมื่อเทียบรายปี หนังสือพิมพ์ฮ่องกง อิโคโนมิค เจอร์นัล รายงานว่า รัฐบาลฮ่องกงกำลังพิจารณาการเดินหน้าใช้มาตรการคุมเข้มการซื้อบ้านของชาวต่างชาติ โดยมีเป้าหมายที่จะรับมือกับความวิตกกังวลที่ว่า ชาวต่างชาติอาจหลีกเลี่ยงภาษีอากรสแตมป์ ด้วยการใช้บริษัททรัสต์เข้าซื้ออสังหาริมทรัพย์ นายสแตนลีย์ หยิง รัฐมนตรีฝ่ายกิจการการขนส่งและการเคหะของฮ่องกงเปิดเผยว่า แม้การทำธุรกรรมของนักลงทุนต่างชาติและบริษัทเอกชนนั้น คิดเป็นสัดส่วนเพียง 1.2% ของยอดซื้ออสังหาริมทรัพย์ทั้งหมดในไตรมาสแรกของปีนี้ แต่ทางรัฐบาลก็จะต้องจับตาสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด และจะใช้มาตรการต่างๆที่จำเป็น ที่ผ่านมานั้น รัฐบาลฮ่องกงประสบกับยากลำบากในการควบคุมราคาบ้าน โดยรัฐบาลได้มีการใช้มาตรการต่างๆเพื่อควบคุม ซึ่งรวมถึงการเรียกเก็บอากรสแตมป์ในอัตราที่สูง และคุมเข้มด้านการปล่อยเงินกู้ เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของราคาบ้าน
ปัจจัยต่างประเทศ (5 กันยายน 2561): ตามเวลาประเทศไทย ประเทศ ปัจจัย ออสเตรเลีย - ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/2561 จีน - ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนส.ค.จากไฉซิน EU - ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนส.ค.จากมาร์กิต (EU,ฝรั่งเศสม เยอรมนี,อังกฤษ) - ยอดค้าปลีกเดือนก.ค. USA - ดุลการค้าเดือนก.ค. - ดัชนีภาวะธุรกิจนิวยอร์กเดือนส.ค. จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM)
ปัจจัยในประเทศ วันที่ ปัจจัย 5 ก.ย. - ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) 6 ก.ย. - สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย แถลงสถานการณ์การส่งออก - สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) จัดสัมมนาวิชาการประจำปี Energy Symposium 2018 เรื่อง"นวัตกรรมพลังงาน...โอกาสอุตสาหกรรมไทย" Source: https://www.ryt9.com/s/iq03/2867879
Money Market - ดอลลาร์/บาท วันอังคาร (4 ก.ย.) เงินบาทอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯในเช้าวันอังคารซึ่งสอดคล้องกับค่าเงินในภูมิภาคที่อ่อนค่าเช่นกันเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯเนื่องจากความกังวลต่อการที่สหรัฐฯอาจจะขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯอีกในสัปดาห์นี้ นอกจากนี้การเจรจาการค้าสหรัฐฯกับแคนาดาก็ยังไม่มีข้อยุติ ขณะเดียวกันวิกฤติการเงินในประเทศตลาดเกิดใหม่หลายประเทศทั้งตุรกี เวเนซูเอล่า และอาร์เจนติน่าก็ส่งผลให้นักลงทุนวิตกว่าปัญหาจะแพร่กระจายไปยังประเทศอื่นๆที่มีสถานะความเสี่ยงคล้ายคลึงกันและจะส่งผลลบต่อมูลค่าของสินทรัพย์ในประเทศตลาดเกิดใหม่โดยรวม - ดอลลาร์/เยน วันอังคาร (4 ก.ย.) เงินเยนอ่อนค่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯในเช้าวันนี้ อย่างไรก็ดีช่วงนี้ปัจจยเสี่ยงหลายอย่างเช่น สงครามการค้า และวิกฤติการเงินในหลายประเทศตลาดเกิดใหม่ ยังหนุนค่าเงินเยนซึ่งเป็นสกุลเงินที่มีความเสี่ยงต่ำ แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยของญี่ปุ่นจะยังติดลบอยู่ก็ตาม - ยูโร/ดอลลาร์ วันอังคาร (4 ก.ย.) เงินยูโรอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯในเช้าวันนี้ ขณะที่ค่าเงินยูโรถูกกดดันวันนี้จากรายงานดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมของยูโรโซนขยายตัวชะลอลงมากที่สุดในรอบเกือบสองปีในเดือนสิงหาคมเนื่องจากผลของความกังวลที่เพิ่มขึ้นจากสงครามการค้า
Capital Market - ตลาดหุ้นสหรัฐฯวันอังคาร (4 ก.ย.) ดัชนีดาวโจนส์ปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐและประเทศคู่ค้า โดยสหรัฐและแคนาดาจะเปิดฉากการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (NAFTA) ฉบับใหม่อีกครั้งในวันนี้ หลังจากการเจรจาคว้าน้ำเหลวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ขณะที่สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนมีแนวโน้มรุนแรงขึ้น หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่ว่าจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มอีก 2 แสนล้านดอลลาร์ฯในวันพฤหัสบดีนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,952.48 ลดลง 0.05% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,091.25 ลดลง 0.23% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,896.72 ลดลง 0.17% - ตลาดหุ้นเอเชีย วันอังคาร (4 ก.ย) ดัชนีตลาดหุ้นเอเชียวันนี้ได้รับแรงกดดันจากการที่นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและแคนาดา รวมทั้งรายงานข่าวที่ว่า สหรัฐขู่เรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มอีก 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ดัชนีนิกเกอิปิดลดลง 0.05% มาอยู่ที่ 22,696.90 ขณะที่ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดตลาดวันนี้สูงขึ้น ภายหลังจากที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เปิดเผยว่า จีนจะมอบความช่วยเหลือในการบรรเทาหนี้ให้กับประเทศบางประเทศในทวีปแอฟริกาที่กำลังประสบปัญหาความยากจน ภายใต้ความพยายามในการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันระหว่างจีนและแอฟริกา โดยดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตเพิ่ม 1.10% ปิดที่ 2,750.58 อย่างไรก็ดี นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์การค้าระหว่างจีนและสหรัฐ หลังจากที่มีรายงานข่าวว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เตรียมเดินหน้าตามแผนเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีนรอบใหม่ในสัปดาห์นี้วงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ ทันทีที่มาตรการดังกล่าวได้ข้อสรุปจากการทำประชาพิจารณ์จากภาคส่วนต่างๆของสหรัฐในวันพฤหัสบดีนี้ - ตลาดหุ้นไทย วันอังคาร (4 กย.)ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ลดลงในช่วงเช้าเนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและแคนาดา รวมทั้งการที่สหรัฐอาจจะขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มอีก 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยปิดตลาดวันนี้ SET INDEX ลดลง 6.80 จุด
โดย สำนักวิจัยธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ประจำวันที่ 5 ก.ย. 2561
|
![]() | Today | 895 |
![]() | All days | 895 |
Comments